ตอนที่ 512 เร่ขาย

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 512

เร่ขาย

“เรียบร้อยนะ”ยี่เจินพูดขณะให้เกว็นกับเอมิลนำเกลือที่จองเอาไว้เข้าไปในแหวนมิติ แน่นอนว่าอสูรทั้งสองไม่มีพลังวิญญาณแต่ก็เป็นถึงอสูรระดับบรรพกาล มิติส่วนตัวย่อมสามารถใช้ได้เป็นธรรมดาทำให้ทั้งสองแกล้งทำเป็นใช้งานแหวนมิติแล้วนำเกลือทั้งหมดใส่ลงไปในมิติของตนเองแทน เท่านี้เกลือก็จะปลอดภัยไม่เสียหายจากอะไรภายนอกอีกต่อไป

“เรียบร้อยเจ้าค่ะ”เกว็นตอบพลางพยักหน้าช้าๆ ท่าทีของเกว็นนั้นต่างไปจากวันแรกที่ได้พบยี่เจินมากจนน่าตกใจทีเดียว ท่าทางนางจะเริ่มเคยชินกับการอยู่กับยี่เจินแล้วกระมัง

“ไม่ต้องห่วงขอรับ พวกเราจะดูแลรักษาสินค้าของเจ้านายอย่างดีเลย”เอมิลยิ้มกว้างพลางยืดอกด้วยท่าทีมั่นใจ รายนี้แทบจะสนิทกับยี่เจินตั้งแต่วันแรกจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ทำให้ไป๋จูล่งที่อยู่ด้านหลังยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ท่าทางอสูรทั้งสองจะไปได้ดีกับยี่เจินมันก็โล่งใจ

“จูล่ง แล้วม้าล่ะเจ้าหามาได้หรือไม่”ยี่เจินถามพลางหันมามองทางจูล่ง เมืองทางเหนือของอาณาจักรไชน์ยังไม่มีรถไฟเข้าไปถึงเพราะสภาพภูมิประเทศไม่อำนวย จะทำลายภูเขาเพื่อเจาะทางรถไฟอย่างอาณาจักรไป๋ก็ยังไม่มีแรงงานพอเพราะไชน์ยังมีสภาวะสงครามเข้ามาเรื่อยๆไม่ได้สงบอย่างอาณาจักรไป๋ ทำให้การขนส่งของไปทางเหนือนิยมใช้เรือมากกว่า แต่ตอนนี้เรือพังเสียหายไปหลายลำทำให้ยี่เจินตัดสินใจเดินทางด้วยม้าแทน

“ดะ ได้ขอรับ”จูล่งยิ้มเจื่อนๆออกมาพลางจูงม้ามา 2 ตัว หนึ่งคือพี่ตงฟางและอีกหนึ่งคืออสูรมังกรซึ่งเป็นหนึ่งในลูกน้องของเอมิล มันแปลงกายจนมีสภาพเหมือนม้าเช่นเดียวกับพี่ตงฟางที่เก็บปีกเสียมิดชิด

“เยี่ยม เป็นม้าที่สง่างามมาก”ยี่เจินว่าพลางมองม้าทั้งสองตัวด้วยท่าทีประหลาดใจ ม้าดีๆเช่นนี้หามาได้ด้วยเงินเพียงไม่กี่เหรียญทองที่ให้จูล่งไปจริงๆงั้นหรือ บางทีหากให้เจ้าหนูนี่เป็นคนหาสินค้าอาจจะเป็นงานที่เหมาะกับจูล่งดีก็ได้

“ขะ ขอรับ”พอบอกว่าจะหาม้าสำหรับลากรถม้า พี่ตงฟางก็เสนอตัวทันที แต่ม้าธรรมดาคงตามความเร็วของพี่ตงฟางไม่ได้แน่ๆ ต่อให้พี่ตงฟางชะลอฝีเท้าสุดๆก็ตาม แถมจะให้พี่ตงฟางลากรถม้าตัวเดียวก็คงดูแปลกเกินไปเพราะความเร็วที่ออกมาคงมากกว่าม้าธรรมดา 8 ตัวลากเสียอีก สุดท้ายก็ได้แต่ให้มังกรดินผู้เป็นลูกน้องของเอมิลมารับหน้าที่ลูกคู่ของพี่ตงฟางแทน

“เอาล่ะ”ยี่เจินว่าพลางพาม้าทั้งสองมาผูกกับบังเหียนที่ผูกติดกับรถม้าที่ซื้อมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว โชคดีจริงๆที่ตัดสินใจซื้อแหวนมิติ ไม่อย่างนั้นคงต้องเสียค่าม้าและค่ารถม้าอีกเยอะแน่ๆ

.

.

การเดินทางไปทางเหนือของพวกยี่เจินและจูล่งนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นมาก พวกมันนั่งบนรถม้าที่มีพื้นที่ว่างเหลือเฟือเพราะสินค้าเอาไว้ในมิติของอสูรทั้งสองหมดแล้ว แถมยังไม่ต้องห่วงเรื่องการถูกโจมตีอีกต่างหากเพราะก่อนหน้าพวกยี่เจินจะเดินทางผ่าน พวกสาวๆที่ใช้มังกรบินหนึ่งในลูกน้องของเอมิลบินสำรวจรอบๆและจัดการปัญหาอย่างพวกโจรไปก่อนแล้ว ส่วนเรื่องอสูรนั้นไม่ใช่ปัญหามาแต่แรกอยู่แล้ว เพราะทั้งขบวนนี้มีทั้งอสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 4 อยู่ 2 ตน ไหนจะตงฟางที่มีพลังระดับบรรพกาลขั้นที่ 1 อีกต่างหาก ไม่มีอสูรตัวไหนนอกจากลูกน้องของเอมิลที่กล้าเข้ามาใกล้แน่ๆ

“เจ้านายไอ้นี่อร่อยดีนะเจ้าคะ”เกว็นว่าพลางนำมันฝรั่งที่อบกับเนยขึ้นมากินอย่างถูกปาก ของพวกนี้เป็นสิ่งที่พวกมันซื้อมากินระหว่างผ่านหมูบ้านเล็กๆก่อนหน้านี้ ทำให้ในมือของทั้งเกว็นและเอมิลต่างเต็มไปด้วยของกินที่ต้องตากันทั้งนั้น ท่าทางอสูรทั้งสองจะถูกใจของกินของเหล่ามนุษย์อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว

“ไอ้นี่ก็ไม่เลวนะ ย่างได้ดีเลย”เอมิลว่าพลางกัดไปบนเนื้อย่างเสียบไม้อย่างเอร็ดอร่อย ทำเอายี่เจินได้แต่หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี

“ไหนขอข้าลองหน่อย”เอมิลพูดพลางยื่นมือไปหยิบมันฝรั่งของเกว็นที่วางเอาไว้บนตักของนางด้วยท่าทีเคยชิน ไม่ทราบเพราะอยู่ด้วยกันมาหลายวันตั้งแต่ในเมืองจนออกเดินทางหรือเปล่าทั้งทั้งสองถึงได้ดูใกล้ชิดกันมากขึ้นเช่นนี้ จากเมื่อก่อนที่เข้าใกล้กันยังไม่ได้ตอนนี้กลับหยิบของกินของอีกฝ่ายไปได้หน้าตาเฉย

“โอ้ ใช่ได้นี่นา”เอมิลว่าพลางเคี้ยวมันฝรั่งตุ้ยๆ ขนมของอาณาจักรอู๋ก็อร่อย ของกินของอาณาจักรไชน์ก็ไม่เลว ท่าทางมันจะได้สนุกกับชีวิตมนุษย์อีกมากเลยทีเดียว

“นี่ เจ้าเอาของข้าไปอย่าลืมแบ่งของเจ้ามาด้วยล่ะ”เกว็นว่าพลางจ้องไปทางเอมิลด้วยท่าทีไม่พอใจ

“รู้แล้วน่า เอาไป”เอมิลว่าพลางนำเนื้อย่างเสียบไม้ส่งให้เกว็นไปอย่างช่วยไม่ได้ ทำเอาสภาพราชาของเขตอสูรทั้งสองที่ตีกันแทบตายไม่เหลือเค้าเดิมเลย

“…….”คนอื่นอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่อสูรมังกรดินที่แปลงกายเป็นม้าอยู่ข้างหน้ากลับหันมามองเอมิลด้วยท่าทีงุนงง เกิดอะไรขึ้นกับราชาของมันในหลายวันมานี้กันแน่

“เจ้ามองอะไร เดินๆไปซะ”เอมิลเห็นสายตาของลูกน้องก็พลันสั่งให้ลูกน้องตั้งใจทำงานทันที ทำเอาเจ้าม้าได้แต่ถอนหายใจแล้วทำงานต่อไป ถึงอย่างไรตอนนี้มันก็ได้อยู่ใกล้กับไป๋จูล่งผู้มีพลังดึงดูดเหล่าอสูร ต่อให้ราชามันมีท่าทีแปลกแค่ไหนมันก็ยินดีช่วยงานต่อไป

“เอาล่ะ น่าจะใกล้ถึงแล้ว”ยี่เจินว่าพลางเปิดแผนที่ออกดูอีกรอบ ด้วยความเร็วของตงฟางและอสูรมังกรดินทำให้การเดินทางรวดเร็วกว่าที่ยี่เจินคำนวณเอาไว้มาก

“ท่านว่าการค้ารอบนี้จะเป็นอย่างไร”จูล่งถามพลางมองไปทางยี่เจิน

“มันต้องดีเยี่ยมอยู่แล้วสิ พวกเราเป็นกลุ่มแรกที่ซื้อเกลือมาได้หลังจากเรือส่งสินค้าล่มไป แล้วพวกเรายังเดินทางมาได้เร็วขนาดนี้ด้วย เกลือของพวกเราจะต้องขายได้ราคาดีอย่างแน่นอน”ยี่เจินตอบด้วยท่าทีมั่นอกมั่นใจไม่น้อย ตัวมันแทบจะสามารถบอกได้เลยว่านี่คือการคว้าโอกาสทองแบบง่ายๆอย่างไม่ต้องสงสัย

“งั้นหรือขอรับ”จูล่งว่าพลางมองไปทางกำแพงเมืองที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

“แต่เอาจริงๆนะเจ้านาย เกลือที่พวกเราได้มามีจำนวนมากเกินไปหรือเปล่า แบบนี้เรานั่งขายกี่เดือนถึงจะหมดล่ะ”เอมิลถามด้วยท่าทีสงสัย ตัวมันเป็นอสูรเห็นแต่เพียงการนั่งขายของตามร้านเท่านั้น

“พวกเราไม่จำเป็นต้องไปนั่งขายเองเสียหน่อย”ยี่เจินว่าพลางยิ้มออกมา การค้าคราวนี้ของมันไม่ได้เป็นการค้าแบบตั้งหลักถาวรอย่างที่มันตั้งใจเอาไว้ในตอนแรกแต่อย่างไร

“แต่เงินทุนไม่เหลือแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ เจ้านายไม่น่าจะเหลือเงินจ้างคนเพิ่มแล้วนี่นา”เกว็นเลิกคิ้วด้วยท่าทีสงสัย นางเองก็มีความรู้เรื่องการค้าแทบไม่ต่างจากเอมิลเลย

“ข้าคิดว่าตอนนี้จะใช้การขายแบบพ่อค้าเร่ไปก่อนเพื่อสะสมเงินทุน ไหนๆก็มีม้าดีๆกับผู้คุ้มกันที่ไว้ใจได้ ไหนจะแหวนมิติอีก”ยี่เจินว่าพลางมองเหล่าสหายร่วมเดินทางอย่างภาคภูมิใจ กำลังขนส่งของยี่เจินตอนนี้เหนือกว่าพ่อค้ารายย่อยคนอื่นๆเป็นอย่างมาก ขอเพียงสืบข่าวแต่ละเมือง แล้วนำของราคาถูกจากเมืองหนึ่งไปขายอีกเมืองหนึ่งที่ราคาแพงกว่าก็เป็นอันจบ

“พ่อค้าเร่ คืออะไรหรือขอรับ”เอมิลถามด้วยท่าทีงุนงง

“ง่ายๆก็คือ พวกเราจะเข้าไปเมืองข้างหน้านี้ แล้วเทขายเกลือทั้งหมดให้กับร้านค้าใหญ่เหมือนร้านค้าที่เราไปกู้เงินมา แล้วนำเงินที่ได้มาไปซื้อของแล้วเอาไปขายอีกเมืองในรูปแบบเดียวกันยังไงล่ะ”ยี่เจินตอบพลางยิ้มออกมา ด้วยทุนและกำลังขนส่งขนาดนี้ ไม่นานมันต้องใช้หนี้ได้จนหมดและมีทุนพอเหลือให้ตั้งร้านตามที่ฝันเอาไว้ในเวลาไม่นานแน่ๆ

“โอ้ อย่างนี้นี่เอง”เอมิลตอบพลางบังคับม้าให้เดินทางเข้าไปในเมืองที่เป็นเป้าหมาย

“ได้ยินหรือเปล่า ดูเหมือนเรือขนสินค้าจากเมืองท่าจะล่มหมดเลย”ขณะกำลังเดินทางเข้ามาในเมือง อยู่ๆพวกเอมิลก็พลันได้ยินเสียงพูดคุยของชาวเมืองทันที ดูท่าข่าวเรื่องเรือขนส่งล่มหมดจะมาถึงแล้ว

“จริงงั้นหรือ แบบนั้นราคาของไม่พุ่งเป็นว่าเล่นหรือยังไง”ชายอีกคนทักด้วยท่าทีตกใจ

“แน่นอนสิ ข้ากำลังจะรวบรวมลูกน้องลงไปซื้อของจากเมืองท่ามาขายอยู่นี่ไง”ชายอีกคนพูดด้วยท่าทีมั่นใจ แต่คำพูดของมันกลับทำให้พวกเอมิลและเกว็นพากันยิ้มอย่างลำพองใจแทนเสียอย่างนั้น เพราะพวกมันพึ่งจะเริ่มรวมคน แต่เจ้านายของพวกมันกลับนำเกลือมาถึงที่แล้ว แบบนี้จะมีคู่แข่งที่ไหนมาแย่งพวกมันได้อีก

.

.

“เชิญทางนี้ขอรับ”ทันทีที่บังคับรถม้าให้เข้ามาในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของเมือง พนักงานของร้านก็ออกมาต้อนรับแทบจะทันที

“ไม่ทราบว่าต้องการจะซื้ออะไรหรือขอรับ”พนักงานคนนั้นถามพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีเป็นมิตร บนรถม้าของยี่เจินไม่มีสินค้าทำให้อีกฝ่ายเดาว่ายี่เจินจะมาซื้อสินค้าไปทันที

“พวกเรานำสินค้ามาขายขอรับ”ยี่เจินตอบพลางยิ้มออกมา แต่ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้นพนักงานก็มีท่าทีตกใจทันที

“นำมาขายหรือขอรับ ไม่ทราบว่านำมาจากที่ไหน”พนักงานวัยกลางคนถามด้วยท่าทีอยากรู้อยากเห็น ข่าวเรื่องเรือสินค้ากำลังแพร่กระจาย ทำให้หลายๆที่ต้องการกักตุนสินค้าเอาไว้เพื่อขายเก็งกำไรเช่นกัน

“เมืองท่าทางตะวันตกขอรับ”ได้ยินที่ยี่เจินพูด ชายวัยกลางคนก็พลันยิ้มออกมาทันที

“แล้ว…สินค้าล่ะขอรับ”ชายคนนั้นถามพลางมองไปบนรถม้าของยี่เจิน บนรถม้ามีเพียงของใช้ไม่กี่อย่าง ดูโล่งจนมันเข้าใจผิดว่าอีกฝ่ายจะมาซื้อสินค้าเสียด้วยซ้ำ

“อยู่ในนี้แล้ว”เกว็นตอบพลางยกมือของตนเองขึ้นมา

“แหวนมิติหรือขอรับ”ชายตรงหน้าตกใจเป็นอย่างมาก ไม่นึกว่าสินค้าจากท่าเรือจะมาถึงเร็วเช่นนี้

“เชิญทางนี้ขอรับ พวกเราไปตกลงกันอีกที่ดีกว่า”ชายวัยกลางคนเห็นแหวนมิติก็รีบเรียกลูกน้องให้มารับสินค้าทันที เกลือจากทางใต้จำเป็นมากในฤดูหนาว เพราะการเก็บรักษาเนื้อสัตว์หรือของจากฤดูอื่นจะเป็นต้องใช้เกลือกันแทบทุกครัวเรือน แถมเมื่อเรือสินค้าล่มไปจำนวนเกลือในตลาดก็จะน้อยลงทำให้ราคาของสินค้าแต่ละอย่างที่กำลังขาดแคลนสูงขึ้นมาก ทำให้เกลือที่ยี่เจินซื้อมาในราคาร่วมร้อยกว่าเหรียญทองขายได้ในราคากว่า 300 เหรียญทองในพริบตา แน่นอนว่าหากยี่เจินลงแรงไปขายเองจะได้เงินมากกว่านี้ราวๆ 50 เหรียญทอง แต่แบบนั้นก็ต้องมีหน้าร้านและต้องอยู่ขายเป็นเวลานาน และยังไม่มีอะไรรับประกันว่าเกลือจะราคาสูงเช่นนี้ไปตลอด แม้เรือสินค้าจะล่ม แต่อีกไม่นานพวกพ่อค้าเร่จากท่าเรือก็จะตามยี่เจินขึ้นมาและขายเกลือที่นำมาเช่นกัน ตอนนั้นราคาเกลือจะลงไปตามปกติ สู้ขายเสียก่อนนี้ก็ไม่เจ็บตัวแถมยังได้กำไรมาก้อนใหญ่อีกด้วย ที่เหลือก็แค่หาสินค้าที่น่าสนใจและนำไปขายเมืองต่อไปเท่านั้น