ส่วนที่ 4 ตอนที่ 121 ช่วงเวลาเดิมพัน

ความลับแห่งจินเหลียน

คิดไม่ถึงว่าเมื่อจ่านมู่ฮวาได้ฟังประโยคที่ซีเหมินจินเหลียนพูดก็เบิกตาโตขึ้น เดิมทีก็ดวงตากลมที่โตอยู่แล้ว ตอนนี้ดวงตาคู่นั้นก็เปล่งประกายวิบวับมองซีเหมินจินเหลียนอย่างนิ่งงัน

 

“จินเหลียน คุณคิดจะจัดการผมยังไง บีบบังคับผม? ล่วงละเมิดผม? หรือทรมานผม? จ่านมู่ฮวาดวงตาแวววับ

 

“ไสหัวไปให้พ้น!” ซีเหมินจินเหลียนกดเสียงต่ำพูดออกมา เธอกำลังพูดเรื่องเป็นทางการอยู่ เขากลับมาคิดเรื่องไร้สาระกัน?

 

“ผมจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี” จ่านมู่ฮวายังไม่ลืมที่จะเสริมประโยคเข้าไป

 

“ถ้าหากคุณอยากจะให้ความร่วมมือ นับจากนี้ไปก็ช่วยหายหน้าไปไม่ให้ฉันเห็นจะดีที่สุด!” ซีเหมินจินเหลียนหมดอารมณ์ที่จะพูด

 

จ่านมู่ฮวาหัวเราะแหะๆ “หายไปเหรอ? เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ผมตามจีบคุณอยู่นะ”

 

“คืนนี้ถ้าหากฉันแพ้จนหมดตัวแล้ว ยังคู่ควรให้ใครมาตามจีบอีกเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนจู่ๆ ก็ยิ้มมีเลศนัยขึ้นมา จีบเธอเหรอ? จีบตัวเธอหรือว่าจีบความสามารถในการเดิมพันของเธอกันแน่? 

 

ถ้าหากประโยคนี้ ซีเหมินจินเหลียนถามหลินเสวียนหลานหรือว่าฉินเฮ่า เกรงว่าสองคนนี้คงปฏิญาณตนพูดว่าคนที่ผมจะจีบคือคุณ ไม่ใช่เรื่องพวกนี้ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้ชายคนอื่นเวลานี้ก็ล้วนแต่พูดประโยคที่น่าฟังกันทั้งนั้น

 

แต่จ่านมู่ฮวาก็คือจ่านมู่ฮวา หลังจากใช้สมาธิคิดไตร่ตรองพูดออกมาว่า “ผมก็ไม่รู้”

 

“เพราะคุณเป็นคนก่อเรื่องบ้าๆ นี่ขึ้นมา เพราะอย่างนั้นคุณก็ต้องช่วยฉัน” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม

 

“อ้อ?” จ่านมู่ฮวาสับสนถามขึ้น “คุณจะให้ผมช่วยอะไรล่ะ”

 

ซีเหมินจินเหลียนคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงพูดขึ้น “คลับหยกนี้เป็นของคุณ ไม่ผิดใช่ไหมคะ?”

 

“ครับ” จ่านมู่ฮวาพยักหน้า “ก็ใช่”

 

“สามนาทีก่อนที่การเจียระไนในงานการเดิมพันหินใหญ่จะเริ่ม ฉันขอให้คุณช่วยดับไฟสักหนึ่งนาที เรื่องนี้สำหรับคุณคงไม่ยากเกินไปใช่ไหม?” ซีเหมินจินเหลียนพูด

 

“อ้อ” จ่านมู่ฮวาถามอย่างสงสัย “คุณจะทำอะไร”

 

“ฉันจะทำอะไรไม่สำคัญ ที่สำคัญก็คือคุณรับปากได้ไหม?” ซีเหมินจินเหลียนถาม

 

จ่านมู่ฮวาไตร่ตรอง ถึงคลับหยกนี่จะไม่ใช่ของเขา แต่คำขอร้องนี้ก็ง่ายมาก ไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไร แถมดับแค่หนึ่งนาที ถ้าหากเวลานานกว่านี้อาจจะยุ่งยากนิดหน่อย

 

“แค่หนึ่งนาทีเหรอ?” จ่านมู่ฮวาถาม

 

“ใช่ แค่หนึ่งนาที” ซีเหมินจินเหลียนตอบยืนยัน

 

“ได้” จ่านมู่ฮวาพยักหน้า “ถึงเวลานั้นคุณบอกเวลามาให้แน่นอน ส่งข้อความมาหาผม เมื่อผมได้รับข้อความแล้ว ภายในสิบวินาทีไฟจะดับ คลับหยกทั้งหมดจะปกคลุมไปด้วยความมืด คุณอยากจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”

 

“ขอแค่คุณรับรองในเรื่องนี้ เหมืองเพชรคืนนี้ของคุณก็ยังเป็นของคุณ พรุ่งนี้พวกเราจะสามารถแบ่งหุ้นบริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่สิบห้าเปอร์เซนต์กัน” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มกรุ้มกริ่มและสีหน้ามีความชั่วร้าย

 

จ่านมู่ฮวารู้สึกไม่เข้าใจ ทำไมเมื่อก่อนเขาถึงไม่เคยรู้สึกเลยว่าเวลาซีเหมินจินเหลียนยิ้มมีพลังชั่วร้ายซ่อนเร้นอยู่?

 

“ฉันยังมีเรื่องที่ต้องเตรียมตัว ถ้าคุณไม่มีเรื่องอะไรก็ไปได้แล้ว” ซีเหมินจินเหลียนพูดไล่อย่างไม่เกรงใจกัน

 

“โอเค” จ่านมู่ฮวาลุกขึ้นแล้วเดินไปข้างนอก

 

หลังจากที่จ่านมู่ฮวาเดินไป จ่านป๋ายก็เดินเข้ามา “คืนนี้ทางนั้นมีความเคลื่อนไหวบางอย่าง”    

 

“เป็นอย่างที่คิดไว้” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าพูด “หลังจากที่งานนิทรรศการอัญมณีคืนนี้สิ้นสุดลง คุณเก็บเครื่องประดับของพวกเราทั้งหมดให้เรียบร้อย เก็บไว้ที่คลับหยกชั่วคราวก่อน จากนั้นให้หลินเสวียนหลานนำกล่องเปล่าแล้วพากลับไปที่บริษัทจินเหลียนจิวเวอรี่ แล้วก็คืนนี้อย่าให้เขาเข้ามา”

 

จ่านป๋ายพยักหน้าและยิ้มบางๆ คืนนี้หลินเสวียนหลานไม่เหมาะกับการปรากฏตัว

 

“คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าผู้ชายที่อยู่ข้างๆ คุณนายซูคนนั้นเป็นเขาจริงๆ?” ซีเหมินจินเหลียนบิดนิวมือเล็กน้อย และถามขึ้นอย่างทำตัวไม่ถูก

 

จ่านป๋ายพยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร ซีเหมินจินเหลียนผ่อนลมหายใจลงและพูดว่า “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?”

 

“คนที่ทำเพื่อผลประโยชน์ เรื่องอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น คุณไม่เห็นจะต้องไปใส่ใจเลยครับ?” จ่านป๋ายพูดปลอบใจ

 

ซีเหมินจินเหลียนหรี่ตาลงและถอนหายใจออกมา บางครั้งคนเราก็มักจะเข้าใจยากเหลือเกิน เดิมทีเธอคิดว่าจะไม่ใส่ใจแล้ว แต่ตอนที่จ่านป๋ายบอกเธอนั้น เธอก็ได้สนใจไปแล้ว…รีบร้อนตอบรับคำท้าของคุณนายซู ตนเองเล่นกับไฟแท้ๆ จนกระทั่ง…วันนี้เธอพาตัวเองไปเข้าหามรสุม นับจากนี้คงจะสงบสุขไม่ได้แล้วแน่ๆ

 

เรื่องนี้ถึงจะผิดศีลธรรมไปบ้าง แต่เรื่องเมื่อวานทำให้เธอเข้าใจว่าใครคนนั้น ไม่เคยอยู่ในใจเธอมาก่อน แต่คืนนี้เรื่องทุกอย่างจะต้องจบ ไม่สนว่าผลแพ้ชนะจะเป็นอย่างไร การเดิมพันครั้งนี้เธอแค่อยากจะทำให้ตนลืมอดีตที่เคยผ่านมาของตัวเอง

 

คิดเสียว่าเป็นการไว้อาลัยก็แล้วกัน แพ้ชนะอีกเรื่อง!    

 

บางครั้งสิ่งที่พวกเราคิดถึง ก็ไม่ใช่ความรู้สึกตอนนั้น และไม่ใช่คนในตอนนั้น แต่เป็นตัวเองในตอนนั้น! ตอนนั้นในอดีตที่กาลเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วดั่งกับสายน้ำที่ไหลหลาก…

 

ทุกอย่างสวยงามไปหมด ตอนที่เมฆแยกตัวกระจายออกจากกัน ก็จะเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้ชัดเจน หลังจากนั้นก็จะพบว่าที่แท้โลกของเราไม่ได้สวยงาม

 

งานนิทรรศการอัญมณีที่จัดขึ้นสามวันได้เงียบเหงาลง นักธุรกิจบางส่วนเริ่มเก็บของกันเพื่อเตรียมตัวออกจากที่นี่ ส่วนคนส่วนมากกลับยังอยู่ที่คลับหยก เพื่อรอการเดิมพันสุดแสนจะยิ่งใหญ่ในคืนนี้

 

หลังจากงานนิทรรศการจัดแสดงสินค้าอัญมณีจบลง ก็ไม่ได้หมายความว่าการเดิมพันหินใหญ่จะจบลงไปด้วย

 

ภายใต้แสงของโคมไฟแชนเดอเรียคริสตัล มีหินหยกที่ลักษณะพื้นผิวขรุขระไม่สวยงามวางไว้อยู่ตรงนั้น เพื่อรอให้มีคนมาเปิดเจียระไนค้นพบความงามของหยก และร่ำรอบนเวทีของงานนิทรรศการครั้งนี้

 

 หินหยกหมายเลขสิบเอ็ด ผิวทรายสีดำอีกาก้อนหนึ่งเล็กจนน่าสงสาร อย่างมากก็อาจจะมีขนาดใหญ่เท่าไข่ไก่ ไม่ได้ดึงดูดสายตาใคร แต่อัตราต่อรองราคาเป็นหนึ่งต่อหนึ่ง นี่เป็นอัตราต่อรองที่เปิดมาต่ำที่สุด ทำให้ผู้คนที่มาเข้าร่วมในงานเดิมพันหินใหญ่ในคืนนี้ไม่ได้ใส่ใจมองไปที่หินทรายสีดำอีกานั่น

 

เจ้าของของหินทรายสีดำอีกานั่น มีชื่อที่สวยงามว่า…ซีเหมินจินเหลียน!

 

คนส่วนมากที่เข้าร่วมงานเดิมพันหินต่างรู้ดีว่าเมื่อคืนมีคนเจียระไนสีล้ำค่าสามสีต่อหน้าผู้คน แม้กระทั่งมีคนถกเถียงเรื่องนี้ลับๆ ถ้าหากเมื่อวานซีเหมินจินเหลียนนำหินหยกสามสีก้อนนั้นที่ร่วมงานเดิมพันหินใหญ่ของราชานักเดิมพันหยกเจียหยวนฮวาจะชนะได้อีกหรือไม่?

 

ผู้เข้าร่วมส่งหินหยกหมายเลขเก้า เป็นราชาแห่งการเดิมพันหยกเจียหยวนฮวา ผิวหินที่มีลักษณะสีน้ำตาล หนักราวๆ สิบกิโลกรัม ผู้จัดงานเปิดอัตราต่อรองราคามาที่หนึ่งต่อสอง

 

ผู้คนต่างพากันสงสัย หรือว่าราชาแห่งการเดิมพันหยกอย่างเจียหยวนฮวาที่ได้อันดับหนึ่งไปเมื่อคืน สายตาในการเดิมพันหินของเขาก็สู้เด็กสาวไม่ได้

 

หินหยกหมายเลขแปดก็หนักราวๆ สิบกิโลกรัมเช่นกัน ผิวสีเหลืองแดง ผู้ที่ส่งหินมาเข้าร่วมเป็นคนใหม่ พูดได้ว่าไม่ใช่คนที่อยู่ในสายเดิมพันหิน ชื่อฉินเฮ่า แต่ผู้จัดงานเหมือนจะบ้าไปแล้ว เปิดอัตราต่อรองราคาไปที่หนึ่งต่อสอง

 

หินหยกหมายเลขสิบสามเป็นหินหยกที่มาจากเจ้าของบริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่อย่างคุณนายซูที่เป็นคนส่งเข้ามา ผิวทรายสีขาวได้มาตรฐาน น้ำหนักราวห้ากิโลกรัม อัตราต่อรองยังคงหนึ่งต่อสอง

 

แต่หินหยกหมายเลขสิบสี่มีรูปร่างเล็กน่าสงสารเช่นกัน ใหญ่มากสุดก็แค่กำมือ ผิวมีสีเหลืองแกมน้ำตาล ดูไม่ออกถึงความผิดปกติ ผู้ที่ส่งเข้ามาคือคุณนายอวิ๋น อัตราต่อรองหนึ่งต่อหนึ่ง

 

อัตราต่อรองที่เหลือ เมื่อเทียบกับเมื่อวานแล้วสูงขึ้นมาก การเดิมพันหินใหญ่ในสามวันนี้ ถ้าคนที่อยากจะเล่นเดิมพัน ถึงแม้จะไม่เข้าใจหินหยก แต่อย่างน้อยก็สามารถดูจากราคาสูงต่ำมาตัดสินลักษณะดีร้ายของหินหยก แต่วันนี้นักเดิมพันหินทั้งหมดกลัดกลุ้มใจกันทั้งนั้น คืนนี้ผู้จัดงานเดิมพันหินใหญ่คิดจะเล่นอะไรกันแน่?

 

คืนนี้ซีเหมินจินเหลียนไม่ได้ไปดูงานเปลี่ยนหินกลายเป็นทอง และไม่ได้ไปเดิมพันสีและเดิมพันแหล่งที่มา สำหรับเธอแล้วสองวันนี้ทำเงินมาได้ไม่น้อย วันนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะไปเล่นเดิมพันพวกนั้นแล้ว สิ่งที่เธอต้องการคือติดอันดับแรกในวันนี้

 

ซีเหมินจินเหลียนและคุณนายซูอยู่ด้วยกันที่ห้องพักผ่อนข้างในข้างๆ มองจากกล้องวงจรปิดเห็นผู้คนไปมาในงานเดิมพันหินใหญ่

 

“น้องสาว” คุณนายซูพูดขึ้น “พวกเราจะเพิ่มของเดิมพันอีกไหม”

 

“หุ้นสิบห้าเปอร์เซนต์ของบริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่ พี่สาวยังไม่คิดว่ามันท้าทายพอหรือคะ?” ซีเหมินจินเหลียนหยิบน้ำส้มขึ้นมาและดมกลิ่นเล็กน้อย ถึงค่อยๆ ดื่มไปและพูดว่า “พี่สาวอย่าใจใหญ่มากเกินไปดีกว่านะคะ”

 

“ไม่ๆๆ” คุณนายซูส่ายหัวพูด “น้องสาวอย่าพึ่งเข้าใจพี่สาวผิด ถ้าจะเดิมพันก็ต้องเดิมพันใหญ่หน่อยสิ”

 

“น้องจินเหลียน!” คุณนายซูพูดขึ้น “ความจริงคืนนี้เธอและฉันต่างคาดเดากันไม่ได้ถูกไหม?”

 

“ใช่ค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า “การเดิมพันหิน…ใครจะมั่นใจได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” นี่เป็นความจริง การเดิมพันหินใครจะกล้าพูดถึงความมั่นใจในตัวเองได้กัน?

 

“ใช่ไหมล่ะ!” คุณนายซูพูด “ความจริงพวกเราทั้งสองฝ่ายต่างทำผิดกฎกติกาการเดิมพันหินใหญ่ทั้งนั้น เธอดูสิ…นอกจากฉันจะใช้ชื่อในนามบริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่แล้ว ป้าของฉันก็มาร่วมด้วย เธอเองก็ไม่ใช่เล่นๆ คิดไม่ถึงว่าจะแกล้งให้ราชาแห่งการเดิมพันหยกและฉินเฮ่ามาส่งหินเดิมพัน?”

 

ซีเหมินจินเหลียนดื่มน้ำส้มคั้นในแก้วภายในอึกเดียวและเชิดปลายคางขึ้นถามว่า “หินหยกหมายเลขสิบเก้าเป็นของคุณใช่ไหม?”

 

คุณนายซูได้ยินเข้าก็หัวเราะเบาๆ “น้องสาวคงไม่อยากจะเสียเปรียบสักนิดสินะ ใช่แล้ว หินหยกหมายเลขสิบเก้าเป็นของฉัน”

 

“สามต่อสาม ตอนนี้ถือว่าพวกเราเสมอกันแล้ว” ซีเหมินจินเหลียนหัวเราะ เล่นสกปรกก็เป็นคุณที่เริ่มก่อน ทำไมมาพูดเหมือนเธอทำผิดร้ายแรงขนาดนั้น? แล้วยังจะให้เธอยอมรับต่อหน้าเธออีก? เห็นว่าเธอโง่เง่าหรือว่าเธออยากจะกลั่นแกล้งกันแน่

 

“ก็ได้ ตอนนี้ถือว่าพวกเราเสมอกัน!” คุณนายซูพูด “การเดิมพันในคืนนี้ ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เพราะพวกเราต้องแบ่งให้ชัดเจนว่าใครชนะ และฉันก็วางเดิมพันทรัพย์สินทั้งหมดไปหมดแล้ว”

 

“พี่สาววางเดิมพันที่ทรัพย์สินของตัวเอง แน่นอนว่าต้องพยายามไม่น้อย!” ซีเหมินจินเหลียนพูดราวกับมีเข็มทิ่มแทง

 

“เพราะฉะนั้น ฉันอยากจะมาหาน้องสาวเพื่อเพิ่มของเดิมพันอีกสักหน่อย ในเมื่อเดิมพันแล้ว ก็ต้องให้มันยิ่งใหญ่สักนิดสิ!” คุณนายซูพูด

 

“พี่สาวอยากจะเดิมพันอะไรอีก เดิมพันในทรัพย์สินของตัวเองยังไม่พออีกเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนถามขึ้น

 

“เดิมพันชีวิต!” คุณนายซูพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน

 

“ของคุณ? ของฉัน?” ซีเหมินจินเหลียนไม่ได้แปลกใจแต่กลับพยักหน้าถาม “นี่คงไม่ใช่ความตั้งใจของพี่สาวใช่ไหม?”