ตอนที่ 407 ชีวิตไม่ได้เกี่ยวกับคณิตศาสตร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงฟิสิกส์กับเคมีอีกด้วย

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

ตอนที่ 407 ชีวิตไม่ได้เกี่ยวกับคณิตศาสตร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงฟิสิกส์กับเคมีอีกด้วย โดย Ink Stone_Fantasy

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลู่โจวต้องขึ้นมาพูดบนเวที

อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่ขึ้นมาพูดในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวในงานแต่งเพื่อน

ลู่โจวหยิบไมโครโฟน แต่เขาก็นิ่งเงียบ

เขาเป็นคนโสดที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อน เขาจะมาพูดข้อคิดอะไรได้?

เมื่อแขกเห็นลู่โจวไม่พูดอะไร พวกเขาก็เริ่มกระซิบกระซาบกัน

เฉียนฮวามองลู่โจว จากนั้นเธอก็หันมากระซิบกับเพื่อน “เขาตื่นเวทีเหรอ?”

เซียวหยุนหยุนยิ้มและหยอกล้อ

“เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ เขากำลังพยายามเพิ่มอารมณ์”

เฉียนฮวากล่าว “ฮ่าๆ นักคณิตศาสตร์แล้วไง เขาเข้าใจคณิตศาสตร์ แต่เขาไม่ได้เข้าใจชีวิตสักหน่อย”

“เอาล่ะๆ เลิกเถียงกันเถอะ…” เติ้งเล่อขัดจังหวะทั้งสอง “หยุนหยุน เธอขึ้นไปช่วยเขาได้ไหม?”

ปกติแล้วตัวแทนเพื่อนเจ้าสาวจะพูดต่อจากเพื่อนเจ้าบ่าว

ถ้าศาสตราจารย์ลู่พูดไม่ได้ พนักงานงานแต่งก็ช่วยเหลือได้อย่างง่ายดาย

เซียวหยุนหยุนแค่พูดคำพูดสวยๆสักหน่อยก็รักษาบรรยากาศในงานได้แล้ว

หยุนเซียวเซียวกล่าว “ได้ ฉันเตรียมพร้อมแล้ว…”

ขณะที่พิธีกรกำลังจะขึ้นไปช่วยลู่โจว จู่ๆ เขาก็พูดขึ้น

“ตั้งแต่การกำเนิดเอกภพไปจนถึงการระเหยของหลุมดำสุดท้าย เรารู้ว่าความเป็นไปได้ของการกำเนิดสิ่งมีชีวิตนั้นมีเพียงหนึ่งส่วนพันล้านล้าน…”

งานแต่งเงียบลง

คนหนุ่มหยุดพูด คนที่อาวุโสกว่าก็วางเมล็ดทานตะวันลง

แม้แต่เด็กก็หยุดซน…

ทุกคนต่างก็หันไปสนใจบนเวที

มันไม่ใช่เพราะเสียงของลู่โจวน่าฟัง มันเป็นเพราะพวกเขารู้สึกสนใจเรื่องที่ศาสตราจารย์จากพรินซ์ตันพูด

ลู่โจวมองไปรอบๆ เขารู้สึกเหมือนเขาย้อนกลับไปอยู่ห้องบรรยายพรินซ์ตัน

เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “อย่างที่พวกเราทราบกัน ความน่าจะเป็นของการที่สองชีวิตมาพบกันนั้นน้อยกว่าหนึ่งส่วนพันล้านล้าน…”

เขาไม่มั่นใจว่าแขกจะเข้าใจที่เขาพูดไหม

เขาไม่มั่นใจว่าพวกเขาจะเข้าใจตัวเลขจำนวนน้อยนิดนี่ไหม

เขาไม่เคยใช้คำพูดแบบนี้มาก่อน

เขาไม่เคยเป็นคนพูดจาสละสลวย

เขาอาจไม่มีทางเป็น

แต่ตอนนี้เขาอยากส่งคำอวยพรให้กับสหาย

“จากมุมมองความน่าจะเป็น สิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในจักรวาลไม่ใช่การแตกดับของดวงดาว ไม่ใช่การก่อตัวของกาแล็กซี่หรือเป็นการระเหยของหลุมดำ…”

“แต่มันคือปาฏิหาริย์ของคนสองคนมาพบกันและตกหลุมรักกันในช่วงเวลาหลายพันล้านปีนี้”

“บางทีเป็นเพราะคณิตศาสตร์น่าสนใจเกินไป ผมจึงไม่ค่อยสนใจเรื่องอื่นนอกจากคณิตศาสตร์ อย่างมากผมก็ศึกษาเคมีหรือฟสิกส์บ้าง…แต่ถึงกระนั้น แม้ว่าผมจะไม่เข้าใจความหมายของคำว่ารัก แต่ผมสัมผัสได้ว่าทั้งสองคนรักกันอย่างแท้จริง”

ลู่โจวหยุดชั่วครู่ จากนั้นเขาก็หันไปมองคู่บ่าวสาวแล้วพูดต่อ “ดังนั้นผมขออวยพรให้พวกคุณรักกันเหมือนที่ผมรักคณิตศาสตร์ และถนอม…ช่วงเวลาที่น่าอัศจรรย์นี้ไว้”

ฝูงชนปรบมือ

เสียงปรบมือดังกว่าที่ลู่โจวคาดไว้

เขาไม่เคยคิดเลยว่าคำพูดที่เขาคิดสดจะทำให้ฝูงชนเกิดปฏิกิริยาระดับนี้

อย่างไรก็ตามเขาสังเกตว่าไม่ใช่แค่ฝูงชนเท่านั้น แม้แต่เจ้าบ่าวบนเวทีก็รู้สึกสะเทือนอารมณ์เช่นกัน…

ชายหนุ่มแทบจะร้องไห้

“โจว…”

ถ้าสือช่างร้องไห้คงไม่ดีมั้ง?

แต่มันก็ไม่ได้สำคัญ

ลู่โจวยิ้มให้สือช่างแล้วพยักหน้า จากนั้นเขาก็ส่งไมโครโฟนกลับไปให้พิธีกรงานแต่ง

จากนั้นเขาก็ก้าวลงจากเวที…

เซียวหยุนหยุนเฝ้าดูลู่โจวลงจากเวทีแล้วกล่าว “ว้าว แม้ว่าเขาจะเป็นนักคณิตศาสตร์…แต่เขาก็พูดเก่งเหมือนกันนะ”

เคยมีคนพูดว่านักคณิตศาสตร์จีบสาวเก่ง

เธอไม่เคยเชื่อเลย แต่ตอนนี้เธอเริ่มเชื่อแล้ว

เติ้งเล่อกล่าว “นั่นสิ…ฉันคิดว่าเขาเป็นพวกเก็บตัวและอาจตื่นเวที ฉันไม่คิดเลยว่าเวทีนี้จะเป็นของเขา”

เมื่อเห็นว่าวิสัยทัศน์ของตัวเองถูก หยุนเซียวเซียวก็หันไปมองเฉียนฮวาด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

“เธอคิดว่าไงเฉียนฮวา?”

เฉียนฮวาดึงสติกลับมา

“อ๊ะ…อะไรนะ?”

เซียวหยุนหยุนกับเติ้งเล่อหันมามองหน้ากัน

ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือน…

เธอ…

ทำตัวแปลกๆ?

หลังลู่โจวพูดจบ เพื่อนเจ้าสาวก็ขึ้นบนเวทีแล้วแสดงความยินดีกับคู่รักแต่งงานใหม่

งานแต่งมาถึงช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด

ทุกคนเฝ้าดูคู่บ่าวสวมแหวนให้เจ้าสาว

ในเวลานี้ มีคนโสดหายไปจากโลกน้อยลงสองคนแล้ว…

งานแต่งจบลงแล้ว

ญาติและสหายส่วนใหญ่ทานอาหารกันเสร็จก็เริ่มออกจากงาน

ลู่โจวไปล้างมือที่ห้องน้ำ พอเขาออกมา ก็มีคนที่ไม่คาดคิดทักเขา

เขามองหญิงสาวผมสั้นตรงหน้าแล้วกล่าว “มีอะไรเหรอ?”

“ไม่มีอะไร” เฉียนฮวากล่าวและส่ายหน้า จากนั้นเธอก็ก้มหน้างุด “ฉันแค่อยากบอก…ขอโทษ ก่อนหน้านี้ฉันเคยพูดจาไม่ดีกับคุณ”

ลู่โจวอึ้ง เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบายๆ

“ไม่เป็นไร ผมไม่ได้จำมาใส่ใจ”

มันก็สามปีมาแล้ว ลู่โจวลืมไปแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เพราะบางครั้งคนเราก็ดวงตามืดมัวเพราะอารมณ์บ้าง

ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเธอไม่ได้ทำอะไรลู่โจวเลยนอกจากปกป้องไอดอลของตัวเอง

ลู่โจวไม่ได้เป็นคนโกรธง่าย ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงยังเป็นเพื่อนกับหลิวรุ่ยได้

“ถ้าไม่มีอะไร ผมขอตัวก่อนนะ”

เฉียนฮวาเห็นลู่โจวกำลังจะไป เธอจึงรีบพูด “รอเดี๋ยว…”

ลู่โจวหยุดเดินและหันกลับมามอง

“ว่าไง?”

“พองานแต่งจบ…ฉันเลี้ยงเหล้าคุณได้ไหม?” เฉียนฮวากล่าวด้วยแก้มแดงระเรื่อ “ถือเป็นการเลี้ยงขอโทษ”

ลู่โจวยิ้ม “งั้นเอาไว้วันอื่นแล้วกัน เดี๋ยวผมต้องไปขึ้นรถไฟ”

เฉียนฮวา “…?”

นอกจากมาฉลองตรุษจีน ลู่โจวมีเรื่องสำคัญต้องทำที่จีนสองอย่าง

อย่างแรกคืองานประชุมรางวัลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และอีกอย่างก็คือมางานแต่งสือช่าง

เพราะงานแต่งสือช่างจบแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาไปฉลองวันหยุดกับครอบครัว

นี่เป็นช่วงเวลาพักผ่อนครั้งเดียวของปี…

…………………………………