1893 vs 1894 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1893 คนแซ่ฉินโหดหน้ายิ้ม

อะไรที่เรียกว่ามองเขาก็พอแล้ว จิ่ว ตอนที่เธอซ้อมฉันอะ ยังคำนับทำความเคารพก่อนด้วยซ้ำ! ทำไมพอมีเจ้าปีศาจแล้วกลับไม่ทำอีก ฮือๆๆ

วิลเลียมเสียใจมากจนจะเหลวกลายเป็นแม่น้ำอยู่แล้ว แต่เขาจะอ่อนแอต่อหน้าศัตรูไม่ได้ เขายังไม่รู้ตัวว่ากำลังได้เจอกับคู่แข่งแบบไหน ก็บอกแล้วว่าเด็ก ยังมองหน้าฉินมั่วอีก

ทางด้านฉินมั่วยังคงสูงส่งเหมือนเดิม ทว่าเมื่อป๋อจิ่วหลุบตาลง เขาก็ช้อนสายตามองไปยังวิลเลี่ยมจูเนียร์ด้วยความเย็นชา ทำให้คนถูกมองหนาวเลยทีเดียว จิ่วไปเจอเจ้าคนนี้จากที่ไหน เหมือนจอมมารเลย!

ราวกับได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือในหัวใจของวิลเลี่ยมจูเนียร์ เสียงใสที่พูดภาษาอังกฤษดังขึ้น “ฉินเหรอ? มาที่นี่ได้ยังไง?”

ฉิน? ยัยเสือน้อยขยับตัวก่อนเพื่อน นัยน์ตาคู่โตมองไปยังต้นทางของเสียง เด็กผู้หญิงสวมเสื้อขนสัตว์และกระโปรงพองบานสามคนยืนอยู่ที่นั่น คนที่พูดก็คือแองเจลิน่า เจ้าหล่อนมีนัยน์ตาสีฟ้าและผมสีทอง เมื่อแสงแดดส่องทำให้เรือนผมเธอเหมือนทอประกายแสง ส่งผลให้ยัยเสือน้อยที่ชอบของสวยๆ งามๆ มองแล้วหันไปพูด “มั่วมั่ว เพื่อนใหม่เธอเหรอ? สวยจัง”

ฉินมั่วรู้ความชอบของเพื่อน เวลาที่เห็นใครสวยหน่อยนัยน์ตาจะเป็นประกาย ทว่าเธอควรต้องแก้นิสัยนี้เสียบ้าง ฉินมั่วหันไปบังยัยเสือน้อยที่กำลังยืนตะลึงให้อยู่ด้านหลัง

เวลานี้แองเจลิน่าและเพื่อนอีกสองคนเดินเข้ามาหา ต่างถือไอศกรีมคนละโคน “ฉิน เธอก็มาเล่นเหมือนกันเหรอ?” แองเจลิน่ากินไอศกรีมที นัยน์ตาสีฟ้าดูจะสวยเชียว

ทว่ายัยเสือน้อยคิดแล้วคิดอีก พบว่าคนมาใหม่ไม่สวยเท่าเจ้าหญิงน้อย นัยน์ตาของเจ้าหญิงน้อยเป็นสีดำก็จริง แต่เวลาอยูใต้แสงแดดจะเป็นสีอำพัน อื้อ…เทียบกันไม่ได้หรอก

ฉินมั่วไม่รู้ว่าป๋อจิ่วคิดอะไรอยู่ เห็นแค่ยัยเสือน้อยที่อยู่ตรงหน้าเอาแต่วนเวียนมองคนอื่นอยู่ได้ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือดึงหมวกของยัยเสือน้อยให้ต่ำลง จากนั้นเงยหน้าพูดกับแองเจลิน่าด้วยเสียงเรียบ “อื้ม”

หลังจากงานปาร์ตี้ในคืนนั้น แองเจลิน่าชินกับการพูดน้อยของอีกฝ่ายแล้ว เธอหันหน้าไปอีกทางด้วยสีหน้าตะลึง “วิลเลี่ยมจูเนียร์ เธอก็รู้จักฉินด้วยเหรอ? ตอนที่อยู่โรงเรียน เธอเคยบอกว่าไม่รู้เรื่องที่มีคนเอเชียย้ายเข้ามาอยู่ด้วยนี่นา”

คนถูกทักได้ยินแล้วมีสีหน้าบอกไม่ถูก เพราะเพิ่งจะรู้ว่าเจ้าปีศาจก็คือเด็กเอเชียที่เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ แถมยังมีฉายาว่าเจ้าชายน้อยด้วย! ตอนนี้ไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว นอกจากฝืนใจตอบ “ฉันเก็บเป็นความลับต่างหาก”

“อ๋อ” แองเจลิน่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าก็ไม่ได้ส่งผลต่อความดีใจที่ได้เห็นฉินมั่ว กระทั่งเสียงยังพลอยร่าเริงไปด้วย “ฉิน ไปเล่นที่สวนสนุกกันไหม? ข้างในน่าสนุกออก”

“ไม่ล่ะ ขอบคุณ” ฉินมั่วพูดเช่นนี้ แต่สายตาไม่ได้มองคนถาม หันไปกดมือของยัยเสือน้อยที่ซนอีกแล้ว

ยัยเสือน้อยที่มองอะไรไม่เห็นเริ่มเซ็ง พยายามยื่นมือดันคิดจะเสยหมวกให้ไปทางด้านหลัง “มั่วมั่ว ฉันมองไม่เห็นอะ”

……………………………………………………….

ตอนที่ 1894

 มองไม่เห็นนั่นแหละถึงจะดี

นอกจากเขาแล้ว เธอจะยังอยากเห็นใครอีก จะเหมาเจ้าหญิงเพิ่มอีกคนหรือไง?

ฉินมั่วคิดมาถึงตรงนี้ก็กำข้อมือใครบางคนแน่น จะได้ไม่ต้องไปตบบ่าใครอีก “อย่างนี้ล่ะ?”

“ยิ่งมองไม่เห็นเข้าไปใหญ่” ป๋อจิ่วยื่นมือไปด้านหน้า ราวกับกำลังวัดระยะห่าง

ฉินมั่วจูงมือเธอ “ฉันจูงเธอแล้วกัน อย่าสะบัดหมวกอีก ลมพัดแรง เดี๋ยวจะพัดเข้าหน้าเอา”

“อื้อ ดีจัง” ยัยเสือน้อยรู้สึกว่าเจ้าหญิงน้อยของเธอช่างเป็นคนเอาใจใส่คนอื่น เรื่องแบบนี้ก็ยังระวังได้อีก

วิลเลี่ยมจูเนียร์ที่เห็นตัวตนที่แท้จริงของฉินมั่วตลอดตั้งแต่ต้นจนจบรู้สึกโมโหเหมือนมีคลื่นซัดโหมอยู่ในใจ เจ้าหมอนี่มันเจตนานี่นา ทำเหมือนจิ่วเป็นอะไร เป็นสมบัติของมันเหรอ?

ไม่ได้! เขาจะต้องเตือนเจ้าปีศาจนั่น แต่ห้ามทำต่อหน้าจิ่ว วิลเลี่ยมจูเนียร์ตัวใหญ่ไม่ได้โง่ ตอนนี้จิ่วกำลังหลงใหลกับความหน้าสวยของมันจนโงหัวไม่ขึ้น ย่อมไม่เห็นความจริง เขาจะต้องเตือนลับหลัง

การแอบทำย่อมต้องหาสถานที่ดีๆ ดังนั้นวิลเลี่ยมจูเนียร์จึงออกปากเอง “ไฮ แองเจลิน่า ตอนนี้สวนสนุกมีคนเยอะแล้ว ฉันกับฉินไม่อยากไป พวกเราไปกินของที่ร้านกันดีกว่า”

“งั้นก็ดี” ตอนที่หนูน้อยแองเจลิน่าตอบ สายตาก็ไม่คลาดจากร่างเล็กๆ ที่สวมหมวกอยู่ เด็กคนนั้นน่าจะมาจากเอเชียเหรอ? เป็นคนบ้านตระกูลฉินมั้ง ไม่งั้นด้วยนิสัยของฉินไม่น่าจะสนิทกับใครได้ง่าย และด้วยยังเป็นเด็กอยู่ เธอจึงซ่อนความรู้สึกไม่ได้ “ฉิน น้องเธอเหรอ?”

“No” เขาตอบเหมือนรำคาญ ทว่ายังมีมารยาทอย่างที่ไม่มีใครจับผิดเรื่องมารยาทได้ นี่แหละคือฉินมั่ว

แองเจลิน่าเศร้าใจ ยังไงก็ยังเป็นเด็ก ความตื่นเต้นเมื่อครู่หายไป แต่เธอยังอยากกินข้าวกับฉินมั่ว ดังนั้นทีมกินแฮมเบอร์เกอร์จากสามคนจึงกลายเป็นหก มีฉินมั่วเดินนำหน้า แต่คนสั่งอาหารคือป๋อจิ่ว เรื่องนี้เธอยืนกราน เพราะไม่เคยลืมว่าครั้งนี้เธอจะแสดงความเป็นมหาอำนาจด้านการเงิน ซึ่งฉินมั่วเองก็ไม่ได้แย้งแต่อย่างใด

เมื่อผ่านวันนี้ไป เขาก็เข้าใจหลักการหนึ่ง มิน่าคุณอาป๋อถึงได้ทำตัวแบบนั้นเวลาอยู่ในครอบครัว บางครั้งการทำตัว ‘อ่อนแอ’ เสียบ้างก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะเมื่อค้นพบว่ายัยเสือน้อยเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง เขาก็รู้ด้วยว่าเธอเข้าใจสถานะตัวผิดอย่างแรง

ส่วนยัยเสือน้อยกลับไม่คิดว่าตัวเองเข้าใจผิด เพราะเธอตั้งใจว่าโตมาจะเป็นท่านประธานแบบแม่ ต้องบอกว่าเรื่องนี้ป๋อจิ่วเท่จริงๆ เมื่อเข้าแถวรอสั่งอาหาร หากมองดูจมูกจากเสี้ยวหน้าเธอจะเห็นว่าโด่งสวย ขนตาก็ดำยาว หลายต่อหลายคนต่างมองเธอ ทว่าเธอไม่รู้ตัว

ฉินมั่วเห็นภาพดังกล่าวแล้วถึงกับยิ้มมุมปาก ยัยเสือน้อยชอบคิดว่าคนนั้นสวย คนโน้นสวย ไม่สู้กลับไปส่องกระจกที่บ้านดู คนพวกนั้นเหรอจะสู้เธอได้

เวลาที่เด็กน้อยรออาหารย่อมไม่มีทางเงียบสงบ ฉินมั่วลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ วิลเลี่ยมจูเนียร์จึงรีบตามไป ซึ่งไม่มีใครสังเกตเห็น

ใช่ ต้องลงมือเวลานี้นี่แหละ!

ฉินมั่วรู้ตัวว่ามีคนเดินตามหลังมา แต่ก็ยังล้างมืออย่างสบายอารมณ์ พอล้างเสร็จจะเดินกลับไป วิลเลี่ยมจูเนียร์กลับค้ำมือข้างหนึ่งข้างกำแพงเหมือนเลียนแบบมาจากผู้ใหญ่ ก่อนจะยื่นขาข้างหนึ่งมาขวางทางฉินมั่วไว้ “ฉันอยากคุยกับนาย”

………………………………………………………….