กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 917
ในขณะเดียวกันนี้ จัสมินผู้สง่างามก็ได้ออกมาจากลิฟต์
จุดประสงค์ของการมาของเธอคือมอบกระเช้าดอกไม้ให้พอล แต่เธอกลับละสายตาจากชาร์ลีไม่ได้เลย
เธอรู้สึกเบิกบานทุกครั้งที่เห็นชาร์ลี ราวกับว่าเธอได้หวนคืนสู่ความสาววัยสิบแปดปี ซึ่งเป็นวัยที่อ่อนหวานในตอนที่เธอได้สัมผัสกับความรักครั้งแรก
อันที่จริงเด็กผู้หญิงที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลอย่างเธอต้องเรียนรู้ที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่เร็วกว่าคนทั่วไป พวกเขาต้องเข้าสู่ความเป็นจริงที่โหดร้ายและเก็บซ่อนความรู้สึกไว้เป็นพิเศษ
แต่นับตั้งแต่ที่เธอเจอกับชาร์ลีและตกหลุมรักเขา ความสามารถในการซ่อนความรู้สึกของเธอจึงล้มเหลวทุกครั้งที่เธออยู่ต่อหน้าเขา
เธอถามอย่างเขินอายขณะจ้องมองชาร์ลี ดวงตาเต็มไปด้วยความชื่นชม และความเสน่หา “ปรมาจารย์เวด คุณรู้จักคุณพอลได้ยังไงคะ? เขาเพิ่งมาถึงออสเกียได้ไม่นานนี้เองใช่ไหมคะ?”
ชาร์ลียิ้มอย่างอบอุ่น และตอบว่า “พ่อตาของผมกับแม่ของพอลเป็นเพื่อนร่วมวิทยาลัยกัน เราเลยรู้จักกันน่ะครับ”
จัสมินอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ “โอ้! ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจังเลยนะคะ!”
พอลหัวเราะ “ใช่ มันเป็นเรื่องบังเอิญ! ผมไม่รู้ว่าคุณก็รู้จักปรมาจารย์เวดด้วยครับ คุณมัวร์”
จัสมินมองชาร์ลีด้วยความรักและกล่าวว่า “ปรมาจารย์เวดถือได้ว่าเป็นผู้ช่วยชีวิตของฉัน คุณจำได้ไหมว่าครั้งหนึ่งสินค้าของเราถูกปฏิเสธทันทีที่มาถึงสหรัฐอเมริกาและอีกฝ่ายหนึ่งไม่เพียงอ้างว่าสินค้ามีข้อบกพร่อง แต่ยังต้องการฟ้องเราและขอให้เราชดใช้ด้วย?”
พอลพยักหน้าทันที “ใช่ แน่นอน ผมจำได้ คุณขอให้ผมไปที่ฝั่งตะวันตกจากฝั่งตะวันออกเพื่อแก้ไขคดีนี้ แต่ปัญหาดันได้รับการแก้ไขก่อนที่ผมจะไปถึงที่นั่น”
จัสมินกล่าวด้วยหัวใจของเธอที่ยังคงสั่นสะท้านด้วยความกลัว “ใช่ ฉันทำลายฮวงจุ้ยที่บ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่เพียงแต่จะส่งผลเสียต่อธุรกิจเท่านั้น แต่ฉันยังต้องเผชิญกับความโชคร้ายและปัญหาบ่อยครั้ง ฉันประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนหลายต่อหลายครั้งอีกด้วย”
จากนั้นเธอยกข้อมือขึ้นเพื่อเผยให้เห็นสร้อยข้อมือที่แม่ของเธอทิ้งให้และพูดว่า “ฉันยังทำสร้อยข้อมือนี้หายด้วย แล้วก็ได้มันคืนมา ต้องขอบคุณปรมาจารย์เวดเลยล่ะค่ะ”
พอลอุทานว่า “โอ้! งั้นปรมาจารย์ฮวงจุ้ยผู้ยิ่งใหญ่ที่คุณบอกผมนั่นก็คือปรมาจารย์เวดหรอกเหรอครับ!”
จัสมินพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “ใช่ค่ะ เขาเองแหละ!”
พอลหันไปหาชาร์ลี ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเคารพอย่างสูง เขาโพล่งออกมา “ปรมาจารย์เวด ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นปรมาจารย์ฮวงจุ้ยอัจฉริยะที่คุณมัวร์ไม่สามารถหยุดสรรเสริญคุณได้!”
ชาร์ลียิ้มและพูดเรียบ ๆ “มันไม่มีอะไรมากขนาดนั้นหรอกครับ”
พอลพูดอย่างรวดเร็วว่า “คุณก็ถ่อมตัวเกินไปนะครับ ปรมาจารย์เวด ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ แผนผัง
ฮวงจุ้ยในสำนักงานของผมคงจะเต็มไปด้วยช่องโหว่และข้อบกพร่องไปแล้วล่ะครับ ผมซาบซึ้งในความช่วยเหลือของคุณมาก!”
ความเคารพและความชื่นชมชาร์ลีของพอลเพิ่มขึ้นหลายเท่าถึงแม้ว่าชาร์ลีจะถ่อมตนก็ตาม
ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่คุณผู้หญิงของตระกูลมัวร์ก็ยังยกย่องชาร์ลีจากก้นบึ้งของหัวใจ
ชาร์ลีพูดต่อว่า “ผมมีธุระต้องไปจัดการ พวกคุณตามสบายเลยนะครับ ผมต้องขอตัวก่อน”
จัสมินรีบถาม “ปรมาจารย์เวด คุณจะไปไหนเหรอคะ? คุณขับรถมาไหมคะ? ถ้าไม่อย่างนั้นฉันไปส่งคุณได้นะคะ!”
ชาร์ลียิ้มและถามว่า “คุณไม่ไปเที่ยวกับพอลสักหน่อยเหรอครับ?”
จัสมินส่ายหัวแล้วพูดว่า “โอ้ ไม่ค่ะ เรามีเวลาทั้งหมดในโลกที่จะออกไปเที่ยวกันเพราะเขาอยู่ที่โอลรัส ฮิลล์แล้ว ให้ฉันไปส่งเถอะนะคะ!”
จากสิ่งที่เห็น พอลรู้ว่าจัสมินไม่เพียงแต่ชอบชาร์ลีเท่านั้น แต่ชาร์ลีได้อยู่ในตำแหน่งที่สำคัญมากในใจเธออีกด้วย ดังนั้นเขาจึงพูดด้วยรอยยิ้มที่รู้ดีว่า “คุณมัวร์ ขอบคุณสำหรับดอกไม้ ฝากขอบคุณนายท่านมัวร์ในนามของผมด้วยนะครับ ผมจะไปเยี่ยมเขาหลัวจากที่ผมว่าง คุณไปจัดการธุระของคุณก่อนได้เลยนะครับ เพราะผมก็มีธุระที่ต้องจัดการเหมือนกัน”