เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 655
เหลิงฉานกับผู้คุมกฎสิบ ตกตะลึง ก้าวเท้าถอยหลังโดยไม่รู้ตัว

หลังจากนั้น

ทั้งสองก็มองตากัน

“ฆ่ามัน!”

ภาพมกุฎมังกรได้ปรากฏขึ้นแล้ว

ไม่ต้องจำเป็นต้องพูดเรื่องไร้สาระ

ทันใดนั้น

ทั้งสองคนรวบรวมพลังขั้นสูงสุดเข้าไว้ด้วยกัน

ไม่มีการยั้งมือแม้แต่น้อย

รัศมีอันน่าสะพรึงกลัว 2 ดวงเล็ดลอดออกมาจากผู้คุมกฎสิบและเหลิงฉาน

โดยเฉพาะผู้คุมกฎสิบ

ในเวลานี้พลังลมปราณของร่างกายเขาแข็งแกร่ง ราวกับหมอกควันแห่งหมาป่าที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า!

เห็นได้ชัดว่า

ความแข็งแกร่งของผู้คุมกฎสิบนั้นแข็งแกร่งกว่าเหลิงฉานหลายเท่า

“ไอพวกขยะ!”

หยางเฟิงยิ้มเยาะ

ต่อให้เข้ามาอีกก้าว

พลังลมปราณดุจสีรุ้ง

เมื่อพูดจบแล้ว

หมัดเหล็กคู่หนึ่งของเขา หมัดข้างหนึ่งไปทางซ้าย หมัดอีกข้างไปทางขวา กระแทกเข้าหาทั้งสองคนจนกระเด็นไปไกล

หนึ่งหมัดของหยางเฟิง เรียกได้ว่าสั่นสะท้านทั้งโลกา

เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ราวกับว่าเป็นระเบิดที่จะทำลายทุกสิ่งในโลก เพื่อที่จะหล่อหลอมจักรวาลขึ้นมาใหม่!

ผู้คุมกฎสิบกับเหลิงฉาน สีหน้าเปลี่ยนไป

แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว

ทักษะหมัดมวยของหยางเฟิง ได้มาจากการสู้รบนับพันครั้งในกองทัพ วิกฤตชีวิตและความตายนับไม่ถ้วน

หมัดของเขา

มีไว้ฆ่าคนเท่านั้น!

ไม่ได้มีไว้พูดจาภาษาดอกไม้!

กำหมัดยิ่งใกล้เข้ามามากเท่าไหร่

อาการบาดเจ็บของผู้คุมกฎสิบและเหลิงฉานยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น

10ลี้!

5ลี้!

3ลี้!

1ลี้……

ท้ายที่สุด

หมัดก็กระแทกที่เรือนร่างของทั้งสอง

พลั่ก!

พลั่ก!

เสียงดังกึกก้อง

ผู้คุมกฎสิบและเหลิงฉาน กระเด็นออกไปเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่สองลูก

แต่หยางเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งการขยับเขยื้อน

เปรียบเสมือนเทพเจ้าผู้สำรวจโลกอยู่เบื้องบน!

แม้ว่าผู้คุมกฎสิบและเหลิงฉาน จะมีพลังแข็งแกร่งแห่งแดนปรมาจารย์ใหญ่ แต่ก็ยากที่จะต่อกรกับหยางเฟิง!

“เจ้า……”

ผู้คุมกฎสิบมีสีหน้าตื่นตกใจ

เขาถูกต่อยโดยหยางเฟิง เขากระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตร

ในที่สุดถึงสามารถทรงตัวได้

เลือดกลบปาก

ทนไม่ได้ที่จะอาเจียนออกมา

เขามองไปยังหยางเฟิงด้วยความประหลาดใจ

ตนเองรวมพลังกับเหลิงฉาน ก็ยังไม่สามารถต่อกรกับหยางเฟิงได้?

เจ้าหยางเฟิงนี้ตกลงแล้วมีพลังแข็งแกร่งขั้นใดกัน?

เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ก้าวเข้าสู่พลังขั้นที่สองของแดนปรมาจารย์โลกบู๊ในตำนานแล้วงั้นรึ?

เมื่อคิดได้ดังนี้

ผู้คุมกฎสิบจึงอยากจะมุดดินหนี

หากรู้ว่าในกุ่ยเหมิน มีผู้ที่สามารถไปถึงพลังขั้นที่สองแห่งแดนปรมาจารย์โลกบู๊ได้

เกรงว่าตอนนี้คงจะเหลือแต่ประตูสำนัก

พลั่ก!

แต่เหลิงฉาน

ได้รับความบาดเจ็บสาหัสยิ่งกว่า ไอลีนโนเวล

เดิมทีเขาก็พลังอ่อนแอกว่าผู้คุมกฎสิบอยู่แล้ว

ผนวกกับความบาดเจ็บครั้งก่อน

การรับหมัดเดียวของหยางเฟิงตอนนี้

ทั้งเรือนกระเด็นออกไปตกลงบนกำแพงหินของหลุมฝังศพอย่างจัง

เลือดพุ่งออกจากปากอย่างต่อเนื่อง

สีหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษ ไร้ซึ่งสีสัน

ไม่รู้ว่ากระดูกในร่างกายหักไปกี่ซี่แล้ว

อวัยวะภายในก็เสียหายอย่างหนักเช่นกัน

อ่อนแรงถึงขีดสุด

ทันใดนั้นก็สูญเสียพลังในการต่อสู้

ในใจของเหลิงฉาน

ไร้ซึ่งความตื่นตระหนก

ไร้ซึ่งความตื่นตกใจ

รู้สึกเหมือนคนไร้เรี่ยวแรงที่ยอมแพ้กับชีวิต ความฝันอันขมขื่น!

ในเวลานั้น

เขาเพียงอยากจะหนี

หนีไปให้พ้น!

การแย่งชิงชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรครั้งนี้ เดิมทีก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

จะต้องกลับไป

ไม่เช่นนั้น

เขาอาจจะตายที่นี้ก็ได้!

“ผู้คุมกฎ ท่านยังไหวใช่หรือไม่?”

ณ เวลานี้

หลี่ซู่รีบออกมาจากการต่อสู้ มาประคองเหลิงฉานและถามด้วยความเป็นห่วง

ในใจของเหลิงฉานรู้สึกอบอุ่น

ถึงแม้เขาจะดูถูกหลี่ซู่

แต่ตอนนี้

คนที่เขาพึ่งพาได้ มีเพียงแค่หลี่ซู่เท่านั้น

เหลิงฉานส่ายหัวพลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงว่า “ข้าไม่เป็นไร รีบหนีเร็วเข้า ไม่งั้นพวกเราทุกคนจะต้องตายที่นี่!”

เมื่อได้ยินดังนั้น

สายตาหลี่ซู่เกิดความประหลาดใจ

เจ้าเหลิงฉาน แม้แต่ชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรก็ไม่ต้องการแล้วงั้นรึ?

ดูแล้ว

คงจะได้บาดเจ็บสาหัสจริง

เมื่อคิดได้ดังนี้