บทที่ 994 ศัตรูที่แท้จริงปรากฏ

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

ตุ้บ..ตุ้บ..
  ปืนทั้งสองกระบอกในมือของถังเมิ่งถึงกับร่วงหล่นลงพื้นพร้อมๆกันแต่เขาเองกลับยังไม่รู้ตัว เพราะดวงตายังคงเบิกโพลง และยืนนิ่งราวกับร่างไร้วิญญาณ!
  เกาเฉินเฉินเสี่ยวเม่ยหนิง และคนอื่นๆที่อยู่ในค่ายกลลวงตานั้น ต่างก็มีสีหน้าท่าทางไม่ต่างจากถังเมิ่งเช่นกัน ทุกคนต่างก็กำลังตกใจกับภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า!
  หวังเฟยฮู๋กับลูกน้องยิ่งตกใจมากกว่าทั้งสามคนจ้องมองไป๋เซียนเอ๋อที่อยู่ตรงหน้าห่างไปไม่ไกลนัก และแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง ราวกับว่ากำลังพบเจอมนุษย์ต่างดาว!
  ค่ายกลลวงตาที่ไป๋เซียนเอ๋อสร้างขึ้นนั้นไม่เพียงทำให้ผู้ที่อยู่ด้านนอกไม่สามารถมองเห็นผู้คนที่อยู่ด้านในได้เท่านั้น แต่ยังไม่สามารถได้ยินเสียงของผู้ที่อยู่ภายในค่ายกลอีกด้วย ในขณะเดียวกันผู้ที่อยู่ภายในค่ายกลจะสามารถมองเห็น และได้ยินทุกอย่างที่อยู่ด้านนอกได้ตามปกติ
  เวลานี้ลูกไฟขนาดหนึ่งเมตรในมือของไป๋เซียเอ๋อนั้นได้ลุกโชนจนทำให้บ้านเลขที่-1 สว่างไสวไปทั่วทั้งบริเวณ และทุกคนต่างก็เห็นภาพที่น่าอัศจรรย์นี้ได้อย่างชัดเจนกันถ้วนหน้า..
  “มิน่าล่ะ..พี่หยุนถึงได้มั่นอกมั่นใจนักที่จะให้เซียนเอ๋ออยู่คุ้มครองทุกคนที่นี่ เพราะเซียนเอ๋อ.. เซียนเอ๋อช่างเก่งกล้าสามารถจริงๆ!”
  หลังจากอยู่ในอาการตกตะลึงเป็นนานสองนานถังเมิ่งก็พึมพำออกมาด้วยสีหน้าที่ยังคงช็อคอยู่ และไม่สนใจกับปืนสองกระบอกที่ร่วงหล่นลงพื้นเลยแม้แต่น้อย
  ในเมื่อเวลานี้มีลูกไฟที่ใหญ่ถึงหนึ่งเมตรและมีอานุภาพทำลายล้างรุนแรงถึงเพียงนี้แล้ว ถังเมิ่งยังจะต้องสนใจปืนสั้นสองกระบอกไปอีกทำไมเล่า
  “พระเจ้า!นี่เซียนเอ๋อ..”
  เสี่ยวเม่ยหนิงถึงกับร้องอุทานออกมาอย่างตกใจเช่นกัน!ความจริงเธอเองก็รู้อยู่แก่ใจแล้วว่าไป๋เซียนเอ๋อนั้นค่อนข้างมีอะไรหลายอย่างที่เหนือมนุษย์ เพราะนางคือสุนัขจิ้งจอกเก้าหางที่กลายร่าง แต่เสี่ยวเม่ยหนิงคิดไม่ถึงว่าไป๋เซียนเอ๋อจะมีพลังมากมายถึงเพียงนี้!
  ชายหญิงทั้งแปดคนซึ่งอยู่ในค่ายกลลวงตานั้นทุกคนต่างก็เคยรู้สึกทึ่ง และอัศจรรย์ใจอย่างมากกับความสามารถที่เหลือเชื่อของหลิงหยุนมาแล้ว แต่เมื่อทุกคนได้เห็นไป๋เซียนเอ๋อเวลานี้ ทุกคนก็ได้แต่ตกตะลึงกันถ้วนหน้า!
  ขนาดคนใกล้ชิดทั้งแปดคนยังตกตะลึงถึงเพียงนั้นจึงแทบไม่ต้องพูดถึงหวังเฟยฮู๋กับลูกน้องของเขาเลย พวกเขาทั้งสามคนไม่เพียงแค่ตกใจเท่านั้น แต่หลังจากที่หายตกใจ ก็เริ่มหวาดกลัวอย่างที่สุด!
  หวังเฟยฮู๋และลูกน้องได้แต่แอบคิดว่าหากตอนนั้นพวกเขาทั้งสามคนไม่ยอมแพ้หลิงหยุน และต้องการหาโอกาสที่จะหนี หรือว่าเอาคืนแล้วล่ะก็.. เพียงแค่นึกถึงผลร้ายที่จะเกิดขึ้น ทั้งสามคนก็ถึงกับขนพองสยองเก้า!
  และด้วยภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าเวลานี้หวังเฟยฮู๋และลูกน้องต่างก็สาบานตนว่า พวกเขาจะติดตามหลิงหยุน และเชื่อฟังคำสั่งของหลิงหยุนไปตลอด ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ พวกเขาก็ยินดีที่จะทำตาม..
  ทางด้านเหลิ่งหยางชูและเฉี่วยหยิงกงนั้น เวลานี้ทั้งคู่ได้แต่ยืนหลังชนฝาอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง ทั้งสองคนได้แต่หันไปมองหน้ากัน และต่างก็เห็นแววตาตื่นตระหนก และหวาดกลัวในดวงตาของกันและกัน!
  สวรรค์!นี่พวกเขาทั้งคู่พาศิษย์ในสำนักมากมายมาตายอย่างไร้ค่าอยู่ที่บ้านหลังนี้ แม้พวกเขาจะสามารถทำลายค่ายกลสังหารนั่นได้ แต่ก็ไม่สามารถจัดการกับสาวน้อยที่น่ากลัวคนนี้ได้!
  หากพวกเขารู้ว่าบ้านหลังนี้มียอดฝีมือเช่นไป๋เซียนเอ๋ออยู่ด้วยแล้วล่ะก็ต่อให้เป็นประคำโลหิต เงินหนึ่งพันล้านหยวน หรือแม้แต่คำสั่งของโอรสพรรคมาร หรือต่อให้เอาทองเท่าภูเขามากองตรงหน้า พวกเขาก็จะไม่มีวันยอมเอาชีวิตของตนเอง และศิษย์ในสำนักมาทิ้งเช่นนี้อย่างเด็ดขาด!
  และจากการประมือกับไป๋เซียนเอ๋อเมื่อครู่นี้พวกเขาทั้งคู่ก็ได้ประจักษ์ชัดแก่ใจแล้วว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าไป๋เซียนเอ๋อนั้น พวกเขาทั้งสองคนก็ไม่ต่างจากเด็กที่เพิ่งเริ่มฝึกวรยุทธ และกำลังเล่นเป็นหนูให้แมวอย่างไป๋เซียนเอ๋อไล่จับเล่น..
  เมื่อเพิ่งจะมาเข้าใจทุกอย่างได้ในเวลานี้เหงื่อเม็ดโตก็ผุดขึ้นเต็มตัวของคนทั้งคู่ พร้อมกับรู้สึกเย็นวาบที่แผ่นหลัง และแทบไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว พวกเขาทั้งสองกำลังมองหาโอกาสที่จะหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด!
  ความแข็งแกร่งและพลังเหนือธรรมชาติที่ไป๋เซียนเอ๋อแสดงออกมานั้น ทำให้ยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-8 ทั้งสองคนถึงกับท้อแท้สิ้นหวัง และคล้ายกับว่าวิญญาณจะออกจากร่าง..
  “นั่น..นั่นมันพลังเหนือธรรมชาติ!”.novel-lucky.
  ท่านจินซึ่งเป็นหนึ่งในราชันย์นักฆ่าในช่วงวินาทีแห่งความเป็นความตายนั้น เขารีบรวบรวมลมปราณทั้งหมดป้องกันร่างกายไว้ และใช้วิชาตัวเบาหลบหลีกลูกไฟในมือของไป๋เซียนเอ๋อได้อย่างทุลักทุเล..
  แต่ถึงแม้จะเดินลมปราณปกป้องไว้แล้ว..ท่านจินก็ยังได้รับบาดเจ็บจากลูกไฟของไป๋เซียนเอ๋ออยู่ดี แผ่นหลังของเขาถูกไฟเผาจนมีเลือดไหลออกมา แต่นี่นับว่าเขาหลบได้อย่างรวดเร็วที่สุดแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้เช่นกัน!
  ท่านจินสามารถเอาชีวิตรอดมาได้แต่ก็เริ่มรู้สึกหวาดกลัว และเวลานี้ตัวเขาเองก็ได้กระโดดถอยห่างจากไป๋เซียนเอ๋อไปราวแปดเมตร ดวงตาที่เคยเป็นประกายเมื่อครู่นี้กลับหม่นหมองลงทันที พร้อมกับจับจ้องอยู่ที่ดาบไฟในมือของไป๋เซียนเอ๋ออย่างระแวดระวัง แต่ในใจนั้นก็เตรียมพร้อมที่จะหนีเช่นกัน!
  ยอดฝีมือที่มีพลังเหนือธรรมชาติเช่นนี้อย่างน้อยๆ ก็ต้องอยู่ในระดับที่หนึ่งของขั้นเซียงเทียน-9 นี่จึงไม่ใช่บุคคลที่ยอดฝีมือระดับกลางขั้นเซียงเทียน-8 อย่างเขาจะได้พบเจอง่ายๆ
  ราชันย์นักฆ่าอีกแปดคนก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกันและเวลานี้พวกเขาทั้งหมดต่างก็หวาดผวา และพยายามที่จะหลบหนีเอาชีวิตรอด ทุกคนต่างก็วิ่งลนลานอยู่ภายในสนามบ้าน ในแววตาของพวกเขานั้นมีทั้งความตระหนกตกใจ สิ้นหวัง และสูญสิ้นจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ไป
  เวลานี้นักฆ่าระดับสวรรค์ทั้งยี่สิบสี่คนที่ท่านจินพามานั้นก็ได้ถูกไป๋เซียนเอ๋อสังหารตายในพริบตา ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็ยากที่จะช่วยออกไปได้ เวลานี้ท่านจินจึงไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก..
  ………
  บนเนินเขาด้านหลังบ้านของหลิงหยุน..
  โอรสพรรคมาร– ซือกงวู่จี๋ซึ่งอยู่ในชุดขาว ยังคงยืนเอามือไขว้หลังพร้อมกับจ้องมองมาทางแสงสว่างโชติช่วง และจับตาดูการต่อสู้อย่างไม่ให้คลาดสายตา หลังจากที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด สีหน้าของเขาก็เริ่มตื่นเต้น..
  “นางช่างมีพลังอย่างน่าเหลือเชื่อเป็นไปได้อย่างไรกัน?”
  ซือกงวู่จี๋นั้นเป็นถึงโอรสพรรคมารเขาไม่เคยที่จะทำอะไรเล่นๆ หากจะลงมือทำอะไรสักอย่าง เขาจะต้องเตรียมการมาอย่างดี ไม่เช่นนั้นการที่จะมายึดบ้านเล็กๆหลังหนึ่งเช่นนี้ เขาก็คงไม่ต้องพายอดฝีมือมามากมายถึงเพียงนี้แน่!
  ยอดฝีมือสำนักแดนใต้สามสิบหกคนสำนักโลหิตมารสามสิบสามคน มือสังหารขององค์กรนักฆ่าอีกสามสิบสองคน และยังมีเหลิ่งหยางชู และเฉี่วยหยิงกงอีกสองคน หนำซ้ำยังมีคนของตนเองอีกหนึ่งคน และท่านจินนี้นับว่าเป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจผู้หนึ่ง!
  แต่เวลานี้..ยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-8 ถึงสามคน กลับไม่สามารถรับมือกับเด็กสาวอัศจรรย์ผู้นี้ได้!
  ซือกงวู่จี๋เองก็ไม่คาดคิดมาก่อนแม้เขาเองจะคาดเดาไว้แล้วว่าหลิงหยุนซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของเขานั้น จะต้องตระเตรียมยอดฝีมือไว้ปกป้องดูแลบ้านหลังนี้ในขณะที่ตนเองไม่อยู่..
  แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือว่าแม้แต่เขาเองยังประเมินหลิงหยุนต่ำไป และประเมินคนในครอบครัวของหลิงหยุนต่ำไปด้วยเช่นกัน!
  เพราะปรากฏว่าไป๋เซียนเอ๋อกลับกลายเป็นยอดฝีมือที่ล้ำเลิศอย่างที่ซือกงวู่จี๋เองก็คิดไม่ถึงและไม่ได้เตรียมการป้องกันมา..
  “เจ้าพวกโง่!ช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี ยืนนิ่งอยู่ทำไมกัน เหตุใดจึงไม่จับใครสักคนมาเป็นตัวประกันเล่า?”
  ซือกงวู่จี๋ได้ทำการหาสืบหาข้อมูลมาก่อนแล้วเขาจึงรู้ว่าทุกคนในบ้านหลังนี้ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญกับหลิงหยุนทั้งสิ้น หากสามารถจับใครได้คนใดคนหนึ่งได้ คนที่เหลือก็จะต้องยอมจำนนทันที และจะไม่มีใครกล้าต่อกรอีก จากนั้นเขาก็จะมีเครื่องมือสำหรับต่อรองกับหลิงหยุน!
  เพียงแค่ซือกงวู่จี๋สามารถจับใครคนใดคนหนึ่งในบ้านเป็นตัวประกันได้การได้ครอบครองกระบี่โลหิตแดนใต้ก็คงอยู่แค่ปลายนิ้ว หรือต่อให้เขาเรียกร้องมากกว่านั้น หลิงหยุนก็ต้องยอมตกลงอย่างแน่นอน และนี่คือเหตุผลที่ซือกงวู่จี๋พายอดฝีมือมาบุกบ้านหลังนี้อย่างมากมาย!
  แต่ซือกงวู่จี๋ก็ต้องโมโหกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นแน่นอนว่าเวลานี้ซือกงวู่จี๋เองก็ไม่รู้ว่าไป๋เซียนเอ๋อได้ใช้พลังจิตสร้างค่ายกลลวงตาขึ้นมา ทำให้ราชันย์นักฆ่าทั้งแปดคน ต่างก็ไม่มีใครมองเห็นว่าคนในครอบครัวของหลิงหยุนทั้งแปดคนนั้น เวลานี้อยู่ที่ใหน.ไอลีนโนเวล.
  แต่ถึงแม้ไป๋เซียนเอ๋อจะมีพลังจิตที่แก่กล้าแต่พลังจิตนั้นก็ขอบเขตที่จำกัด!
  พลังจิตของไป๋เซียนเอ๋อจึงมีผลกับคนที่อยู่ภายในบ้านเท่านั้นหากอยู่ไกลออกไปก็จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ดังนั้นโอรสพรรคมารซึ่งยืนดูเหตุการณ์อยู่บนเนินเขา จึงรู้สึกหงุดหงิดที่ราชันย์นักฆ่าทั้งแปดเอาแต่ยืนนิ่งไม่จับตัวคนทั้งแปดเป็นประกัน..
  ซือกงวู่จี๋จึงหงุดหงิดที่นักฆ่าภายใต้การบัญชาการของเขานั้นกลับไม่ทำตามแผนการที่เขาวางไว้ และดูไม่เหมือนนักฆ่ามืออาชีพ!
  “ดาบเพลิงงั้นรึ..นี่เจ้าใช้พลังเหนือธรรมชาติได้ด้วยหรือนี่ ดูท่าข้าคงจะต้องลงมือด้วยตัวเองแล้ว..”
  ซือกงวู่จี๋โกรธมาก..เขาประเมินว่าไป๋เซียนเอ๋อน่าจะอยู่ในขั้นเซียงเทียน-9 จึงสามารถใช้พลังเหนือธรรมชาติได้เช่นนี้ และด้วยฝีมือระดับนี้ คนของเขาก็คงไม่สามารถรับมือได้อย่างแน่นอน!
  ซือกงวู่จี๋คำนวนดูแล้วว่า..เขาคงต้องลงไปจัดการด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นไป๋เซียนเอ๋อคงต้องสังหารคนของเขาตายหมดอย่างแน่นอน! และหากราชันย์นักฆ่าทั้งเก้าถูกสังหารตาย เขาคงจะรู้สึกเสียดายอย่างมาก..
  คนของสำนักแดนใต้สำนักโลหิตมาร หรือแม้แต่นักฆ่าระดับสวรรค์ตายไป ซือกงวู่จี๋ยังไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย แต่สำหรับราชันย์นักฆ่าทั้งเก้าคนนี้ หากถูกไป๋เซียนเอ๋อสังหารตายราวกับผักปลาเช่นนี้ เขาก็คงรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย อีกทั้งราชันย์นักฆ่าทั้งเก้าคนนี้ ก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-7 ขึ้นไป..
  ซือกงวู่จี๋แสยะยิ้มพร้อมกับจ้องมองไปยังป่าลึกไกลๆ ก่อนจะเอามือไขว้หลังแล้วกระโดดออกไปโดยที่เท้าไม่สัมผัสพื้นดินเลยแม้แต่น้อย และเพียงแค่สามครั้ง ร่างสูงใหญ่ของซือกงวู่จี๋ก็ไปยืนอยู่ที่สวนด้านหลังของบ้านเลขที่-1 แล้ว และเวลานี้ร่างของเขาก็ไปยืนอยู่หน้าท่านจิน..
  “อืมม..มิน่า!”
  ทันทีที่เท้าของซือกงวู่จี๋สัมผัสพื้นดินดวงตาของเขาก็เป็นประกายด้วยความประหลาดใจ และตกตะลึง เพราะคนในครอบครัวหลิงหยุนทั้งแปดคนที่เขาเห็นอยู่บนเนินเขานั้น เวลานี้ได้หายไปแล้ว..
  “อ่อ..เจ้าใช้ค่ายกลงั้นรึ ปิดบังสายตาได้ยอดเยี่ยมมาก!”
  ซือกงวู่จี๋เข้าใจได้ทันทีว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ได้โง่อย่างที่เขาคิด แต่กลับเฉลียวฉลาดยิ่งนัก!
  “โอรสพรรคมาร..พวกข้าทำงานไม่ได้เรื่อง สมควรได้รับโทษ!”
  เมื่อเห็นซือกงวู่จี๋ลงมาจากเนินเขาด้วยตนเองเช่นนี้ท่านจินและราชันย์นักฆ่าทั้งแปด ต่างก็รีบคุกเข่าลงทันที..
  “ท่านจิน..ข้าเห็นทุกอย่างหมดแล้ว ครั้งนี้ข้าไม่ตำหนิพวกท่าน ลุกขึ้นได้!”
  ซือกงวู่จี๋โบกมือให้ทุกคนลุกขึ้นในขณะที่ดวงตาชั่วร้ายของมันก็จับจ้องอยู่ที่ร่างของไป๋เซียนเอ๋อ..
  “สาวน้อย..ตอบข้ามา เจ้าอยากจะเป็นผู้หญิงของข้า หรืออยากจะเป็นสัตว์เลี้ยงของข้า ข้าให้เจ้าเป็นฝ่ายเลือกเอง..”
  สายตาของซือกงวู่จี๋จับจ้องอยู่ที่หน้าอกของไป๋เซียนเอ๋อพร้อมกับพูดจาชั่วช้าหยาบคาย..