ตอนที่ 575: สมาชิกใหม่ของครอบครัว
การแนะนำตัวอย่างฉับพลันของญาติผู้น้องทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกค่อนข้างสับสน เขาไม่แน่ใจว่าเขาควรจะมีความสุขหรือวิตกกังวล
เจี้ยนเฉินรู้สึกยินดีที่ไม่ได้ตัดสินใจที่จะผลักไสหยุนเหลียนจากห้องพักในโรงเตี้ยม ถ้าเขาทำเช่นนั้นแล้ว แน่นอนว่าหยุนเหลียนย่อมจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากบิดาของนาง ที่เขาจะทำทุกวิธีทางเพื่อให้ตัวเองได้รับทักษะการต่อสู้จากนาง หากเขาปฏิบัติต่อภรรยาเช่นไร เขาย่อมจะปฏิบัติต่อลูกสาวของเขาในลักษณะที่ไม่ต่างกัน ครอบครัวหยุนเป็นเพียงครอบครัวเล็ก ๆ ครอบครัวหนึ่ง และทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีมีความสำคัญเกินไป
หยุนเหลียนนั้นมีมารดาที่ไม่กดดันหรือบีบบังคับบุตรีของนาง ดังนั้นนางจึงไม่เคยบอกเกี่ยวกับสิ่งที่ครอบครัวไป๋ได้ประสบ จนกระทั่งหยุนเหลียนนั้นได้พบเจี้ยนเฉิน นางไม่เคยรู้จักตัวตนที่แท้จริงของมารดานาง
การตายของไป๋หยุนไห่นั้นทำให้ไป๋หยุนเทียนเต็มไปด้วยความเศร้าโศก แต่ด้วยความจริงที่ว่าลูกสาวของนางยังคงมีชีวิตอยู่นั้นเองที่ได้ปลอบใจนาง การได้ดูแลหยุนเหลียนก็เหมือนกับว่านางได้ดูแลบุตรของนางเอง แม้หยุนเหลียนจะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของนาง นางก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของไป๋หยุนไห่ ไป๋หยุนเทียนจะปฏิบัติต่อนางด้วยความรักและความห่วงใย
หลังจากนั้นไป๋หยุนเทียนเริ่มที่จะอธิบายประวัติของครอบครัวไป๋ให้กับหยุนเหลียน เพื่อที่นางจะเข้าใจทำไมแม่ของนางไม่ได้บอกอะไรของนางเกี่ยวกับอดีตของนาง หยุนเหลียนแทบไม่อาจเชื่อว่าแม่ของนางที่เสียชีวิตไปเป็นลูกหลานสายตรงของตระกูลใหญ่
ทั้งสามก็ยังคงอยู่ในห้องนานกว่า 1 ชั่วยาม ให้เวลาการระงับความเศร้าโศกใด ๆ เซียงเอ๋อ ปฏิบัติต่อนางเหมือนน้องสาวของเจ้า ด้วยพลังของเจ้า เจ้าต้องปกป้องนางให้ดี อย่าปล่อยให้ลูกพี่ลูกน้องของเจ้าประสบปัญหาใด ๆ อีก ไป๋หยุนเทียนขอร้องเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินแล้วก็พยักหน้าลงอย่างรุนแรง “แน่นอนข้าจะปกป้องหยุนเหลียน ข้าจะไม่ปล่อยให้นางรู้สึกเศร้าโศกอีกต่อไป
จิตใจหยุนเหลียนดิ่งลึกลงไป เมื่อนางได้ยินคำของเจี้ยนเฉิน นางรู้สึกว่า นางกำลังตกอยู่ในห้วงความฝันที่ลึกลงไป แม้จะเป็นความฝัน ภายในระยะเวลา 2 ชั่วยาม ราวกับว่านางได้รับการถ่ายโอนข้อมูลขนาดยักษ์ที่มันเป็นการยากนักที่จะเชื่อ
ผู้พิทักษ์ราชอาณาจักรเกอซุน เจียงหยางเซียงเทียนเป็นคนที่นางยกย่องมากที่สุด อย่างไรก็ตาม เขาเป็นเพียงคนที่ได้แค่จ้องมอง ไม่อาจที่จะสัมผัส ตอนนี้เขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของนางและเขาจะปกป้องนางจากอันตรายใด ๆ หรือความเศร้าโศก หยุนเหลียนรู้สึกว่านางกำลังอยู่ในโลกแห่งความฝัน
ดึงเบา ๆ ที่มือหยุนเหลียน ไป๋หยุนเทียนกล่าวว่า เหลียนเอ๋อ พ่อของเจ้าปฏิบัติต่อแม่ของเจ้าเช่นนั้น เจ้าจงละทิ้งแซ่หยุนและหวนกลับไปใช้แซ่ไป๋ เจ้าเป็นสมาชิกของตระกูลไป๋ นับตั้งแต่วันนี้ เจ้าควรใช้แซ่ไป๋ เรียกตนว่าไป๋เหลียน เจ้านั้นจะเป็นหนึ่งในสมาชิกตระกูลเจียงหยางของข้า
หลังจากลังเลใจอยู่นาน ในที่สุดหยุนเหลียนก็พยักหน้าของนางก่อนตอบกลับวิงวอน ท่านป้า ข้าเข้าใจ แต่สมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลเจียงหยาง จะเห็นข้าเป็นคนนอกหรือไม่ ? มันมีความกังวลบนใบหน้าของนาง
รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของไป๋หยุนเทียน ดี ดี ตอนนี้ เจ้าใช้ชื่อไป๋เหลียน เหลียนเอ๋อ เจ้าก็ไม่ต้องเป็นกังวลอะไร ด้วยลูกพี่ลูกน้องของเจ้า ไม่มีใครกล้ารังแกเจ้า เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับสมาชิกอื่น ๆ จากตระกูลเจียงหยาง จากด้านนอกนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด ย่อมเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาคนผู้หนึ่งซึ่งเป็นญาติของเจ้า ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่กล้าปฏิเสธคำพูดของเขา แม้แต่กษัตริย์ของอาณาจักรเกอซุน ก็ไม่มีข้อยกเว้น
อีกครั้งที่ไป๋เหลียนรู้สึกตกตะลึงในคำพูดของไป๋หยุนเทียน ก่อนที่จะหันมาหาเจี้ยนเฉิน นางรู้ว่าเจี้ยนเฉินนั้นมีสถานะสูงส่งในอาณาจักรเกอซุน แต่นางไม่ได้คิดว่าสถานะของเขาก็เป็นเช่นนั้นภายในตระกูลตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเขาครอบครองตำแหน่งเทียบเท่าหัวหน้าตระกูล
ดึงไป๋เหลียนออกมา ไป๋หยุนเทียนกล่าวว่า เหลียนเอ๋อ มันดึกแล้วนะ ทำไมเราไม่ไปทานอาหาร ข้าจะแนะนำเจ้ากับสามีของข้าและเจียงไป่ มาเถิด ป้าจะพาเจ้าจะไปยังพระราชวังเพื่อพบกับลุงของเจ้า ลุงของเจ้า เป็นหัวหน้าผู้บัญชาการของพระราชวัง เว้นแต่มีบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญ เขาจะไม่ได้มาเยี่ยม
ได้ยินว่าลุงของนางเป็นหัวหน้าผู้บัญชาการของอาณาจักรเกอซุน ไป๋เหลียน ที่ว่าในไม่กี่ชั่วยามอันแสนสั้น สถานะของนางทำให้โลกหมุนเปลี่ยน การเป็นบุตรสาวของครอบครัวหยุนนั้นไม่สามารถเปรียบเทียบได้
แต่การเปลี่ยนแปลงนี้มันเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน นางพบว่ามันยากที่จะตอบสนอง
ถ้าแม่รู้ว่าท่านป้ายังมีชีวิตอยู่ บางทีท่านอาจจะไม่ตาย ไป๋เหลียนคิดกับตัวเอง
หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินและแม่ของเขานำไป๋เหลียนไปยังห้องอาหารเพื่อทานอาหาร ที่โต๊ะ ไป๋เหลียนเดินไปหาหัวหน้าตระกูลและฮูหยินคนอื่นของเขา ไป๋หยุนเทียนเปิดเผยตัวตนของไป๋เหลียนกับเขา แต่นางไม่ได้รู้ลึกกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของไป๋ นางเปิดเผยว่าไป๋เหลียนเป็นลูกสาวของน้องสาวนางที่หายไปนาน
ทุกคนต้อนรับไป๋เหลียนโดยไม่คัดค้าน ทุกอย่างเป็นเพราะลูกชายของไป๋หยุนเทียน หลังจากอาหารทั้งหมดอาหารถูกนำออกมาจำนวนมาก เจียงหยางป้าและหลิงหลง หยูเฟิงหยาน ได้มองไป๋เหลียนอย่างเป็นมิตร คนเดียวที่ทำตัวผิดธรรมชาติคือป้าสาม ไป๋ยู่ซวง
ป้าสามเป็นคนที่เจี้ยนเฉินไม่ได้คิดจะให้การทักทาย ตั้งแต่วัยเด็ก นางมักจะไม่เห็นด้วยกับเขาและขัดแย้งกับเขาทุกอย่าง เมื่อเขากลับไปยังตระกูลเจียงหยาง ป้าสามทำให้ความสัมพันธ์ขยายไปยังจุดที่ไม่สามารถอภัยได้ ถ้าไม่ได้สำหรับความจริงที่ว่านางเป็นป้าของเขา เจี้ยนเฉินจะไม่ยกโทษให้นาง
หลังจากทานข้าว ไป๋หยุนเทียนนำพาไป๋เหลียนไปที่ห้องของนางเอง ในขณะที่เจี้ยนเฉินเดินตรงไปยังบริเวณที่พักของเขาเอง
ในตอนเช้า เจี้ยนเฉินกล่าวว่าเขาจะอำลาตระกูลเจียงหยาง ก่อนจะนำพาไป๋หยุนเทียนกับไป๋เหลียนในอากาศ พวกเขามุ่งหน้าไปจากคฤหาสน์ ไปยังอาณาจักรวายุคราม
ไป๋หยุนเทียนเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างลึกซึ้งต่อผู้ที่ฆ่าน้องสาวของนาง โดยไม่ฟังใคร นางต้องการให้เจี้ยนเฉินพานางสู่อาณาจักรวายุคราม นางมาเพื่อแก้แค้น เจี้ยนเฉินได้แต่มองอย่างช่วยไม่ได้ จากด้านข้าง ก่อนที่จะตกลงที่จะพานางไปสู่อาณาจักรวายุคราม
หลังจากหลายชั่วยามในการบิน เจี้ยนเฉินกลับไปที่โรงเตี้ยมเดียวกันในเมืองเฟิงหยาง ยามนั้นเอง หมิงตง โหยวเยว่ เถี่ยต้า และตู่กูเฟิง ทั้งหมดก้าวออกมาจากโรงเตี้ยม
เมื่อพวกเขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินได้กลับอย่างรวดเร็ว พวกเขาตื่นเต้นที่ได้เห็นเขา เมื่อสายตาของพวกเขาหยุดลงที่ไป๋หยุนเทียน พวกเขาก็มองที่นางด้วยความงุนงง
เอ่อ ท่านแม่คะ ท่านมาทำอะไรที่นี่ ? โหยวเยว่ถามไป๋หยุนเทียนซึ่งอยู่ในชุดคลุมสีขาวแต่สง่างามด้วยความประหลาดใจ
ไป๋หยุนเทียนยิ้มและพูดคุยทักทายกับโหยวเยว่อยู่หลายคำก่อนที่จะหันหลังกลับไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความใจร้อน นางกล่าวว่า เซี่ยงเอ๋อ ใครที่เป็นฆาตกรที่ฆ่าน้องสาวข้า ?
หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็นำทางไปยังร่างของหัวหน้าครอบครัวหยุน
ในไม่ช้า ร่างซูบซีดและใบหน้าซีดของหัวหน้าครอบครัวหยุนที่ถูกนำออกมาโดยตู่กูเฟิง เมื่อนางเห็นบุคคลที่ฆ่าน้องสาวนาง ไป๋หยุนเทียนไม่สามารถรักษาความสงบของนาง ดังนั้นนางเริ่มเตะชายคนนั้นด้วยความโกรธทันที
เจ้าคนไม่มีศีลธรรม น้องหยุนไห่คือสมบัติที่เจ้าต้องรักษา แต่เจ้ากลับล้มเหลวในการรักษาสมบัติ ที่เลวร้ายไปกว่านั้น เจ้าทุบตีนางจนตาย ! ข้าจะให้เจ้าชดใช้ด้วยชีวิตของเจ้า ! ไป๋หยุนเทียนร้องออกมาด้วยความปวดร้าว นางโจมตีเขาอย่างดุเดือด เมื่อนางคิดย้อนไปถึงน้องสาวของนางว่าถูกฆ่าโดยคนผู้นี้ นางรู้สึกเพียงความปวดร้าว
การลงมือของไป๋หยุนเทียนทำให้ หมิงตง โหยวเยว่ ตู่กูเฟิงและเถี่ยต้า มองด้วยดวงตาที่เบิกกว้างและปากที่อ้าค้างอย่างเต็มไปด้วยความสับสน พวกเขาได้แต่จ้องมองนางและมองหน้ากันและกัน พวกเขาไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
หยุนเหลียนยังคงทุกข์ ไม่สามารถหยุดตัวเองเช่นกัน ด้วยเท้าทั้งสอง นางยังคงเตะที่ศีรษะของบิดาของนาง ขณะร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจควบคุม
“หยุดนะ เหลียนเอ๋อ ข้าเป็นพ่อของเจ้า ข้าอาจจะทำผิดกับท่านแม่ของเจ้า พ่อได้ทำผิด พ่อปรารถนาที่จะขอโทษ โปรดยกโทษให้พ่อของเจ้า ถ้าเจ้าไม่ให้ยาถอนพิษกับพ่อ พ่อจะตายจากยาพิษนี้ เขาร้องออกมา ด้วยหัวที่แนบอยู่บนพื้นดิน ร่างกายของเขาทุกข์ทรมานจากพิษ เขาได้สูญเสียการควบคุมร่างกายของเขา วิธีเดียวที่เขาจะมีชีวิตรอดอยู่ได้ คือลูกสาวของเขามียาแก้พิษ
เจ้าไม่สมควรเป็นพ่อของข้า ไม่มีพ่อที่โหดร้ายเช่นเจ้า จากนี้ไป ข้าจะละทิ้งแซ่หยุน และจะใช้แซ่ไป๋ ! ไป๋เหลียนตะเบ็งเสียงบอกด้วยน้ำตา
หลังจากโจมตีออกไป ผู้หญิงสองคนก็หยุด
เหลียนเอ๋อ พาท่านป้าไปดูหลุมฝังศพของแม่ของเจ้า ไป๋หยุนเทียนออกคำสั่ง
พยักใบหน้าลง ไป๋เหลียนพาทั้งกลุ่มออกจากโรงเตี้ยม ขณะที่ตู่กูเฟิงเปลี่ยนหน้าที่เป็นปกป้องหัวหน้าของครอบครัวหยุน
อย่างรวดเร็ว กลุ่มมาถึงภายในถ้ำมีขนาดเล็กนอกเมืองเฟิงหยาง สุสานของไป๋หยุนไห่ค่อนข้างเรียบง่าย ด้วยเนินดินเล็ก ๆ และ ที่ความสูงประมาณครึ่งหนึ่งของคน คำบนหินได้จารึกไว้กับคำว่า สุสานของไป๋หยุนไห่
เห็นสุสานที่เรียบง่าย ไป๋หยุนเทียนไม่สามารถช่วยอะไรได้ ได้แต่มีน้ำตาที่ไหลรินออกมาอย่างช้า ๆ กับเข่าที่คุกเข่าอยู่หน้าหลุมศพ นางสัมผัสกับฝุ่นราวกับว่ามันเป็นใบหน้าของน้องสาวนาง