บทที่ 508 ฉันทำเพื่อให้นายได้ด

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

“เฮียจิว พวกเรา หยงฟากรุ๊ปไม่ได้เป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะกลัวใครมาหาเรื่อง!”

ถึงแม้หยางจิ่งหมิ๋งจะพยายามสงบอารมณ์สักแค่ไหน เขาก็ทนถูกเยาะเย้ยซ้ำแล้วซ้ำเล่าจาก จิวหยู่ไม่ได้

“โอเค โอเค วันนี้ฉันมาหานายไม่ได้ที่จะมาโต้เถียงกับนาย”

อย่างไรก็ตาม จิวหยู่ก็ไม่ได้โต้กลับ หยางจิ่งหมิ๋งอะไรมาก เขาถือปืนพกและโบกมืออย่างเกียจคร้าน “วันนี้ที่ฉันมาที่นี่ แค่อยากจะส่งข้อความถึงนายและถือได้ว่าช่วยชีวิตของหยงฟากรุ๊ป!”

“ชีวิตของหยงฟากรุ๊ป?”

หยางจิ่งหมิ๋งพ่นลมอย่างเย็นชาและพูดว่า “พูดได้เต็มปากเต็มคำเลยสินะ ฉันอยากเห็นจริงๆ ว่านายจะพูดอะไรจากปากนาย!”

“ขอบอกสั้นๆ ว่า!”

ความเกียจคร้านบนใบหน้าของ จิวหยู่หายไปในทันใด แต่มันกลับจริงจังขึ้น “พ่อของนายหาเรื่องเจ้านายฉัน!”

เจ้านาย?!

คำพูดนี้ทำให้หัวใจของ หยางจิ่งหมิ๋งกลายเป็นคลื่นลูกใหญ่ในทันที ยังมีคนที่อยู่เบื้องหลัง จิวหยู่?

“เฮียจิว นายหยุดล้อเล่นได้แล้ว”

ปฏิกิริยาแรกของ หยางจิ่งหมิ๋งนั้นไม่เต็มใจที่จะเชื่อ “ใครจะไม่รู้ว่าตอนนี้นายเป็นผู้คุมของโลกใต้ดินส่วนใหญ่ในเมืองเอก ใครมีคุณสมบัติที่จะเป็นเจ้านายของนาย”

“นายอย่ามาพูดเล่นกับฉัน ฉันไม่ได้โง่”

จิวหยู่ขมวดคิ้วและส่ายหัว: “ฉันบอกได้แค่ว่าเจ้านายของฉันไม่ใช่คนธรรมดา กระสุนยังเอาเขาไม่อยู่”

หยางจิ่งหมิ๋งแปลกใจ ใบหน้าของเขาซีดเมื่อมองไปที่ จิวหยู่

อย่างไรก็ตาม จิวหยู่ไม่ได้สนใจ หยางจิ่งหมิ๋ง พูดต่อ”ยังไงก็ตามฉันมาเพื่อเตือนนาย โทรหาพ่อของนายจะดีกว่า ให้พ่อนายคิดดูว่าพ่อนายนั้นไปสร้างปัญหาอะไรกับใครในช่วงบ่ายที่ผ่านมา เตรียมของไปขอโทษถึงบ้าน อีกฝ่ายต้องการให้ทำอะไรก็ทำ”

“มิฉะนั้น หลังจากเที่ยงคืนนี้ ลูกน้องของฉันทั้งหลายก็จะไปเยี่ยมคนของหยงฟากรุ๊ป ถึงตอนนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้น อย่ามาโทษฉันที่ไม่เตือนนายไว้ก่อน”

พูดจบ จิวหยู่ไม่มองหยางจิ่งหมิ๋งเลยสักนิด ออกจากสำนักงานพร้อมกับปืนพกที่อยู่ข้างๆ

ใบหน้าของ หยางจิ่งหมิ๋งมืดมนอย่างยิ่ง จิวหยู่พูดชัดเจนสักขนาดนี้ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าสิ่งนี้กำลังคุกคามเขา

แต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจคือ ใครกันที่มีความสามารถทำให้ จิวหยู่นั้นยกย่องขนาดนี้?

ทันใดนั้น ร่างกายของ หยางจิ่งหมิ๋ง ก็สั่นสะท้าน แววตาตื่นตระหนกฉายแววแผ่วเบาไปทั่วดวงตาของเขา

ช่วงบ่ายที่พ่อมีเรื่องด้วย? ดูเหมือนจะมีเพียงเย่เทียนเท่านั้นที่มีข่าวลือว่ากำลังมีปัญหากันอยู่?

ยิ่งไปกว่านั้น อุบัติเหตุทางรถยนต์ถนนสายเหนือ ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก ไอ้เด็กคนนั้นสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้มากมาย บางทีเขาอาจเป็นนักศิลปะการต่อสู้ก็ได้!

เย่เทียนคนนี้น่าจะเป็นเจ้านายในปากของ หยางจิ่งหมิ๋งใช่ไหม?!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หยางจิ่งหมิ๋งก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างรวดเร็วและกดหมายเลขของ หยางหยงฟา

“พ่อครับ ตอนบ่ายที่พ่อออกบ้าน มีปัญหากับเย่เทียนคนเดียวใช่ไหมครับ”

“จิ่งหมิ๋ง นายยังจะมาทำอีก นายเคยเห็นพ่อไปสร้างปัญหาที่ไหนไหมล่ะ?”

หยางหยงฟา ขมวดคิ้วอย่างโกรธเคือง “ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้เด็กนั้นชนรถของฉันในบ่ายวันนี้ ไม่เต็มใจที่จะเสียเงิน ฉันก็จะไม่ทะเลาะกับมันหรอก!”

หยางจิ่งหมิ๋ง ถามอย่างไม่มั่นใจ “พ่อ ตามที่พ่อพูด คืนนี้เราไม่ต้องอะไรมากกับเขาแล้วได้ไหม”

“นี่ไม่ได้นะ!”

หยางหยงฟารีบคัดค้าน “ลูกผู้ชาย คำไหนคำนั้น ตอนนี้กระจายไปทั่วเมืองแล้ว ถ้าปล่อยเรื่องนี้ไปหน้าฉันจะเอาไปไว้ไหน!”

หยางจิ่งหมิ๋งขมวดคิ้ว “ไม่มีที่ว่างสำหรับการเจรจาหรือ?”

“จิ่งหมิ๋ง เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?”

ในเวลานี้ หยางหยงฟาตระหนักถึงว่ามีบางอย่างผิดปกติกับ หยางจิ่งหมิ๋ง สิ่งที่เขาหมายถึงภายใต้คำพูดของเขา นั้นมันมีอะไรแฝงอยู่!

หยางจิ่งหมิ๋งกล่าวอย่างตรงไปตรงมา: “จิวหยู่จากแก๊งซินเซ่งอัน มาที่บริษัทและเพิ่งไป”

“จิวหยู่ เขามาทำอะไร?”

คิ้วของ หยางหยงฟาขมวด หากไม่จำเป็น เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากมีปัญหากับคนเหล่านี้

“เขาให้สองข้อมูลกับผม”

หยางจิ่งหมิ๋ง ส่ายหัวด้วย “อันแรก เจ้านายที่อยู่เบื้องหลังเขา เป็นคนประเภทที่สามารถจับกระสุนได้”

“ส่วนอันสอง เขาบอกว่าพ่อมีปัญหากับเจ้านายเขา ให้พวกเราไปขอโทษ และทำตามคำขอที่อีกฝ่ายพูดทั้งหมด”

“นายหมายถึง เย่เทียนจะเป็นเจ้านายของจิวหยู่ได้ไง?!”

เสียงของ หยางหยงฟาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาปฏิเสธทันทีอีกครั้ง “ไม่มีทาง!เรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้!”

“ถ้าเย่เทียนเป็นนักศิลปะการต่อสู้จริงๆ จะให้ฉันไปถึงที่เพื่อให้ฉันขอโทษนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร แต่ถ้าให้ฉันคุกเขากราบไหว้ ฉันไม่ยอม!”

“พ่อครับ ผมรู้ว่าพ่อคิดยังไง ผมเลยมาคุยกับพ่อก่อน ดูว่าจะแก้ปัญหานี้ได้ไหม”

ในฐานะที่เป็นลูกชาย หยางจิ่งหมิ๋งจะไม่รู้ได้ไงว่าหยางหยงฟานั้นคิดอะไรอยู่ในใจ

“มันไม่จำเป็น!”

หยางหยงฟาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัวและพูดว่า “ตอนนี้คนทั้งเมืองรู้ว่าฉันกำลังมีปัญหากับเย่เทียน ถ้าปล่อยผ่านแบบนี้ หยงฟากรุ๊ปของเราจะกลายเป็นตัวตลกของทุกคนแน่ ”

” เย่เทียนศิลปะการต่อสู้แล้วไง? หยงฟากรุ๊ปของเราไม่มีหรือไง?”

หยางหยงฟาหัวเราะเยาะเย้ย “อีกอย่าง พวกนั้นที่มาก็คืออยากได้เงิน ถ้าเรากำจัดมันได้ แล้วสัญญากับจิวหยู่ช่วยเขาได้คลองตำแหน่งที่หนี่ง ฉันเชื่อว่า เขาคงไม่มาแก้แค้นให้คนตายคนหนึ่งแน่นอน!”

“โอเค จิ่งหมิ๋ง เรื่องนี้นายไม่ต้องไปสนใจ พ่อจะจัดการเอง!”

เย่เทียนเองไม่รู้ว่าหยงฟากรุ๊ปนั้นเกิดอะไรขึ้นหรอก ในเวลานี้ เขากำลังนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสารที่รถสีดำ มองไปที่ เจิ้งเหวยหวาที่ขับรถอยู่ข้างๆ เขาด้วยความสงสัย

เนื่องจากยังเช้าอยู่ เย่เทียนจึงนัดรับประทานอาหารเย็นกับเฉาจื้อเหาและกงหย่วน แต่เดิมเย่เทียนต้องการหาโรงแรมที่เพื่อนอนหลับพักผ่อนสักแป๊บหนึ่ง

แต่ใครจะไปรู้ว่าเขาเพิ่งเดินออกจากประตูสถานีตำรวจแห่งเมือง ก็ได้รับโทรศัพท์จาก เจิ้งเหวยหวา บอกว่าจะพาไปที่ไหนสักที่หนึ่ง แต่กลับลึกลับบอกว่าไม่สะดวกคุยทางโทรศัพท์

หลังจากที่ได้พบ เย่เทียนสังเกตเห็นว่าเจิ้งเหวยหวาไม่ได้เอาคนขับมาด้วย มันต้องมีอะไรกันแน่ๆ!

“จะพาฉันไปไหนกันแน่?”

หลังจากขับรถไปแล้วระยะหนึ่ง เย่เทียนหันมองเจิ้งเหวยหวาด้วยการยิ้มและถามความสงสัยในใจ

“คุณชายเย่ ไม่ทราบว่าคุณรู้จักวิลลาฉินหยุนหรือเปล่าครับ?”

เจิ้งเหวยหวาแอบกลัวสายตาที่เย่เทียนจ้องมา นี่ก็ไม่ได้ทำอะไรเกินตัวไปนิ?

“วิลลาฉินหยุนเหรอ? เคยได้ยินคนอื่นพูดถึง บอกว่ามันเป็นหนึ่งในสโมสรที่หรูหราที่สุดในเมืองเอกใช่ไหม”

เย่เทียนครุ่นคิด และตอบกลับไปอย่างรู้ดี “เขาว่ากันว่าราคาบริโภคนั้นคนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถรับไหวได้ แต่บริการที่เขาได้รับนั้นเป็นบริการระดับจักรพรรดิทั้งนั้น เช่น มังกรคู่เล่นไข่มุก ต่างๆ”

“เป็นไรเหรอ? นายไม่ไปเคลียร์เรื่องที่พี่นายทำไว้ ตั้งใจจะพาฉันมาสังสรรค์เหรอ?”

“คุณชายเย่ วิลลาฉินหยุนไม่ได้เหมือนที่คุณพูดเวอร์วังขนาดนั้นครับ”

หางตาของเจิ้งเหวยหวามามอง เขาจะไม่รู้ได้ไงว่าเย่เทียนประชดเขาอยู่ หัวเราะอย่างขมขื่น: “ผมพาคุณไปในครั้งนี้ เพื่อคุณเลยทั้งนั้น คุณจะรู้เมื่อเราไปถึงที่นั่น…