ตอนที่ 653 เสนอรวมกลุ่ม

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

สำนักศึกษาซวนเสียมีภูเขาอยู่หลายแห่ง ภูเขาเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสถานที่ฝึกประสบการณ์ของนักเรียนทั้งสิ้น

ตอนนี้สถานที่ที่พวกเขาได้มาถึงก็คือภูเขาอีกแห่งหนึ่งของสำนักศึกษา เขาจงเสีย!

หลังจากที่มาถึงเขาจงเสีย ผู้อาวุโสของสำนักส่วนในก็ได้ประกาศกฎหลัก ๆ สำหรับการสอบในครั้งนี้

“พวกเจ้าทุกคนจะได้รับลูกซวนจูคนละหนึ่งลูก ด้านบนจะมีข้อมูลส่วนตัวของพวกเจ้าอยู่ หากพวกเจ้าสามารถทำลายลูกซวนจูของคนอื่นได้ พวกเจ้าก็รับไปหนึ่งคะแนน หากลูกซวนจูของเจ้าถูกคนอื่นทำลาย นั่นหมายความว่าผู้นั้นถูกคัดออก”

“การสอบครั้งนี้ พวกเจ้าสามารถใช้อุบายใดๆ ก็ได้ เว้นเสียจากสัตว์พันธสัญญา มีเวลาในการสอบเพียงแค่สามวันเท่านั้น ผู้ที่ได้คะแนนมากที่สุดก็จะเป็นผู้ที่สอบผ่าน”

“พวกเจ้าทุกคนเข้าใจตรงกันชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ ?” ผู้อาวุโสของสำนักส่วนในกล่าวถาม

“เข้าใจแล้วขอรับ/เจ้าค่ะ!”

“ดีมาก!”

จากนั้นแต่ละคนก็ได้รับลูกซวนจูสีแดงคนละหนึ่งลูก เมื่อพวกเขาเทพลังวิญญาณหรือพลังชีวิตเข้าไปก็ได้เห็นชื่อ และคะแนนของตัวเองหนึ่งคะแนน!

“บัดนี้ ข้าขอประกาศเริ่มการสอบเข้าสำนักส่วนในได้ นักเรียนทุกคนจงมุ่งหน้าเข้าไปในเขาจงเสีย และเริ่มต่อสู้กันอย่างดุเดือดได้!”

“ขอรับ/เจ้าค่ะ!”

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! ร่างหลายร่างพรวดเข้าไปในเขาจงเสีย

ผู้ที่ฉลาด ทันทีที่ขึ้นเขาไปก็ได้ซ่อนตัวอย่างรวดเร็ว แอบซ่อนตัวอยู่ในที่มืดเพื่อรอโอกาสลงมือ ไม่ใช่ให้ตัวเองอยู่ในที่แจ้ง และกลายเป็นเป้าให้ผู้อื่น

เวลาในการสอบมีสามวัน ไม่อาจเร่งรีบเพื่อให้สำเร็จอย่างรวดเร็ว แต่สามารถล่าเหยื่ออย่างช้า ๆ ได้

มู่เฉียนซีเองก็เลือกที่จะซ่อนตัวอยู่ในที่มืดเช่นกัน การสอบเข้าสำนักในครั้งนี้สามารถต่อสู้เป็นกลุ่มได้ ตราบใดที่มีความสามารถรวมกลุ่มได้ ย่อมได้เปรียบและเป็นประโยชน์มาก

มู่เฉียนซีนอกจากมีชื่อเสียงในชั้นเรียนระดับสูงแล้ว นางก็ไม่รู้จักมักคุ้นกับผู้ใดเลยแม้แต่คนเดียว ดังนั้นการสอบครั้งนี้ ถูกกำหนดให้นางต้องต่อสู้คนเดียว

ทว่า เช่นนี้ถึงจะเพิ่มความท้าทาย กลิ่นอายถูกเก็บซ่อนเอาไว้แล้ว เมื่อด้านหน้าเกิดเสียงดังปึงปังขึ้น มู่เฉียนซีก็เริ่มลงมือแล้ว

ฉูห้าวเห็นหญิงสาวชุดม่วงผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขาอย่างกะทันหัน เขาก็รู้สึกไม่ดีแล้ว

“เป็นไปไม่ได้! ข้าซวยจริง ๆ ได้เจอกับมู่เฉียนซีแล้ว”

“สหายมู่เฉียนซี เจ้าต้องยั้งมือไว้ไมตรีด้วยนะ!”

การถูกจ้องว่าเป็นเป้านั้น เป็นสิ่งที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ ทำได้เพียงแค่สู้เท่านั้น!

เผชิญหน้ากับปีศาจในตำนานของสำนักส่วนนอกเช่นนี้ เขาไม่รู้เลยว่าตนเองจะมีโอกาสชนะมากแค่ไหน

“เอาลูกซวนจูของเจ้ามาให้ข้า แล้วข้าจะยั้งมือไว้ไมตรีให้!” มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว

“ข้าคิดว่า เราต้องมาลองกันสักตั้งแล้วหล่ะ!” ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะมีชื่อเสียงที่น่าสะพรึงกลัว แต่เขาก็ไม่ยอมทิ้งการสอบเข้าสำนักส่วนในครั้งนี้แน่นอน

เขาชิงพุ่งเข้าหามู่เฉียนซีก่อน มู่เฉียนซีก็ตอบโต้กลับไปในทันที!

“ผนึกมังกรวารี!”

มังกรวารีพุ่งเข้าหาฝ่ายตรงข้าม ทว่า ระดับพลังวิญญาณของมู่เฉียนซีนั้นไม่สูงนัก ฉูห้าวจึงหลบหลีกได้

“จักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่ง! ห้องเรียนระดับสูงของสำนักศึกษาเรายังมีจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่งอยู่จริง ๆ ด้วย!”

“เจ้า เจ้าคือมู่เฉียนซีจริง ๆ!”

ความแข็งแกร่งระดับต่ำเช่นนี้ สามารถเข้าสู่ชั้นเรียนระดับต่ำก็ว่ายากแล้ว นางจะเป็นมู่เฉียนซีผู้วิปริตผู้นั้นไปได้เช่นไรกัน!

ความกลัวที่เขาได้หวาดกลัวเมื่อครู่นั้น ที่แท้ก็แค่ตื่นตูมไปเองเท่านั้น

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าคือมู่เฉียนซี ตัวจริงแน่นอน!”

ร่างของนางพุ่งออกมาราวกับสายฟ้าฟาด หลังจากการหยั่งเชิงในครั้งแรก ทั้งสองก็ได้ลงมือกันอย่างจริงจังแล้ว

“มังกรวารีพิฆาต!”

เมื่อความเย็นยะเยือกได้บังเกิดขึ้น ฉูห้าวก็ได้ใช้พลังทั้งหมดในร่างกายต่อต้าน

จากนั้นก็ได้ปะทะกัน กำลังของทั้งสองนั้นสูสีกันมาก!

ในที่สุดเขาก็ได้เข้าใจแล้วว่ามู่เฉียนซีนั้นวิปริตเช่นไร

ถึงแม้ว่านางจะเป็นจอมภูตพลังธาตุวารี สามารถต่อสู้ข้ามระดับได้นั้นเป็นเรื่องปกติมาก แต่เขาแข็งแกร่งกว่านางถึงสามระดับ เขากลับยังเอาชนะนางไม่ได้

“มาลองกันให้รู้ดำรู้แดงเถอะ! จะแพ้หรือชนะข้าก็จะยอมรับแล้ว!” ฉูห้าวกล่าวอย่างกลัดกลุ้มใจ

พ่ายแพ้ให้กับผู้ที่อ่อนแอกว่าตนเองถึงสามระดับ นี่เป็นครั้งแรกของเขาจริง ๆ!

“มหาสมุทรพิฆาต!”

“ทักษะตี้ซวน!”

ตูม! ทักษะตี้ซวนได้ยับยั้งการโจมตีของฉูห้าว และโจมตีฉูห้าวกระเด็นลอยออกไป

ปัง! ร่างของฉูห้าวกระเด็นลอยไปอย่างรุนแรง

มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นอย่างจนปัญญา “สหายมู่เฉียนซี ในที่สุดข้าก็ได้รู้แล้วว่าฉายาความวิปริตของเจ้ามันมาจากไหน ช่างวิปริตสมคำร่ำลือจริง ๆ!”

“เอาลูกซวนจูออกมาเถอะ!” มู่เฉียนกล่าว

ฉูห้าวยื่นลูกซวนจูให้ และกล่าวว่า “สหายมู่เฉียนซี ข้ามีข้อเสนอข้อหนึ่ง”

“ว่ามา” มู่เฉียนซีกล่าว

“ความแข็งแกร่งของสหายในชั้นเรียนระดับสูงนั้น ข้าล้วนแต่รู้ดีทั้งสิ้น แต่เจ้าเพิ่งเข้ามาแค่เดือนเดียว ไม่ค่อยได้เจอหน้าผู้ใดก็อาจจะไม่เข้าใจอะไรมากนัก เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เจ้าไปแตะกับผู้ที่ไม่ควรแตะ อันที่จริงครั้งนี้เจ้าสามารถปล่อยข้าไปได้ แล้วเราก็มาร่วมมือกัน” ฉูห้าวกล่าว

เขายังอยากจะให้ตัวเองได้มีโอกาสอีกครั้ง ไม่อยากโดนเตะออกไปในขณะที่เพิ่งเริ่ม

มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าคิดว่าข้ากลัวพวกเขาอย่างนั้นเหรอ ?”

“เจ้าไม่กลัวเหรอ ระดับสี่ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า แต่ในสำนักศึกษาเรายังมีระดับห้าอีกสิบกว่าคน หากเจ้าเจอกับพวกเขาเข้า เกรงว่าเจ้าจะเสียเปรียบเอาได้ แต่หากเจ้าร่วมมือกับข้าแล้วเอาชนะพวกเขาได้ ด้วยความวิปริตของเจ้าแล้ว ติดสิบอันดับแรกก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้” ฉูห้าวกล่าว

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “เจ้าฉลาดมาก ดังนั้นข้ารับข้อเสนอนี้ของเจ้า ข้าจะต้องจัดการกับบางอย่างก่อน”

“เยี่ยมไปเลย!” ฉูห้าวกล่าวขึ้นด้วยความตื่นเต้น

“ไปเถอะ! หากเจ้าตามข้าไม่ทัน ข้าอาจจะจัดการกับเจ้าอีกครั้งก็ได้!” ร่างของมู่เฉียนซีแวบไปแล้ว

ในเมื่อรับปากคนอื่นเอาไว้แล้ว ฉูห้าวก็ไม่อาจกลับกลอกได้

หลังจากที่เดินไปได้ไกลระยะหนึ่ง มู่เฉียนซีก็หยุดฝีเท้าลง เพราะด้านหน้านั้นมีคนกลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกันแล้ว

ฉูห้าวกล่าว “พวกเขาอยู่ในระดับต้น ๆ ของชั้นเรียนระดับสูง ก็เลยได้รวมกลุ่มกันเช่นนี้ ดูท่าไม่ดีแล้ว ข้าคนเดียวรับมือสองถึงสามคนได้ไม่มีปัญหา”

ด้วยความแข็งแกร่งของฉูห้าวแล้ว ถึงแม้ว่าจะสอบเข้าสำนักส่วนในไม่ได้ แต่เขาก็อาจจะทำคะแนนได้ไม่เลวเลย

ดูเหมือนว่าเขาจะโชคร้ายไปหน่อยที่ได้เจอกับมู่เฉียนซี เกือบจะทำให้เขาต้องถูกคัดออกไปเสียแล้ว แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ โชคดีที่เขารีบหาทางเอาตัวรอดได้ เสนอให้มู่เฉียนซีรวมกลุ่ม

มู่เฉียนซีกล่าว “เช่นนั้นเจ้าก็ออกไปจัดการสักสองสามคนเถอะ!”

“ห๊ะ!” ฉูห้าวตกใจผงะไปครู่หนึ่ง

เขามองไปที่มู่เฉียนซี และกล่าวว่า “เจ้าไม่ไปเหรอ ?”

ถึงแม้ว่าเขาสามารถจัดการได้สองสามคน แต่ฝ่ายตรงข้ามใช่ว่าจะมีแค่สองสามคนหนิ!

“ก็เจ้าเป็นคนพูดเอง”

ฉูห้าวกล่าว “ข้าเชื่อว่าสหายมู่เฉียนซีไม่ใช่คนที่เห็นคนอื่นจะตายแล้วไม่ช่วย ไปก็ไป!”

ฉูห้าวพรวดออกไป เมื่อคนเหล่านั้นเห็นเขาก็หัวเราะขึ้น

“ข้าก็คิดว่าใครซะอีก! ที่แท้ก็เป็นฉูห้าวนี่เอง! เดิมทีพวกข้าก็หาเหยื่อไม่เจอเลย นึกไม่ถึงว่าจู่ ๆ เหยื่อก็มาถึงที่”

สำหรับความแข็งแกร่งของฉูห้าวนั้นพวกเขานั้นรู้ดี เขาเพียงคนเดียวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาแน่นอน

พวกเขาห้อมล้อมฉูห้าวเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาหลบหนีไปได้

ฉูห้าวกล่าว “ข้าว่าการสอบครั้งนี้ของพวกเจ้าใกล้ได้จบลงแล้ว! รีบลงมือเถอะ!”

“เจ้าฉูห้าวผู้นี้จะเหมือนอาจารย์ใหญ่เข้าไปทุกวันแล้ว!”

“ชิ๊! ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าหมอนี่ไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้กล่าวคำนี้ออกมาได้ คนที่ต้องจบควรจะเป็นเขามากกว่า!”