1905-4 vs 1906 โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1905-4
รุ่งเช้าที่มีหมอกคอบครองบนฟ้า ยัยเสือน้อยยืนหูตั้งที่กล่องจดหมาย มองดูประตู “คุณตาขา คุณตาว่าเจ้าหญิงน้อยจะตอบจดหมายหนูไหมคะ?
“ต้องสิครับ” นายน้อยของเขาน่ารักขนาดนี้ ใครจะใจแข็งไม่ยอมตอบจดหมายเธอ
ยัยเสือน้อยอาลัยอาวรณ์ หลังจากที่ขึ้นรถก็พิงศีรษะที่หน้าต่างหันหลังมอง เธอคิดอยู่หลายครั้งว่า หากเธอกับเจ้าหญิงน้อยไม่ได้ทะเลาะกันในครั้งนั้นก็คงดี หลังจากทะเลาะกัน วันต่อมาก็ไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ไม่มีแม้กระทั่งโอกาสจะขอโทษ นี่แหละคือเรื่องที่น่าเสียดายที่สุด เธออยากกอดเขาอีกครั้ง
จนกระทั่งเมื่อมาถึงปราสาท เธอยังเคยฝันว่าเขาอุ้มเธอนั่งบนเก้าอี้และแปรงฟันให้เธอ จำกัดจำนวนลูกอมที่เธอกิน เพราะกลัวว่าเธอจะเจ็บฟัน เมื่อเธอฟันหลุด เวลายิ้มทีกลายเป็นเสือน้อยฟันหลอ เขาก็ไม่เคยรังเกียจ แถมยังหาอะไรให้เธอกัดอีกต่างหาก
ทั้งหมดนี้มลายหายไปเมื่อฟ้าสาง วันนี้ในเวลาเก้าโมงเช้า ยัยเสือน้อยจึงเห็นพ่อกลับมาที่ปราสาท ทว่ามีพ่อเพียงคนเดียว ไม่เห็นเงาของคนเป็นแม่ เหลือแค่พ่อที่บอกว่าจะรับแม่กลับมาเท่านั้น เวลานั้น ยัยเสือน้อยยังไร้เดียงสา คิดว่าแม่เธอยุ่งมากเหมือนเวลาปกติ จึงไม่ได้กลับมากับพ่อ
เลือดไหลท่วมมือคนเป็นพ่อ เขายันมอเตอร์ไซด์ไว้บนพื้น เสื้อกันลมตัวดำถูกลมพัดจนเกิดเสียง เมื่อถอดหมวกกันน็อคออกมา สภาพเขาดูอ่อนล้าและโหดเหี้ยมชนิดที่บรรยายไม่ถูก
คุณพ่อบ้านกังวลใจอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นนายใหญ่ แววตาก็เปล่งประกายออกมาต่างไปจากปกติ ส่วนยัยเสือน้อยกอดคีย์บอร์ดพลางร้องเรียก “พ่อจ๋า”
คุณป๋อจึงได้สติกลับมา ใบหน้าเปื้อนเลือด ร่างสูงนั่นคุกเข่าลงพื้นข้างหนึ่ง ก่อนจะซบหน้าที่ไหล่ลูกสาว เอ่ยเสียงแหบแห้ง “ท่านจิ่ว ขอโทษนะลูก ครั้งนี้พ่อคงทำตามสัญญาไม่ได้แล้ว”
ทำตามสัญญาไม่ได้แปลว่าอะไร? ยัยเสือน้อยไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องร้องไห้ด้วย คงเพราะเธอรู้สึกว่าพ่อกำลังตัวสั่น มันประหลาดมาก ยัยเสือน้อยไม่ได้ถามว่าแม่ไปไหน เธอไม่กล้าถาม เพราะกลัวนิดๆ
ไม่ ไม่นิดหน่อย กลัวมากเลยทีเดียว
เธอกอดคีย์บอร์ดไว้ในอ้อมแขน ปล่อยให้พ่อจูงเธอเดินไปยังที่ที่หนึ่ง เธอเห็นคนมากมาย และเห็นพ่อยิ้มอย่างเย็นชา “ส่งพวกเขาไปยังที่ที่พวกเขาควรจะไป”
มันเป็นความแค้น ความแค้นที่ยากจะสูญสลายได้ และในเวลานี้นี่เอง ยัยเสือน้อยเข้าใจหลักการหนึ่ง และเกลียดคนประเภทหนึ่ง อย่าเอาแต่ยืนอยู่บนหลักการแห่งคุณธรรมสูงสุดแล้วร้องเรียกให้คนเขาให้อภัย หากไม่โดนเอง ย่อมไม่เข้าใจว่าคนที่โดนทำร้ายผ่านอะไรมาบ้าง จงหุบปากเสียเถอะ การทำลายครอบครับคนอื่นหรือแย่งของคนอื่นไป ถือว่าเป็นสิ่งมีเหตุผลตั้งแต่เมื่อไร? คนที่เอาของของเธอไป เธอจะไม่มีวันให้อภัย พวกที่เอาของของคนอื่นไป ยังจะแสร้งทำตัวน่าสงสารหรือไม่ก็เอาแต่ใส่ร้ายคนไปทั่ว คิดเหรอว่าพวกนั้นจะรู้สึกว่าตัวเองผิด?
ไม่ พวกมันแค่กลัวว่าภาพลักษณ์จะเสีย แถมยังพูดเรื่องที่ตัวเองทำได้อย่างยิ้มร่า
สวรรค์ต้องสนองกรรมคืนคนทำ ในเมื่อสวรรค์ไม่ช่วยเธอ เธอก็จะจัดการเอง!
………………………………………………………
ตอนที่ 1906
ฉินมั่วรอให้เธอมาหาเขา
เวลานั้นฉินมั่วที่นั่งบนโต๊ะอาหารในบ้านตระกูลอานยังไม่รู้ว่ายัยเสือน้อยซึ่งเขาเลี้ยงดูผ่านอะไรมาบ้าง เพียงแค่เงยหน้ามองดูนาฬิกาติดผนังเป็นครั้งที่สาม ยังไม่ได้แตะโจ๊กไข่เยี่ยวม้าสักนิด คุณพ่อบ้านจึงกลายเป็นฝ่ายร้อนรนเสียเอง เพราะท่านประธานอานสั่งไว้ว่า สองวันนี้ให้เขาดูแลคุณชายให้ดี ที่นี่นอกจากพ่อครัวแล้ว ก็มีแค่เขาเท่านั้น ทำไมคุณชายไม่กินอาหารล่ะ
คุณพ่อบ้านผมทองพอจะรู้ถึงสาเหตุที่คุณชายไม่อยากอาหาร จึงเอ่ยเสนอเป็นภาษาอังกฤษ “พวกเราไปรับคุณหนูจิ่วที่บ้านตระกูลป๋อไหมครับ เพราะคุณป๋อเองก็ไม่ชอบทำอาหารเช้า”
ฉินมั่วหันมามองคุณพ่อบ้าน เอ่ยเสียงกระด้าง “แล้วมันเกี่ยวกับผมตรงไหน?”
คุณพ่อบ้านผมทองสะอึก ไม่รู้ควรจะพูดอย่างไรดี เดิมที่คิดว่าเรื่องนี้จะจบแล้ว แต่ผ่านไปครู่หนึ่ง เด็กน้อยก็ลุกขึ้นมาเหมือนไม่ร้อนใจ “คุณไปเอาขนมที่ผมขนมาจากเมืองจีน แล้วก็โจ๊กไข่เยี่ยวม้าไปให้เขาด้วย”
คุณพ่อบ้านอยากพูดเหลือเกินว่า ไหนบอกว่าไม่เกี่ยวกับคุณ สุดท้ายแล้วก็สั่งผมให้เอาไปให้อยู่ดี
ฉินมั่วคิดว่า ต่อให้ยัยเสือน้อยจะไม่ว่านอนสอนง่ายอย่างไร ก็จะปล่อยให้เธอหิวไม่ได้ การเลี้ยงเด็กต้องเป็นแบบนี้แหละ พอสั่งคุณพ่อบ้านให้เอาไปให้ เขาจึงเดินเข้าห้องรับแขก หยิบหนังสือมาแต่อ่านไม่ลง จนเมื่อคุณพ่อบ้านกลับมา เขาจึงเงยหน้าขึ้น “เขาว่ายังไงบ้าง?”
คุณพ่อบ้านอึกอักในลำคอ ก่อนจะวางของทั้งหมดลงตรงหน้า ฉินมั่วก้มมอง มันล้วนแต่เป็นของที่เขาสั่งให้ไปส่งบ้านนั้น ซึ่งยังสมบูรณ์หมดจดดังเดิม คิ้วของเด็กน้อยค่อยๆ ขมวดขึ้น คุณพ่อบ้านเห็นใบหน้าของนายตัวเองเย็นชาขึ้นมา รีบพูดทันที “ไม่ใช่ว่าคุณหนูจิ่วไม่รับนะครับ แต่ที่บ้านนั้นไม่มีคนเลย”
ไม่มีคน เช้าอย่างนี้เนี่ยนะ?
ฉินมั่วตอบเพียง “รู้แล้ว” สายตาจับจ้องที่ของเหล่านั้น แม้จะเป็นขนมบรรจุกล่อง แต่ก็มีวันหมดอายุ ขนมนั้นเขาหาร้านดีๆ ทำให้ แถมยังต้องนั่งเครื่องบินมาหลายชั่วโมง เด็กชายหลุบตาลง ยังเหลืออีกสองวัน ช่างเถอะ เดี๋ยวคืนนี้ค่อยเอาไปให้อีก
ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่ฉินมั่วทำอะไรไม่ลงตลอดทั้งวัน ท่าทางเหมือนกำลังอ่านหนังสือ แต่ผ่านไปตั้งนาน กลับไม่พลิกหน้ากระดาษสักนิด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องกินข้าว ทางด้านคุณพ่อบ้านเห็นสเต๊กเนื้อที่ไม่ได้รับการแตะต้องแล้วก็เดินวุ่น แต่บ้านตระกูลอานไม่มีใครอีกเลยจริงๆ จนล่วงเลยมาถึงยามพลบค่ำ คุณชายของพวกเขาถึงค่อยมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย โดยลุกขึ้นจากโซฟา ก่อนจะเอาของเหล่านั้นใส่ถุงอีกครั้ง “คุณไปที่นั่นอีกครั้งหนึ่ง”
“ครับ” คุณพ่อบ้านรับคำทันที เขาออกไปไม่ถึงสองนาทีก็กลับมา ฉินมั่วเห็นของในมืออีกฝ่าย แววตาก็หนักอึ้ง “ยังไม่มีคนอยู่อีกเหรอ?”
“วันนี้คุณป๋อน่าจะกลับดึกล่ะครับ คงพาคุณหนูจิ่วไปเที่ยว เดี๋ยวผมเอาไปให้ตอนสี่ทุ่มดีกว่า” คุณพ่อบ้านผมทองช่างใสซื่อ ส่วนฉินมั่วพยักหน้า นั่งลงที่โต๊ะอาหาร กำลังจะดึงผ้ากันเปื้อนออกมา แต่พลันคิดอะไรขึ้นมาได้ก็วางลง เขาไม่ได้เจอยัยเสือน้อยมายี่สิบชั่วโมงแล้ว เธอไปกับคุณอาป๋อ คุณอาป๋อจะพาเธอไปกินอะไรนะ ขอแค่ไม่ใช่พวกอาหารขยะเป็นพอ ครั้งที่แล้วที่เธอไปกิน ท้องเธออืดจนเขาต้องช่วยนวดให้ตั้งนาน ถึงจะสบายตัวขึ้นจนนอนได้ เวลานี้ฉินมั่วคิดเยอะมาก รอให้ดึกกว่านี้สักหน่อย ถึงเวลานั้นยัยเสือน้อยจะต้องมาหาเขาแน่…
……………………………………….