เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 657
ไม่เพียงแต่ฆ่าเหลิงฉาน

แถมยังปัดความผิดให้ตัวเองอีก

แต่ทว่าหยางเฟิงไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น

ต่อให้เขาฆ่าเหลิงฉานแล้วมันยังไงต่อล่ะ?

อย่างไรก็ตามทุกคนก็ต้องตายที่นี่อยู่ดี

“อ้าก ผู้คุมกฎสิบเสียชีวิตแล้ว พวกเรารีบหนีกันเถอะ!”

“รีบหนีไป! หากไม่หนี พวกเราจะตายกันหมด!”

“หนีเร็ว!”

หลังจากที่เหลิงฉานตาย

ความสมดุลทางจิตใจของคนศูนย์พันธมิตรโลกบู๊ก็พังทลายลงทันที

เหลิงฉานคือปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขา

ตอนนี้เหลิงฉานได้ตายไปแล้ว

หากพวกเขายังอยู่ที่นี้ ก็เหมือนการรนหาที่ตาย

ทันใดนั้น

คนของศูนย์พันธมิตรบู๊พลันรีบทยอยเคลื่อนทัพหนี

เมื่อเห็นดังนั้น

เสือขาวจะพลาดโอกาสดีๆอย่างการกำราบคนเลวที่กำลังพ่ายแพ้ให้สิ้นซากไปได้อย่างไร!

เขาหัวเราะเสียงดังพลางพูดว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า พี่น้องข้า คนของศูนย์พันธมิตรบู๊สูญเสียความมั่นใจแล้ว ฆ่าพวกมันให้หมด!”

“ฆ่ามัน!”

“ฆ่ามัน!”

“ฆ่ามัน!”

องครักษ์มังกรนับร้อยค่อยๆคำรามอย่างดุเดือด

คนของศูนย์พันธมิตรบู๊หนีกระเจิงจนแถวกองทัพแตก

เมื่อเห็นดังนั้น

ดวงตาของผู้คุมกฎสิบพลันแดงก่ำ

เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เหลิงฉานจะเสียชีวิต

ตอนนี้คนของศูนย์พันธมิตรบู๊สติเตลิดไปหมดแล้ว

กุ่ยเหมินของพวกเขาก็ยากที่จะต้านทานได้ฝ่ายเดียว

หากไม่ถอยทัพตอนนี้ เกรงว่าคงตายอยู่ที่นี้ทั้งหมด

แต่หากจะถอยทัพเช่นนี้ เขาก็ยังไม่วางใจ

หากรู้ว่าชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรยังอยู่ว่ามือของหยางเฟิง

ฟิ้ว!

ฟิ้ว!

ฟิ้ว!

ทันใดนั้น

ก็มีเงาคน2-3ร่าง

ที่รีบรุดเข้าไปในหลุมฝังศพโดยไม่มีการลังเล

ทุกคนตกตะลึง

ตามด้วยความประหลาดใจ

นี่คือคนตระกูลหนิง

หากพูดตามความรู้สึก

หยางเฟิงคือศัตรูของทุกคน

ทุกคนล้วนเป็นสหายร่วมรบ

หยางเฟิงทำสายตามีเลศนัย

คนตระกูลหนิงปรากฎตัวแล้ว……

ความจริงแล้ว ในใจของหยางเฟิงยังจำหนิงชิงเฉิงได้เสมอ

เพราะเมื่อเทียบกับเหลิงฉานและผู้คุมกฎสิบแล้ว

หนิงชิงเฉิงมีความอันตรายมากกว่า

หยางเฟิงเข้าใจเธอดี

เพื่อนเล่นในสมัยเด็กผู้นี้

สมัยเด็ก เธอก็เป็นผู้ที่งดงามและเฉลียวฉลาด

ผู้ชายทุกคนล้วนตามจีบจนหัวกระไดไม่แห้ง

หากเธอไม่ใช่ผู้หญิง

เกรงว่าเธอคงจะได้เป็นผู้สืบทอดคนถัดไปของตระกูลหนิง!

เมื่อเห็นหนิงชิงเฉิง

ผู้คุมกฎสิบก็รู้สึกประหลาดใจทันที

ตอนนี้เหลิงฉานตายแล้ว คนของศูนย์พันธมิตรก็สติกระเจิงไปหมดแล้ว

อยากจะแย่งชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกร

เธอต้องขอความร่วมมือของผู้แข็งแกร่งจากอาณาจักร!

ตระกูลหนิงแห่งจงโจว เป็นตระกูลที่ร่ำรวย

ไม่ว่าจะด้านพลัง หรือด้านอื่นๆ ก็เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด!

เมื่อคิดได้ดังนี้

ผู้คุมกฎสิบพลันมองหนิงชิงเฉิงพลางพูดเสียงดังว่า “คุณหนิง ชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรถูกหยางเฟิงเอาไปแล้ว! เหลิงฉานก็ถูกหยางเฟิงฆ่าตายเช่นกัน! พวกเรามารวมพลังกันเพื่อแย่งชิงชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรเถอะ!”

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้คุมกฎสิบ

สีหน้าอันเย็นยะเยือกของหนิงชิงเฉิง ก็ไร้ซึ่งการแสดงอารมณ์!

หนิงชิงเฉิงรู้สึกเหนื่อยหน่าย

ในหัวใจของเธอไร้ข้อกังขาใดๆ

ในมุมมองของเธอ

ไม่ว่าจะเป็นเหลิงฉานหรือผู้คุมกฎสิบ พวกเขาก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นเศษฝุ่นใต้เท้าของหยางเฟิงด้วยซ้ำ

จะสามารถต่อกรกับหยางเฟิงได้อย่างไร

สวีโหย่วหรงที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้ากังวล

ชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรถูกหยางเฟิงเอาไปแล้ว

ถ้าไม่ลงมือตอนนี้

นั่นก็หมายความว่าการมาทำภารกิจครั้งนี้ล้มเหลว

เธอรีบก้าวไปข้างหน้าพลางพูดอย่างกังวลว่า “คุณหนู มาร่วมมือกับกุ่ยเหมินเพื่อแย่งชิงชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรด้วยกันเถอะ!”

เมื่อได้ยินดังนั้น หนิงชิงเฉิงหันมองด้วยสายตาอันเยือกเย็นพลางพูดว่า “ไสหัวไป!นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าควรจะพูด!”

ทันใดนั้น

สวีโหย่วหรงพลันรู้สึกสับสน

เธอกำหมัดแน่น ในใจโกรธแค้นดั่งไฟสุมอก

เธอถูกตำหนิโดยหนิงชิงเฉิงหลายครั้งติดต่อกัน

เป็นเพราะเจ้าหยางเฟิงนี่คนเดียว

นี่ทำให้เธอต้องเก็บเศษหน้าที่แตกของตนเองที่พื้น

อย่างไรก็ตามหนิงชิงเฉิงก็เป็นคุณหนูคนโตของตระกูลหนิง

เธอจึงไม่กล้าต่อต้านใดๆทั้งสิ้น

ทำได้เพียงเก็บไฟแห่งความโกรธาไว้ในใจ

เมื่อเห็นว่าหนิงชิงเฉิงไม่ขยับเขยื้อน ผู้พิทักษ์ทั้งสิบพูดเสียงดังว่า “คุณหนูใหญ่ มาร่วมมือกันเถอะ! ไม่เช่นนั้น หยางเฟิงจะใช้ประโยชน์จากมัน…”