สถานะปกติ
านะปกติ
ทันทีที่ซือเฟิงพูดจบ ความเงียบก็เข้าปกคลุมไปทั่วบริเวณ

ยั่วยุ !!

นี่มันเป็นการยั่วยุอย่างโจ่งแจ้ง !!

“ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นบ้าแน่ๆ !! เขาตั้งใจจะเป็นศัตรูกับหัวใจปีศาจจริงๆ !!”

“นี่เขากล้าตบหน้าหัวใจปีศาจแบบนี้เลยงั้นหรอ ?!!”

“ตอนนี้เขาได้ตายแน่ !! แม้ว่าหัวใจปีศาจจะต้องการปล่อยเขาออกจากเบ็ด แต่กบฎสายฟ้าจะไม่ปล่อยให้เขาหนีไปจากสิ่งนี้ได้แน่นอน !!!”

ผู้เล่นปีศาจที่เฝ้าชมอยู่ต่างรู้สึกตกตะลึง และแทบพูดไม่ออกกับพฤติกรรมไม่ยอมใครของซือเฟิง พวกเขาไม่คิดเลยว่าซือเฟิงจะตอบสนองแบบนี้

ในความเห็นของพวกเขาการที่ซือเฟิงและทีมของเขาสามารถมาถึงประตูทางเข้าหลักของเมืองปีศาจได้ มันก็นับว่าเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งมากๆ ในความเป็นจริงความสำเร็จของพวกเขาก็ได้ทำลายศักศรีดิ์ของหัวใจปีศาจลงไปอย่างมาก และหลังจากทำสิ่งนี้ได้สำเร็จ ซือเฟิงควรถอยกลับอย่างชาญฉลาดแทนที่จะผลักดันสถานการณ์ต่อไป เพราะท้ายที่สุดหัวใจปีศาจนั้นแข็งแกร่งกว่าทีมนักผจญภัยสามอันดับแรกอย่างมาก และแม้แต่มหาอำนาจต่างๆในจักรวรรดินักบุญทั้งสิบก็ยังไม่กล้าจะยั่วยุพวกเขา

ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นไปไม่ได้เลยที่ซือเฟิงจะบรรลุเป้าหมายในการฆ่าโทรเบิ้ลไทม์ในเมืองปีศาจ แม้ว่าเมืองปีศาจอาจดูเหมือนเมืองที่ผู้เล่นสร้างขึ้นก็จริง แต่ในความเป็นจริงบางส่วนของเมืองนี้ก็ยังเป็นของ NPC เมืองนี้นั้นไม่เพียงแต่จะได้รับการปกป้องจากผู้เล่นเท่านั้น แต่มันยังรวมถึง NPC อย่างพวกปีศาจผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมาก ซึ่งนี่รวมไปถึงปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ที่ชื่อว่าโมนาร์ชด้วย โดยปีศาจตัวนี้นั้นอยู่ในระดับมาร์
ควิสอย่างแท้จริง และเป็นหนึ่งในเจ็ดสิบสองปีศาจระดับมาร์ควิสของ God domain ซึ่งอยู่ระดับต่ำกว่าดยุคเพียงระดับเดียว ซึ่งมันไม่ใช่ตัวตนที่ผู้เล่นในปัจจุบันนั้นหวังจะต่อสู้ได้เลย และด้วยมีโมนาร์ชคอยปกป้องเมืองปีศาจนั้นการบุกเข้าไปในเมือง และฆ่าโทรเบิ้ลไทม์จะเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
ในขณะเดียวกันหลังจากกบฎสายฟ้าได้ยินคำพูดของซือเฟิง ใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียดทันที

“หัวหน้ากิลแบล๊คเฟรม ดูเหมือนว่าคุณตั้งใจที่จะท้าทายขีดจำกัดของหัวใจปีศาจสินะ !!!” กบฎสายฟ้าคำรามขณะจ้องมองไปยังซือเฟิง “เนื่องจากคุณต้องการจะต่อสู้ ฉันก็จะทำตามความปรารถนาของคุณ !!!”

ทันใดนั้นพลังแห่งความมืดที่หนาแน่นก็ไหลออกมาจากร่างของกบฎสายฟ้า และร่างกายของเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเขาไม่เพียงแต่จะมีขนาดตัวเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แต่รูปแบบปีศาจสีดำสนิทยังปรากฎขึ้นทั่วร่างกายของเขา ในเวลาเดียวกันออร่าที่เขาแผ่ออกมานั้มันก็รุนแรงและแข็งแกร่งขึ้นมากจนแม้กระทั่งผู้เล่นปีศาจที่เฝ้าดูอยู่บางส่วนก็ยังต้องตกตะลึง

“น่าทึ่งมากๆ !!! นี่คือความแข็งแกร่งของปีศาจระดับเค้าท์งั้นหรอ ?!!”

“พลังแห่งความมืดที่เขาแผ่อออกมานั้นมันหนาแน่นมากๆ !!! มันหนาแน่นกว่า NPC ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่บางคนในเมืองซะอีก !!! นี่สกิลปีศาจของเขาจะทรงพลังมากขนาดไหนกันด้วยพลังแห่งความมืดที่แข็งแกร่งมากขนาดนี้ ?”

“แบล๊คเฟรมจบสิ้นแล้ว !!!”

ผู้เล่นปีศาจที่ชมอยู่ต่างอุทานด้วยความประหลาดใจและตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงของกบฎสายฟ้า แม้ว่าพวกเขาจะรู้มานานแล้วว่ากิลหลักทั้งสองกิลของเมืองปีศาจนั้นมีผู้เล่นปีศาจระดับเค้าท์ แต่พวกเขาก็ไม่เคยเห็นผู้เล่นปีศาจระดับเค้าท์แสดงพลังจริงๆออกมา พวกเขานั้นรู้เพียงว่าระดับเค้าท์เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของผู้เล่นปีศาจ และผู้เล่นนั้นไม่สามารถจะเข้าถึงได้เลยหากปราศจากความแข็งแกร่งและทรัพยากรที่น่ากลัว

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไปที่กบฎสายฟ้าในตอนนี้ แทนที่จะเรียกระดับเค้าท์ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ มันควรเรียกว่าการก้าวกระโดดมากกว่า

ในขณะนี้ แม้จะใช้เพียงแค่สกิลตรวจสอบทั่วไป แต่คนๆหนึ่งก็จะสามารถรู้ได้แน่นอนว่ากบฎสายฟ้านั้นก้าวข้ามขอบเขตธรรมดาไปแล้ว และไม่เพียงแต่ HP ในปัจจุบันของเขาจะสูงถึงหกล้าน ขณะที่ก่อนหน้านี้ HP ของเขามีมากกว่าหนึ่งล้านเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และนอกเหนือจาก HP แล้ว มันก็ชัดเจนว่ากบฎสายฟ้านั้นได้รับการเพิ่มพลังป้องกัน ค่าสถานะพื้นฐาน รวมไปถึงร่างกายทางกายภาพหลังจากการกลายร่างเป็นปีศาจ

หลังจากกบฎสายฟ้ากลายร่างเป็นปีศาจแล้ว รีเกรทฟูชลวินด์และผู้ชมคนอื่นๆในบาร์ใกล้ทางเข้าหลักของเมืองปีศาจก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง

“แน่นอนว่าปีศาจระดับเค้าท์นั้นน่ากลัวจริงๆ !!! ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมทั้งสองกิลถึงเก็บข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับปีศาจระดับนี้ไว้เป็นความลับตลอดเวลา !!” เฮ้ลเลสสไมล์มองไปที่กบฎสายฟ้าด้วยความอิจฉา ซึ่งตอนนี้ชายคนนี้นั้นมีพลังเทียบเท่ากับปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสี่แล้วในแง่ของความแข็งแกร่ง “ตอนนี้ไม่เพียงแต่กบฎสายฟ้าจะกลายร่างเป็นปีศาจระดับเค้าท์ แต่เขายังใช้ Cruel Darkness ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบหกอาวุธเวทย์มนต์ที่ทรงพลังที่สุดของเผ่าปีศาจด้วย แถมเขายังมีบัฟจากเมืองปีศาจที่ผู้เล่นปีศาจทุกคนจะต้องได้รับ ซึ่งเมื่อรวมทั้งหมดนี้ ฉันคิดว่านอกสามคนนั้นแล้วก็จะไม่มีใครในเมืองปีศาจที่สามารถเทียบกับเขาได้แน่นอน”

กบฎสายฟ้านั้นเดิมเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดที่ทำงานให้กับซุเปอร์กิล อย่างไรก็ตามหลังจากเข้าสู่ God domain แล้ว หัวใจปีศาจก็ได้ทำการส่งข้อเสนอที่น่ายั่วยวนมากมาให้เขา และด้วยความช่วยเหลือของ Cruel Darkness อาวุธเวทย์มนต์ที่หัวใจปีศาจได้รับมา มันจึงทำให้กบฎสายฟ้านั้นแข็งแกร่งขึ้นมากจนแทบจะเป็นอมตะในหมู่ผู้เล่นขั้นเดียวกัน ในความเป็นจริง ในระหว่างสงครามกับ Battle Wolves ครั้งที่แล้ว กบฎสายฟ้าคนเดียวก็ได้ต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับสัตว์ประหลาดถึงสามคน และในตอนนั้นเขายังเป็นเพียงปีศาจระดับวิสเค้าท์ด้วยซ้ำ

ตอนนี้กบฎสายฟ้าได้รับการเลื่อนขั้นให้เป็นปีศาจระดับเค้าท์ ดังนั้นเฮ้ลเลสสไมล์จึงแทบจะจินตนาการไม่ออกเลยว่าเขาจะทรงพลังมากขนาดไหน

“กบฎสายฟ้าจะไม่ได้มีช่วงเวลาที่ง่ายแน่นอนในการจัดการแบล๊คเฟรม เพราะท้ายที่สุดแบล๊คเฟรมได้ปราบปรามพอยซั่นฮาร์ทในร่างของปีศาจผู้ยิ่งใหญ่มาแล้ว …” รีเกรทฟูลวินด์กล่าว ขณะที่มองไปยังร่างปีศาจของกบฎสายฟ้า “ฉันเชื่อว่ามันจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากด้วย”

รีเกรทฟูลวินด์นั้นได้สัมผัสกับความน่ากลัวของซือเฟิงมาเป็นการส่วนตัวแล้ว แม้ว่ากบฎสายฟ้าจะทรงพลัง แต่ Elementalist ก็ไม่คิดว่าเขาจะสามารถเอาชนะซือเฟิงได้อย่างง่ายดาย

เฟรมเฟเธอร์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของรีเกรทฟูลวินด์

ก่อนหน้านี้ซือเิฟงก็ทำราวกับว่าตัวตนของหัวใจปีศาจนั้นไม่ได้มีส่วนสำคัญอะไรกับเขาเลย แถมเอาจริงๆต้องยอมรับว่านักดาบนั้นมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะทำแบบนี้ได้

ในขณะที่รีเกรทฟูลวินด์และคนอื่นๆกำลังพูดคุยกันเรื่องกบฎสายฟ้า คนที่ถูกพูดถึงก็ชักดาบใหญ่สีดำสนิทออกมาจากฝักด้านหลังที่เขาสะพายอยู่ และเหวี่ยงไปที่ซือเฟิง

ซึ่งทันทีที่กบฎสายฟ้าทำแบบนี้นั้น พลังแห่งความมืดของเขาก็ถูกแผ่ออกมาจากร่างกายเพิ่มขึ้นและมันเข้าไปช่วยเพิ่มพลังและระยะการโจมตีให้กับดาบของเขาเป็นสองเท่า และตอนนี้นั้นการโจมตีนี้ของเขามันก็ทรงพลังมาซะจนสามารถตัดผ่านทำให้เกิดรอยแยกมิติสีดำสนิทในทุกๆที่ที่มันผ่าน

ในการตอบสนอง ซือเฟิงได้ทำการใช้ไลท์ชาโด้วทันที

ตู้ม !!

ทันทีที่การโจมตีของทั้งสองปะทะกัน ผลกระทบที่น่ากลัวก็ทำให้พื้นดินใต้ฝ่าเท้าของผู้เล่นทั้งสองนั้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และเสียงของการปะทะกันครั้งนี้ก็ดังก้องไปทั่วเมืองปีศาจ

ในช่วงเวลาต่อมา ซือเฟิงก็ถูกบังคับให้ต้องถอยมาครึ่งก้าว และ HP ของเขาก็ลดลงไปเพียงไม่กี่พัน สำหรับซือเฟิงผู้ที่มี HP มากกว่าหนึ่งล้านนั้น ความเสียหายนี้จัดว่าไม่สำคัญเลย

“เป็นไปไม่ได้ !!! หมอนั่นพ่ายแพ้เพียงแค่เล็กน้อยหลังจากได้รับพลังโจมตีเต็มที่ของรองผู้บัญชาการเนี่ยนะ ?!!!”

เมื่อเห็นผลลัพธ์นี้ทั้งผู้เล่นปีศาจ และสมาชิกของหัวใจปีศาจก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง นี่เป็นเรื่องจริงอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับสมาชิกของหัวใจปีศาจ ซึ่งดวงตาของพวกเขานั้นแทบจะถลนออกจากเบ้าเมื่อได้เห็นฉากนี้

ขณะที่พวกเขาเฝ้าดูกบฎสายฟ้าเข้าปะทะกับซือเฟิง พวกเขาได้พิจารณาถึงวิธีการบางอย่างที่อาจทำให้นักดาบต่อต้านการโจมตีของกบฎสายฟ้าได้ ตัวอย่างเช่น บางทีซือเฟิงอาจจะใช้เครื่องมือพิเศษ หรือสกิลช่วยชีวิต อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่นึกเลยว่าซือเฟิงจะเลือกรับการโจมตีที่เข้ามาตรงๆ และแม้กระทั่งสามารถป้องกันมันได้อย่างง่ายดาย

ในขณะนี้เองนับประสาอะไรกับคนอื่นๆ แม้แต่กบฎสายฟ้าเองก็ยังตกตะลึงกับผลลัพธ์นี้

เกิดอะไรขึ้นกัน ?

ก่อนที่เขาจะมาถึงระดับเค้าท์นั้น ด้วยพลังของ Cruel Darkness มันก็ทำให้เขาอยู่ยงคงกระพันในหมู่ผู้เล่นขั้นเดียวกันแล้ว แต่ตอนนี้ถึงแม้เขาจะกลายร่างเป็นปีศาจระดับเค้าท์แล้ว แต่เขาก็ยังแข็งแกร่งกว่าซือเฟิงเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

อย่างไรก็ตามกบฎสายฟ้าก็รีบสลัดความคิดหลายอย่างที่ปั่นป่วนใจเขาออกไป

“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้แค่ปากดีสินะ !!!” กบฎสายฟ้ากล่าวยกย่อง “แต่คุณสามารถป้องกันการโจมตีของฉันได้แล้วยังไงล่ะ ? คุณก็จะยังคงแพ้อยู่ดี หากคุณเป็นแค่เพียงฝ่ายตั้งรับเท่านั้น !!!”

อย่างไรก็ตามทันทีที่กบฎสายฟ้าพูดจบ ซือเฟิงก็ได้ทำการเก็บคิลลิงเรย์ของเขาเข้าฝัก

“ตามความคาดหวังจากผู้เชี่ยวชาญปีศาจที่ไปถึงระดับเค้าท์ได้ ความแข็งแกร่งของคุณนั้นมันเหนือกว่ามอนสเตอร์ระดับเทพนิยายทั่วไป ไปในระดับหนึ่งแล้วสินะ …” ซือเฟิงกล่าวขณะที่เขามองไปยังกบฎสายฟ้า “ดูเหมือนว่าฉันจะไม่สามารถเทียบกับผู้เล่นปีศาจอย่างคุณได้จริงๆ เมื่อคุณอยู่บ้านของตัวเอง และฉันก็อยู่ในสถานะปกติของฉัน”

“สถานะปกติ ?” กบฎสายฟ้าหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินคำพูดของซือเฟิง “คุณคิดว่าคุณจะสามารถกลายร่างเป็นปีศาจได้ด้วยงั้นหรอ ?”

ขณะที่อยู่ในดินแดนปีศาจ ผู้เล่นมนุษย์จะไม่สามารถใช้สกิลเบอเซิกร์ได้ แน่นอนว่าผู้เล่นปีศาจก็ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับกฎนี้ อย่างไรก็ตามผู้เล่นปีศาจนั้นสามารถจะกลายร่างเป็นปีศาจเพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของตัวเองได้ นี่คือสาเหตุที่มหาอำนาจต่างๆของจักรวรรดินักบุญทั้งสิบนั้นไม่สามารถจะทำอะไรกับเมืองปีศาจได้ และมีเพียง Battle Wolves เท่านั้นที่ดื้อรั้นมากพอจะทำสงครามกับเมืองปีศาจ

“ฉันทำไม่ได้” ซือเฟิงพูดพลางหัวเราะเบาๆ ขณะที่เขามองไปยังกบฎสายฟ้า “อย่างไรก็ตาม doppelganger ของฉันสามารถจะทำได้”

หลัวจากพูดจบ ซือเฟิงก็ดึงดาบสีดำสนิทออกมาจากฝักที่เขาสะพายอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของเอว