บทที่ 1521 เขาวงกตดอกท้อ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1521 เขาวงกตดอกท้อ

แปลโดย iPAT

 

ตระกูลฟางเป็นมหาอำนาจของทะเลทรายตะวันตกมาอย่างยาวนาน พวกเขามีชื่อเสืองในด้านคฤหาสน์วิญญาณอมตะและมีมรดกบนเส้นทางแห่งปัญญาที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะเป็นท่าไม้ตายอมตะที่สร้างขึ้นจากวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีพลังอำนาจครอบคลุมทุกแง่มุม

 

ตระกูลฟางทำวิจัยคฤหาสน์วิญญาณและออกแบบพวกมัน พวกเขาจะไม่สามารถทำเรื่องเช่นนั้นได้หากปราศจากความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญา

 

อาจกล่าวได้ว่ามรดกบนเส้นทางแห่งปัญญาของตระกูลฟางน่าเหลือเชื่อมาก หลังจากพัฒนามาหลายชั่วอายุคน กระทั่งฟางหยวนที่ได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณยังสามารถเรียนรู้หลายสิ่งจากเหตุการณ์นี้

 

แน่นอนว่าผู้รับสืบทอดมรดกบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยอดเยี่ยมย่อมต้องมีความสามารถบางอย่าง

 

ในรุ่นปัจจุบันฟางตี้เฉิงเป็นผู้รับสืบทอดมรดกนี้และยังเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญาอีกด้วย

 

เขาไม่ได้พึ่งพาอาณาจักรแห่งความฝันเพื่อบรรลุระดับปรมาจารย์เอกแต่มันเกิดจากการทำงานหนักและการค้นคว้าทีละขั้นตอนของตัวเขาเอง

 

ตระกูลฟางมีผู้รับสืบทอดมรดกบนเส้นทางแห่งปัญญาในแต่ละรุ่น แต่ในช่วงพันปีที่ผ่านมา ฟางตี้เฉิงเป็นคนเดียวที่บรรลุระดับปรมาจารย์เอก

 

เพื่อบรรลุระดับนี้ คนผู้หนึ่งจำเป็นต้องมีพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ ทรัพยากรเพียงอย่างเดียวไม่สามารถผลิตตัวตนระดับนี้

 

ฟางตี้เฉิงและฟางหยวนเจรจากัน ทั้งสองต่อสู้ด้วยคำพูด มันเหมือนกับนักดาบสองคนต่อสู้กันอยู่ในพื้นที่ปิด

 

ฟางหยวนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบทีละน้อย มันเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก

 

‘สมกับเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญา น่าประทับใจ’ ฟางหยวนทำให้ฟางฮั่วเฉิงมึนงงแต่ฟางตี้เฉิงหลับสามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย

 

ฟางตี้เฉิงฉลาดหลักแหลมและมีความทรงจำที่ยอดเยี่ยม เขาสามารถคิดได้อย่างมีเหตุมีผล ฟางหยวนไม่สามารถทำให้เขาสับสน

 

นอกจากฟางหยวนจะเจรจากับฟางตี้เฉิงเกี่ยวกับผลประโยชน์ของตนเอง พวกเขายังวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันรวมถึงหารือเกี่ยวกับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และสถานการณ์ของตระกูลฟางกระทั่งความเป็นไปได้ทั้งหมดของทะเลทรายตะวันตกในเวลาเดียวกัน

 

สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำความเข้าใจได้ด้วยสมองของมนุษย์ทั่วไป พวกเขาจำเป็นต้องใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาและสร้างกลุ่มความคิดจำนวนนับไม่ถ้วนเพื่ออนุมานและโต้เถียง

 

ฟางหยุนและฟางเล้งมึนงงไปอย่างสมบูรณ์ พวกเขารู้สึกว่าฟางหยวนและฟางตี้เฉิงเป็นสัตว์ประหลาดที่น่าเหลือเชื่อ

 

สัตว์ประหลาดสองตัวนี้พูดออกมาโดยไม่ต้องใช้เวลาคิด คำพูดของพวกเขาแหลมคมราวกับดาบ การฟังบทสนทนาของพวกเขาทำให้ผู้ฟังรู้สึกราวกับเป็นคนโง่

 

‘ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปัญญาของข้าไม่เพียงพอ แม้ข้าจะมีวิญญาณอมตะ แต่ข้าพึ่งได้รับพวกมันมาไม่นานและพวกมันก็ไม่ใช่ชุดวิญญาณที่สมบูรณ์ เปรียบเทียบกับฝ่ายตรงข้าม รากฐานของข้ายังอ่อนแอเกินไป’

 

‘ในอนาคตหากข้าต้องต่อสู้กับตระกูลฟาง ข้าต้องฆ่าคนผู้นี้เป็นคนแรก!’

 

ในแง่ของเส้นทางแห่งปัญญา ฟางตี้เฉิงเหนือกว่าฟางหยวน แต่ฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปดที่เหนือกว่าฟางตี้เฉิงมาก

 

ฟางตี้เฉิงคิด ‘ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของคนผู้นี้ช่างน่าทึ่งนัก หากเขาเข้าร่วมกับตระกูลฟาง มันจะยอดเยี่ยมมาก!’

 

เขารู้สึกต้องการดึงบุคคลที่มีพรสวรรค์ผู้นี้เข้าสู่ตระกูลฟาง

 

แน่นอนว่านี่เป็นกรณีที่เขาไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของฟางหยวน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ฟางหยวนหัวเราะออกมาอย่างกะทันหัน

 

ผู้อมตะตระกูลฟางรู้สึกสับสนเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะดังกล่าว

 

ฟางหยวนป้องหมัดโค้งคำนับฟางตี้เฉิง “ข้าได้ยินชื่อเสียงของผู้อาวุโสมานานแล้ว ครั้งนี้ข้าได้เรียนรู้มากมายจริงๆ”

 

ทัศนคติที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของฟางหยวนทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ พวกเขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดฟางหยวนถึงริเริ่มใช้ถ้อยคำที่อ้อนน้อมมากขึ้น

 

“ก่อนหน้านี้ข้าสร้างปัญหาให้กับตระกูลของท่าน ตอนนี้เมื่อเห็นทักษะของท่านแล้ว ข้าจะทำเช่นนั้นต่อไปได้อย่างไร?” ฟางหยวนขอโทษแต่ยังแฝงความเย่อหยิ่งเอาไว้

 

‘โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว คนผู้นี้มีความภาคภูมิใจในตัวเอง เขาทดสอบข้า หลังจากเห็นความสามารถของข้า ในที่สุดเขาก็ยอมรับข้า เขาก็น่าประทับใจเช่นกัน’ ฟางตี้เฉิงรู้สึกประทับใจ ‘ด้วยบุคลิกและความสามารถระดับนี้ แต่เขากลับไม่ได้หยิ่งยโส เขาจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อตระกูลฟาง แต่ตอนนี้วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์สำคัญที่สุด เรื่องของเขาสามารถรอได้’

 

เนื่องจากฟางหยวนเลือกที่จะถอยหลังหนึ่งก้าว ทั้งสองฝ่ายจึงไม่จำเป็นต้องโต้เถียงกันอีก พวกเขาเริ่มสร้างข้อตกลงใหม่อย่างรวดเร็ว

 

ข้อตกลงพันธมิตรที่สร้างขึ้นในครั้งนี้เข้มงวดมาก มันไม่มีช่องโหว่ใดๆ กระทั่งฟางหยวนยังลอบขมวดคิ้ว เงื่อนไขทั้งหมดระบุไว้อย่างชัดเจน แม้เขาจะสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะชำระล้างตัวเองกำจัดมันออกไปได้ แต่มันก็ไม่ง่ายที่จะหลุดพ้นจากข้อจำกัดเหล่านี้

 

แน่นอนว่าตระกูลฟางถูกผูดมัดด้วยข้อตกลงที่เท่าเทียม

 

ตั้งแต่ข้อตกลงพันธมิตรถูกสร้างขึ้น ทั้งสองฝ่ายก็กลายเป็นคนใกล้ชิด ฟางหยุน ฟางเล้ง และคนอื่นๆมองฟางหยวนด้วยสายตาที่อบอุ่นมากขึ้น

 

“วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์มีความสำคัญมาก ได้รับความช่วยเหลือจากสหายซวนปู้จินถือเป็นพรของพวกเรา ข้าหวังว่าเจ้าจะไปที่อู่เรือพิพากษากับข้าเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้” ฟางตี้เฉิงเชิญ

 

ฟางหยวนลอบกลอกตา

 

ฟางตี้เฉิงผู้นี้ยังไม่ไว้ใจเขาหลังจากสร้างข้อตกลงพันธมิตรและต้องการให้ฟางหยวนอยู่ใกล้ๆ

 

ปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญาเป็นตัวตนที่รับมือได้ยากอย่างแท้จริง

 

แต่ความมั่นใจของฟางหยวนอยู่ที่พลังการต่อสู้ของเขา เขาไม่กลัวตระกูลฟาง ในความเป็นจริงเขาต้องการให้ตระกูลฟางโจมตีเขา ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถทำตามข้อตกลงพันธมิตรที่ว่าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งวางแผนต่อต้านอีกฝ่าย อีกฝ่ายจะสามารถตอบโต้โดยไม่ต้องคำนึงถึงข้อตกลงพันธมิตร

 

หลังจากจัดการเรื่องของฟางหยวน ฟางตี้เฉิงก็เริ่มซ่อมแซมหอดอกไม้ร่วงโรย

 

ครึ่งวันต่อมาผู้อมตะตระกูลฟางก็ร่วมมือกันซ่อมแซมหอดอกไม้ร่วงโรยได้อย่างสมบูรณ์

 

การซ่อมแซมคฤหาสน์วิญญาณที่ได้รับความเสียหายเป็นเรื่องยากแต่ตระกูลฟางเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้

 

ไม่นานหลังจากนั้นกำลังเสริมของตระกูลฟางก็มาถึง มีผู้อมตะระดับเจ็ดจำนวนสองคนและผู้อมตะระดับหกอีกหนึ่งคน

 

หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บของฟางอันเล่ยให้คงที่ นางถูกส่งกลับไปที่ฐานทัพใหญ่ของตระกูลฟางโดยฟางเฉินในสภาพหมดสติ

 

หนึ่งในสองกำลังเสริมระดับเจ็ดเข้าประจำการแทนฟางอันเล่ยเพื่อควบคุมหอดอกไม้ร่วงโรย

 

ด้วยวิธีนี้ตระกูลฟางก็มีผู้อมตะมากกว่าสิบคนอยู่ในทะเลทรายผีเขียวและครึ่งหนึ่งยังเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด! ท่ามกลางพวกเขามีผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองฟางตี้เฉิงและผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สามฟางฮั่วเฉิงที่มีชื่อเสียงในทะเลทรายตะวันตกรวมอยู่ด้วย

 

อาจกล่าวได้ว่าตระกูลฟางระดมกำลังรบส่วนใหญ่ของพวกเขาออกมาในภารกิจนี้ พวกเขาแสดงความปรารถนาที่มีต่อวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ออกมาอย่างชัดเจน

 

‘ตระกูลฟางนำผู้อมตะออกมามากมาย พวกเขาวางแผนมานานแล้ว พวกเขาอาจส่งกองกำลังอื่นไปปกป้องแหล่งทรัพยากรหรืออาจมีพันธมิตรลับ’

 

หากเกิดข้อผิดพลาด ตระกูลฟางอาจถูกต่อต้านโดยกองกำลังอื่นและประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ นี่เป็นความเสี่ยงที่พวกเขาต้องแบกรับ

 

‘แต่เพื่อคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ ความเสี่ยงนี้คุ้มค่า!’ ฟางหยวนพยักหน้าอยู่ในใจ เขาเห็นด้วยกับการกระทำนี้

 

หลังจากพักผ่อนชั่วครู่ คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังก็บินออกไปพร้อมกัน

 

ฟางหยวนยืนอยู่ข้างกายฟางตี้เฉิง

 

สิ่งที่ไม่คาดคิดคือฟางตี้เฉิงให้ฟางหยวนมีส่วนร่วมในการควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะอู่เรือพิพากษา

 

การให้สิทธิในการควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะก็เหมือนกับการเปิดเผยความลับของมันให้เขาฟัง

 

หากฟางหยวนสามารถเรียนรู้ความลึกซึ้งของอู่เรือพิพากษาได้ในช่วงเวลานี้ มันจะไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะจัดการมันในอนาคต

 

เมื่อเห็นการแสดงออกของฟางหยวน ฟางตี้เฉิงเผยรอยยิ้มพึงพอใจ “สหาย เจ้าสงสัยงั้นหรือว่าเหตุใดข้าถึงเชื่อใจเจ้ามากนัก? ฮ่าฮ่า ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราแม้เจ้าจะสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับอู่เรือพิพากษา ประการแรก เรามีข้อตกลงพันธมิตร ประการที่สอง บางสิ่งพูดง่ายในทางทฤษฎี ประการที่สาม การออกแบบอู่เรือพิพากษาของเราไม่เคยหยุดนิ่ง ความจริงก็คือพวกเราพัฒนาคฤหาสน์วิญญาณอมตะของเราตลอดเวลา’

 

ฟางหยวนถูกล่อลวง “ข้าได้เรียนรู้มากมายในวันนี้”

 

ฟางตี้เฉิงหัวเราะเสียงดัง “กล่าวถึงเรื่องนี้ข้าไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของเจ้า เจ้าบ่มเพาะอยู่ในทะเลทรายผีเขียวมาตลอดเลยงั้นหรือ?”

 

ฟางหยวนไม่ตกใจเมื่อถูกถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเตรียมรับมือไว้แล้ว เขาตอบได้อย่างเหมาะสม กระทั่งฟางตี้เฉิงก็ไม่รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ

 

ทั้งสองพูดคุยกันต่อไปขณะที่ผู้อมตะคนอื่นๆในอู่เรือพิพากษาให้ความสำคัญกับการควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้

 

‘ดูเหมือนฟางตี้เฉิงจะต้องการดึงข้าเข้าสู่ตระกูล’ ฟางหยวนรู้สึกขบขันอยู่ภายใน

 

แต่ภายนอกเขายังแสดงออกอย่างสงบนิ่ง

 

“เรามาถึงแล้ว” หลังจากบินมาได้ระยะหนึ่ง ฟางตี้เฉิงก็ออกคำสั่งให้คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังหยุดเคลื่อนไหว

 

ที่นี่ยังอยู่ในอาณาเขตของทะเลทรายผีเขียว แต่มันดูเหมือนทะเลทรายทั่วไปที่ไม่โดดเด่น

 

ฟางตี้เฉิงหรี่ตามอง “วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ถูกซ่อนไว้ลึกลงไปใต้ดิน จัดตั้งเขตแดน!”

 

ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะเขาวงกตดอกท้อ!

 

ทันใดนั้นต้นไม้จำนวนมากก็เติบโตขึ้นในรัศมีหนึ่งพันลี้

 

‘ยอดเยี่ยม!’ หัวใจของฟางหยวนสั่นคลอนเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้

 

นี่เป็นท่าไม้ตายเขตแดนอมตะที่สามารถดักจับแม้กระทั่งผู้อมตะระดับแปด มันน่าประทับใจมาก

 

ท้ายที่สุดสิ่งนี้ก็เกิดขึ้นด้วยการรวมพลังของคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดสามหลัง

 

“โอ้ พวกเขาอยู่ที่นี่งั้นหรือ?” ลึกลงไปใต้ดิน หัวใจของเฉินอี้เต้นแรงขึ้น

 

ตอนนี้เขาแทรกซึมเข้าไปในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์แล้ว!