” อีกหนึ่งตัวอย่าง ….  คุณชายน้อยจวิน พักอยู่ที่จวน มหาบุรุษผู้มิอาจทัดทาน แห่งสกุลตู่กู้ แต่ก่อนนั้นจำได้ว่า เมื่อ คุณชายน้อยจวิน เห็นทั้งเจ็ดจักไปหลบซ่อน แต่ครั้งนี้ เจ้าสร้างการเดิมพันขึ้น โดยการประมูลใน หอชนชั้นสูง ทำให้สกุลตู่กู้ติดหนี้สินสกุลจวิน นับ เก้าสิบล้าน  น่ายินดียิ่งนัก …  “

” ข้าได้ยินว่า แปดมหาปรมาจารย์ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว อยู่กับสกุลจวิน มิอาจคาดคิด ….  ฮี่ฮี่ คุณชายน้อยจวิน ยังคงต้องการให้ข้าเอ่ยอีก ? “

ลี่โย่วหลานมองเขาสุภาพ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม

” ข้าสับสนยิ่ง เหตุใดทุกเรื่องเกี่ยวพันเจ้า ?   เป็นเลิศแท้จริง ! “

จวินโม่เซี่ย สายตาส่องประกาย หัวเราะ เอ่ยขึ้นไม่ใส่ใจ

” จริงอยู่ ข้าเองก็แปลกใจยิ่ง ที่คุณชายน้อยโย่วหลานไปอยู่ในทุกที่ … เจ้าช่างโดดเด่นยิ่ง  จาก เจียงฮู ถึง ราชสำนัก จากต่ำต้อยถึงสูงสุด  คุณชายน้อย โย่วหลาน หากทุกที่มีใบหน้าที่พิกลพิการ แม้นเจ้ามิได้ใส่ใจ เจ้าไม่กลัวจักทำให้เด็กน้อยหวาดกลัวกระนั้น ?  แม้นจักมิได้ทำให้เด็กน้อยหวาดกลัว การทำให้พฤกษาและบุปผาหวาดกลัว ก็มิใช่สิ่งดี …. “

ดวงตา ลี่โย่วหลาน ปั่นป่วน และเขาสบตากันสง่างามอย่างแผ่วเบา   จากนั้นกลับมาแสดงท่าทีเช่นเดิม ราวกับเป็นสิ่งที่น่าอับอาย และเอ่ยเสียงนุ่มนวล

” คุณชายน้อยสาม สกุลจวินจริงหรือ ?  “

” ไร้สาระ คุณชายน้อย ข้าคือลูกหลานสกุลจวิน  อาจจะเป็น คุณชายน้อย โย่วหลาน สกุลลี่แท้จริง ? “

จวินโม่เซี่ย พ่นลมทางจมูก

” เช่นเดียวกับเจ้า ! “

แววตา ลี่โย่วหลาน ลึกซึ้ง ถอนใจสุภาพ และเอ่ย

” คุณชายสาม เรื่องราวก่อนหน้านี้ หากข้าดูหมิ่นเจ้า แต่ เนื่องจาก ปะการังหยกระเบิด ฮี่ ฮี่ …. “

ลี่โย่วหลาน เงยหน้าขึ้นรวดเร็ว มองตรงไปยังดวงตาของจวินโม่เซี่ย

” คุณชายน้อยสามอย่าไปกระทำโง่เขลา ในวันนี้ อาจมีผู้ปราดเปรื่องมากมาย เจ้าเองก็เช่นกัน แต่มิได้หมายความว่าผู้อื่นจักมิใช่ ! “

” หรือ ?  ผู้อื่น ในที่นี้ คิดว่านั่นคือ คุณชายน้อย โย่วหลาน ? “

จวินโม่เซี่ย ยิ้มกว้าง เหลือบตาขณะเอ่ย

” ราวกับการอยู่ในจวนพร้อมใบหน้าเสียโฉมจักทำให้เจ้ามีเวลาใคร่ครวญ ? “

เมื่อได้ฟังเขาเอ่ยถึงใบหน้าพิกลพิการอีกครั้ง ดวงตาลี่โย่วหลานวิตก และยิ้มอย่างสบาย  สุภาพ แม้นจะมีแววชั่วร้าย เขาเอ่ย

” การระเบิดของ ปะการังหยก ทำให้ข้าครุ่นคิด จนเข้าใจเรื่องต่างๆ แม้นก่อนหน้านี้มิอาจเข้าใจ “

” ดังนั้น ข้าจึงรู้สึก ขอบคุณการระเบิดนั้น “

ลี่โย่วหลานย่าวก้าวและเอ่ยเชื่องช้า

” คุณชายน้อยจวิน เจ้าเห็นด้วยหรือไม่ ? “

จวินโม่เซี่ยหัวเราะ และเอ่ย

” หรือนี่อาจจะเป็นการเปลี่ยนโชคร้ายเป็นเรื่องดี ? “

” หมายความเช่นนั้น “

ลี่โย่วหลานพยักหน้าจริงจัง มองไปยังจวินโม่เซี่ยทันที

” แต่ข้ามิเคยสงสัยเจ้า ข้ามิเชื่อว่าผิดพลาด อันธพาลมิอาจคาดการแผนข้าได้ จนกระทั่ง …  การประมูลที่ หอชนชั้นสูง ข้าจึงได้รู้ในทันใด จวินโม่เซี่ย  ….  มิสามารถดูแคลนได้ …. “

” หรือการประมูลอาจมีช่องโหว่ ? “

จวินโม่เซี่ย คาดว่าสิ่งนี้อาจเป็นปัญหา เป็นอีกเหตุผลที่เขาหยั่งท่าทีของ ลี่โย่วหลาน ในวันนี้

” แท้จริงแล้ว มีช่องโหว่ !  ยิ่งไปกว่านั้น มันมิได้เล็กน้อย “

ลี่โย่วหลานหยุด พวกเขาไปถึงทางเขา ท้องพระโรง คนอื่นๆจากไปแล้ว แต่ชัดเจนว่าลี่โย่วหลานประสงค์เอ่ยสิ่งเหล่านี้ด้านนอก

” ถังหยวน …  ผู้ที่สูญเสียภรรยา มิคาดว่าจักสามารถคิดสิ่งนี้ได้ นครหลวงที่สงบร่มเย็น สามารถปั่นป่วนได้ …  คุณชายน้อยสาม เจ้ามิคิดว่าแปลกหรือ ?  ถังหยวน สามารถ ?  หรือเขาเหมาะสม ? “

” เป็นเช่นนั้น ! “

ในที่สุดจวินโม่เซี่ยเข้าใจ เรื่องนี้มิได้บกพร่อง แต่เป็นตัวคน  ลี่โย่วหลาน มักจะดูหมิ่นผู้อื่น เดิมทีเจ้าอ้วนมิอาจทนทาน แต่ ในเรื่องการประมูลนี้ ในการวางแนวทางนั้น หกถึงเจ็ดส่วนคือการจัดการของเจ้าอ้วนอย่างแท้จริง ฝีมือด้านการค้าของเขาเป็นเลิศยิ่ง แต่ สิ่งนี้ คุณชายน้อยจวิน ไม่เผยให้ ลี่โย่วหลาน ล่วงรู้ !

 

” มิต้องเอ่ยถึงความวุ่นวายของ นครหลวง แม้จักวุ่นวายยิ่งกว่านี้ก็ยิ่งดี สกุลลี่ จวิน ตู่กู้ของเรา และสกุลชั้นสูงต่างๆจักปลอดภัย  ไม่ว่าผู้อื่นจักเป็นอย่างไร สิ่งนี้จักช่วยให้พวกเรามีเวลาพักผ่อน “

ลี่โย่วหลานยิ้ม

สกุลลี่ ได้ประโยชน์จากการประมูลนี้ แม้นว่า ….  มันจักมิได้มากมาย “

” เจ้าประสงค์จะขอบใจข้า ? “

จวินโม่เซี่ย แสดงสีหน้าดั่งผู้มีบุญคุณ  มองไปยัง ลี่โย่วหลาน

” คุณชายน้อยสาม หากสังหารข้า บางทีข้ามิอาจวิ่งหนีไปได้  “

ลี่โย่วหลานมิได้สนใจเขา แต่ ยังคงเอ่ยต่อ

” แต่ข้าจักสังหาร คุณชายน้อยสาม ไม่ว่าจักสำเร็จหรือไม่  ฮี่ฮี่ เวลานี้ข้ามีอาจารย์ สกุลเจ้า มี เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว “

ลี่โย่วหลานยิ้มเจือจางสุภาพ

” พวกเราเท่าเทียม “

” สกุลลี่ข้า ควบคุมการงานบ้านเมือง สกุลจวิน และตู่กู้ ควบคุมการทหาร เป็นความสมดุลย์  แต่ความสมดุลย์นี้ แต่ข้ามิกล้าจะทำลายมัน แต่ข้าเชื่อว่าเจ้าจักไม่ทำเช่นกัน  แต่หากพวกเราหนึ่งในสองจำต้องสิ้นไป ความสมดุลย์จักไม่มี  คุณชายน้อยสาม คิดเห็นเช่นไร ? “

ลี่โย่วหลานยิ้ม มั่นใจยิ่ง

” คุณชายน้อย โย่วหลาน มองการไกลยิ่ง เป็นสิ่งที่ดี  ในชีวิตนี้ สมดุลย์คือสิ่งดี ความสามัคคีก็ดี “

จวินโม่เซี่ย ยิ้ม ในใจครุ่นคิด

ความสมดุลย์นี้ ไม่ต้องสงสัยมิอาจทำลาย  แต่เมื่อถึงเวลา การนำหัวเจ้ามาในราตรีอันมืดมิด มิถือว่าเป็นเรื่องยาก !

” คุณชายน้อยสามจักทำเช่นไร ข้ามิอาจจินตนาการ แต่ลี่โย่วหลาน ภายในช่วงเวลานี้จักไม่เคลื่อนไหวมากมาย ! “

ลี่โย่วหลานยิ้ม

” ข้ามิกล้าหุนหันนัก  แต่ เมื่อเวลามาถึง คุณชายน้อยสามจักเป็นผู้แรกที่เหมาะสมจักถูกกำจัด ! “

ลี่โย่วหลานเอ่ยวาจาเหล่านั้นจริงจัง รุนแรง พึงพอใจ  จากท่าทีลี่โย่วหลาน เช่นนี้ อาจบอกได้ว่า ตรงไปตรงมาและจริงใจ อย่างที่สุด

” ข้าเชื่อเจ้า ! “

จวินโม่เซี่ย ยกมุมปากข้างหนึ่งขึ้น และมีสองคำปรากฏขึ้น แปลกประหลาด !  หากลี่โย่วหลาน มีโอกาสที่จักกำจัดอย่างเงียบๆ จวินโม่เซี่ยไม่สงสัย หากเขาจักเริ่มลงมือโดยไม่ลังเลได้ทุกเวลา

การทำกิจการก็เช่นเดียวกัน  แต่เหตุการณ์ในปัจจุบัน คล้ายคลึงดั่ง ลี่โย่วหลาน เอ่ย ทั้ง สกุลลี่ และ สกุลจวิน ความสมดุลย์นี้ มีอาจทำลาย !  บางที ลี่โย่วหลานอาจจะถูกจวินโม่เซี่ยสังหารเสียก่อน !

จวินโม่เซี่ยมิได้สนใจจักพูดคุยกับเขามากมายนัก

” เช่นนั้นพวกเราอาจมีเรื่องให้สนุกสนาน “

จวินโม่เซี่ย ไม่มั่นใจจะเชื่อรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวของจวินโม่เซียหรือไม่ เขาจึงแสดงสีหน้ามีความสุข และเอ่ย

” จากฝีมือของ คุณชายน้อยจวินในตอนนี้ เมื่อหลายปีก่อนมิอาจเทียบข้าได้  แต่ พวกเรา นั้นประสบปัญหาเดียวกัน  ไร้ชีวิตวัยเด็ก พวกเรามิได้วิ่งเล่น “

” ดังนั้นพวกเราอาจจะสร้างมันขึ้นมา  อาจจะเป็นเพื่อนสหาย เจ้าว่าเช่นไร ? “

ราวกับลี่โย่วหลานสนใจยิ่ง

จวินโม่เซี่ย หัวเรา

ข้ามิได้มีวัยเด็กเช่นเจ้า แต่วัยเด็กของจวินโม่เซี่ยนั้นมีสีสรรค์มากกว่าเจ้า

” เล่นสังหารผู้คน ?  หรือจักเล่นเผาไฟ ? “

จวินโม่เซี่ย หัวเราะ

” สังหารและวางเพลิง ….  ยังคงเป็นเรื่องเล็กน้อย “

ลี่โย่วหลาน ก้มหัวครุ่นคิด

” พวกเราจักเล่น …. “

จากนั้น ทั้งสองก้าวขึ้นหน้าไปพร้อมกัน ตรงไปยังราชวังที่เต็มไปด้วยเครื่องหอม  ในขณะที่ผ่านประตู ลี่โย่วหลานเอ่ยเสียงต่ำ

” ในวัยเด็ก ข้าได้วิ่งเล่น และพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เจ้าคือเพื่อนเล่นที่น่าสนใจ …  พวกเราอาจจะเล่นกันต่อไป “

เขามองต่ำขณะเอ่ยคำเหล่านั้น เนียงเบายิ่ง ดูคล้ายดั่งการบ่นพึมพัม

” เล่นกันต่อไป ?​”

จวินโม่เซี่ย  หัวเราะขึ้นทันใด มองเข้าไปในวังหลวงอันหรูหราซึ่งมีผู้คนนับร้อยมาถึง ร้องขึ้นอย่างน่าสะพรึ่ง

” น่าสนุกยิ่ง !  ฮ่า ฮ่า ….  เช่นนั้นข้าจักเล่นกับเจ้า … “​

ผู้อื่นเกือบจักหัวเราะเยาะเป็นเสียงเดียวกัน แม้นแต่หญิงสาวผู้ที่เอาแต่ใจ กลับยังมีรอยยิ้มเล็กน้อย ด้านหนึ่งของท้องพระโรง ในเวลานี้มี โจวเซียง อยู่

เหล่าสาวงาม มาฝีมือรวมตัวกัน สายลมหอมหวนตลบอบอวล จวินโม่เซี่ยสัมผัสได้อย่างชัดเจน ดวงตาที่เปล่งประกายดั่งประกายน้ำแห่งสาทรฤดู เพ่งมองออกไป

ลี่โย่วหลาน ได้ยิน จวินโม่เซี่ยเอ่ยวาจาเหล่านี้ด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ยังคงยิ้ม ในท่ามกลางผู้คนนับรอยในท้องพระโรง ลี่โย่วหลาน เข้าใจในวาจาของ จวินโม่เซี่ย

แม้นพวกเขามิได้มองตากัน

พวกเขาก็ยังมี ไพ่ในมือ หากมองผ่านไพ่ในมือฝ่ายตรงข้ามไป เวลานี้ในใจของทั้งสอง มีความคิดเห็นเดียวกัน

เหมาะสม !

สองคำนี้ปรากฏขึ้นในความคิดทั้งคู่ ในเวลาเดียวกัน

ในที่สุดคุณชายน้อยจวิน ก็คิดขึ้นได้ว่า มายาของ ลี่ นั้นคู่ควรจะชายตามอง ไม่ว่าจักสามารถจัดการเขาใน งานฉลองนักปราชญ์ทองคำ นี้ได้หรือไม่ก็มิใช่เรื่องสำคัญ !  หากมองให้ดี ก็สามารถเห็นความขัดแย้งนี้ท่ามกลางงานสังสรรค์นี้ได้

เป็นความขัดแย้งชั้นเลิศ !

มองจากตำแหน่งที่นั่งอันทรงพลังเบื้องบนนั้น จัดต้องเป็นขององค์จักรพรรดิแแห่งอาณาจักรเทียนเชียงอย่างแน่นอน หากแต่พระองค์จัดเข้าร่วมด้วยพระองค์เองหรือไม่นั้นมิอาจคาดได้ ?

อีกสี่ลำดับถัดลงมี คือ องค์ชายและเหล่าราชวงศ์ หรือกล่าวได้ว่าสมาชิกราชวงศ์ ซึ่งเที่ยบเท่ากับ องค์ชายหยางไหว๋หน๋ง มิได้หมายความว่าผู้สืบทอดอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรเทียนเชียง จักมิได้คู่ควร พี่ชายแห่งผู้สืบทอดที่อ่อนแอผู้นั้นควรจะมอบตำแหน่งที่นั่งนี้ให้แก่องค์หญิงหลิงเมิงผู้งดงามอย่างยิ่ง

จากจำนวนเก้าอี้ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก จักต้องเป็นของเหล่าขุนนางชั้นสูงอย่างมิต้องสงสัย หากแต่ความสูงของเก้าอี้นั้นเหตุใดจึงมิได้มากมายนัก  เก้าอี้ตัวนี้เป็นของผู้ใด ?  มือาจคาดคิดได้อย่างแท้จริง !