คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 873

แดร์ริลรู้สึกใจสลายกับความโศกเศร้าและต้องการแก้แค้นเท่านั้น ใครก็ตามที่สังหารลิลี่นั้นสมควรตาย ไม่ว่าฆาตกรจะเป็นใคร เขาจะทำให้ฆาตกรชดใช้อย่างสาสมกับความผิดครั้งนี้!

“แดร์ริล ใจเย็นก่อน…” เดบร้าค่อย ๆ ก้าวเข้ามาหาและกล่าวอย่างนุ่มนวล “ฉันจะคอยติดตามนายไปทุกที่ แต่ฉันยังจะไปจากคฤหาสน์ตระกูลคาร์เตอร์ในตอนนี้ไม่ได้ พ่อทูนหัวของนายได้รับบาดเจ็บอยู่ในขั้นวิกฤต ถ้าหากอาการของเขาแย่ลงในตอนที่เรากำลังเดินทางไปทวีปโลกใหม่ เราจะทำยังไง?”

ตระกูลคาร์เตอร์ได้รับบาดเจ็บแสนสาหัสล้มตายจากการต่อสู้กับทหารหลวง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซรันที่ได้รับบาดเจ็บถูกแทงมากกว่าร้อยแผลไปทั่วทั้งร่างกาย ผิวหนังของเขาฉีกขาดจนแทบจะไม่มีชิ้นดี ในฐานะเจ้าสำนักพราน เดบร้าก็ยังเก่งกาจเยี่ยมยุทธในด้านวิชาทางการแพทย์

ก่อนหน้านี้เดบร้าได้ผสมยาสูตรพิเศษที่จะใช้รักษาอาการบาดเจ็บของโซรัน เธอจำเป็นที่จะต้องเฝ้าไข้เขาเพื่อสังเกตอาการและสรรพคุณของยา ฉะนั้นเธอยังจะไปจากคฤหาสน์ตระกูลคาร์เตอร์ไม่ได้

“ฮื้ม!”

แดร์ริลสูดลมหายใจเข้าลึกและหันไปมองเดบร้าเมื่อได้ยินเช่นนั้น “นานแค่ไหนกว่าอาการของพ่อทูนหัวจะดีขึ้น?”

ในขณะเดียวกัน แด๊กซ์และเชสเตอร์ต่างก็จ้องมองเดบร้าอย่างมีความหวัง

หลังจากสูดลมหายใจเข้า เดบร้าก็กล่าวตอบอย่างจริงจัง “อย่างน้อยหนึ่งวัน แดร์ริล… มันไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อนเพื่อไปแก้แค้น แค่รอไปอีกวันนึง”

“เฮ้อ…”

แดร์ริลค่อย ๆ นั่งลงพร้อมกับดวงตาที่แดงเถือกจากความเลือดร้อน

ระหว่างนั้น…

ในโรงแรมที่เมืองมิด

ภายในห้องแลนวินกำลังนั่งอยู่บนโซฟาและเหยียดยืดตัวที่อ่อนล้าของเธอ

ลิลี่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างและจ้องมองลงไปที่ถนนข้างนอกด้วยความเหม่อลอย

หลังจากการเดินทางอันยาวนาน ลิลี่และแลนวินก็มาแวะพักที่โรงแรม

ลิลี่รู้สึกอึดอัดใจขณะมองดูตลาดนัดยามค่ำคืนที่จอแจวุ่นวายอยู่ด้านนอก

‘ในที่สุด ฉันก็ได้กลับมาที่จักรวาลโลก’

เธอรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้กลับที่บ้านเกิดของเธอที่เมืองตงไห่

เธอจ้องมองเมืองโลกสมัยใหม่ที่เธอปราถนาอย่างกระตือรือร้น มันทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้น แต่ใจของเธอกลับคิดถึงแดร์ริลขึ้นมาด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง

ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงของแลนวินดังขึ้นมาจากข้างหลังเธอ “แกจะยืนบื้ออยู่ตรงนั้นทำไม? ยัยขี้เหร่? ตักน้ำมาล้างเท้าฉันที”

แลนวินนั่งไขว่ห้างในตอนที่เธอเรียกและยกขาทั้งสองข้างขึ้นชูทำตัวจริตจะก้าน

‘ไอ้อัปลักษณ์หน้าตาประหลาดนี่มันใจลอยไปเรื่อยตั้งแต่มาถึงจักรวาลโลก’

‘ฉันคงไม่พามันมาด้วยถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์ขอให้ทำหรอก’

ลิลี่ก็ดึงสติกลับมาได้ทันทีและชี้ไปที่ห้องนำ้เมื่อได้ยินศิษย์พี่สั่ง “ศิษย์พี่ คุณก็ไปอาบน้ำในนั้นได้ไง”

“ก็เออสิ ฉันรู้ว่าฉันอาบในนั้นได้” แลนวินตวาดเสียงในความโกรธ “แต่ฉันยังไม่อยากอาบน้ำ ฉันแค่อยากจะเอาเท้าจุ่มน้ำ เข้าใจไหม? เร็วเข้าสิ ไปเตรียมน้ำมาให้ฉัน ฉันไม่มีอารมณ์มาเสียเวลาเจ๊าะแจ๊ะกับแก”

ลิลี่ไม่ได้กล่าวตอบอะไร และลุกขึ้นเดินไปตวงน้ำใส่กะละมัง

ลิลี่เอากะละมังไปให้แลนวิน ลิลี่กำลังจะลุกขึ้นยืนและเดินจากไป เธอก็โดนแลนวินชะงักตัวไว้ “ใครบอกให้แกไปได้? ถอดรองเท้าฉันและล้างเท้าให้ด้วย”

“นังนี่…” ลิลี่นั้นแทบจะทนต่อไปอีกไม่ไหว ในขณะที่ตัวของเธอเริ่มกระตุกสั่นไหวเล็กน้อย

ลิลี่รู้ตัวดีว่าเธอเป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายของเจ้าสำนักและมันคงจะเป็นต้นเหตุที่จุดประกายความอิจฉาริษยาท่ามกลางสาวกสำนักสุญตาอีกหลายคน

ศิษย์พี่แลนวินกำลังทำตัวเป็นนักเลงตัวเป้งที่ชอบข่มเหงรังแกลิลี่!

‘ศิษย์พี่ไม่ยอมให้ฉันได้พักผ่อนหย่อนใจบ้างเลย ตลอดการเดินทางในครั้งนี้’

“หูหนวกรึไง?” แลนวินจ้องไปที่ลิลี่และชี้ไปที่กะละมัง “ฉันบอกให้แกมาล้างเท้าฉัน”