พลังของหนึ่งการโจมตี

เมื่อชิลวอริเออร์ขั้นสาม เลเวลหนึ่งร้อยแปด ทรุดลงกับพื้นและสลายตัวกลายเป็นอนุภาคแสง โลกทั้งใบนั้นก็ดูเหมือนจะแข็งค้างไปชั่วขณะ ขณะที่ความเงียบก็เข้าปกคลุมสนามรบ หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก ทุกคนจึงเริ่มจะตอบสนองกับสถานการณ์ดังกล่าวได้

“เขาตายแล้ว ?”

“เป็นไปไม่ได้ !!!”

ทุกคนนั้นตกตะลึง เมื่อมองไปยังร่างๆหนึ่งที่อยู่ด้านหลังศพของชิลวอริเออร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เล่นจากเขตเซนทิเนล ปากของพวกเขานั้นอ้าค้างด้วยความตกตะลึงอย่างมาก เพราะไม่มีใครรู้ดีไปกว่าพวกเขาว่าชิลวอริเออร์ที่ตายไปนั้นมี HP และพลังป้องกันมากขนาดไหน

มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย หากจะกล่าวว่า แม้แต่เบอเซิกเกอร์ขั้นสามคนหนึ่งจะได้รับอนุญาติให้โจมตีชิลวอริเออร์ โดยใช้ทุกอย่างที่มีได้อย่างอิสระ แต่เบอเซิกเกอร์ก็ยังคงจะต้องโจมตีอย่างน้อยสิบครั้งจึงจะฆ่าชิลวอริเออร์ได้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ชิลวอริเออร์กับถูกฆ่าในการโจมตีเดียว โดยที่ฮีลเลอร์ของเขตเซนทิเนลไม่แม้แต่จะสามารถช่วยเหลือเขาได้ทันด้วยซ้ำ

“นั่นคือชิลวอริเออร์ขั้นสาม เผ่าปีศาจเลยนะที่เรากำลังพูดถึง !!! นี่เธอเป็นมนุษย์รึปล่าวเนี่ย ?!” เพอเพิ้ลรากษสอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ในขณะที่เธอจ้องมองไปยังไฟเออร์แดนซ์ที่กำลังเดินเข้าไปหาซือเฟิงอย่างช้าๆ

เพอเพิ้ลรากษสนั้นเคยปะทะกับผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจมาก่อน ดังนั้นเธอจึงรู้ดีว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเผ่าปีศาจนั้นทรงพลังมากขนาดไหน นอกเหนือจากพลังป้องกัน และ HP ที่สูงลิ่วของพวกเขาแล้ว ร่างกายทางกายภาพของพวกเขาก็ยังทำให้พวกเขามีความเร็วในการตอบสนองเหนือกว่าผู้เล่นขั้นสามด้วย

อย่างไรก็ตามไฟเออร์แดนซ์กับโจมตีและฆ่าชิลวอริเออร์เผ่าปีศาจผู้นี้ลงได้ในการโจมตีเดียว โดยที่ชิลวอริเออร์นั้นไม่สามารถจะตอบสนองได้ทันด้วยซ้ำ

ความเร็วในการตอบสนองและพลังโจมตีของไฟเออร์แดนซ์นั้นมันอยู่ในระดับที่น่าเหลือเชื่อมากจริงๆ

“นี่เธอแข็งแกร่งขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?” เมื่อเกรซฟูลโมนาร์ชมองไปยังร่างที่อยู่ห่างไกลของไฟเออร์แดนซ์ ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นมากๆ

พลัง !!!

ความรุนแรง ความแข็งแกร่ง !!!

การแสดงของไฟเออร์แดนซ์นั้นมันทั้งทรงพลังและน่ากลัวมากจริงๆ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เกรซฟูลโมนาร์ชนั้นแสวงหาการที่จะบรรลุอยู่ตลอดเวลา เกรซฟูลโมนาร์ชนั้นไม่คิดเลยว่าครั้งนี้เธอจะได้เห็นการแสดงพลังอันน่าทึ่งนี้ด้วยตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นสัตว์ประหลาดที่แสดงพลังนี้ออกมายังยืนอยู่ข้างซือเฟิงมาตลอดเวลา

ในขณะนี้นับประสาอะไรกับเกรซฟูลโมนาร์ช เพอเพิ้ลรากษส และคนอื่นๆ แม้แต่บลูฟอร์สและเพื่อนร่วมทีมของเขาที่ยืนอยู่ข้างหลังซือเฟิงก็ยังตกตะลึงกับสถานการณ์นี้ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคนจากสาขาหลักของสภาสิบแปดปีกจะทรงพลังมากขนาดนี้

ในขณะเดียวกันโทรเบิ้ลไทม์ที่เฝ้าสังเกตไฟเออร์แดนซ์อย่างเงียบๆมาตลอด ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมาเช่นกัน

“ฉันไม่คาดคิดเลยว่าสภาสิบแปดปีกจะมีผู้เชี่ยวชาญแบบนี้ซ่อนอยู่ด้วย ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพวกคุณถึงกล้าขัดขวางเรา” โทรเบิ้ลไทม์กล่าวขณะที่จ้องมองไปยังซือเฟิง “อย่างไรก็ตามถ้าคุณคิดว่าคุณสามารถจะหยุดเขตเซนทิเนลได้ด้วยความแข็งแกร่งเพียงแค่นี้ ฉันเกรงว่าคุณจะเข้าใจผิดไปอย่างมาก !!!”

ทันทีที่โทรเบิ้ลไทม์กล่าวจบ ผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม สิบเจ็ดคนที่อยู่ด้านหลังของเขาก็กลายร่างเป็นปีศาจทันที และออร่าที่น่าสะพรึงกลัวของพวกเขานั้นก็แผ่ออกมาปกคลุมไปทั่วสนามรบ ซึ่งมันทำให้เกิดความกลัวแม้กระทั่งในหมู่ผู้เชี่ยวชาญของบลู
ฟอร์ส

แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเผ่าปีศาจนี้จะมีเพียงแค่สิบเจ็ดคนเท่านั้น แต่แรงกดดันรวมที่พวกเขาแผ่ออกมานั้นมันก็สูงกว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นสองเผ่าปีศาจหลายร้อยคนของเขตเซนทิเนลอย่างง่ายดาย

“ดูเหมือนว่าโทรเบิ้ลไทม์จะเริ่มเอาจริงแล้วสินะ …” การแสดงออกที่หวาดกลัวปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเพอเพิ้ลรากษส เมื่อผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจ ของเขต
เซนทิเนลเริ่มเคลื่อนไหว

ชิลวอริเออร์ที่เคยเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้นั้นอยู่ในขอบเขตการปรับแต่งเท่านั้น และมาตราฐานการต่อสู้ของเขายังจัดว่าอ่อนแอที่สุดในบรรดาผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของเขตเซนทิเนลด้วย ในขณะเดียวกัน ถ้าผู้เชี่ยวชาญขั้นสามของเขตเซนทิเนลทุกคนร่วมมือกันโจมตี แม้แต่ไฟเออร์แดนซ์เองก็ยังจะไม่สามารถรับมือกับพวกเขาได้ เพราะท้ายที่สุดนี่เป็นการต่อสู้แบบทีม ไม่ใช่การดวลตัวต่อตัว ไม่เพียงแต่ผู้เล่นจะสามารถลดจุดบอดในการป้องกันของตัวเองลงได้ เมื่อทำงานร่วมกันเป็นทีม แต่พวกเขายังจะสามารถโจมตีจุดอ่อนของศัตรูได้ง่ายขึ้นด้วย

ไม่ต้องพูดถึงอาชีพแอสซาซินที่จะแข็งแกร่งที่สุดเมื่ออยู่ใน Stealth เลย เมื่อแอสซาซินถูกค้นพบตัวตนนั้น พลังการต่อสู้ของพวกเขาก็จะลดลงครึ่งหนึ่ง ในขณะเดียวกันตอนนี้เนื่องจากโทรเบิ้ลไทม์และคนอื่นๆนั้นได้สังเกตเห็นตัวตนของไฟเออร์แดนซ์แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่มีทางเลยที่เธอจะลอบโจมตีพวกเขาได้อีกครั้ง

ในช่วงเวลาต่อมาผู้เชี่ยวชาญขั้นสามเผ่าปีศาจ สิบเจ็ดคนก็ได้ย่นระยะเข้าหากลุ่มของซือเฟิงอย่างรวดเร็ว และการวางตำแหน่งตัวเองของพวกเขานั้นก็ทำให้ไฟเออร์แดนซ์ไม่มีโอกาสจะได้ต่อสู้แบบตัวต่อตัวเลยด้วยซ้ำ ในขณะเดียวกันทุกคนก็ล้วนใช้การเคลื่อนไหวที่เป็นเครื่องหมายการค้าของพวกเขาทันที

เวทย์ขั้นสาม Shadow Puncture!

สกิลขั้นสาม Chaotic Slash!

สกิลขั้นสาม Shadow Raid!

เวทย์ขั้นสาม Flame Dragon Bind!

สกิลและเวทย์มากกว่าหนึ่งโหลนั้นบินเข้าใส่ซือเฟิง และเมื่อเห็นการโจมตีที่ทรงพลังเหล่านี้เข้าใกล้พวกเขามานั้น บลูฟอร์สและสมาชิกสภาสิบแปดปีกที่เป็นคนของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสิ้นหวัง

ไม่เพียงแต่สกิลและเวทย์เหล่านี้จะมีพลังใกล้เคียงกับมาตราฐานของขั้นสี่ แต่สกิลและเวทย์เหล่านี้ทั้งหมดยังซ้อนทับ และประสานงานกันเป็นการโจมตีที่สมบูรณ์แบบที่ไม่มีช่องโหว่ใดให้ใช้ประโยชน์ได้เลย และมันไม่ใช่การโจมตีที่ผู้เล่นในปัจจุบันนั้นจะสามารถป้องกันหรือหลบได้

อย่างไรก็ตามในทางตรงกันข้ามกับความคาดหวังของทุกคน ไฟเออร์แดนซ์นั้นไม่ได้ใช้ Vanish หรือ Wind Steps เพื่อป้องกันตัวเอง แม้ว่าเธอจะเห็นการโจมตีที่กำลังเข้ามาแล้ว และเธอก็ยังคงยืนอยู่ข้างๆซือเฟิงโดยไม่ได้แสดงเจตนาที่จะเคลื่อนไหวใดๆ ซึ่งมันราวกับว่าการโจมตีทั้งหมดนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาเธอเลย

เมื่อการโจมตีทั้งหมดนี้กำลังจะเข้าถึงตัวของซือเฟิงและไฟเออร์แดนซ์ ซือเฟิงก็เริ่มลงมือทันที

วงโคจรดาบ !!

ประกายแสงดาวนั้นปรากฎรอบๆทันทีโดยมีซือเฟิงเป็นศูนย์กลาง และเมื่อมองดูจากระยะไกล เมื่อการโจมตีทั้งหมดกระทบเข้ากับประกายแสงดาวนี้มันก็จะหายไปทันที และไม่สามารถเข้าใกล้ซือเฟิงได้เลยในระยะสิบหลา ไม่ต้องพูดถึงการสร้างความเสียหายให้กับซือเฟิง มันไม่สามารถทำให้เขาถอยไปได้แม้แต่ก้าวเดียวด้วยซ้ำ

“เป็นไปไม่ได้ !!! เขาป้องกันมันได้ทั้งหมดเลยงั้นหรอ ?!!”

เมื่อเห็นซือเฟิงทำลายการโจมตีของพวกเขาทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย ผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจทั้งหมดก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงมากๆ เพราะท้ายที่สุดการโจมตีของพวกเขาไม่เพียงแต่จะมีพลังสูงมากเท่านั้น แต่มันยังถูกปล่อยเข้าโจมตีใส่ซือเฟิงและไฟเออร์แดนซ์พร้อมกันมากกว่ายี่สิบครั้ง และทุกการโจมตีเหล่านี้ก็ล้วนมุ่งเน้นไปที่จุดบอดของทั้งคู่ เว้นแต่ว่าซือเฟิงกับไฟเออร์แดนซ์จะใช้สกิลอมตะ ไม่งั้นพวกเขาก็ควรจะได้รับความเสียหายอย่างมหาศาล

“ถึงตาฉันแล้วนะ !!!”

เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญขั้นสามทั้งสิบเจ็ดคนของเขตเซนทิเนลได้หยุดโจมตีแล้ว ซือเฟิงจึงชัก Abyssal Blade ออกมาจากฝัก และเล็งไปทางผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจสิบเจ็ดคน

ไลท์นิ่งแฟลช !!!

ในช่วงเวลาต่อมาแสงสายฟ้าของดาบสีดำสนิทที่ถูกห่อหุ้มด้วยมานาที่หนาแน่นก็พุ่งเข้าใส่ผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจทั้งหมดทันที

Peng… Peng… Peng…

เสียงระเบิดนั้นกังก้องไปทั่วสนามรบ ในเวลาเดียวกันผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจ สิบเจ็ดคนก็ปลิวกระเด็นออกไป โดยแต่ละคนนั้นก็ได้รับความเสียหายมากกว่าหนึ่งแสน และเมื่อพวกเขาตั้งหลักได้นั้นแต่ละคนก็ล้วนมือสั่นเทาอย่างมาก

“นี่เขาเป็นสัตว์ประหลาดรึไงกัน ?”

ผู้ชมที่เฝ้าดูอยู่ต่างอ้าปากค้างเมื่อได้เห็นฉากนี้

คนเหล่านั้นคือผู้เชี่ยวชาญขั้นสาม เผ่าปีศาจ สิบเจ็ดคน หากพวกเขาร่วมมือกันทำงาน มันไม่ควรจะมีใครในดาร์คเดนจะสามารถหยุดพวกเขาได้ด้วยซ้ำ ไม่เว้นแม้แต่มอนสเตอร์ระดับเทพนิยายขั้นสี่

อย่างไรก็ตามตอนนี้ ซือเฟิงกับทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดนี้ปลิวกระเด็นไปในการเคลื่อนไหวเดียว ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้พวกเขาทุกคนได้รับบาดเจ็บอย่างหนักด้วย

ก่อนที่ทุกคนจะทันได้หายงุนงง ซือเฟิงก็ได้ทำการเฉือนคิลลิงเรย์อีกครั้ง แต่คราวนี้เขามุ่งโจมตีไปยังโทรเบิ้ลไทม์ที่อยู่ห่างออกไปราวสามสิบหลา

ดาบแรก ไลท์ชาโด้ว !!!

ทันใดนั้นเงาของดาบขนาดใหญ่ก็ปรากฎขึ้นกลางอากาศ และเมื่อมันพุ่งเข้าใส่โทรเบิ้ลไทม์นั้น มันดูราวกับว่าภูเขาทั้งลูกกำลังจะถล่มลงมาหาเบอเซิกเกอร์ การโจมตี AOE นี้กินพื้นที่ขนาดใหญ่มากๆจนการหลบหลีกแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังบังเกิดรอยแยกมิติที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆในทุกที่ที่การโจมตีนี้ผ่าน
ใบหน้าของโทรเบิ้ลไทม์แปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวทันที เมื่อได้เห็นการโจมตีที่กำลังเข้ามานี้ และเขาก็ได้ยกขวานสงครามของเขาขึ้นรับการโจมตีที่กำลังเข้ามา

“หายไปซะ !!!”

สกิลต้องห้ามขั้นสาม Heaven Breaker!

ในช่วงเวลาต่อมาขวานของโทรเบิ้ลไทม์ก็พุ่งเข้าปะทะกับการโจมตีของซือเฟิงโดยตรง

ตู้ม !!

มีเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรง และมันก็ทำให้บังเกิดพายุที่ทรงพลังส่งฝุ่นปลิวว่อนไปทั่วในอากาศจนทำให้ผู้เล่นโดยรอบนั้นแทบไม่สามารถลืมตาได้เลย

เมื่อฝุ่นเริ่มจางลง และทุกคนกลับมามองเห็นอย่างชัดเจนอีกครั้ง พวกเขาก็ต้องเต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างมาก

ในขณะร่างของโทรเบิ้ลไทม์นั้นจมลึกลงไปในดินจนแทบมองไม่เห็นหัวเข่าของเขา และในเวลาเดียวกันพื้นดินภายในรัศมีสิบหลาของเบอเซิกเกอร์นั้นก็จมลึกลงไปกว่าหนึ่งเมตร สำหรับตัวของโทรเบิ้ลไทม์นั้นเขาก็สูญเสีย HP ไปมากกว่าหนึ่งในห้า