ตอนที่ 1992 มังกรเพลิง (1)
“เจ้ารู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับมัน?” จวินอู๋เสียถามเมื่อเห็นปฏิกิริยาของตู๋เถิง ดูเหมือนว่าเขาจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
ตู๋เถิงกล่าวว่า “การขาดแคลนพลังวิญญาณ มันไม่ใช่วิญญาณใหม่ วิญญาณของมันมั่นคงแล้ว ถ้าข้าเดาไม่ผิด อาการนี้เกิดขึ้นหลังจากเจ้ากลับมาจากหอคอยวิญญาณใช่ไหม?”
“ใช่”
“เจ้าไม่ควรไปที่หอคอยโยวหลิง” ตู๋เถิงขมวดคิ้ว
“หอคอยโยวหลิงมีปัญหางั้นหรือ?” จวินอู๋เสียถาม ตระหนักได้ว่าตู๋เถิงรู้บางอย่างตามที่คาดไว้
ตู๋เถิงเงียบไปครู่หนึ่ง “ช่างเถอะ ข้าจะพาพวกเจ้าไปหามังกรเพลิงก่อน”
ดูเหมือนตู๋เถิงไม่อยากพูดเรื่องหอคอยโยวหลิง จวินอู๋เสียจึงไม่ถามต่อ เนื่องจากนางกังวลเรื่องอาการของเจ้าแมวน้อย
ที่อยู่ของมังกรเพลิงไกลจากที่อยู่ของตู๋เถิง จวินอู๋เสียเดินเกือบครึ่งวันกว่าจะถึง ยิ่งเข้าใกล้ที่อยู่ของมังกรเพลิงมากเท่าไร วิญญาณสัตว์อสูรที่พวกเขาเห็นก็ยิ่งรวมตัวกันมากขึ้น จนกระทั่งเมื่อใกล้จะถึง จวินอู๋เสียก็ไม่เห็นร่องรอยของวิญญาณเผ่าพันธุ์อื่นเลย
“วิญญาณเผ่าพันธุ์ต่างๆในโลกวิญญาณมีที่ชุมนุมของตนเอง มีเพียงวิญญาณใหม่เท่านั้นที่ถูกจัดให้อยู่ในที่ที่ท่านอยู่ตอนนี้” อิงซู่กล่าวขณะเดินอยู่ข้างๆจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียพยักหน้าเล็กน้อย มองดูวิญญาณสัตว์อสูรที่ผ่านไปมาข้างๆนาง
วิญญาณสัตว์อสูรมีรูปร่างและขนาดต่างๆกัน เมื่อพวกมันสังเกตเห็นกลุ่มของจวินอู๋เสียก็ชะงักฝีเท้าเล็กน้อย ดวงตาสัตว์ร้ายที่มองผ่านจวินอู๋เสียแฝงแววเกลียดชัง ถ้าไม่ใช่เพราะตู๋เถิงและอิงซู่อยู่ในกลุ่มด้วย เกรงว่าวิญญาณสัตว์อสูรพวกนี้คงไม่แค่ชำเลืองมอง
หลังจากเดินมาสักพัก ตู๋เถิงก็พาจวินอู๋เสียมาถึงเขตภูเขา ที่อยู่ของมังกรเพลิงเต็มไปด้วยภูเขาและหุบเหวแตกต่างจากที่อยู่ของตู๋เถิงอย่างสิ้นเชิง บนภูเขาสูงตระหง่านมีถ้ำกระจายตัวอยู่นับไม่ถ้วน จากภายนอกถ้ำเหล่านั้น สามารถมองเห็นวิญญาณสัตว์อสูรจำนวนมากเดินผ่านทางเข้าถ้ำเหล่านั้น
เมื่อพวกจวินอู๋เสียเข้ามาใกล้ วิญญาณสัตว์อสูรพวกนั้นก็หยุดอยู่นอกถ้ำ พร้อมกับหันมามองกลุ่มของพวกเขาทันที
“ข้ามีความรู้สึกว่าเราไม่เป็นที่ต้อนรับของที่นี่เลย” อิงซู่ยักไหล่อย่างเกียจคร้าน เขามองสายตาที่ไม่เป็นมิตรที่มองมายังพวกเขาจากทุกทิศทุกทาง แล้วยิ้มเนือยๆ
“พวกมันไม่พุ่งเข้ามาฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆก็เป็นความเมตตาอย่างที่สุดแล้ว” ตู๋เถิงตวัดสายตามองอิงซู่
“อย่าพูดจาโหดร้ายนักสิ ข้าออกจะเป็นมิตร” อิงซู่ยิ้ม
“เหรอ? งั้นให้ข้าปล่อยพวกมันมาเป็นมิตรกับเจ้าดีไหมล่ะ?” ตู๋เถิงเลิกคิ้ว
อิงซู่หัวเราะแต่ไม่พูดอะไร
“นั่นคือที่อยู่ของมังกรเพลิง” ตู๋เถิงชี้ไปที่ถ้ำขนาดใหญ่ตรงหน้า ทางเข้าถ้ำนั้นใหญ่มาก มองแวบแรกดูเหมือนหลุมดำที่ไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้รู้สึกไม่สบายใจได้ในทันที
ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปใกล้ จวินอู๋เสียก็เห็นแล้วว่าอากาศที่ปากถ้ำนั้นร้อนจัด
ตู๋เถิงก้าวไปยืนหน้าปากถ้ำแล้วหันไปมองเจ้าแมวดำตัวน้อยในอ้อมแขนของจวินอู๋เสีย ก่อนจะหันไปมองยังถ้ำที่มืดมิด
“มังกรเพลิง”
เสียงของตู๋เถิงดังเข้าไปในถ้ำมืดและก้องสะท้อนอยู่ภายใน นอกนั้นก็ไม่มีเสียงอื่นให้ได้ยิน
ไม่มีปฏิกิริยาจากในถ้ำที่มืดมิดเลยแม้แต่น้อย แต่ตู๋เถิงก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติและยืนนิ่งอยู่กับที่
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ลมที่ร้อนระอุก็พุ่งออกมาจากปากถ้ำ ตู๋เถิงเป็นร่างวิญญาณ จึงไม่ได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนและแค่หรี่ตาลงเท่านั้น
จวินอู๋เสียรู้สึกได้ทันทีว่าพื้นใต้เท้านางสั่นสะเทือน พร้อมกับเสียงฝีเท้าหนักๆดังออกมาจากในถ้ำ เสียงนั้นราวกับเหยียบลงไปบนหัวใจของผู้คน ทุกย่างก้าวทรงพลังอย่างมาก
จากนั้นภายในถ้ำที่มืดมิดก็มีแสงสีแดงเข้มสองจุดส่องประกายออกมา