จ่านมู่ฮวาประคองซีเหมินจินเหลียน และมองไปที่คุณถูพร้อมดันเสียงพูดขึ้น “คุณถู เงินในการเดิมพันครั้งนี้คุณจะโอนมาให้ผมเมื่อไหร่ครับ”
คุณถูเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เกือบจะล้มพับลงกับพื้น ของเดิมพันครั้งนี้เขาจะรับมือไหวได้อย่างไร? ห้าร้อยล้านนะ ไม่ใช่ห้าสิบล้าน คนที่เดิมพันหินส่วนใหญ่ต่างมีทรัพย์สินติดบ้านเป็นของตัวเอง แต่ถึงแม้เขาจะนำร้านต่างๆ มาโอนให้ ในเวลาฉุกละหุกเช่นนี้เกรงว่าไม่อาจนำเงินสดจำนวนห้าร้อยล้านมาได้ ในวันนี้เขาพ่ายแพ้ต่อหน้าคนอื่น เกรงว่าเพื่อนในวงการคงไม่มีใครยอมช่วยเหลือเกื้อกูลแน่
“คุณคิดจะให้เขาจ่ายห้าร้อยล้านจริงๆ น่ะเหรอ” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้วถาม
จ่านมู่ฮวาไม่เข้าใจ ทำไมจะไม่เอาล่ะ? มีเงินมาอยู่ตรงหน้าจะไม่เอาได้อย่างไร
“ครั้งนี้ถ้าเป็นคุณที่แพ้ เขาก็คงจะให้พวกเราจ่ายเป็นพันล้านแน่” จ่านมู่ฮวาพูด
“ถ้าฉันแพ้ คุณจะทำอย่างไรคะ” ซีเหมินจินเหลียนถามอย่างไม่เข้าใจ “คุณจะปฏิเสธหรือเปล่า”
จ่านมู่ฮวาคิดอย่างจริงจังก่อนพูดขึ้น “นั่นก็ไม่แน่ บางทีอาจจะไปหาเขาเพื่อตกลง ขอให้เขาลดสักสองสามร้อยล้าน”
“แล้วถ้าเขาไม่ยอมล่ะ” ซีเหมินจินเหลียนแค่นเสียงเหอะใส่ แล้วถามขึ้น เธอก็ไม่เคยเจอใครที่หน้าด้านขนาดนี้มาก่อน
“ถ้าไม่ยอมง่ายๆ อย่างนั้นก็คงต้องบีบบังคับ…ฮะๆ คุณก็รู้นี่ แล้วมาถามผมทำไมกัน?” หน้าตาที่งดงามของเขามีพลังร้ายกาจแวบเข้ามา
“คุณนี่มัน…” ซีเหมินจินเหลียนโกรธจนทำอะไรไม่ถูก คนคนนี้ก็อันตรายจริงๆ “คุณก็อย่าทำเกินไปหน่อยเลย ชนะครั้งนี้ก็ให้เขาจ่ายแค่ส่วนหนึ่งก็พอแล้ว อย่าไปบีบบังคับให้เขาต้องล้มละลายลงเลย อย่างน้อยก็เหลือคุณธรรมไว้บ้าง”
“ก็ได้ๆ คุณพูดอะไร ผมก็ฟังคุณทั้งนั้น!” จ่านมู่ฮวาได้ยินเช่นนั้นก็ถามขึ้น “ถ้าอย่างนั้นคุณว่าควรจะเรียกเงินสักเท่าไหร่ดี”
“แล้วแต่คุณเถอะค่ะ แต่อย่าถึงกับทำให้ครอบครัวของเขาต้องล้มละลายลงไม่เป็นท่าก็พอ” ซีเหมินจินเหลียนพูดพลางเธอก็ถือโอกาสนำหินหยกสีสามสีอันล้ำค่าในมือนั้นส่งไปให้จ่านมู่ฮวา “เอาไปเก็บไว้ที่ตู้เซฟนิรภัยของคุณ อ้อ จริงสิ ก้อนนี้ด้วย” เธอพูดไปในขณะที่เดินไปทางฝั่งของหินหยกขนาดใหญ่ เพื่อตามหาหยกสีเขียวจักรพรรดิก้อนนั้น
ผู้ดูแลรีบเดินเข้ามาแล้วขนย้ายหินหยกก้อนนั้นมาและถามว่า “คุณผู้หญิง คุณตามหาหินหยกก้อนนี้อยู่ใช่ไหมครับ”
“ใช่แล้วค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าแล้วพูด “เมื่อครู่ฉันก็จ่ายเงินสดไปแล้วหนึ่งหมื่นหยวน ตอนนี้ฉันก็เอามันไปได้แล้วใช่ไหม?”
“ได้สิครับ” ผู้ดูแลพยักหน้าแล้วถามขึ้นว่า “คุณผู้หญิงสนใจที่จะดูสินค้าอื่นๆ อีกไหมครับ”
“กำลังคิดอยู่เหมือนกันค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูด
เมื่อครู่นี้แม้ว่าเจียหยวนฮวาจะรู้ว่าซีเหมินจินเหลียนและคุณถูแข่งขันเพื่อแย่งชิงสิทธิ์ในการซื้อหินหยกก้อนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าหินหยกก้อนนั้นมีลักษณะเป็นเช่นไร จนถึงตอนนี้ก็ถามขึ้นอย่างสงสัย “คุณจินเหลียน ใช่หินหยกก้อนนี้หรือเปล่า”
ซีเหมินจินเหลียนยิ้มมุมปากและพยักหน้า
เจียหยวนฮวาจึงยิ้มถามจึ้น “ขอผมสัมผัสมันสักครั้งได้ไหม”
“เชิญตามสบายค่ะผู้อาวุโสเจีย” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มและให้ผู้ดูแลนำหินหยกก้อนนั้นไปวางไว้ที่พื้น ปล่อยให้เจียหยวนฮวาดูตามอิสระ
เจียหยวนฮวาหยิบแว่นขยายและไฟฉายติดตัวมาดูอย่างละเอียด อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วไม่หยุด หินหยกก้อนนี้ดูจากลักษณะพื้นผิวแล้ว โอกาสที่จะเผยสีเขียวให้เห็นมีสูงมาก อีกทั้งแหล่งกำเนิดยังไม่เลว แต่อย่างน้อยก็ไม่น่าจะทำให้ซีเหมินจินเหลียนถึงขนาดยอมทำทุกอย่างได้ขนาดนี้นี่?
เขาเข้าใจนิสัยของซีเหมินจินเหลียนอยู่ไม่น้อย ถ้าหากไม่ใช่หยกชั้นดี เธอคงไม่แย่งมันมาเล่นๆ หรอก
“คุณจินเหลียน อย่าถือสาเลยนะถ้าผมจะถามว่าทำไมคุณถึงได้สนใจหินหยกก้อนนี้นัก ดูจากลักษณะภายนอกแล้วก็ไม่ถือว่าดีมากอะไรขนาดนั้นนี่นา” เจียหยวนฮวาพูด
“พอดีเท้าของฉันไปชนมันเข้าน่ะค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูดพลาง แล้วหันตัวมาข้างๆ เผยให้เก็นข้อเท้าซ้ายของเธอ บนถุงเท้านั้นมีคราบเลือดให้เห็นอย่างชัดเจน
“จินเหลียน แล้วคุณเป็นอะไรหรือเปล่า” ฉินเฮ่าถามอย่างกระวนกระวายใจ “ไปโรงพยาบาลหน่อยไหม ไปฆ่าเชื้อสักหน่อย ถ้าปล่อยไว้แบบนี้อาจจะอักเสบกว่าเดิมก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าปฏิเสธ แค่แผลเล็กน้อยเท่านั้น ผ่านไปสองวันก็คงดีขึ้นแล้ว ต้องไปโรงพยาบาลทำไมกัน
“คุณไปชนจนเจ็บข้อเท้า เพราะอย่างนั้นคุณเลยอยากจะซื้อหินหยกก้อนนี้หรือ?” ผู้อาวุโสเจียไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี คุณถูที่พ่ายแพ้ไปอย่างน่าสงสารนั่น…ก็ไม่รู้ว่าอยู่ดีๆ จะไปหาเรื่องเธอทำไมกัน? ขี้ขายหน้ายังไม่พอ แต่ยังต้องไปชดใช้ทรัพย์สินอีก
“ใช่แล้วค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าตอบกลับอย่างตั้งใจ “ฉันนั่งอยู่บนหินก้อนนี้เพื่อจะดูว่าแผลเป็นยังไงบ้าง จากนั้นฉันก็คิดว่าฉันกับหินหยกก้อนนี้คงมีวาสนาต่อกันถึงคิดจะซื้อมา จากนั้นคุณถูท่านนี้ก็เข้ามาถามฉันว่าดูเสร็จแล้วหรือยัง เขาจะขอดูต่อ แน่นอนว่าฉันต้องไม่ให้อยู่แล้ว เขาก็เลยบอกว่าจะซื้อหินหยกก้อนนี้…เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ล่ะ” พูดพลางเธอก็ปัดมืออย่างจนใจ
เจียหยวนฮวาได้ยินเข้าก็เข้าใจได้ การเดิมพันหิน ในเมื่อมีคำว่าเดิมพันเข้ามา คนส่วนมากมักจะคิดแต่โชคและวาสนา ซีเหมินจินเหลียนถูกหินหยกก้อนนี้ทำร้ายจนเจ็บเท้า เดิมทีอารมณ์ของหญิงสาวคนนี้ก็ไม่ได้ดีอะไรนัก คุณถูเองเวลาพูดจาก็วู่วาม คงหลีกเลี่ยงที่จะทะเลาะกันได้ยาก
ส่วนคุณถูที่บอกว่าเธอซื้อตามเขา นั่นก็เป็นเรื่องที่เกินไป คนอื่นยังพอว่า แต่ซีเหมินจินเหลียนนี่น่ะหรือจำเป็นต้องตามทิศทางลมแล้วแย่งซื้อมา?
คงจะเป็นเพราผลของการที่ซีเหมินจินเหลียนเจียระไนสามสีอันล้ำค่าออกมาได้ ไม่ว่าผู้ชมงานส่วนมากจะมาเพื่อดูความคึกคักหรือเป็นสายเดิมพันอย่างแท้จริง ต่างก็เริ่มคิดที่จะซื้อหินหยกจำนวนมากมาลองเสี่ยงดวงชะตาดู บางทีถ้าหากโชคดีก็อาจจะพบหินหยกชั้นดีสักก้อนหนึ่ง แต่ถ้าโชคไม่ดีก็แค่เสียเงินหลักหมื่นหยวนไปเท่านั้นเอง
ซีเหมินจินเหลียนและเจียหยวนฮวาพูดคุยกันอีกเล็กน้อย ก่อนที่เจียหยวนฮวาก็คิดจะลองเลือกหินหยกหลายก้อนมาทดสอบดวงชะตา แต่ซีเหมินจินเหลียนกลับสนใจไปที่หินรูปร่างทรงกระบอกแปลกประหลาดนั้น ไม่นานเธอก็เดินเข้าไป
พอดีกับที่จ่านมู่ฮวาได้รับคำสั่งจากเธอให้นำหินหยกทั้งสองก้อนไปเก็บไว้ที่ตู้เซฟข้างใน เมื่อกลับเข้ามาก็ตั้งใจไปยั่วยวนคุณถู แต่ไม่คิดว่าเมื่อมองไปรอบด้านกลับไม่เจอเขา จากนั้นเขาจึงหาผู้ดูแลเพื่อเรียกถาม ผู้ดูแลบอกว่ามีชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าเข้ามาคุยอะไรกับคุณถู สักพักคุณถูจึงเดินตามเขาไป
จ่านมู่ฮวาคิดดูแล้ว ในใจก็พอเข้าใจขึ้นมาได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็มีสัญญาที่ใช้เดิมพันอยู่ ไม่ว่าคุณถูจะหลบหลีกหนีไปไหนก็หนีไม่พ้น นอกจากนี้คนคนนี้ยังมีหน้ามีตาอยู่ที่วงการเดิมพันหินสายนี้ มีบ้านมีธุรกิจ ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะหนีไปไหนได้ เพราะอย่างนั้นเลยเดินตรงเข้าไปหาซีเหมินจินเหลียน
“จินเหลียน คุณยังสนใจหินก้อนนี้ด้วยหรือ” จ่านมู่ฮวาตาเบิกกว้าง มองหินหยกรูปร่างทรงกระบอกอย่างกรุ้มกริ่ม ให้ตายเถอะ หินหยกก้อนนี้…ทำไมถึงมีรูปร่างแบบนี้นะ?
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินเช่นนั้นแล้ว เป็นใครจะไม่รู้บ้างว่าคำพูดของเขาแฝงอะไรอยู่ ไม่นานหน้าก็แดงก่ำ ถอนหายใจเบาๆ พร้อมก้มหน้าก้มตากลบเกลื่อน ยังดีที่ว่าผมยาวของเธอร่วงลงมาบดบังความกระดากอายของเธอได้
“คุณอย่ามาวุ่นวายกับฉันเลย ไปดูการเดิมพันหินใหญ่ด้านหลังนู่นสิ คุณก็ยังเหลืออีกห้าสิบล้านหยวนไม่ใช่เหรอ ก็ลองไปเสี่ยงโชคดูเถอะ” ซีเหมินจินเหลียนไล่เขาให้ไป ถ้าเขายังอยู่ เธอจะดูหินได้อย่างไร?
“จินเหลียน ผมคิดจะซื้อหินหยกก้อนนี้ แล้วจะตั้งชื่อให้มันว่าหินหยวนหยาง” จ่านมู่ฮวาพูด
“คุณคิดจะแย่งฉันซื้ออย่างนั้นเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนเจตนาถาม
“ถ้าคุณซื้อไป คุณก็ไม่กลัวว่าจะทำหน้าไม่ถูกเหรอ?” จ่านมู่ฮวาพูดขึ้น “คุณลองคิดดูสิ ในนี้มีผู้ชายตั้งกี่คนที่กำลังมองคุณอยู่ ผมช่วยซื้อให้คุณ ก็เท่ากับว่าเราทั้งคู่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย?”
ซีเหมินจินเหลียนนั่งยองๆ ลงกับพื้น เท้าคางพลางคิดเล็กน้อยและพยักหน้าพูดขึ้น “โอเค ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันเอาเงินให้คุณ ไม่อย่างนั้น ถ้าฉันเจียระไนออกมาแล้ว ถึงเวลานั้นคุณผิดคำพูด ฉันก็เสียเปรียบแย่!”
“ผมสนใจแค่เจ้าหญิงหยกเท่านั้นแหละ” จ่านมู่ฮวาหัวเราะและเรียกผู้ดูแลให้เข้ามาเพื่อจ่ายเงิน แล้วสั่งให้พวกเขานำหินหยกยกไปอีกฝั่ง
“คุณอย่าคอยตามฉันอยู่แบบนี้สิ ฉันจะไปดูหินหยกเล็ก ส่วนคุณก็ไปดูการเดิมพันหินหยกใหญ่ที่ด้านหลังเถอะ” ซีเหมินจินเหลียนพูดพร้อมกับลุกยืนขึ้นมา ในใจรู้สึกแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก ลักษณะของหินหยวนหยางนั้นไม่เลวเลย เพียงแต่รูปร่างของหินก้อนนั้นทำให้คนที่พบเห็นได้แต่สงสัยว่าจะสามารถออกมาเป็นของดีได้หรือไม่
“ก็ได้ๆ ผมไม่กวนคุณแล้ว ผมจะไปดูน้องรักของผมสักหน่อยว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงทอดทิ้งคุณให้อยู่คนเดียว แล้วเอาแต่ไปเล่นเดิมพันหินใหญ่ ปล่อยปละละเลยคุณแบบนี้” จ่านมู่ฮวาพูด “ถ้าคุณมีอะไรก็โทรมาหาผมนะ…อีกเดี๋ยวผมมีเรื่องสำคัญบางอย่างจะพูดกับคุณ”
ซีเหมินจินเหลียนไม่ได้สนใจเรื่องสำคัญที่เขาจะพูดอะไรนั่นเลยแม้แต่น้อย อย่างเขาน่ะหรือจะมีเรื่องอะไรอีก นอกเสียเรื่องที่จะตามจีบเธอ? ผู้ชายเวลาที่จะจีบผู้หญิงสักคน ก็เอาแต่พูดเรื่องผลประโยชน์เป็นวรรคเป็นเวรนั่นล่ะ
ตอนนั้นที่หวังหมิงเหยาทิ้งเธอ เขาก็คอยแต่จะติเธอตรงนั้นทีตรงนี้ที แต่ไม่เคยยอมเปิดปากพูดเรื่องที่เขาคิดว่าเธอจน…มนุษย์เรานั้นบางครั้งก็จอมปลอมแบบนี้
หินหยกขนาดใหญ่และขนาดกลางต่างดูจนหมดแล้ว เธอจึงไปดูหินหยกขนาดเล็กและเลือกก้อนเล็กๆ มา ก่อนจะเรียกผู้ดูแลเพื่อจ่ายเงิน เมื่อผู้ดูแลเห็นแบบนี้ก็ถามอย่างมีมารยาทขึ้นมาว่า “คุณผู้หญิงต้องการเจียระไนเลยไหมครับ”
“ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวฉันค่อยกลับไปเจียระไนเอง” ซีเหมินจินเหลียนพูด การที่เจียระไนหยกออกมา นั่นเป็นโชคชะตา ถ้าหากรีบเร่งมาเปิดเจียระไนที่แห่งนี้ ถึงจะไม่อยากเป็นที่สนใจ นั่นก็คงจะยากแล้ว อีกอย่างเมื่อสักครู่ที่เธอออกตัวไป คนส่วนใหญ่คงกำลังจับตามองเธออยู่
ตอนนี้เอง ทางฝั่งเครื่องเจียระไนนั้นก็มีคนตะโกนขึ้นว่า “เผยสีเขียวแล้ว!”
ซีเหมินจินเหลียนสงสัย มีคนเจียระไนออกมาเป็นหยกชั้นดีอีกแล้ว? ทันใดก็ได้เดินเข้าไปดู กลับเห็นว่าคนที่เจียระไนนั้นคือเจียหยวนฮวา หินหยกก้อนนั้นหนักราวๆ สามกิโลกรัม เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะใช้วิธีตัดจากแกนกลาง วิธรการเด็ดขาดแน่วแน่มาก มีลายเส้นสีไม่กี่เส้นอยู่บนเนื้อหินสีขาวสะอาด สีนั่นเป็นสีเขียว สร้างความชื่นชอบให้แก่คนที่พบเห็น ความอิ่มน้ำแวววาวอยู่ระหว่างหยกเปลือกบางและชนิดน้ำ ถือว่าไม่เลวเลย
“ผู้อาวุโสเจีย หินหยกก้อนนี้ขายหรือเปล่าครับ” ท่ามกลางผู้คนมีคนถามขึ้น ความจริงการเจียระไนเมื่อครู่ เพราะทุกคนรู้ว่าทั้งสองฝ่ายวางเดิมพันใหญ่ หลังจากการเปิดเจียระไนหินเสร็จก็ไม่มีใครถามขึ้นมา ตอนนี้การเจียระไนนี้มีสีเขียวเผยให้เห็น แน่นอนว่าบริษัทอัญมณีมากมายต่างให้ความสนใจ
“ขาย!” เจียหยวนฮวาพยักหน้า งานเปลี่ยนหินให้เป็นทอง เดิมทีเขาก็แค่อยากลองมือ อยากจะใช้เงินเล็กน้อยเปิดเจียระไนหยกเพื่อขายออกไปก็เท่านั้น