บทที่ 1779 - เทพสงครามนรก

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

AST
  บทที่1779 – เทพสงครามนรก?
  ”พวกเจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่าพวกมันมีกองกำลังใดที่แข็งแกร่งบ้าง?”ชิงสุ่ยถามด้วยความไม่รู้เพราะพื้นที่แห่งนั้นห่างไกลเกินไปรวมถึงเขาเองก็ไม่รู้จักพื้นที่แห่งนั้นด้วย
  ”ดูเหมือนว่าพวกมันจะเป็นสายพันธุ์หลายหัวเป็นพวกที่มี 3 หัว อสูร 6 แขน งู 9 หัว มันเป็นจำพวกคนของเทพสงครามนรก ซึ่งข้าเองไม่แน่ใจนะ”เหลียนหลิงเฟิงกล่าว
  ชิงสุ่ยได้แต่งุนงงหลังจากที่ได้ยินและแล้วความทรงจำปริศนาบางอย่างก็ปรากฏขึ้นภายในทะเลแห่งปัญญาของเขา ส่งผลให้เขาเข้าใจเรื่องราวแม้ว่ามันจะไม่ชัดเจนก็ตาม
  พวกเขาคือผู้ทรยศในหมู่ทวยเทพสงครามถ้ำกลางพวกมันคือเทพสงครามนรก 3 หัว 6 แขน ผู้ที่มีลูกสมุนเป็นราชาแห่งสัตว์อสูร และราชาแห่งปีศาจ รวมถึงงู 9 หัว ชิงสุ่ยมองเห็นภาพเหล่านี้และรู้สึกได้ว่ากลุ่มคนทั้งหมดค่อนข้างทรงพลังไม่ควรประมาท
  ชิงสุ่ยไม่เคยย่างก้าวเข้าไปในเขตแดนมหาสมุทรดาราเก้าทวีปเลยแม้แต่ครั้งเดียวแต่รู้ว่ามีเทพสงครามนรกอยู่ เขาคงจะต้องเดินทางไปในฐานะผู้สืบทอดมรดกแห่งเทพสงคราม
  เมื่อชิงสุ่ยฟื้นคืนสติเหลียนหลิงเฟิงยังคงก้าวต่อไปว่า ” เมื่อ 3 ปีก่อนดินแดนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือถูกเติมเต็มไปด้วยพลังปราณปีศาจ แต่เมื่อไม่นานมานี้พวกเราพบว่าสถานที่แห่งนั้นได้กลายเป็นจักรวรรดิกวางขาวที่ถูกก่อตั้งโดยราชาแห่งปีศาจกวางขาว
  ”ว่าแต่เจ้าเคยไปหรือเปล่า?”ชิงสุ่ยยิ้มขณะถาม
  ”พวกเราเคยไปมาแล้วแต่ก็ไม่เคยเห็นตัวจริงของราชาแห่งปีศาจกวางขาวส่วนเรื่องความแข็งแกร่งของคนกลุ่มนั้น มันมีช่องว่างที่มากเกินไปพวกเราจำเป็นต้องพึ่งพาพี่ใหญ่ทุกครั้งในการอยู่รอด” เหลียนหลิงเฟิงกล่าวพร้อมกับหัวเราะอย่างขมขื่น  ชิงสุ่ยแสดงถึงความสนใจเป็นอย่างมาก
  หลังจากถามอย่างละเอียดเขาก็ได้รับข้อมูลดีกว่าพรรคพวกของเขานั้นได้พ่ายแพ้ให้กับ2 ผู้ใต้บังคับบัญชาของราชาปีศาจกวางขาว ถึงขั้นที่ไม่อาจต่อสู้ป้องกันตัวได้ แต่ต้องขอบคุณหยินต่งที่ฝืนพลังพาทุกคนหนีออกมา
  นี่ก็เป็นข้อพิสูจน์อย่างดีถึงความแข็งแกร่งของราชาปีศาจกวางขาวถึงอย่างไรก็ตามชิงสุ่ยเลือกตัดสินใจรอเพราะยังไม่ใช่เวลาที่คุณไปเผชิญหน้า แต่ในอนาคตเขาจะต้องเดินทางไปอย่างแน่นอนเพื่ออย่างน้อยที่สุดก็สร้างสัมพันธไมตรี
  ชิงสุ่ยหวังจะได้พบเจอกับศาสตราวุธเทพสงครามให้มากกว่านี้เพราะตอนนี้กลุ่มของเขาเดินคงดูอ่อนแอเนื่องจากมีเพียงแค่4 คนเท่านั้น
  ”พี่ใหญ่หลังจากนี้ท่านอย่าเพิ่งย่างกายเข้าไปเขตแดนของจักรวรรดิกวางขาวเป็นอันขาด ไว้พวกเราพร้อมแล้วเราจะไปกันอีกในภายหลัง”ชิงสุ่ยกล่าวเตือน  ”อืมข้าเองก็คิดเช่นนั้น ถ้าหากเราไปกันตอนนี้คงเป็นการเอาชีวิตไปทิ้งโดยเสียเปล่า เนื่องจากช่องว่างของพลังพวกเราก็พวกมันง่ายเกินไป โชคดีเหลือเกินที่มันไม่สนใจพื้นที่จักรวรรดิหิมะนิรันดร์เล็กๆที่อยู่ห่างไกลขนาดนี้”
  ”พี่เขยท่านพูดเหมือนท่านจะจากที่นี่ไปอีกแล้ว?” เสวี่ย นั่ว เงยหน้าเพื่อจะกล่าวถามชิงสุ่ย
  ”ข้าและพี่สาวของเจ้ากำลังเดินทางกลับบ้านยังไม่ทันถึงเลยคงอีกสักพักใหญ่ แต่ในอนาคตพวกเราคงจะเดินทางไปอย่างแน่นอน”ชิงสุ่ยยิ้มตอบ
  ”แล้วพวกท่านจะจากไปเมื่อไหร่?”
  ”พวกเราจะอยู่ที่นี่ประมาณสามวันจากนั้นค่อยออกเดินทาง”
  ”ดีมากเลยนะถ้าเช่นนั้นสามวันนี้ ท่านจะต้องวางแผนฝึกฝนให้กับข้า”เสวี่ยนั่วกล่าวอย่างมีความสุข  ”เช่นนั้นในช่วงสามวันนี้เจ้าจะต้องฝึกฝนอย่างขะมักเขม้น” ชิงสุ่ยเริ่มต้นวางแผนการฝึกฝนให้กับทุกคน แน่นอนว่ามันคงไม่เหลือเวลาให้เธอออกไปเที่ยวเตร่ตามตลาด
  ”อืม!!”เสวี่ยนั่วตอบกลับอย่างรวดเร็วเธอรู้ดีว่าโลกใบนี้การฝึกฝนคือสิ่งสำคัญที่สุด
  ”ดีมากแต่เด็กน้อยเดี๋ยวข้าขอออกไปเดินเล่นสักพักและข้าจะรีบกลับมา ส่วนเจ้าก็ไปเตรียมตัวให้ดี”ชิงสุ่ยลูบหัวเธอ
  ตลอดช่วง3 วัน ชิงสุ่ยใช้เวลาส่วนใหญ่ของเขาเพื่อแนะนำแนวทางการฝึกฝน วิธีการใช้ยา โอสถต่างๆ แต่เรื่องของยาเม็ดมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะยาเม็ดส่วนใหญ่จะมีข้อจำกัดดังนั้น มันจึงต้องมีการอธิบายการใช้งานให้กับพวกเขาได้รับรู้
  แน่นอนว่าชิงสุ่ยย่อมต้องไม่เพิกเฉยผู้อาวุโสเทียนยี่ เขาแสดงให้เห็นถึงทักษะการแพทย์เหนือจินตนาการ จากนั้นก็สอนให้รู้จักทักษะในการตรวจสอบชีพจร ซึ่งเป็นหนึ่งในทักษะที่หยวนสู่ใช้  นอกเหนือจากนี้ชิงสุ่ยอยากได้สอนทักษะทั่วไปรวมถึงแจกจ่ายในการทำอาหารรักษา
  ……………………………….
  3วันผ่านไปเหมือนโกหก ชิงสุ่ยจากไปพร้อมกับอีเย่เจี้ยนเก้อและชิงซิ่ว โดยเลือกทิ้งจดหมายไว้ในห้องเพื่อไม่รบกวนการฝึกฝนของคนอื่น
  มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ
  ชิงสุ่ยอาศัยธงสวรรค์ปัญจธาตุในการเคลื่อนที่ซึ่งปัจจุบันมันสามารถนำพาคนเดินทางไปพร้อมกันทันทีได้ถึง 4 คน ชิงสุ่ยจึงเลือกที่จะใช้ธงสวรรค์ปัญจธาตุนำพาอีเย่เจี้ยนเก้อและชิงซิ่วเดินทางตรงสู่อาณาจักรอี่หวงแห่งมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ
  ตอนนี้ธงสวรรค์ปัญจธาตุได้พัฒนาขึ้นสู่ระดับที่5 จึงสามารถสร้างจุดวางธงได้จำนวนสูงสุดตามระดับการพัฒนาได้ซึ่งก็คือ 5 จุด จากทั้งหมด 5 จุด เขาได้ทำการระบุจุดการเคลื่อนย้ายไปทั้งหมด 4 จุดแล้ว จุดที่ 1 คือมหาทวีปธรรมไตร อีกจุดหนึ่งคือมหาทวีปอู่เซียตะวันตก อีกจุดหนึ่งคือมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ และจุดสุดท้ายคือมหาทวีปอุดรเทวา ส่วนจุดของภูเขาศักดิ์สิทธิ์เขายังไม่ได้กำหนดไว้อย่างจริงจัง
  สำหรับมหาทวีปขนาดเล็กทั้ง5 จริงๆมีเพียงแค่จุดของมหาทวีปธรรมไตรเพียงจุดเดียวก็เพียงพอแล้ว เพราะว่าทั้ง 5 ทวีปรวมกันยังมีขนาดเล็กกว่ามหาทวีปอู่เซียตะวันตก
  ส่วนจุดของมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำนั้นอยู่ใกล้กับมหาทวีปมังกรอหังกาลเขาจึงค่อนข้างลังเลในการวางจุดการเคลื่อนที่ฉับพลัน
  มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำและมหาทวีปมังกรอหังกาลเรียกได้ว่าเป็นมหาทวีปที่กินพื้นที่ขนาดใหญ่ เรียกได้ว่ามีอีกครึ่งหนึ่งของมหาทวีปที่เขายังไม่ได้ออกสำรวจ