บทที่ 446 ฉันต้องการเอาคืน

The king of War

เย่ม่านยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งดังมากขึ้น ก่อนที่สุดท้ายจะร้องตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่งด้วยน้ำตาที่ไหลนองอาบหน้า

หยางเฉินไม่รู้ว่าสิ่งที่ เย่ม่านพูดออกมานั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ จึงทำได้เพียงนิ่งเฉย

“แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ฉันสิ้นหวังมากที่สุด คุณรู้หรือเปล่าว่าอะไรที่ทำให้ฉันสิ้นหวังมากที่สุด ?”

เย่ม่านถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน ดวงตาแดงก่ำจนน่ากลัว ราวกับสัตว์เดรัจฉาน

ครั้งนี้หยางเฉินมีความรู้สึกบางอย่างที่คิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่กำลังหลอกลวงเขา สิ่งที่เธอพูดคือเรื่องจริง

“แล้วจากนั้นเกิดอะไรขึ้น?”

หยางเฉินเริ่มเกิดความอยากรู้จึงเอ่ยปากถาม

ใบหน้าของเย่ม่านบูดเบี้ยวอย่างช้าๆ ดวงตาแดงก่ำ พร้อกับพูดอย่างกัดฟันอดทน: “คนที่เกิดมาพร้อมกับช้อนเงินช้อนทองอย่างฉัน หลังจากที่ถูกคนรักหักหลัง จนต้องดำเนินชีวิตตัวคนเดียว ไม่มีทางที่จะทนรับความลำบากของการเลี้ยงลูกได้”

“และในที่สุดความทรมานเหล่าก็บีบบังคับให้ฉันมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด จิตใจของฉันเริ่มที่จะบิดเบี้ยว และเกิดความต้องการที่จะแก้แค้น แก้แค้นกับพ่อของลูก !”

“จนกระทั่งผ่านไปหลายครั้งที่ทำให้ฉันเกือบจะฆ่าฉินซี !”

“ถ้าหากไม่เพื่อนบ้านที่เข้ามาเห็นเหตุการณ์ได้ทันเวลา ครั้งนั้นฉินซีก็คงจะถูกฉันโยนทิ้งแม่น้ำจมน้ำตายไปแล้ว !”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าของเย่ม่านก็ถูกชะล้างด้วยน้ำตาที่ไหลนอง

เธอร้องไห้โฮออกมา สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ตอนนี้หยางเฉินเริ่มใจอ่อนลงมาไม่น้อย

จู่ๆ เขาก็ฉุดคิดถึงเรื่องของตัวเองกับฉินซีขึ้นมา ในตอนนั้นเพื่อที่จะทให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาเองก็จากไปโดยไม่กลัวลา ปล่อยให้ฉินซีแบกรับทุกอย่างเพียงคนเดียว แบบนี้เธอจะไม่เจ็บปวดแบบนี้ด้วยงั้นหรอ ?

ฉินซีท้องนานสิบเดือน คลอดเสี้ยวเสี้ยวออกมาโดยตัวคนเดียว เธอคงจะได้รับความเจ็บมาไม่น้อยแน่เลย?

“ตอนนั้นฉันเลยรู้ตัวว่าหากฉันยังคงอยู่กับฉินซีต่อไป เธออาจจะถูกฉันฆ่าด้วยมือตัวเอง ดังนั้นฉันจึงได้เอาเธฮไปปล่อยทิ้งไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แล้วมองดูเธอถูกพาตัวเขาไปในนั้นด้วยตาตัวเอง ก่อนที่จะจากไป”

“ถึงอย่างนั้นคุณก็ไม่มีทางเข้าใจความเจ็บของผู้เป็นแม่ที่เกือบจะฆ่าลูกของตัวเอง ทั้งยังเป็นคนปล่อยเธอด้วยมือของตัวเองหรอก !”

“แต่สิ่งที่ฉันพูดมา ไม่ใช่ช่วงเวลาที่สิ้นหวังที่สุดหรอกนะ”

เย่ม่านสงบอารมณ์ไปได้มากพอสมควร เธอเช็ดน้ำตาแล้วพูดต่อ : “แต่ก็คือตั้งแต่ที่ฉันเลือกทิ้งฉินซี แล้วฉันกลับไปยังตระกูลเย่”

“ฉันนั่งคุกเข่าอยู่หน้าประตูห้องคุณพ่อ ร้องขอให้เอาอภัยให้กับฉันเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ !”

“จนแล้วในวันที่ถัดมา คุณพ่อถึงจะยอมเจอหน้ากับฉัน เขายอมอภัยให้กับฉัน แต่ฉันก้ต้องยอมทำตามเงื่อนไขของตระกูล ด้วยการแต่งงาน กับตระกูลฉีที่กำลังรุ่งเรืองในเวลานั้น!”

“ฉันเคยถูกทิ้งมาแล้ว การแต่งงานกับคนอื่นจะเป็นอะไร ?”

“แต่หลังจากที่ฉันแต่งงานเข้าตระกูลฉี ถึงเพิ่งรู้ว่าตัวเองนั้นได้แต่งงานกับใคร เขาคือคนบ้า เวลาที่ดื่มเหล้าเมาก็จะทำร้ายร่างกายฉัน”

“คุณหรือเปล่าว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ?ฉันยอมอดทนทุกอย่าง ใช้สติปัญญาของตัวเองแอบช่วยเขาในการได้ครอบครองตระกูลฉี จากนั้นก็ฆ่าเขาด้วยมือของตัวเอง !”

อารมณ์ของเย่ม่านในเวลานี้นิ่งสงบเป็นอย่างมาก ราวกับว่าสิ่งที่พูดออกมานี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตัวเองเลยสักนิด

ใจของหยางเฉินสั่นเคลือด้วยความรู้สึกเหมือนกับมีความเข้าใจในตัวของผู้หญิงคนนี้

“คุณคงอาจจะคิดไม่ถึงว่าการที่ฉันแต่งงานเข้าตระกูลฉี ที่แท้แล้วเป็นแผนการของพ่อฉัน!”

“รวมทั้งเรื่องที่ฉันได้ควบคุมตระกูลฉีก็ล้วนอยู่ในแผนการของเขาด้วย!”

“จนกระทั่งหลังจากนั้น ฉันถึงเพิ่งรู้ว่าหลังจากที่ฉันแต่งงานเข้าตระกูลฉี ทุกการถูกทำร้ายร่างกาย เป็นเพราะว่าพ่อของฉันได้เอารูปลับของฉันกับเหยียนซานให้สามีของฉัน”

“รวมทั้งคนสนิทที่ฉันไว้ใจก็ได้ถูกพ่อของฉันกวาดซื้อไปจนหมดแล้ว”

“และก็เป็นคนสนิทคนนี้ที่มาคอยยั่วยุฉันอย่างไม่หยุด ช่วยฉันยกสามีให้กลายเป็นผู้นำของตระกูลฉีจนสำเร็จ แล้วสุดท้ายก็หักหลังเขา”

“ตอนแรกฉันก็คิดว่าทั้งหมดนี้เป็นความสำเร็จของฉัน แต่ฉันเพิ่งได้มารู้ทีหลังว่าแท้จริงแล้วตัวเองเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในมือของพ่อเท่านั้น”

“เพราะมีเพียงวิธีการนี้เท่านั้นถึงจะทำให้ตระกูลฉีที่มีชื่อเสียงน่าเชื่อถือตกมาเป็นบริวารของตระกูลเย่ ได้!”

ใบหน้าของเย่ม่านบูดบึ้งอีกครั้ง สีหน้าดูน่ากลัว : “และเป็นเพราะฉันสามารถที่จะควบคุมตระกูลฉีได้ พ่อจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมอบอำนาจบางส่วนให้กับฉัน”

“และหลังจากที่อำนาจในการควบคุมดูแลของฉันที่ยิ่นานก็ยิ่งมีมากขึ้น สิ่งที่ได้รู้มากยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปด้วย”

“จนฉันได้รู้ว่า หยวนซานไม่ได้ทอดทิ้งฉัน แต่ในตอนที่รู้ว่าฉันท้อง เขาก็เดินทางไปยังตระกูลเย่ตัวคนเดียว เพื่อลองโน้มน้าวพ่อของฉันให้ยอมให้พวกเราสองคนได้อยู่ด้วยกัน แล้วถูกพ่อของฉันฆ่าทิ้งไปแทน !”

“คุณรู้หรือเปล่า?นี่ถึงจะเป็นช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกสิ้นหวังมากที่สุด!”

“ฉันเกลียดชังหยวนซานมานานตลอดสิบปี ด้วยความเข้าใจว่าเขาทอดทิ้งฉันและลูกไป !”

“แต่แล้วโชคชะตามันก็ช่างโหดร้าย ถึงได้ทำให้ฉันรู้ความจริงว่าเขาไม่ได้ทอดทิ้งฉันและลูกไป แต่เพราะต้องการที่จะได้รับคำอวยพรจากพ่อของฉัน แล้วถูกพ่อของฉันฆ่าทิ้งไป !”

ในที่สุดเย่ม่านก็ไม่สามารถที่จะอัดอั้นความเจ็บปวดของตัวเองได้อีกครั้ง พร้อมร้องไห้โฮออกมา

หยางเฉินนิ่งอึ้ง เย่ม่านพูดโกหกหรือไม่นั้น เขาสามารถรับรู้ได้

และเป็นเพราะสิ่งที่ เย่ม่านพูดออกมานั้นล้วนเป็นความจริง เขาถึงได้รู้สึกตกตะลึง พร้อมกับในใจลึกๆ ก็รู้สึกโกรธเคือง

นี่ก็คือความสกปรกของแปดตระกูลใหญ่แห่งเยียนตูงั้นหรอ?

จู่ๆ หยางเฉินก็ฉุดคิดถึงตัวเองเมื่อสิบแปดปีก่อน ในตอนที่เขาและแม่ถูกขับไล่ออกมาจากตระกูล นั่นก็เป็นเพราะความโสมมของแปดตระกูลใหญ่แห่งเยี่ยนตูด้วยไม่ใช่หรอ?

“หยางเฉิน ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณ เพราะมีเพียงคุณเท่านั้นถึงจะทำให้ฉันสามารถควบคุมตระกูลเย่ได้ และถึงจะทำให้ฉันสามารถกำจัดพ่อของฉันออกไปเสียที !”

ทันใดนั้นเย่ม่านก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาทั้งสองเปียกปอนด้วยคราบน้ำตา จ้องเขม็งไปยังหยางเฉิน พูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง

หยางเฉินสามารถรู้สึกถึงความกระหายอำนาจของ ตระกูลเย่ในตัวของเย่ม่าน พร้อมกับความเกลียดชังที่เธอมีต่อพ่อของตัวเองด้วย

นับตั้งที่ฉินซีคลอดออกมา โชคชะตาของเธอก็ถูกผู้นำตระกูลเย่ควบคุมเอาไว้ จึงทำให้เธอรู้สึกแคลงใจอย่างมาก

และหยางเฉิน ก็คือโอกาสหนึ่งของเธอ

“จากแววตาของคุณ ผมเห็นเพียงแค่ความโกรธแค้น แต่กลับไม่มีความรุ้สึกผิดใดๆ ต่อฉินซีเลย”

หยางเฉินเอ่ยปากพูดขึ้น: “สำหรับคุณแล้วฉินซีก็เป็นเพียงเครื่องมือที่คุณใช้มาแก้แค้นเท่านั้น บางทีในใจของคุรอาจจะไม่เคยมีลูกสาวคนนี้เลยด้วยซ้ำ แถมอาจจะเกลียดแค้นในตัวเธอแทนอีกด้วย !”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของเย่ม่านก็เต้มไปด้วยความประหม่า ก่อนจะร้องตะคอกออกมาอย่างร้อนรน: “ไม่!ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น!ฉินซีเป็นลูกสาวของฉัน ฉันจะไปเกลียดเธอได้ยังไง ?”

ไม่ว่าเย่ม่านจะปฏิเสธอย่างไร ก็ไม่สามารถที่จะหนีพ้นสายตาของหยางเฉินได้

“เพราะคุณคิดว่าถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าคุณท้อง พ่อของเสี่ยวฉินก็คงจะไม่ไปหาพ่อของคุณ และก็จะไม่ถูกฆ่า และยิ่งไปกว่านั้นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้นก็จะไม่เกิดขึ้นเหมือนกัน”

“ความเกลียดชังที่มีมายาวนานกว่ายี่สิบปี ได้ทำให้ตาทั้งสองของคุณมืดบอดไปตั้งนานแล้ว บางทีคุณอาจจะไม่ได้มีเจตนาที่จะฆ่าเสี่ยวฉิน แต่ถ้าหากสามารถใช้เสี่ยวฉินแลกเปลี่ยนกับความสำเร็จในการแก้แค้น คุณก็ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย”

“ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ผมจะช่วยคุณไปทำไม?”

“ทุกสิ่งที่คุณพูดกับผมในวันนี้ ผมจะไม่บอกให้กับใครทั้งสิ้น คุณกลับไปเถอะ !”

หยางเฉินพูดด้วยใบหน้าราบเรียบ

เขาเข้าใจความรู้สึกกับสิ่งที่เย่ม่านได้ประสบพบเจอเป็นอย่างดี แต่เขาไม่มีทางยอมปล่อยให้ใครมาใช้ประโยชน์จากความรู้สึกของฉินซีเพื่อทำร้ายเธอเด็ดขาด

“มีสิทธิ์อะไร?”

“คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะไม่ยอมให้พวกเราสองแม่ลูกปรับความเข้าใจกัน?”

“คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะคิดว่าความรู้สึกที่ฉันมีต่อเสี่ยวฉินไม่มีความรัก และมีเพียงความเกลียดชัง ?”

ท่าทีบนใบหน้าของเย่ม่านดูดุดันอย่างมาก ด้วยอารมณ์ที่ตระหนก เธอจึงตะคอกใส่หน้าของหยางเฉิน

หยางเฉินหรี่ตาทั้งสองลง แล้วพูดอย่างเย็นชา: “ผมไม่มีทางยอมปล่อยให้ใครมาทำร้ายเสี่ยวฉินเด็ดขาด ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดก็ไม่มีสิทธิ์ !”