บทที่ 1517 การปะทะระหว่างคฤหาสน์วิญญาณ (1)

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1517 การปะทะระหว่างคฤหาสน์วิญญาณ (1)

แปลโดย iPAT

 

เมื่อเห็นฟางหยวนรอดชีวิตจากการซุ่มโจมตีและเข้าไปในหอดอกไม้ร่วงโรย อสูรวิญญาณแรกกำเนิดชิงโจวก็คำรามออกมาด้วยความโกรธ ดวงตาของมันกลายเป็นแดงก่ำ เจตนาสังหารของมันพุ่งสูงขึ้น มันต้องการกลืนกินศัตรูของมันทันที

 

มันมีสติปัญญาเทียบเท่ามนุษย์ เมื่อมันไม่สามารถสังหารฟางหยวน มันจึงถูกครอบงำด้วยความเกลียดชัง

 

ภายในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ แสงสีเขียวส่องประกายขึ้นและกำหราบชิงโจว แต่มันไม่สนใจและยังบังคับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์พุ่งเข้าไปหาหอดอกไม้ร่วงโรยโดยตรง

 

“นายท่าน ข้าถึงขีดจำกัดแล้ว…” ผีเฒ่าไป่จุนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

 

“ฆ่ามัน มิฉะนั้นจะเป็นพวกเจ้าที่ตาย!” ชิงโจวคำราม

 

การแสดงออกของผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์เปลี่ยนไป พวกเขาไม่เคยเห็นเจ้านายโกรธถึงระดับนี้มาก่อน

 

ความเกลียดชังของมันทำให้พวกเขาหวาดกลัวและต้องการหลบหนี

 

แต่พวกเขาตกเป็นทาสของชิงโจวแล้วและไม่สามารถต่อต้าน พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกัดฟันสู้ต่อไปเท่านั้น

 

เมื่อฟางหยวนเข้าไปในหอดอกไม้ร่วงโรย ชิงโจวก็เปลี่ยนเป้าหมายไปที่สิ่งนี้

 

เผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง ฟางอันเล่ยพยายามหลบหนี

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าฟางหยวน

 

อสูรวิญญาณแรกกำเนิดอสรพิษมีปีกถูกทิ้งไว้ข้างหลังขณะที่อสูรวิญญาณแรกกำเนิดแมงมุมเหินเกาะอยู่บนหลังคาของหอดอกไม้ร่วงโรย

 

ในเวลาเดียวกันสนมอินทรีย์ก็ใช้กรงเล็บของนางสร้างบาดแผลจำนวนมากให้กับหอดอกไม้ร่วงโรย

 

หอดอกไม้ร่วงโรยไม่สามารถหลบเลี่ยงแต่ฟางอันเล่ยไม่กังวล

 

นางกล่าวกับฟางหยุนและฟางเล้ง “ควบคุมหอดอกไม้ร่วงโรย ข้าจะใช้ท่าไม้ตายจัดการศัตรู”

 

หลังกล่าวจบคำ หอดอกไม้ร่วงโรยก็ปลดปล่อยแสงสีขาวออกมาภายใต้การควบคุมของนาง

 

ดอกไม้จำนวนมากเหี่ยวแห้งและร่วงโรยลงไป

 

แสงสีขาวควบรวมเป็นดอกไม้ขนาดใหญ่เบ่งบานขึ้นบนหลังคาของหอดอกไม้ร่วงโรย

 

กลีบดอกไม้เหมือนกระจกที่สามารถสะท้อนแสง นั่นทำให้มันดูงดงามเป็นอย่างมาก

 

ท่าไม้ตายอมตะดอกไม้กระจก!

 

พลังอำนาจของกรงเล็บอินทรีย์ที่ฟาดเข้ามาถูกดอกไม้กระจกดูดกลืนเข้าไป

 

หลังจากดูดซับพลังของกรงเล็บอินทรีย์ กลีบดอกไม้หลายกลีดก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนที่กลีบใหม่จะปรากฏขึ้น

 

เมื่อวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เข้ามาใกล้ กลีบดอกไม้กระจกก็สะท้อนพลังอำนาจของกรงเล็บอินทรีย์ออกไป

 

กรงเล็บอินทรีย์พุ่งเข้าโจมตีวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และทำให้เกิดประกายไฟแลบลั่นขึ้น

 

วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์หยุดชะงักลงขณะที่หอดอกไม้ร่วงโรยเร่งความเร็วเพื่อสร้างระยะห่างออกจากศัตรู

 

“โอ้ ไม่ แมงมุมตัวนั้นกำลังจะเข้ามาแล้ว!” เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟางหยุนกรีดร้องออกมา

 

แม้หอดอกไม้ร่วงโรยจะสามารถสร้างระยะห่างออกจากวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และสนมอินทรีย์ แต่อสูรวิญญาณแรกกำเนิดแมงมุมเหินใช้ประโยชน์จากร่างกายเล็กๆของมันเจาะทะลวงหลังคาหอดอกไม้ร่วงและพยายามเข้าไปภายใน

 

แม้มันจะยังห่างไกลจากความสำเร็จแต่สถานการณ์ก็อันตรายมาก

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะสร้างขึ้นจากวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วน หากอสูรวิญญาณแรกกำเนิดสามารถเข้าไปภายใน มันจะกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่

 

หลังจากทั้งหมดวิญญาณบอบบางมาก

 

แม้หอดอกไม้ร่วงโรยจะสามารถซ่อมแซมตัวเองแต่ความเร็วในการซ่อมแซมก็ไม่อาจเปรียบเทียบกับพลังทำลายล้างของอสูรวิญญาณแรกกำเนิด

 

ในช่วงเวลาสำคัญฟางอันเล่ยต้องเคลื่อนไหว

 

ท่าไม้ตายอมตะบานสะพรั่ง!

 

ดอกไม้กระจกบนหลังคาร่วงโรยไปขณะที่ดอกไม้อีกดอกงอกขึ้นมาแทนที่

 

มันไม่ใหญ่โตและดูค่อนข้างบอบบาง เพียงเมื่อมันปรากฎ มันก็กลายเป็นเงาแสงหายไปกับสายลม

 

แต่พลังงานลึกลับกลับพันธนาการแมงมุมตัวนั้นเอาไว้และทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของมันช้าลง

 

‘หอดอกไม้ร่วงโรยหลังนี้ช่างยอดเยี่ยมนัก ไม่แปลกใจเลยที่มันสามารถสร้างชื่อเสียงในสงครามห้าภูมิภาค’

 

‘ดอกไม้กระจกก่อนหน้านี้เป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งไม้แต่มันปลดปล่อยพลังอำนาจบนเส้นทางแห่งกฎและสามารถสะท้อนการโจมตีกลับไป ดอกไม้ที่หายไปอย่างรวดเร็วในตอนนี้เป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งไม้ที่สามารถปลดปล่อยพลังอำนาจบนเส้นทางแห่งกาลเวลา!’

 

ฟางหยวนเฝ้ามองอยู่ในห้องโถงด้วยดวงตาที่ส่องประกาย

 

ฟางอันเล่ยใช้ดอกไม้กระจกเพื่อผลักดันวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และสนมอินทรีย์ก่อนที่จะใช้ดอกไม้บานสะพรั่งบรรเทาวิกฤตอสูรวิญญาณแรกกำเนิดแมงมุมเหิน แต่ตอนนี้ใบหน้าของนางกลายเป็นซีดขาว การใช้ท่าไม้ตายอมตะอย่างต่อเนื่องทำให้นางสูญเสียพลังงานอมตะจำนวนมหาศาล

 

ท่าไม้ตายทั้งสองทรงพลังมาก พวกมันมีพลังเทียบเท่ากับท่าไม้ตายอมตะระดับแปด

 

แต่ยิ่งท่าไม้ตายทรงพลังเท่าใด ค่าใช้จ่ายของมันก็ยิ่งสูงเท่านั้น ฟางหยวนสามารถบอกได้ว่าฟางอันเล่ยทุ่มเทความพยายามทั้งหมดของนางออกมาแล้ว

 

‘หอดอกไม้ร่วงโรยเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดชั้นแนวหน้า แต่เผชิญหน้ากับอสูรวิญญาณแรกกำเนิดสองตัว วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ และปีศาจอมตะระดับเจ็ดอีกสองคน มันยังยากเกินไป! แม้ข้าจะทุ่มเทพลังทั้งหมด ข้าก็ทำได้เพียงป้องกันตัวเป็นการชั่วคราวเท่านั้น’

 

หัวใจของฟางอันเล่ยเต้นแรง นางหันไปมองฟางหยวนและคิด ‘คนผู้นี้มีวิธีการที่น่าทึ่ง เขาเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่กว่าข้าก่อนหน้านี้ แต่เขายังสามารถสงบจิตใจและหาทางออกได้ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ตอนนี้เราต้องขอความช่วยเหลือจากเขา ข้าอดทนได้อีกไม่นานแล้ว’

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฟางอันเล่ยก็วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลไปให้ฟางหยวน

 

ตอนนี้นางยุ่งอยู่กับการจัดการศัตรู นางไม่สามารถพูดคุยกับฟางหยวนได้ตามปกติ

 

ฟางหยวนตรวจสอบและตระหนักว่าฟางอันเล่ยต้องการเป็นพันธมิตรกับเขาอย่างเป็นทางการเพื่อต่อต้านศัตรูที่ทรงพลังเหล่านี้

 

ฟางอันเล่ยกล่าวถึงผลประโยชน์และเงื่อนไขต่างๆ ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมมือกันต่อต้านศัตรูจนกว่ากำลังเสริมของตระกูลฟางจะมาถึง

 

ฟางอันเล่ยรู้สึกว่าฟางหยวนไม่สามารถหลบหนี แต่ความจริงก็คือเขาไม่เพียงสามารถหลบหนีแต่เขายังมีเกราะหวนคืนที่สามารถต่อสู้กับศัตรูหากเขาต้องการ

 

แต่ตอนนี้ฟางหยวนเลือกที่จะอยู่เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับตระกูลฟาง

 

‘ข้าสามารถหลบหนีแต่ฟางอันเล่ยทำไม่ได้ ดังนั้นข้อตกลงพันธมิตรจึงค่อนข้างเป็นประโยชน์สำหรับข้า ข้าต้องขอบคุณศัตรูทรงพลังที่ซุ่มโจมตีพวกเรา หากไม่ใช่เพราะพวกเขา ตระกูลฟางจะไม่เป็นพันธมิตรกับข้าอย่างง่ายดายและด้วยเงื่อนไขที่ดีเช่นนี้’

 

เดิมทีตระกูลฟางเสนอโครงการศิลาหยินหยางเพื่อสร้างข้อตกลงพันธมิตร

 

อย่างไรก็ตามเมื่อวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้น ศิลาหยินหยางก็กลายเป็นเพียงข้ออ้าง แต่ฟางอันเล่ยค่อนข้างฉลาด นางยังรักษาโครงการเดิมเอาไว้

 

นอกเหนือจากวิญญาณอมตะระดับหก ฟางอันเล่ยยังสัญญากับฟางหยวนว่าจะมอบทรัพยากรอมตะจำนวนมากให้เขาอีกด้วย

 

‘วิญญาณอมตะระดับหกไม่มีประโยชน์มากนัก แต่หากข้าขอวิญญาณอมตะระดับเจ็ด มันจะเหมือนการรีดไถ นอกจากนั้นฟางอันเล่ยก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะตัดสินใจ ลืมมันไปซะ นี่เป็นโอกาสสำคัญ ข้าไม่ควรโลภและทำลายโอกาสที่ดีเช่นนี้’

 

ฟางหยวนคิดแผนการและตัดสินใจ “ข้าจะเข้าร่วมพันธมิตร!”

 

ฟางอันเล่ยมีความสุขมาก เดิมทีนางเกรงว่าฟางหยวนจะเย่อหยิ่งและสงสัย แต่เมื่อเห็นเขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว นางก็ต้องยกย่องอยู่ในใจ ‘เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เขาสามารถตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดในสถานการณ์คับขัน’

 

ตระกูลฟางเตรียมวิญญาณอมตะและวิธีสร้างข้อตกลงพันธมิตรเอาไว้ตั้งแต่ออกเดินทางมาแล้ว ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงสามารถสร้างข้อตกลงพันธมิตรได้อย่างรวดเร็ว

 

แต่ตอนนี้หอดอกไม้ร่วงโรยถูกปิดล้อมเอาไว้แล้ว

 

“บึม!”

 

วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์พุ่งเข้าโจมตีขณะที่หอดอกไม้ร่วงโรยไม่สามารถหลบเลี่ยง มันถูกส่งลงสู่พื้นราวกับดาวตก

 

“ตาย ตาย ตาย!” ภายในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ ชิงโจวคำรามอย่างบ้าคลั่ง แสงสีเขียวกลายเป็นของแข็งและพุ่งทะลวงร่างกายของมัน แต่มันกลับเพิกเฉยต่อสิ่งนี้อย่างสิ้นเชิง