บทที่ 646 จัดการกับเฟิงอู๋ชิง

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 644 จัดการกับเฟิงอู๋ชิง

ฉีเฟยอวิ๋นก็ยอมใจซะแล้ว ไม่เคยเห็นอ๋องตวนปกป้องภรรยาและไม่เข้าใจอ๋องตวนเลยจริงๆ

ฉีเฟยอวิ๋นไปตรงประตูเตรียมเปิดประตูออกแต่ว่าประตูนั้นถูกเตะเปิดออกเสียแล้ว

ฉีเฟยอวิ๋นเกือบจะถูกเตะจนล้ม นางยืนไม่มั่นจึงได้ถอยหลังไปสองสามก้าว อวิ๋นจิ่นหันหลังหมุนเป็นวงกลมแล้วคุ้มครองฉีเฟยอวิ๋นด้านหลังถึงได้ทำให้ฉีเฟยอวิ๋นไม่ได้ล้มลงบนพื้น

อวิ๋นจิ่นลุกขึ้น อวิ๋นหลัวฉวนโกรธจัดลุกขึ้นก็จะทุบตีคน: “เจ้าทำสิ่งใดกัน?”

ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า: “ไม่ใช่เรื่องของพวกท่าน”

อวิ๋นหลัวฉวนสะบัดมืออย่างแรง: “ฮึ่ม แม้ว่าเจ้าจะเป็นเจ้าหอของหอทิงเฟิงก็ไม่สามารถบ้าคลั่งในเมืองต้าเหลียงของเรายิ่งไม่สามารถบ้าคลั่งที่จวนอ๋องเย่”

เฟิงอู๋ชิงนั้นไม่ได้ยินสิ่งที่อวิ๋นหลัวฉวนกล่าวเลยแม้แต่น้อยแต่กลับเห็นฉีเฟยอวิ๋นยืนมั่นแล้วกล่าวว่า: “อู๋ฮัว นกเหม็นสาบเหล่านั้นเจ้าเป็นผู้เลี้ยงหรือ?”

ฉีเฟยอวิ๋นออกจากอวิ๋นจิ่นด้วยสีหน้าไม่พอใจ: “เจ้าหอผู้สง่างามของหอทิงเฟิงช่างไม่คิดถึงสถานการณ์โดยรวมเช่นนี้ ก่อกวนมาจนถึงห้องของลูกๆทั้งหลายของข้าเสียแล้ว ลมนั้นแรงนักไม่กลัวว่าจะทำให้พวกเขาแข็งตายหรือ แข็งตายท่านอ๋องของเรือนข้ากลับมาจะต้องคิดบัญชีกับเจ้าเป็นแน่

เอาชนะท่านอ๋องไม่ได้ก็รังแกแม่ลูกพวกเรา”

“หยุดพูดจาเรื่องไร้สาระ ข้า……”

หมอเทวดารีบวิ่งมาดึงเฟิงอู๋ชิงแล้วจากไป ฉีเฟยอวิ๋นมองไปยังอวิ๋นจิ่น: “จัดการประตูให้เรียบร้อยในทันทีและพาเด็กๆที่รักทั้งหลายไปสวนดอกกล้วยไม้ก่อน”

“เจ้าค่ะ”

อวิ๋นจิ่นรีบจัดเตรียมการฉีเฟยอวิ๋นจึงได้ไปหาเฟิงอู๋ชิงเพื่อคิดบัญชี

เดินไปถึงหน้าประตูของเฟิงอู๋ชิงฉีเฟยอวิ๋นก็กล่าวว่า: “ออกมา”

เฟิงอู๋ชิงกำลังโมโหยังไม่ทันได้สั่งสอนหมอเทวดาฉีเฟยอวิ๋นก็มาหาถึงที่แล้ว

ผลักหมอเทวดาออกเฟิงอู๋ชิงไปหาฉีเฟนอวิ๋นตรงหน้าประตู ไม่รอเขาออกจากประตูฉีเฟยอวิ๋นยกเท้าขึ้นเตะประตูห้องให้เปิดออก เฟิงอู๋ชิงเดินมาถึงหน้าประตูแล้วถอยหลังกลับไปจนเกือบจะล้ม โชคดีที่หมอเทวดาอยู่ด้านหลังเขาจึงได้พยุงเขาเอาไว้

ยืนมั่นแล้วเฟิงอู๋ชิงกำลังจะกล่าวคำพูดฉีเฟยอวิ๋นก้าวเข้าประตูไปยกมือขึ้นตีสิ่งของบางอย่างจนเฟิงอู๋ชิงเปิดปากและสิ่งของก็เข้าไปในท้องของเขา

เฟิงอู๋ชิงต้องการล้วงมันออกมาแต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว

ยืดตัวตรงขึ้นเฟิงอู๋ชิงก็กล่าวอย่างโกรธเคืองว่า: “เจ้าให้ข้าซึ่งเป็นเจ้าหอทานสิ่งใด?”

“แน่นอนว่าเป็นยาพิษ” หลังจากที่ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวจบก็เดินไปตรงหน้าของเฟิงอู๋ชิง: “เจ้าเตะประตูของข้าคืนเงินสองล้านตำลึงมาหากไม่คืนก็รอนะ”

กล่าวจบฉีเฟยอวิ๋นก็หันหลังกลับจากไป หมอเทวดาจับข้อมือเฟิงอู๋ชิงโดยที่ร่างกายของเขาไม่เป็นสิ่งใดแต่พอดึงแขนเสื้อขึ้นดูเส้นเลือดได้กลายเป็นสีดำแล้ว เงยหน้าขึ้นมองริมฝีปากของเฟิงอู๋ชิงก็เป็นสีดำด้วย

สีหน้าของหมอเทวดาไม่ค่อยดีนัก เฟิงอู๋ชิงเดินไปตรงกระจกทองสัมฤทธิ์มองดูตนเองสิ่งที่เขามองเห็นคือจุดดำทั่วใบหน้าของเขา

“ใบหน้านายท่าน!”

เฟิงอู๋ชิงร้องเสียงดังด้วยความโกรธจนหูแทบหนวก อวิ๋นหลัวฉวนนั้นยังต้องการดูว่าท่าทางเฟิงอู๋ชิงเป็นเช่นไร

ถูกอ๋องตวนดึงกลับไปโดยที่อ๋องตวนกล่าวว่าจะกลับ

“หม่อมฉันจะไปดู” อวิ๋นหลัวฉวนดื้อรั้นปฏิเสธที่จะจากไป

อ๋องตวนกล่าวว่า: “หากเจ้าไปกับข้าข้าจะบอกความลับอย่างหนึ่งของหอทิงเฟิง!”

ได้ยินอ๋องตวนกล่าวเช่นนี้แล้วอวิ๋นหลัวฉวนจึงได้ตามจากไป

อ๋องตวนเคยกระทำการณ์มาครั้งหนึ่งแล้วจึงได้ระมัดระวังเป็นพิเศษ เพียงแค่เป็นสถานที่ซึ่งไม่ปลอดภัยก็จะต้องหลบเลี่ยง!

ขึ้นรถแล้วอวิ๋นหลัวฉวนก็ถามอ๋องตวนว่า: “ความลับอันใด”

คนขับรถเร่งม้าออกไปอ๋องตวนก็กล่าวว่า: “นามของหอทิงเฟิง!”

อวิ๋นหลัวฉวนประหลาดใจ: “นามทำไมหรือ?”

อ๋องตวนนั่งอยู่ฝั่งหนึ่ง: “นี่ยังไม่ชัดเจน การไร้ความรู้สึกของเฟิงอู๋ชิงเป็นเชื้อสายลัทธิภายในของเขา อู๋ชิง อู๋กั่ว อู๋ซัง อู๋หมิง ทั้งหมดที่รู้ก็คือสิ่งเหล่านี้

แต่คนอื่นไม่มีนามสกุลนำหน้า เฟิงอู๋ชิงนั้นก็คงไม่ได้นามสกุลเฟิงเป็นแน่แต่เขาเรียกว่าเฟิงอู๋ชิงเห็นได้ว่าเป็นชื่อเรียกที่ตั้งขึ้นมาตามแต่ตนเอง อีกทั้งหอทิงเฟิงของเขา หอเป็นตัวอักษรที่คนในยุทธภพใช้กันทั่วตัวหนึ่ง พวกเขาเรียกสิ่งนี้ว่าลัทธิภายใน

สิ่งสำคัญอยู่ที่ทิงเฟิงนี้ ทิงเฟิงก็คือคือฟังคำของเขา

หากข้าเดาไม่ผิด เขาเฟิงอู๋ชิงไม่ได้กำหนดกฎเกณฑ์มากมายเอาไว้ในลัทธิภายในนัก และกฎอันใหญ่หลวงที่สุดของเขาก็คือคนที่อยู่ในลัทธิห้ามทรยศต่อเขาและต้องเชื่อฟังเขา ”

อวิ๋นหลัวฉวนรู้สึกอยู่ลึกๆว่ามีเหตุผล ตัวอักษรเป็นเช่นนั้นอย่างแท้จริง

“ดูไม่ออกว่าเฟิงอู๋ชิงผู้นี้จะมองดูเพียงผิวเผินเช่นนี้!”

อ๋องตวนพาอวิ๋นหลัวฉวนไปส่วนฉีเฟยอวิ๋นกลับไปยังลานดอกกล้วยไม้ เข้าประตูไปดูเด็กๆทั้งหลายก่อนและคิดว่าในเรือนนั้นไม่สามารถอยู่ได้แล้วฉีเฟยอวิ๋นก็รู้สึกโมโห

หมอเทวดาเจาะเลือดจากเฟิงอู๋ชิงมาหนึ่งหยดและทำการตรวจสอบหลายครั้งแต่ไม่สามารถตรวจหาวิธีถอนพิษได้

แก้ไม่ได้หมอเทวดาคิดที่จะไปหาฉีเฟยอวิ๋นเพื่อขอยาถอนพิษ เฟิงอู๋ชิงยอมตายก็ไม่ยอมให้หมอเทวดาไปหายาถอนพิษ

หมอเทวดาเองก็จนปัญญาจึงทำได้เพียงเพิกเฉย

ผ่านไปหนึ่งชั่วยามใบหน้าของเฟิงอู๋ชิงแปรเปลี่ยนเป็นสีม่วงดำเลย จากนั้นฉีกเสื้อผ้าในตัวออกก็เป็นเช่นเดียวกัน

“จับตัวหญิงอัปลักษณ์ผู้นั้นมาให้ข้า”

เฟิงอู๋ชิงโกรธจัดและหมอเทวดาก็ไม่กล้าล่าช้า แต่พอเขาเดินไปถึงตรงหน้าประตูก็รีบกลับมา

เฟิงอู๋ชิงงุนงง: “เหตุใดเจ้าถึงกลับมา?”

“ตอนนี้อู๋ฮัวเป็นอาจารย์ของข้า ศิษย์ไม่สามารถทำร้ายอาจารย์ได้ นายท่านข้าน้อยไม่ไป” หมอเทวดายืนอยู่ตรงหน้าประตูไม่ยอมไปทำให้เฟิงอู๋โมโหจนปวดหัว

“้เจ้าไปให้พ้น อู๋ซังเจ้าไป” เฟิงอู๋ชิงเรียกอู๋ซังอู๋ซังก็ไปหาฉีเฟยอวิ๋น

เพิ่งถึงตรงหน้าประตูก็ถูกอาอวี่รั้งเอาไว้ อาอวี่กลับมาพักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งวันแล้วก็เพิ่งได้ยินว่าเฟิงอู๋ชิงก่อเรื่องอาอวี่จึงได้มา

ฉีเฟยอวิ๋นนั้นนอนหลับแล้วและมีเด็กๆทั้งหลายอยู่กับนาง ฉีเฟยอวิ๋นนั้นเหน็ดเหนื่อยเสียแล้ว

เด็กทั้งหลายส่วนใหญ่ก็พักผ่อนกันแล้ว

อู๋ซังมาหาคน เจ้าห้าตื่นขึ้นและอวิ๋นจิ่นก็ลุกขึ้นไปยังตรงหน้าประตู

ฉีเฟยอวิ๋นถามว่า: “มาหาแล้วหรือ?”

“เป็นอู๋ซัง”

ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวว่า: “บอกอู๋ซังว่าหากไม่ต้องการให้เฟิงอู๋ชิงตายเป็นหนองทั่งทั้งร่างกายก็กลับไปในทันทีและหาสมุนไพรไอ้เยี่ยให้เฟิงอู๋ชิงอาบ”

อวิ๋นจิ่นออกไปบอกทำให้อู๋ซังตกใจจนวิ่งกลับไปทันที

หมอเทวดาได้ยินมาว่าตัวยาไอ้เยี่ยมีประโยชน์และก็ไม่ได้พิจารณาว่าจะช่วยคนได้หรือไม่ก็นำไอ้เยี่ยมาแช่ในน้ำถังหนึ่งแล้วนำตัวเฟิงอู๋ชิงแช่ไว้ด้านใน สุดท้ายแล้วทำเป็นอวดเก่งกลับอาการแย่ลงโดยที่ร่างกายของเฟิงอู๋ชิงแปรเปลี่ยนไปเป็นอีกอย่างราวกับหมั่นโถวที่ออกดอก เริ่มแตกออกไปด้านนอกแล้วยิ่งเจอน้ำก็ยิ่งน่ากลัว เฟิงอู๋ชิงตกใจจนล้มลงไปเลย

หมอเทวดารีบไปหาฉีเฟยอวิ๋นขอร้องให้ฉีเฟยอวิ๋นช่วยคน

ฉีเฟยอวิ๋นชี้แนะทางสว่างให้หมอเทวดา หมอเทวดาก็รีบวิ่งกลับมาคอยเฝ้าดูเฟิงอู๋ชิงและทำงานอย่างกระวนกระวายใจ หลังจากรอคืนหนึ่งเฟิงอู๋ชิงนั้นไม่รู้ว่าส่องกระจกกี่ครั้งแล้วในคืนนี้ และทุกครั้งที่มองดูก็เจียนตายทั้งสิ้น

อู๋ซังยืนอยู่ตรงหน้าประตูโดยครุ่นคิดว่าเจ้าหอไม่ได้กระตือรือร้นมาเช่นนี้มาหลายปีแล้ว และดูเหมือนว่าจะบาดหมางกับหญิงผู้นี้ราวกับว่ามีความแค้นอันลึกซึ้งต่อกัน

ในอดีตเขาเป็นเหมือนคนตายที่เดินได้ ไร้ความรู้สึกหรือการตอบสนองใดๆ

ที่ผ่านมาไม่มีความเจ็บความป่วยแต่ในตอนนี้ถึงจะนับว่าเป็นคนที่มีชีวิตสินะ

หลังจากใช้เวลาหนึ่งคืนเฟิงอู๋ชิงนั้นถูกทรมานเจียนตายด้วยรูปร่างอันอัปลักษณ์ของเขา และฉีเฟยอวิ๋นจึงได้เดินเข้าประตูมาจากด้านนอก

เฟิงอู๋ชิงหยิบกระบี่ที่อยู่ฝั่งหนึ่ง นอนอยู่บนพื้นแล้วชี้ไปยังฉีเฟยอวิ๋น: “นายท่านจะฆ่าเจ้าให้เจ้าฝังไปกับข้า!”

ฉีเฟยอวิ๋นมองไปยังเฟิงอู๋ชิงอย่างเย็นชาแล้วกล่าวว่า: “น่าขยะแขยงแล้วยังจะดื้อรั้นอีก! หากไม่ใช่ว่าเห็นแก่ศิษย์รองของข้า เจ้ายังจะคิดว่าข้าจะช่วยเจ้า!”

“ไม่ต้องให้เจ้าช่วยเจ้าหญิงอัปลักษณ์!” เฟิงอู๋ชิงยังคงตะโกนต่อไป

ฉีเฟยอวิ๋นก้าวออกไปและอาอวี่ที่อยู่ด้านหลังก็ราดน้ำเย็นสองถังเข้าไปโดยตรงและตะโกนให้หลบไป

อู๋ซังและหมอเทวดาหลีกออกไปทันทีปล่อยให้เฟิงอู๋ชิงอยู่บนพื้นเพียงลำพัง เฟิงอู๋ชิงเห็นว่าทุกคนรอบตัวเขาวิ่งหนีกันหมดจึงตะโกนร้องอย่างบ้าคลั่ง: “ให้ข้ากลับมานะ……อ๊า!”

เสียงราวกับฆ่าหมูดังขึ้น จวนอ๋องเย่ทั้งจวนได้ถูกทำให้สั่นสะเทือนไปทั่ว