EG บทที่ 687 ผู้นำระดับสูงเริ่มออกโรง

โนริโอะ โอกะ ปฏิเสธที่จะลาออก ประธานยังไม่ได้พูดอะไรเลย เมื่อประธานเป็นคนเลือกเขาให้มารักษาการตำแหน่งประธานของโซนี่ ประธานก็ต้องเข้าข้างเขาสิ

คืนนั้นโนริโอะ โอกะและคนอื่นๆ คอยจับตาดูตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก นั่นคือสมรภูมิแห่งสงครามทางการเงินของโซนี่ หากราคาหุ้นของพวกเขาลดลง พวกเขาจะต้องเจอกับการขาดทุนครั้งใหญ่

โซนี่ใช้มาตรการหลายอย่าง เช่น ผู้ถือหุ้นประกาศต่อสาธารณชนว่าพวกเขาจะเพิ่มเงินทุนและประกาศว่าจะจ่ายเงินปันผลสำหรับปีนี้ พวกเขาหวังว่าผู้ถือหุ้นจะไม่ขายหุ้นของพวกเขาทิ้ง แบบนี้ราคาหุ้นของพวกเขาจะได้ไม่ดิ่งลงฮวบฮาบ

แต่เมื่อตลาดเปิดทำการ ราคาหุ้นของโซนี่ โตชิบ้าและอีกสองบริษัทก็ลดลงอย่างมาก ในเวลาไม่ถึง 10 นาทีราคาหุ้นของพวกเขาลดลง 5% และยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง

สหรัฐอเมริกายังรายงานข่าวของจีนเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ทุกคนรู้ว่าโรงงานของโซนี่ โตชิบ้า และอีกสอง บริษัทในจีนถูกปิดแล้ว

เมื่อข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ผู้ถือหุ้นทุกคนรู้ว่าต้นทุนของโซนี่ โตชิบ้าและอีกสองบริษัทจะพุ่งสูงขึ้น แล้วพวกเขาจะยังสามารถจ่ายเงินปันผลได้ยังไง?

ตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นไปด้วยดี และมีหลายบริษัทที่คุ้มค่าแก่การลงทุน นักลงทุนไม่มีเหตุผลที่จะถือหุ้นของบริษัทพวกนี้เอาไว้

ข่าวนี้เผยแพร่ออกไปโดยคนของฟู่หยงฉี ยิ่งวิกฤติครั้งนี้ร้ายแรงมากขึ้นเท่าไหร่ ราคาหุ้นก็จะตกลงมากขึ้นเท่านั้น

แน่นอนว่าสำนักงานของโซนี่ โตชิบ้าและอีกสองบริษัทในสหรัฐอเมริกาก็พยายามช่วยกู้สถานการณ์ไว้เช่นกัน พวกเขายังคงประกาศข่าวในเชิงบวกเพื่อปกปิดข่าวในแง่ลบ ราคาหุ้นของพวกเขาผันผวนอย่างมาก แต่ก็ยังลดลงอย่างต่อเนื่อง การขายหุ้นทิ้งอันเนื่องมาจากความตื่นตระหนกยังไม่หยุดลงเพียงเท่านี้

หลายคนรู้สึกว่ารัฐบาลจีนจะลงโทษบริษัทพวกนี้และจะสร้างปัญหาให้กับบริษัทพวกนี้มากขึ้น

ทุกคนเดาถูก รัฐบาลจีนออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ คนแรกที่ออกพูดมาก็คือนายกเทศมนตรีของเมืองโดยรายงานใน <รายงานข่าวเจาะลึก> เขาออกมาขอโทษที่ไม่สามารถควบคุมโรงงานพวกนี้ได้ เขาได้ระงับการดำเนินงานของโรงงานพวกนั้นแล้วและจัดให้คนงานทุกคนได้รับการตรวจสุขภาพ เขาได้ส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมทั้งหมดไปช่วยแก้ไขปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อม

โตชิบ้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากมาตรการเหล่านี้ โตชิบ้าจะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดของคนงานด้วย เมืองจะฟ้องคดีในศาลต่อโตชิบ้าที่สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ตอนนี้บัญชีของโตชิบาในประเทศจีนถูกระงับแล้ว!

นี่เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น รัฐบาลจีนยังได้ส่งทีมสอบสวนหลายทีมไปสอบสวนโรงงานญี่ปุ่นทั้งหมดที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน ซึ่งประกอบด้วยโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ โรงงานเคมี และอุตสาหกรรมหนักอื่นๆ ความน่าเชื่อถือสำหรับบริษัทญี่ปุ่นในจีนไม่มีหลงเหลืออีกต่อไปแล้ว

การส่งทีมสอบสวนออกไปดำเนินการนั้นแสดงให้เห็นถึงทัศนคติของรัฐบาลจีน พวกเขาจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์นี้ผ่านไปอย่างง่ายดายและจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ผู้นำชาวจีนหลายคนจากกระทรวงต่างๆ ประกาศต่อสาธารณชนว่าพวกเขาจะติดตามเรื่องนี้และจะมีการลงโทษทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ที่อนุญาตให้โรงงานพวกนั้นดำเนินการแบบนี้

นอกจากนี้ ยังมีการออกคำเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคน พวกเขาไม่ควรปกปิดเรื่องนี้ให้แก่บริษัทพวกนั้นเพื่อแลกกับความน่าเชื่อถือทางการเมือง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ประชาชนของประเทศจีนต้องมาก่อนเสมอ

ผู้ที่พยายามพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคโดยที่ไม่สนอะไรเลยและเพิกเฉยต่อความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อมควรถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ประเทศจีนไม่ต้องการพัฒนาด้วยการลงทุนแบบนี้!

ในเวลาเดียวกัน ได้มีการออกคำเตือนให้แก่บริษัทในภูมิภาคอื่นๆ บริษัทจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงหากพบว่าโรงงานของพวกเขาก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม!

จีนสนับสนุนการตัดสินใจในการระงับบัญชีธนาคารของบริษัทพวกนั้นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ รัฐบาลจะลงโทษพวกเขา อย่างรุนแรง แม้ว่าพวกเขาจะย้ายออกจากประเทศจีนไปแล้ว แต่รัฐบาลจีนจะยังคงติดตามพวกเขาต่อไปในระดับต่างประเทศ!

หลังจากที่ข่าวนี้ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ CCTV คนทั้งประเทศก็สนับสนุน หนังสือพิมพ์รายใหญ่ทุกฉบับรายงานข่าวนี้และหลายคนเริ่มเขียนบทความหรือเปิดโปงโรงงานที่ก่อให้เกิดมลพิษทั่วประเทศจีน

หน่วยงานท้องถิ่นตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก พวกเขาเริ่มปิดโรงงานที่อยู่ภายใต้การดูแลของพวกเขาทันที เมื่อพวกเขาพบความผิดปกติจากโรงงาน โรงงานจะถูกระงับการดำเนินงานเพื่อทำการตรวจสอบทันที

เฝิงหยู่ไม่ได้คาดหวังว่ารัฐบาลกลางจะให้ความสำคัญอย่างจริงจังต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งต่างจากรัฐบาลในชาติที่แล้วของเขา

เมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ รัฐบาลนำบริษัทต่างชาติจำนวนมากเข้ามาในประเทศเพื่อสร้างรายได้ แต่ในที่สุดรัฐบาลก็ต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อล้างมลพิษที่เกิดจากบริษัทพวกนั้น ผู้คนในเวลานั้นไม่ได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เกิดจากบริษัทพวกนั้น แต่ในทางกลับกัน คนส่วนใหญ่ในภูมิภาคนั้นซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานกลับต้องมาเจ็บป่วยเพราะเรื่องนี้

เฝิงหยู่ดูถูกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นพวกนั้น พวกเขาอ้างได้ยังไงว่าพวกเขาไม่รู้ว่าโรงงานกำลังทำอะไรอยู่ทั้งๆ ที่โรงงานอยู่ภายใต้การดูแลของพวกเขา พวกเขาไม่สามารถอ้างได้ว่าพวกเขาไม่รู้ว่าบริษัทพวกนั้นกำลังดำเนินการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมหนักและอาจก่อให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อมได้

เฝิงหยู่รู้สึกว่าการระงับกิจการของโรงงานพวกนั้นเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวที่จะปล่อยให้พวกนั้นทำตัวนิ่งๆ เพื่อรอให้ข่าวซาลงก่อน ใครจะรู้ว่าโรงงานพวกนี้จะกลับมาดำเนินงานต่อหรือเปล่าและจะยังสร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมหลังจากที่เรื่องเงียบไปแล้วอีกหรือไม่ ที่ผ่านมา รัฐบาลท้องถิ่นยังคงต้องพึ่งเรื่องภาษีจากโรงงานพวกนี้อยู่

เฝิงหยู่สามารถเดาออกได้เลยว่าเจ้าของบริษัทพวกนี้กำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้ พวกเขาน่าจะอยู่ที่สำนักงานของผู้นำรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อเจรจากับพวกเขา หากพวกเขาต้องถูกปรับ 1 ล้านหยวน พวกเขาก็จะส่งของกำนัลมูลค่า 500,000 หยวนเพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่ไม่ให้รัฐบาลมาเรียกเก็บค่าปรับจากพวกเขาและยกเลิกการระงับกิจการ

วิธีการจัดการกับข้อร้องเรียนของผู้ที่เปิดโปงต้องทำอย่างไร? มีหลายวิธีที่จะพิสูจน์ได้ว่าไม่มีมลพิษหลงเหลืออยู่แล้ว รัฐบาลท้องถิ่นอาจกำหนดมาตรการบางอย่างและลงโทษสถานเบาแก่โรงงานพวกนั้น จากนั้นก็ปล่อยให้พวกเขาดำเนินการต่อไปเหมือนเดิมแบบลับๆ แบบนี้ก็ไม่มีใครรู้หรอก

แม้ว่าจะมีคนรู้เรื่องนี้ แต่พวกพลเมืองจะไปทำอะไรกับหน่วยงานท้องถิ่นได้? การให้ผลประโยชน์แก่พลเมืองก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้เขาเงียบลงได้ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการปราบปรามครั้งนี้ก็คือทัศนคติและความโปร่งใสของเจ้าหน้าที่รัฐ นี่คือสาเหตุของปัญหาที่แท้จริง

……..

ข่าวนี้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อโซนี่ โตชิบ้า และบริษัทอื่นๆ ที่เหลือ โรงงานญี่ปุ่นอื่นๆ ในวงการอุตสาหกรรมเคมีก็ถูกเปิดโปงด้วยเช่นกัน ราคาหุ้นของบริษัทพวกนี้ทั้งหมดลดลงภายในชั่วข้ามคืน

ตอนนี้รัฐบาลญี่ปุ่นไม่สามารถนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป โรงงานทั้งหมดถูกระงับกิจการและบัญชีธนาคารของพวกเขาถูกระงับด้วย บริษัทที่เกี่ยวข้องยังคงต้องชดเชยค่าเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมให้กับรัฐบาลจีน ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่น

ก่อนที่จะมีการจ่ายเงินชดเชย ราคาหุ้นของบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งได้ลดลงและทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นถึงกับล่ม ในเวลาเพียงแค่สองวัน มูลค่าการขาดทุนรวมทั้งหมดมีจำนวนสูงถึงสองสามพันล้านเหรียญสหรัฐ

หากยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป มันจะกลายเป็นวิกฤติสำหรับญี่ปุ่น เศรษฐกิจญี่ปุ่นเพิ่งจะฟื้นตัวดีขึ้นมาเล็กน้อยและทุกอย่างจะกลับสู่อีหรอบเดิมอีกครั้ง

ตอนนี้โรงงานญี่ปุ่นทั่วโลกกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติ แม้แต่โรงงานที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบก็ถูกระงับกิจการเพื่อดำเนินการตรวจสอบด้วย

บริษัทจะต้องขาดทุนมากแค่ไหนหากโรงงานของพวกเขาถูกระงับกิจการเป็นเวลาหนึ่งวัน? บริษัทไม่ยอมเห็นด้วยกับเรื่องนี้แน่นอน แต่ตอนนี้มันคือปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือต่อบริษัทญี่ปุ่น ทุกคนในโลกกำลังสงสัยว่าโรงงานญี่ปุ่นนั้นไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด ของเสียที่ปล่อยออกจากโรงงานญี่ปุ่นเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและจะก่อให้เกิดมลพิษร้ายแรง หลายคนออกมาเรียกร้องค่าชดเชยจากบริษัทญี่ปุ่นสำหรับความเจ็บป่วยของตัวเองที่เกิดจากโรงงานญี่ปุ่น

รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังตกที่นั่งลำบาก แต่รัฐบาลจีนก็ไม่ได้ติดต่อพวกเขา รัฐบาลจีนดูเหมือนว่าต้องการที่จะปล่อยให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ต่อไป ญี่ปุ่นไม่สามารถรอจนกว่ารัฐบาลจีนจะติดต่อพวกเขามาเองได้อีกต่อไป พวกเขารีบติดต่อไปหาจีนทันที……..