ตอนที่ 1627 ห้า ต่อ หนึ่ง

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 1627 ห้า ต่อ หนึ่ง
หากเป็นสถานการณ์ปกติเจิ่งชีคงไม่มีทางต่อกรกับเกาหยุนได้เลย

แต่ตอนนี้เกาหยุนนั้นกำลังบาดเจ็บหนัก ทั่วร่างเต็มไปด้วยแผลฉกรรจ์ ทำให้พลังการต่อสู้ของเขาตกลงอย่างมาก มากจนเจิ่งชีสามารถรับมือเขาได้สบายๆ

เจิ่งชีเข้าโจมตีอย่างดุดัน แต่ละกระบวนท่าที่ปล่อยออกมาไม่เคยเล็งที่อื่นนอกเสียจากจุดตาย

เกาหยุนนั้นเทียบกับเจิ่งชีไม่ได้เลยในตอนนี้ เขาถูกผลักดันกลับมาอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อดาราสวรรค์ได้เห็นแบบนั้นเขาก็ร้องตะโกนสั่งขึ้น “ไปสังหารเย่หยวนให้ข้า!”

เพราะกองกำลังทั้งสองกองนี้จะสู้ศึกต่อเนื่องขนาดนี้ได้อย่างไรไหว?

แม้ทางฝั่งเผ่าปีศาจบวกกับเมืองจักรพรรดิยอดสันติจะมีจำนวนกำลังที่มากกว่าอีกฝ่าย แต่ทางเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ก็ได้เปรียบในด้านความพร้อมของกำลังที่ยังไม่ต้องสู้อะไรกับใคร

ด้วยสภาพที่สมบูรณ์พร้อมขนาดนั้น แน่นอนว่าการจัดการทหารที่เพิ่งจบศึกมาใหม่ๆ แบบนี้มันไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลย

เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นมีกำลังคนมากมายพร้อมกับกำลังเสริมของเมืองจักรพรรดิธารนิรันดร์ที่มีจำนวนมาก มันจึงทำให้ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายสามารถรับมือกันได้อย่างไม่มีฝ่ายไหนเสียเปรียบได้เปรียบ

แต่ทว่าสุดท้ายฝ่ายเย่หยวนก็ยังเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบด้านปริมาณ ทำให้มียอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าห้าคนหลุดเข้ามาถึงตัวเย่หยวนจนได้

คนทั้งห้านั้นล้อมเย่หยวนไว้ตรงกลาง พวกเขาใช้สายตาเย็นชาจ้องมองเหยื่อที่ไม่มีทางหนีรอดอย่างเย่หยวนตรงหน้า

ผู้นำกองกำลังมาได้กล่าวขึ้น “บรรพกาลราตรี คราก่อนเจ้ามีโถงโลหิตมรณะคอยคุ้มกะลาหัวหรอกนะ ข้าถึงไม่สามารถแตะต้องตัวเจ้าได้ แต่วันนี้เห็นทีชะตาเจ้าคงขาดเสียแล้ว!”

เย่หยวนหันไปมองและถามขึ้น “เรารู้จักกันด้วยรึ?”

ก่อนที่อีกฝ่ายจะตอบมาด้วยเสียงเย็นเหยียบ “เจ้าไม่รู้จักข้า แต่เจ้าสังหารเจ้าชายที่ข้ารักไป วันนี้แหละข้าจะสะสางบัญชีแค้นนั้นเอง!”

เมื่อเย่หยวนได้ยินดังนั้นเขาก็นึกออกในทันที

ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเป็นพ่อของไคซิน เจ้าเมืองหลวงคาโปนนามไคหลง!

“หึหึ ชีวิตข้ามันอยู่ตรงนี้แล้วไง เจ้ามีปัญญาก็เข้ามาเอาไปสิ” เย่หยวนตอบกลับไปอย่างไม่คิดจะใส่ใจ

ตอนนี้เกาหยุนและดาราสวรรค์ต่อสู้ด้วยกัน พวกเขาทั้งคู่จึงจะพอรับมือกับเจิ่งชีได้บ้าง

เกาหยุนที่เห็นภาพของเย่หยวนจากด้านข้างกล่าวขึ้นมาอย่างดีอกดีใจ

เพราะตอนนี้มียอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวถึงห้า คนกำลังรุมล้อมเด็กหนุ่มอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าแค่คนเดียว ต่อให้เขาใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติได้เก่งกาจแค่ไหน มันก็ไม่มีทางรอดออกไปได้เลย!

เกาหยุนหัวเราะและกล่าวออกมา “ฮ่าฮ่า เจ้าเด็กนรกนั่นคงต้องตายลงที่นี่แล้ว เจ้าไม่คิดจะไปช่วยมันหน่อยรึ? อ่ะ จริงด้วย เจ้าไปไม่ได้นี่นา ฮ่าฮ่าฮ่า…”

เจิ่งชีจึงหัวเราะเยาะความคิดนั้นและตอบสวนไป “เย่หยวนน่ะไม่จำเป็นต้องให้ข้าช่วยหรอก!”

เกาหยุนจึงถามขึ้นอีก “ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ต้องให้เจ้าช่วย? งั้นใครจะช่วยมันดีล่ะ? สวรรค์เรอะ? ฮ่าฮ่าฮ่า…”

เจิ่งชียิ้มอย่างเย็นเยือก “เจ้าห่วงตัวเองก่อนเถอะ!”

แม้จำนวนอีกฝ่ายจะมีมากกว่ามาก แต่เจิ่งชีกลับไม่คิดว่าจำนวนจะเป็นปัญหาใดๆ เลย

เพราะเย่หยวนสามารถสังหารสัตว์อสูรระดับสี่ ลงได้ ปัญหาด้านจำนวนมันก็คงไม่ส่งผลอะไรมาก

หมัดของเกาหยุนที่ต่อยออกมาเหมือนจะมีแต่ต่อยลมจนทำให้เขาเริ่มสิ้นหวังขึ้นมา

“เจ้าเด็กโง่ จอมปีศาจผู้นี้จะเอาชีวิตเจ้าไปเอง!”

ไคหลงหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นต่อยออกไปยังเย่หยวนอย่างเต็มแรง

หมัดนี้มันผสานพลังโลกเข้าไปด้วย ทำให้มีอำนาจทำลายล้างที่สูงมาก

เดิมทีหากเป็นนักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าธรรมดาๆ คงไม่มีโอกาสรอดจากหมัดนี้ไปได้อย่างแน่นอน

แต่น่าเสียดายที่เย่หยวนนั้นไม่ใช่นักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าธรรมดา

เย่หยวนใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติออกมาและหลบหมัดนั้นอย่างง่ายดาย

คนทั้งสี่นั้นรู้ดีว่าเย่หยวนใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติเป็น พวกเขาจึงรีบเข้ามาล้อมปิดทางหนีของเย่หยวนไว้และพุ่งตัวเข้าไปหาเย่หยวนจากรอบด้าน

ด้วยกำลังของยอดยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าพวกเขาจึงสามารถใช้พลังโลกรบกวนมิติรอบๆ ได้ไม่ยากนัก

แต่ทว่าเย่หยวนก็ไม่ได้คิดจะหนีมาตั้งแต่แรกแล้ว

เมื่อเย่หยวนชักดาบจักรพรรดิล้ำฟ้าออกมา คลื่นดาบฉีมันก็กระจายตัวออกมาทั่วร่างของเขา!

คู้ม!

จู่ ๆ พลังของเย่หยวนก็พุ่งสูงล้ำฟ้า ทำให้หนึ่งในคนที่ล้อมเขาอยู่ผู้ไม่ทันระวังตัวถูกเย่หยวนอัดกระแทกจนลอยละลิ่วไปไกล

ไคหลงและคนอื่นๆ ตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้าจนขี้หดตดหาย

พวกเขากำลังดูอะไรอยู่กัน?

นักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าสามารถส่งนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าลอยลิ่วได้ด้วยการโจมตีแค่กระบวนท่าเดียว

มันเป็นมุกตลกที่ไม่ขำเลยสักนิด!

แต่ทว่าเย่หยวนก็ไม่ได้ปล่อยเวลาให้พวกเขาตื่นตกใจกันมากนัก ดาบในมือของเขาปรากฏขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะพุ่งตัวเข้าใส่ไคหลงทันที

คลื่นดาบอันรุนแรงปะทะกันเข้าอย่างจัง ทำให้สีหน้าของไคหลงเปลี่ยนไปในทันทีก่อนที่เขาจะยกดาบของตัวเองขึ้นมารับ

แคร้ง!

การปะทะกันของคลื่นดาบและพลังแห่งโลก แต่กลับไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ!

หัวใจของไคหลงตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีก่อนที่จะตะโกนขึ้น “ทุกคน อย่าได้ประมาทศัตรูเชียว! เจ้าเด็กคนนี้… เด็กคนนี้มีพลังมากพอจะสังหารนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวได้!”

เสียงคำรามนั้นดังก้องไปทั่วเข้าหูของทุกผู้คน

นอกจากคนของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์กับกู่ฮั่นแล้ว ทุกคนที่เหลือต่างตื่นตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก

เจิ่งชียิ้มและกล่าวขึ้นตามเสียงนั้น “เห็นไหมล่ะ? เย่หยวนไม่ต้องให้สวรรค์มาช่วยหรอก เขาช่วยตัวเองได้!”

เกาหยุนตื่นตะลึงจนลูกตาแทบหลุดออกมาจากเบ้า เขาไม่เคยจะตื่นตกใจอะไรขนาดนี้มาก่อน

แค่เด็กอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าจะมีปัญญาสู้อาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวได้อย่างไร?

เดี๋ยวนะ!

เจ้าปีศาจนั้นมันไม่ได้บอกว่าเย่หยวนมีพลังพอที่จะสู้ แต่เป็นมีพลังพอที่จะสังหารอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวได้!

เมื่อเห็นถึงความหมายที่ไคหลงสื่อแบบนั้นเกาหยุนก็ยิ่งตื่นตกใจหนักขึ้นกว่าเดิม

“ฆ่ามัน! พวกเจ้ายอดฝีมือระดับสี่ตั้งห้าคนมาแพ้เด็กอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าคนหนึ่งได้อย่างไร?” เกาหยุนตะโกนกลับไป

คำพูดนั้นของเกาหยุนทำให้ไคหลงไม่พอใจมาก

เป็นแค่มนุษย์แต่กลับกล้ามาสั่งสอนปีศาจแบบนี้

แต่ตอนนี้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดต้องถูกแก้ไขก่อน และปัญหาที่ว่านี้ก็คือการสังหารเย่หยวนลงให้ได้!

“ทุกคนจงระวัง พยายามรักษาระยะไว้อย่าให้มันควบคุมสถานการณ์ไว้ได้!” ไคหลงเองก็มีประสบการณ์มามาก จึงสามารถสงบสติและสั่งการคนทั้งสี่ ให้เปลี่ยนแผนได้ในทันที

ตอนนี้คนทั้งห้า ล้อมเย่หยวนไว้แต่ไม่มีใครพุ่งเข้าไปโจมตีแบบสุ่มสี่สุ่มห้าอีกแล้ว พวกเขาคิดที่จะล้อมเย่หยวนไว้และสู้แบบตัดกำลัง

แต่มีหรือที่เย่หยวนจะวิ่งไปตามแผนของคนพวกนี้?

ร่างของเขาขยับสลับไปมาซ้ายทีขวาทีทำให้คนทั้งห้า ไม่สามารถยืนอยู่กับที่ได้

เย่หยวนใช้เพลงดาบเมฆาลับแลออกมาอย่างเต็มที่ แต่ละดาบของเขาไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้คนทั้งห้า ต้องเจอปัญหาหนัก

โชคยังดีที่คนทั้งห้า นั้นเป็นยอดฝีมือระดับสี่ที่ผ่านสนามรบมามาก แม้สองคนจะถูกกดลงจากระดับสามดาวแต่ก็ยังพอที่จะรักษารูปแบบการต่อสู้ไว้ได้

เย่หยวนต่อสู้แบบหนึ่ง ต่อห้า แต่สามารถกลับมาพลิกได้เปรียบได้

เกาหยุน ดาราสวรรค์ ตี้เอิ่นและคนอื่นๆ ต่างตกตะลึงในหัวใจ พวกเขาต่างไม่เคยคาดคิดว่าผลการต่อสู้มันจะออกมาเป็นอย่างนี้ไปได้

เพราะตามแผนเดิมแล้ว พวกเขาจะสังหารเย่หยวนและจบการต่อสู้ลงตรงนั้น ให้ทุกคนได้มีเวลาไปตามล่าหาสมบัติต่อไป

แต่ตอนนี้การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายกลับกำเนิดมาถึงทางตัน

ฉึก!

จู่ ๆ ก็เกิดน้ำพุเลือดขึ้น!

แค่เสี้ยววินาทีแห่งความผิดพลาดของยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้ามันก็มาพอที่จะเปิดโอกาสให้เย่หยวนได้โจมตี ดาบของเย่หยวนแทงเข้าไปยังลำตัวของอีกฝ่าย ดูท่าแล้วเขาคนนี้คงไม่มีชีวิตอีกต่อไป

เมื่อพวกไคหลงได้เห็นภาพนั้นพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะขนลุกชัน

แม้จะเป็นห้า ต่อหนึ่ง พวกเขาก็ยังไม่สามารถทำอะไรนักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าคนนี้ได้ แถมยังถูกอีกฝ่ายสวนจนคนฝั่งตัวเองตายไปด้วย!

ผลลัพธ์นี้มันช่างน่าเหลือเชื่อ

เมื่อพวกเกาหยุนได้เห็นแบบนั้นหัวใจของก็เต้นแรงขึ้นมา

ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายต่างรู้แล้วว่าเย่หยวนไม่ใช่แนวหลัง เขาคนนั้นเป็นนักสู้แนวหน้าคนหนึ่ง

ด้วยสภาพที่ทุกคนถูกกดพลังบ่มเพาะแบบนี้ เย่หยวนกลับสามารถต่อสู้แบบห้า ต่อหนึ่ง ได้ พลังนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ได้มีดีแต่ปาก!

บัง!

เกาหยุนดีดตัวออกจากเจิ่งชีและพูดขึ้น “หยุดก่อน! พวกเราอย่าได้สู้กันอีกเลย!”

ดาราสวรรค์และตี้เอิ่นเองก็ออกคำสั่งหยุดเหล่ายอดฝีมือฝ่ายปีศาจเช่นกัน ทำให้ตอนนี้สนามรบกลับมาสู่ความเงียบอีกครั้ง

เจิ่งชีที่เห็นภาพนั้นจึงพูดขึ้น”เจ้าอยากสู้เราสู้ เจ้าอยากหยุดคิดว่าเราจะหยุดอย่างนั้นเหรอ? พวกเจ้าคิดว่าเราเป็นตัวอะไร?”

เกาหยุนหน้าเสียเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น “ตอนนี้พวกเราต่างฝ่ายต่างสูญเสียกันมามากแล้ว! หากยังสู้ต่อไปแบบนี้คงไม่มีใครได้สมบัติไปแน่ ๆ ชายแก่คนนี้เข้าใจแล้วว่าเจ้าเด็กคนนั้นมันไม่ธรรมดา! ตอนนี้ทุกคนจงวางอาวุธก่อน รอให้เราหาสมบัติเจอแล้วใครอยากสู้กันก็ค่อยสู้กันตอนนั้นมันก็ยังไม่สายไป!”