AST
บทที่1773 – เดินทางกลับสู่พระราชวังอาทิตย์อัสดง
ชิงสุ่ยจ้องมองมูหยุนชิงเก้อที่ฝึกฝนอย่างไม่หยุดหย่อนหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสงบ สองสามวันผ่านไป ความรู้สึกขุ่นเคืองที่มีต่อราชินีปีศาจดูดเลือดก็ค่อยๆปรับสภาพเข้าใกล้ความปกติอีกครั้ง
เขาหยุดคิดเพราะว่าปัญหาที่มีอยู่ในชีวิตของเขาก็เป็นที่น่ารบกวนมากพอแล้วบางอย่างไม่จำเป็นต้องคิดปล่อยให้มันเป็นไปในเส้นทางของมันเอง ด้วยกฎของธรรมชาติและกฎของเทวะสวรรค์เต๋า มนุษย์คงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
ยิ่งตั้งใจเปลี่ยนแปลงบางครั้งผลลัพธ์ที่ได้จะยิ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่ต้องการ
เมื่อชิงสุ่ยคิดได้เขาก็รู้สึกโล่งใจเขาค่อยๆผ่อนคลาย จิตใจที่หมกมุ่นมาเป็นเวลาตลอดหลายปี คลายความหนักลงไปบ้าง แม้จะไม่มากก็ตาม
เขาไม่เคยหวังว่าเขาจะปลดปล่อยความทุกข์ได้จนหมดสิ้นเขาวางแผนสร้างความแข็งแกร่งให้กับครอบครัวเขามาตลอดแล้วยังคงกระทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทุกคนแข็งแกร่ง ไว้เผื่อในอนาคตวันใดที่เขาไม่อยู่ครอบครัวของเขาจะไม่ถูกรังแก
……………….
……………….
การเดินทางเต็มไปด้วยความเงียบสงบครึ่งเดือนถัดมา ชิงสุ่ยและมูหยุนชิงเก้อก็เดินทางกลับมาถึงพระราชวังอาทิตย์อัสดงเป็นที่เรียบร้อย
ทุกคนต่างแสดงสีหน้าประหลาดใจเพราะการเดินทางไปกลับของทั้งสองคนในครั้งนี้จึงเวลาเพียงแค่1 เดือนกว่าๆเท่านั้นเอง มันเป็นเวลาที่เร็วมากเกินไป
อีเย่เจี้ยนเก้อชิงห่านอี้ และหลัว ชิงเฉิงมองดูชิงสุ่ยด้วยสายตาตกตะลึงก่อนจะแสดงสีหน้ารอยยิ้มที่มีความสุข และเข้าสวมกอดชิงสุ่ยและมูหยุนชิงเก้อ novel-lucky
”ชิงสุ่ยเป็นอย่างไรบ้าง?”อีเย่เจี้ยนเก้อกล่าวถามด้วยความกังวล แม้ว่าเธอจะรู้ดีว่าชิงสุ่ยเป็นคนที่เก่งกาจสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้อย่างแน่นอน
”อืมทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี”ชิงสุ่ยพยักหน้า
ชิงห่านอี้จ้องมองชิงสุ่ยด้วยสายตาที่ไม่อยากเชื่อ “พวกเจ้าไปกลับเร็วมาก ข้ารู้ดีว่าทักษะการเคลื่อนที่ของเจ้านั้นไม่ธรรมดา และแม้ว่าเจ้าจะไปถึงสถานที่ที่เรียกว่าภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ข้านึกว่าตอนนี้พวกเจ้าคงกำลังหาสิ่งที่ต้องการอยู่”
”เจ้ามีเชื่อข้าหรืออย่างไรข้าอาจจะเคยโกหก แต่ถ้าเป็นเรื่องของชิงเฉิง ข้าไม่มีทางล้อเล่นหรอก “ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าว จากนั้นเขาก็นำเอาดอกมุทราศักดิ์สิทธิ์ออกมา
ทุกคนเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็นทันทีและไม่คิดจะถามอะไรต่อพวกเธอทั้งหมดมีความสุขอย่างมาก ในที่สุดแล้ว ชิงสุ่ยก็สามารถช่วยหลัว ชิงเฉิงได้จริงๆ
หลังจากนั้นไม่นานนะเด็กน้อยชิงซิ่วก็ตื่นขึ้นมาจากความหลับไหล อีเย่เจี้ยนเก้อจึงรีบพาลูกน้อยของเธอออกมาดูหน้าชิงสุ่ย แน่นอนว่าเขาเข้าสวมกอดลูกชายของเขาอย่างรวดเร็ว แม้เวลาจะไม่ห่างไกลนัก แต่ 1 เดือนสำหรับเด็กตัวน้อยๆถือว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน เด็กตัวน้อยตอนนี้ไม่รู้สึกเขินอายเมื่ออยู่ต่อหน้าชิงสุ่ยอีกแล้ว
ชิงสุ่ยมองดูเด็กตัวน้อยๆตลอดเวลาที่เธอเลี้ยงดูลูกของเธอ เธอต้องยอมแลกเวลาทั้งหมดจากการที่เธอใช้ในการฝึกฝนเพื่อเลี้ยงดูลูกชายตัวน้อยของเธอ แต่เธอก็ทำด้วยความเต็มใจ เธอไม่ต้องการหาพี่เลี้ยงหรือให้คนอื่นเลี้ยงลูกของเธอ เธอยืนยันกับชิงสุ่ยว่าเธอจะเลี้ยงดูลูกชายของเธอด้วยตัวเอง และไม่สนใจว่ามันจะชะลอการฝึกฝนของเธอก็ตาม
ชิงสุ่ยมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่หญิงสาวคนนี้มีจิตใจที่งดงามเหมือนกับนางฟ้าและยอมใช้เวลาอันนี้ข้าของตนเองเลี้ยงลูกของเขา
ทางด้านดอกมุทราศักดิ์สิทธิ์ถึงแม้ว่าจะได้มาแต่ก็ยังใช้งานทันทีไม่ได้ มันจำเป็นต้องได้รับการกลั่นเสียก่อน
หลังจากช่วงเวลาแห่งความมีชีวิตชีวาและงานเลี้ยงจบลงชิงห่านอี้ มูหยุนชิงเก้อ และชิงหลัวเฉิงก็เดินทางกลับไปยังห้องพัก ส่วนทางด้านชิงสุ่ย เขาก็กลับมายังห้องของอีเย่เจี้ยนเก้อเพื่อใช้เวลาร่วมกับลูกของเขา
อีเย่เจี้ยนเก้อนั่งอยู่บนเบาะนั่งขณะที่เธอยังคงอุ้มเด็กน้อยตัวเล็กๆไว้บริเวณอ้อมแขนของเธอ ส่วนชิงสุ่ยก็ก้มหน้าเล่นกับชิงซิ่ว
”เจี้ยนเก้อหลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้นพวกเรากลับไปตระกูลชิงกัน”ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
อีเย่เจี้ยนเก้อยิ้มตอบ”ข้าเองก็อยากกลับไปเช่นกัน ตั้งแต่เจ้าหนูน้อยโต เขาก็ไม่ได้กลับบ้านพบหน้าพ่อแม่เราเลย” อีเย่เจี้ยนเก้อยอมรับตัวตนของเธอ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลชิงแล้ว
”เจ้าอย่าได้กังวลเลย เมื่อพวกเราจากที่นี่ไป ชิงเก้อและชิงห่านอี้ คงแข็งแกร่งพอจะปกป้องทุกคนได้แล้ว ฉะนั้นเจ้าจงมั่นใจ”ชิงสุ่ยรู้ว่าอีเย่เจี้ยนเก้อเป็นห่วงพวกเธอ
”อืมข้าเชื่อใจเจ้า”อีเย่เจี้ยนเก้อยิ้ม
ชิงสุ่ยนั่งลงนั่งข้างและโอบไหล่อีเย่เจี้ยนเก้อเขาไม่รู้จุดประสงค์ของการมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แต่สิ่งที่เขารู้คือการทำให้แน่ใจว่าทุกคนจะมีชีวิตรอดปลอดภัยและมีความสุข
ตอนนี้เป้าหมายของเขาไม่ได้ทะยานเหมือนแต่ก่อนเขาไม่เคยคิดจะครองโลกทั้งใบไว้ในมือต้น ตอนนี้เขาเพียงแค่ต้องการชีวิตครอบครัวและชีวิตเขาดีขึ้นแค่นี้ก็พอ
แหล่งที่มาของความขัดแย้งคือความโลภของมนุษย์และผู้ใดมีความโลภมากมันจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ผู้นั้นก้าวไปข้างหน้าหรือไม่ก็ก้าวสู่ความตาย
ชิงซิ่วนอนหลับภายใต้การดูแลยังอบอุ่นและอ่อนโยนของชิงสุ่ยอีเย่เจี้ยนเก้อหน้าแดงทันทีที่เห็นการกระทำของชิงสุ่ย เธอรู้ว่าเขาต้องการจะทำอะไร มันคือการทำให้หัวใจทั้ง 2 ดวงใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น หลังจากห่างกันไป 1 เดือนกว่า
หลังจากวางลูกน้อยลงบนเบาะชิงสุ่ยก็เริ่มประทับรอยจูบลงบนริมฝีปากสีแดงชื้นของอีเย่เจี้ยนเก้อ เธอตัวสั่นเบาๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ห้องนอนอีกห้อง
คร่ำครวญที่น่ารักน่าเอ็นดูคอยดึงดูดจิตใจของชิงสุ่ยความตื่นเต้นเร้าอารมณ์เกิดขึ้นรอบตัวชิงสุ่ย
เสียงร้องอันทรงเสน่ห์เกิดขึ้นยาวนานกว่า2 ชั่วโมง ก่อนจะหยุดลง
หลังจากผ่านกิจกรรมรักอันเข้มข้นอีเย่เจี้ยนเก้อก็นอนขดตัวอยู่ในอ้อมกอดชิงสุ่ยอย่างเฉื่อยชา พร้อมใบหน้าเขินอาย