บทที่ 609 พวกเจ้าเหล่าหญิงสาวสนุกไหม
“อืมมมม…”
“อาาาาา”
ศิษย์เซียวหลงระเริงไปจมอยู่ในความรู้สึงเป็นสุขขณะที่ซูหยางลูบไล้ไปทั่วร่างของเธ อด้วยมือใหญ่ของเขา ถ้ําของเธอนั้นเพิ่งนองไปด้วยปราญหยินและร่างของเธอก็สั่นสะท้านอยู่ไม่หยุดยั้ง
เมื่อซูหยางเลื่อนมือไปถึงขาของเธอ เขาก็คลึงเคล้าต้นขาอันอ่อนนุ่มของเธอราวกับว่าพวกมันนั้นเป็นแป้ง และเขาก็มักจะเผลอปัดปลายนิ้วไปโดนปากถ้ําของเธออย่าง “ไม่ตั้งใจ” จนทําให้ปราณหยินของเธอนั้นทะลักออกมาจากถ้ําของเธอยิ่งกว่าเดิม
“อาาาาา”
ศิษย์เซียวนั้นร้องครางอย่างเร่าร้อนเสียจนกระทั่งกระตุ้นเหล่าศิษย์ที่ยังคงหมดแรงจากกิจกรรมร่วมกับซูหยาง
“ได้โปรด…ปักมันเข้าไปในหว่างขาของข้า ซูหยาง…ข้ามสามารถที่จะทนความรู้สึกแผดเผานี้ ได้อีกต่อไปแล้ว…ข้ากําลังจะเป็นบ้า” ศิษย์เชียวร้องขอเขาด้วยเสียงสิ้นหวัง
ซูหยางพยักหน้า และหลังจากที่ศิษย์เซียวกลับตัวแล้ว เขาก็ถูไถแกนมหึมานั้นกับรอยร่องของเธอก่อนที่จะทิมแทงเข้าไปในถ้ําคับแน่นของเธอ
“อาาาาา”
เมื่อรู้สึกว่าผนังด้านในของเธอเหมือนถูกฉีกแยกออกจากแท่งยักษ์นั้น ศิษย์เซียวก็ครางดังลั่น
ในเวลาเดียวกัน ซูหยางก็ทิมทะลวงแห่งแกร่งของเขาเข้าไปในรูร่องของเธอ ส่งกระแสความเสียวซ่านไปทั่วร่างของเธอ
“อาาาา”
“อาาาา”
“อ้าาาาาาาาาวว”
ศิษย์คนอื่นที่ดูซูหยางขณะกําลังทิมทะลวงศิษย์น้องเชียวของเธออย่างรุนแรงเป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้หยุดพัก ดวงตาของพวกเธอต่างก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความประหลาดใจ ในเมื่อพวกเธอไม่คาดคิดว่าศิษย์น้องของพวกเธอคนนี้จะสามารถทนต่อวิชาของซูหยางได้เป็นเวลานานเช่นนี้
“ว้าว…ศิษย์น้องเซียวสุดยอดกว่าพวกเราจริงๆ…”
“ช่างน่าประหลาดใจ…”
“เมื่อมาคิดดูว่าเธอนั้นซุกซ่อนพรสวรรค์ของเธอไว้มาโดยตลอด…”
หลังจากผ่านการร่วมฝึกอย่างเข้มข้นไปอีกประมาณสิบนาที เมื่อศิษย์เซียวไม่สามารถที่จะทนความสุขสมได้อีกต่อไป ซูหยางก็ปลดปล่อยปราณหยางที่มากพอสําหรับบรรจุในถังเล็กๆเข้าไปในถ้ําของเธอ
“อาาาาาง มันช่างร้อนเหลือเกิน” ศิษย์เซียวครวญครางเสียงดังลั่น รู้สึกเหมือนกับว่าผนังด้านในนั้นกําลังลุกไหม้
จากนั้นซูหยางก็ถอนเพลาของตัวเองออกมาจากช่องของเธอ ปล่อยให้ปราณหยางที่อยู่ด้านในถ้ํานั้นไหลทะลักออกมาจากร่องหลืบของเธอเหมือนกับลําธารสายเล็กๆ
และในขณะที่เหล่าศิษย์ต่างพากันคิดว่าพวกเธอคงจบกันเพียงแค่นี้แล้ว พวกเธอก็สังเกตเห็นว่ามังกรที่อยู่ตรงหว่างขาของเขานั้นยังคงแข็งแกร่งราวกับศิลา
“ซูหยาง…ความทนทานของท่านนั้นมีมากเท่าไหร่กัน ท่านเพิ่งฝึกกับพวกเราสิบคนโดยมิได้ พักแม้แต่ครั้ง แต่ว่าท่านยังคงเปี่ยมไปด้วยพละกําลังเหมือนกับเมื่อตอนที่พวกเราเริ่มต้น” พวกเธอกล่าวกับเขาด้วยความหวาดกลัวในน้ําเสียงของพวกเธอ
“แน่นอน ข้าย่อมมีพละกําลัง ในเมื่อข้าถูกรุมล้อมไปด้วยหญิงสาวจํานวนมากมายเช่นนี้
บรรดาศิษย์ต่างพากันสบสายตากันด้วยความงงงันก่อนที่จะหัวเราะกับคําพูดของเขาร่วมกัน
“ถ้าท่านพูดเช่นนั้น พวกเราคงมิมีทางเลือกนอกจากจะให้ท่านนั้นอยู่ร่วมกับพวกเรานานกว่านี้อีกสักหน่อยใช่ไหม พี่สาวน้องสาว”
“ใช่แล้ว ซูหยาง แต่ท่านจักสามารถที่จะร่วมเรียงกับพวกเราอีกสักรอบได้หรือไม่”
ซูหยางหัวเราะกับคําพูดของพวกเธอแล้วกล่าวว่า “เพียงรอบเดียวเท่านั้น พวกเจ้าเหล่าสาวดูถูกข้าเกินไปหน่อยแล้ว ข้าสามารถที่จะร่วมเรียงได้แม้กระทั่งอีกสิบรอบกับพวกเจ้าเหล่าสาวโดย เหงื่อมิใหลสักหยด”
“สิบรอบรี นั่นท่านพูดเองนะ ซูหยาง”
“ถ้าเช่นนั้นพวกเราจะรออะไรอยู่ พวกเรามาเริ่มรอบที่สองกันเถอะ”
เหล่าศิษย์พากันเข้าไปรายล้อมเขา และซูหยางก็เริ่มฝึกกับพวกเธออีกครั้ง
หนึ่งชั่วโมง…สองชั่วโมง…สามชั่วโมง…
หลังจากที่ผ่านการฝึกอย่างเข้มข้นต่อไปอีกเป็นเวลาสามชั่วโมง ศิษย์แปดในสิบคนก็พากันสิ้นสติไปจากการที่ประสบกับความสุขมากจนเกินไป
“สี่รอบรี ยังมีถึงครึ่งของเป้าหมายเลย” ซูหยางยิ้มหลังจากนั้น
“ความทนทานของท่านนั้นสัตว์ประหลาดเกินไปแล้วซูหยาง… ข้ารู้สึกเหมือนกับว่าท่านจักยังมิพอแม้ว่าจะมีพวกเราสักร้อยคนก็ตาม” ศิษย์เซียวกล่าว
“ข้ามปฏิเสธเรื่องนั้น…” เขาหัวเราะเบาๆ
เวลาหลังจากนั้น เขาก็กล่าวกับเธอว่า “ข้าจักไปก่อน ถ้าพวกเจ้าเหล่าสาวต้องการที่จะร่วมฝึกอีกครั้ง เจ้าคงรู้ว่าจะหาข้าพบได้ที่ไหน”
“ขอบคุณอีกครั้ง ซูหยาง สําหรับวันนี้” ศิษย์เซียวโค้งคํานับเขา
“มิต้องกล่าวอีกแล้ว”
สองชั่วโมงให้หลัง เหล่าศิษย์ก็พากันตื่นขึ้น
“หือ ข้าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ซูหยางหายไปไหน”
“อย่าบอกข้าว่านี่เป็นเพียงแค่ความฝัน”
เหล่าศิษย์ต่างพากันตื่นตระหนกเมื่อพวกเธอตื่นขึ้นมาโดยปราศจากซูหยางอยู่ที่ข้างกายพวกเธอ ต่างพากันคิดสงสัยว่าพวกเธอเพียงแค่ฝันไปเมื่อกี้นี้
“ใจเย็นๆ พี่สาวน้องสาว ซูหยางจากไปก่อนในเมื่อพวกเจ้าพากันหมดสติไปจนสิ้นระหว่างที่พวกเรากําลังฝึกกันอยู่” ศิษย์เซียวกล่าวกับพวกเธอ
“โอ…เช่นนั้นพวกเราก็มิได้ฝันไป…”
“ข้ามอยากจะเชื่อว่าพวกเราได้ร่วมฝึกกับซูหยางจริงๆ ทั้งที่มันได้เกิดขึ้นไปแล้ว ข้ารู้สึกเป็นสุข”
“ข้าได้ละทิ้งความหวังทั้งมวลเมื่อตอนที่ข้าได้จากนิกายไป แต่อนิจจา ต้องขอบคุณสวรรค์ที่ซูหยางเป็นอย่างที่เขาเป็น”
“ข้ามสามารถที่จะเห็นด้วยไปมากกว่านี้แล้วพี่เจีย”
“มิว่าอย่างไร พวกเรามาชําระล้างร่างกายและกลับไปที่ตําหนักโอสถกันเถอะ ข้าคิดว่าพวกเราจากมานานเกินไปแล้ว”
เวลาหลังจากนั้น เมื่อเหล่าศิษย์กลับคืนมายังตําหนักโอสถ ซูลี่ชิงก็ลงมาที่ชั้นล่างพร้อมต้อนรับพวกเธอแล้ว
“อาจารย์ พวกเราขอโทษที่หายไปเป็นเวลานาน”
“ซูหยางมีพละกําลังมากเกินกว่าที่พวกเราจะสามารถจะจินตนาการ…”
เหล่าศิษย์พากันขอโทษเธอ
อย่างไรก็ตาม ซูลี่ชิงส่ายหน้าของเธอและถามพวกเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเธอว่า “ข้าเพียงสนใจสิ่งเดียวในตอนนี้ และนั่นก็คือ พวกเจ้าเหล่าหญิงสาวสนุกหรือไม่”
“พ-พวกเราสนุกมาก อาจารย์” พวกเธอรีบพยักหน้า
“เช่นนั้นพวกเจ้าพึงพอใจกับประสบการณ์นี้ไหม”
“มาก” พวกเธอพยักหน้าอีกครั้ง
“เช่นนั้นข้าก็จักให้อภัยพวกเจ้าที่กลับมาสาย” ซูลี่ชิงกล่าว และเธอก็กล่าวต่อว่า “มิว่าอย่างไรก็ตาม ข้าจักทํางานพวกเจ้าให้เสร็จด้วยตัวข้าเองในวันนี้ พวกเจ้าทั้งหมดสามารถที่จะกลับบ้าน และพักผ่อนมากกว่านี้ได้”
“จ-จริงรึ ท่านมิต้องทํามากมายเช่นนั้นเพื่อพวกเรา อาจารย์…”
ซูลี่ชิงถามพวกเธอ “ดูตัวพวกเจ้าสิ พวกเจ้าจะทํางานได้อย่างไรเมื่อพวกเจ้ามิสามารถที่จะยืนให้มั่นคงได้โดยมขาสั่น ถ้าข้าลั่นปากว่าข้าจะจัดการมัน ข้าก็จะทําเช่นนั้น”
“ข-ขอบคุณ อาจารย์ พวกเราจะทํางานหนักเป็นสองเท่าเมื่อพวกเรากลับมาในวันพรุ่งนี้” พวกเธอโค้งคํานับอีกฝ่าย
“แน่นอนว่าต้องเป็นเช่นนั้น” ซูลี่ชิงกล่าว
ครั้นเมื่อเหล่าศิษย์จากตําหนักโอสถไปอีกครั้ง ซูลี่ชิงก็นั่งลงด้วยสีหน้าหมดแรง
“ข้าเดาว่าข้าจักต้องปิดตําหนักโอสถเร็วกว่ากําหนดในวันนี้ ข้ามิสามารถที่จะตั้งสมาธิทํางานได้ด้วยสภาพตูดข้าที่เป็นเช่นนี้ได้อยู่ดี…” เธอถอนหายใจ