1904-3 vs 1905-1 โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1904-3

เด็กสองคนเจอกันแล้ว

ฉินมั่วได้ยินแล้วไม่พูดอะไร ขึ้นไปชั้นบนต่อ ส่วนคุณพ่อบ้านหนุ่มมองดูเหตุการณ์ด้วยความตะลึงงัน เพราะเขาไม่เคยเห็นเด็กน้อยทั้งสองทะเลาะกันมาก่อน ต้องรู้นะว่าทั้งสองดีต่อกันมาก พลอยทำให้คนคิดว่าเป็นพี่น้องแท้ๆ ด้วยคุณชายมักจะตามใจคุณหนูจิ่วเสมอมา ทำให้ไม่ว่าคุณหนูจิ่วทำอะไร เขาก็ไม่เคยโกรธ อย่างมากแค่ขมวดคิ้ว แล้วหลุบตาจัดเก็บข้าวของให้เธอ ส่วนคุณหนูจิ่วที่นอกจากจะหาของนั่นของนี่มาฝากคุณชายแล้ว ยังมักจะระวังความรู้สึกของคุณชายมาก ฉะนั้นเธอมักจะยกของจำพวกน้ำและผลไม้มาให้เขาเสมอ

นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองทะเลาะกัน คุณพ่อบ้านอยากจะพูดสักอย่างออกมา แต่มันไม่เข้าหูคุณหนูจิ่วแล้ว เธอยืนนิ่งอย่างไม่ดื้อ ศีรษะเล็กๆ ก้มงุด ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ จากนั้นก็อุ้มคีย์บอร์ดวิ่งออกนอกบ้านไปอย่างห่อเหี่ยว เธอเคยคิดเหมือนกันว่า ตัวเองเริงร่ามากเกินไปหรือเปล่า แต่เธอคิดว่าเขาชอบ ไม่งั้นเขาคงไม่ปล่อยให้เธอซนมหากาฬหรอก เธอรู้ดีว่าตัวเองซน แต่ถูกเขาดูแลมานาน จู่ๆ จะมาบอกว่าไม่สนเธอแล้วก็จะไม่สนงั้นเหรอ ทำไมถึงไม่มีสัจจะแบบนี้

ยัยเสือน้อยทุ่มคีย์บอร์ดด้วยความโมโห คิดว่าจะไม่เอาแล้ว แต่พอทุ่มเสร็จก็นึกถึงตอนที่เขาแกะมันออกมาแล้วประกอบเข้าไปใหม่ จึงวิ่งกลับไปหยิบคีย์บอรด์จากพื้น

คุณป๋อที่เห็นภาพดังกล่าว ยันมอเตอร์ไซด์เอาไว้ ก่อนจะดันหมวกกันน็อคขึ้นเหนือศีรษะตัวเอง พลางผิวปากอย่างเท่ระคนเอื่อยเฉื่อย “ใครทำให้ท่านจิ่วโกรธเนี่ย”

“ต่อไปหนูจะไม่เล่นกับเจ้าหญิงน้อยแล้ว เขาไม่ชอบหนูสักนิด” ยัยเสือน้อยอุ้มคีย์บอร์ดตัวเอง เม้มปากแน่น แต่คุณป๋อยังไม่ทันได้พูดอะไร ยัยเสือน้อยก็พูดต่อ “พ่อ หนูลักพาตัวเจ้าหญิงน้อยไปด้วยดีไหม ยังไงเขาก็ไม่มีวันชอบหนู พอเอาเขาไป นานวันเข้าก็อาจใจอ่อนได้”

คุณป๋อเอียงหมวกกันน็อค แล้วเคาะที่ศีรษะลูกตัวเอง “นี่หนูจะให้พ่อถูกประกาศจับทั่วโลกใช่ไหม ข้อหาลักพาตัวเจ้าหญิงน้อยของหนูเนี่ย”

“งั้นจะทำยังไงดีล่ะ เฮ้อ หงุดหงิดจริงๆ” ยัยเสือน้อยหันหน้าเอาเอ่ยเสียงต่ำ “หนูไม่ได้เจอมั่วมั่วมานานแล้ว แต่เขาหาว่าหนูไม่เป็นกุลสตรี ไม่ควรเอาแต่กระโจนใส่คนอื่น”

คุณป๋อทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจของลูกสาวจนชิน เริ่มจะเห็นด้วย เสียงก็เรียบเรื่อย เจ้าตัวสวมแจ็กเก็ตที่เข้ากับกางเกงยีนส์มาก “หนูก็ไม่ควรรุกก่อนจริงๆ แหละ คนอย่างเจ้าเด็กหน้าน้ำแข็งนั่น มันน่า…นักเชียว”

“ห้ามพ่อว่ามั่วมั่วเสียๆ หายๆ นะ” ยัยเสือน้อยออกจะปกป้องคนของตัวเอง “ถ้าจะว่า หนูต้องเป็นคนว่าเอง”

คุณป๋อ…นี่ลูกสาวแท้ๆ ของเขาหรือเปล่า?

“เอาล่ะ ท่านจิ่วของพ่อ มีเรื่องอะไรเราค่อยคุยกันวันพรุ่งนี้นะ” คุณป๋อยื่นมือไปอุ้มลูกสาวขึ้นมาขี่บนคอ “กลับบ้านไปนอนดีกว่า”

ยัยเสือน้อยรับคำ และเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงดึงเส้นผมพ่อตัวเอง แล้วควักฮู้ป้องกันภัยอีกอันออกมา “พ่อ”

คุณป๋อ “พ่อไม่อยากฟังลูกชมเจ้าหญิงน้อยอีกแล้ว”

ยัยเสือน้อย “…”

………………………………………

ตอนที่ 1905-1

ยัยเสือน้อยเบิกตากว้าง ท่าทางจริงจังหนักแน่น “หนูชมเจ้าหญิงน้อยเพราะเขาเก่งมาก เช่นเรื่องที่พ่อไม่รู้แต่เขารู้ แม่บอกว่าเขาดูเป็นนักวิชาการ ไม่เหมือนพ่อที่เสแสร้งยังไงก็ทำไม่ได้ เขาไม่ใช่แค่ป้อนข้าวหนูนะ ก่อนนอนก็เล่านิทานให้ฟัง สอนหนูเขียนพู่กันจีนด้วย ขนาดพ่อยังเขียนไม่เป็นเลย”

คุณป๋อจอดมอเตอร์ไซด์ทิ้งไว้ในบ้านที่ล้อมด้วยรั้วขาว ดูไม่เป็นระเบียบเหมือนผู้ใหญ่ “ท่านจิ่ว เกินไปแล้วนะ อะไรที่เรียกว่าเสแสร้ง พ่อเป็นนักเรียนป.เอกเชียวนะ เข้าใจปะ?”

“ก็จ่ายเงินซื้อมา” ยัยเสือน้อยนั่งบนคอพ่อ จับผมพ่อพลางเอียงคอหลุบตามอง “พ่อไม่ต้องพูดเรื่องนี้นะ หนูต้องรักษาหน้าอยู่ เพราะแม่ชอบบอกว่าหนูเหมือนพ่อ”

คุณป๋ออ้าปากหาว มุมปากแฝงความเจ้าเล่ห์ “เหมือนพ่อไม่ดีหรือไง? เจ้าเด็กฉินหน้าน้ำแข็งนั่นคงปีนกำแพงไม่เป็น น่าเบื่อจะตาย”

ยัยเสือน้อยกะพริบตา “มั่วมั่วไม่ทำเรื่องแบบปีนกำแพงหรอก”

“เหรอ” คุณป๋อกดนาฬิกาเรือนดำบนข้อมือ จึงเห็นภาพเด็กหน้าน้ำแข็งปีนกำแพง

บ้านตระกูลป๋อติดกล้องวงจรปิดไว้ด้านหน้า เป็นเหตุให้คุณป๋อออกไปปฏิบัติงานข้างนอกได้อย่างไว้วางใจ เพราะมีสามารถตรวจดูสถานการณ์ได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

ยัยเสือน้อยเห็นภาพแล้ว แอบคิดในใจว่าต่อไปจะห้ามไม่ให้เจ้าหญิงน้อยปีนกำแพงอีกแล้ว เพราะมันอันตรายเกินไป

ทว่าเมื่อถูกคนเป็นพ่อขัดจังหวะ เธอจึงลืมส่งฮู้ให้พ่อ ยังที่ตอนเปลี่ยนชุดนอน เธอจึงนึกขึ้นได้ รีบวิ่งไปยังห้องข้างๆ

คุณฟู่กำลังนอนขวางอยู่บนโซฟา ยัยเสือน้อยรู้ดีถึงนิสัยของพ่อ เวลาแม่ไม่อยู่พ่อก็ชอบนอนแบบนี้ เหมือนเสือดาวที่เตรียมล่าเหยื่อ

“พ่อ อันนี้ให้พ่อกับแม่” ยัยเสือน้อยวางฮู้กันภัยไว้ในอุ้งมือพ่อตัวเอง

คุณป๋อเลิกคิ้ว ก่อนจะสวมบนคอ เขาไม่ศรัทธาต่อสิ่งใด แต่เหมือนตระกูลเขาจะมีดวงกับเรื่องแบบนี้ มีเรื่องหนึ่งที่ถูกต้อง จิ่วเหมาะที่จะรับช่วงต่อจากเขาจริงๆ แม้เส้นทางชีวิตสายนี้จะลำบาก แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ คนบางคนที่เกิดมา กลับถูกกำหนดชะตาให้รับภาระที่ว่า

คุณป๋อลุกขึ้นมานั่งพิงพนัก ถ้าจิ่วเป็นเด็กหญิงสไตล์เจ้าหญิงแสนอ่อนหวาน บางทีเขาอาจจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอไม่รู้อะไร แต่ท่านจิ่วของเขากลับชอบคีย์บอร์ดมาก ทั้งยังฉลาดหลักแหลม ที่สำคัญคือเธอชอบมันเหลือเกิน

ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน นัยน์ตาเข้มเชียว และด้วยเงาของร่างนี้ ทำให้ฉินมั่วทิ้งความคิดที่จะให้คุณพ่อบ้านไปเรียกยัยเสือน้อยมานอนที่บ้านเขา เพราะบ้านตระกูลฟู่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเป็นห่วงเธอ

ฉินมั่วก้มดูมือตัวเอง เขาคิดว่าเธอจะเห็นบาดแผลเขาตั้งแต่แรก ทว่าเปล่าเลย เขามองดูของฝากที่ซื้อมาจากประเทศจีน นัยน์ตาหนักเด็กชายอึ้ง ยื่นมือไปดับไฟ ไม่อยากจะล้างแผล รวมทั้งไม่อยากนอนด้วย คงเพราะยังมีอาการเจ็ทแล็ก[1] หากมองผ่านแสงจันทร์ จะเห็นฉินมั่วที่นอนบนเตียงมีสภาพเหมือนเจ้าชายน้อย ดูไม่ผิดปกติอะไร แต่อันที่จริงพอเขายื่นมือออกไป แต่สัมผัสไม่โดนยัยเตาผิงน้อย ก็พลันลืมตาขึ้นมา

…………………………………………………….

[1] เจ็ทแล็ก เป็นอาการของผู้ที่เดินทางข้ามประเทศที่มีเวลาต่างกันมาก ทำให้ปรับตัวยังไม่ทัน อาจเกิดอาการปวดศีรษะหรือนอนไม่หลับ เป็นต้น