TQF:บทที่ 572 เข้าพัก ณ บ้านใหม่ (1)

 

 

 

ทุกคนกลับไปพักผ่อนที่ห้อง

 

ห้องนอนมีไม่น้อย แต่หยูเฮงน้อยก็ยังเบียดอยู่ห้องเดียวกับเฉิงเสี่ยวเสี่ยว เมื่อนางถึงห้องก็โยนหมวกปิดหน้าออกพลางโวยวายอย่างไม่พอใจ “ใส่อันนี้แล้วยุ่งยาก ข้าปรากฏกายด้วยรูปลักษณ์เด็กเหมือนเดิมดีกว่า”

 

“ในเมื่อโตแล้วทำไมยังต้องอยู่ในรูปลักษณ์เด็กด้วยล่ะ” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวหยิบหมวกปิดหน้าตัวเองออกชำเลืองมองนาง “ถ้าเจ้าไม่อยากให้ใครมาจ้องเวลาออกไปไหน การใส่หมวกปิดหน้าก็เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ไม่แย่อะไรนี่”

 

“ไม่เอา อึดอัดจะตายอยู่แล้ว” หยูเฮงน้อยก็คือเด็ก ว่างไม่ได้ นางหมุนตัวเบาๆก็กลับมาเหมือนเด็ก 10 ขวบอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณหนู ข้าขอออกไปดูข้างนอกหน่อย เดี๋ยวกลับมา ไม่ต้องรอข้ากินข้าวนะ”

 

พูดจบ ไม่ทันที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวจะตกลงก็หายออกจากประตูไปทันที

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ หมดคำพูดกับนิสัยซุกซนของเจ้าตัวเล็กนี่จริงๆ แต่นางไม่ต้องคอยเป็นห่วงหยูเฮงน้อย นางสามารถเดินกร่างไปทั่วผืนดินฉางไห่ได้เลย ใครก็ตามที่มามีเรื่องกับนางต้องเป็นฝ่ายซวยเองแน่

 

นางอยากจะเล่นสนุกก็ให้นางเล่นไป

 

ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยุ่ง เฉิงเสี่ยวเสี่ยวจึงนั่งขัดสมาธิบนเตียง ตอนนี้นางอยู่ตอนปลายของระดับจักพรรดิ์อมตะแล้ว มีความเข้าใจใหม่ๆเกิดขึ้นกับคัมภีร์จักรพรรดินีเก้ายอด(กษัตริ์หญิงเทียนเสวียนอวี่)​

 

ในขณะที่ทุกคนกำลังพักผ่อนและฝึกฝน หยูเฮงน้อยก็มาอยู่ที่ห้องโถงของโรงเตี๊ยมแล้ว ด้วยความน่ารักของนางจึงดึงดูดสายตาของทุกคนไว้ แม้แต่ผู้จัดการที่คำนวณบัญชีอยู่ก็ชำเลืองมา เพียงแต่เขาจำนางไม่ได้ นึกว่าเป็นเด็กที่แขกรายอื่นพามา

 

หยูเฮงน้อยกวาดไปรอบๆห้องโถง แม้จะไม่ใช่เวลาอาหารจริงๆแต่ก็มีคนอยู่ไม่น้อย แน่นอนว่าส่วนใหญ่ก็เป็นทหารรับจ้างที่เพิ่งเสร็จจากภารกิจ

 

หลังจากที่กวาดสายตาไปทั่ว ไม่นานนักหยูเฮงน้อยก็เล็งเห็นคน 3 คน ซึ่งก็คือเกาชิงหยางและอีก 2 สหายที่เจอกันหน้าตึกว่านซางนั่นเอง

 

ใบหน้าเล็กๆของนางยิ้มอย่างสดใส ก้าวเล็กๆไปหาทั้ง 3 คนที่กำลังเศร้าหมองอยู่ที่มุม

 

การกระทำของหยูเฮงน้อยเป็นที่สนใจของคนจำนวนมาก ที่ทุกคนแปลกใจที่สุดก็คือเด็กสาวแสนสวยคนนี้เดินไปหาสมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างไป๋หู่

 

ทั้ง 3 ก็เริ่มรู้ตัวจึงเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นเทพธิดาตัวน้อยที่กำลังเดินมาก็อึ้งกันไปหมด นึกว่าตัวเองเกิดภาพหลอน

 

ขยี้ตาแล้วก็ยังมองไม่ผิด เด็กสาวแสนสวยยิ้มแย้มตรงหน้าก็คือเทพธิดาตัวน้อยที่พวกเขาเจอในหุบเขา

 

ทำไมนางถึงมาอยู่ที่นี่

 

ในขณะที่พวกเขายังอึ้งอยู่ หยูเฮงน้อยก็เดินมาถึงตรงหน้าพวกเขาแล้ว “เกาชิงหยาง ข้านั่งตรงนี้ได้มั้ย”

 

“ได้ ได้สิ….” หัวของเกาชิงหยางแทบจะทำงานไม่ทัน เห็นนางนั่งลง ตะโกนด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจ “เทพ เทพธิ…..”

 

ไม่ทันที่เขาจะตะโกนคำว่าเทพธิดาน้อยออกมา หยูเฮงน้อยก็โบกมือพลางพูด “พอแล้ว ข้าแซ่เฉิง เจ้าเรียกข้าว่าแม่นางเฉิงก็พอ”

 

“ขอรับ” เรียกเทพธิดาน้อยก็เป็นที่น่าสนใจของคนอื่นๆจริงๆนั่นแหละ เกาชิงหยางจึงได้แต่เปลี่ยนคำและถามอย่างอดไม่ได้ “แม่นางเฉิง ทำไมพวกเจ้าถึงมาที่ฮวงยันล่ะ”

 

“ทำไม พวกเรามาไม่ได้หรือ” หยูเฮงน้อยเลิกคิ้วและมองเข้านิ่ง

 

“ไม่ ไม่ใช่”

 

เกาชิงหยางรีบส่ายหัวพร้อมตอบ และมองไปยังอีก 2 สหายที่เหมือนมีอะไรอยากจะพูด เขาจึงถามคนตรงหน้า “แม่นางเฉิงมีอะไรให้รับใช้หรือไม่ หากต้องการอะไรสั่งได้เลย ขอแค่พวกเราทำได้จะไม่ปฏิเสธแน่”

 

“เปล่า” หยูเฮงน้อยทั้งตลกและปลื้มใจ เกาชิงหยางพูดแบบนี้ออกมาได้แปลว่านางไม่ได้มองเขาผิดไป

 

หยูเฮงน้อยก็ไม่อยากเล่นคำกับพวกเขาแล้ว จึงถามตรงๆ “พวกเจ้าเป็นอะไรกัน ข้าเห็นพวกเจ้าหน้าตาเศร้าสร้อย เจอปัญหาอะไรรึเปล่า”

 

“เรื่องนี้…”

 

ทั้ง 3 มองหน้ากัน พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าหยูเฮงน้อยจะมาถามถึงเรื่องพวกเขาเอง นึกว่าตัวเองฟังผิด

 

หยูเฮงน้อยเห็นท่าทางเด๋อด๋าของคนตรงหน้า ขมวดคิ้วขึ้นด้วยความไม่พอใจ “ทำไม ไม่สะดวกบอกข้าหรือ ถ้าไม่สะดวกละก็ไม่เป็นไร พวกเจ้าถือซะว่าข้าไม่ได้ถามก็แล้วกัน”

 

“ปะ เปล่า”

 

เกาชิงหยางเบาใจลง มีความซาบซึ้งอย่างเต็มเปี่ยมอยู่ในใจ เขารู้สึกได้ว่าหยูเฮงน้อยถามจากใจจริง และเป็นห่วงสถานการณ์ของพวกเขาจริงๆ จะไม่ให้พวกเขาซึ้งได้อย่างไรกัน

 

โดยเฉพาะตู้จินเฟยและโจวไห่หยัน ทั้ง 2 มีสีหน้าซาบซึ้ง สายตาที่มองหยูเฮงน้อยก็ลดความหวาดกลัวลง มีความปลื้มและความเคารพเพิ่มมากขึ้น

 

“แม่นางเฉิง พวกเราเป็นคนของกลุ่มทหารรับจ้างไป๋หู่ วันก่อนพวกเราแยกกันลงมือกับหัวหน้ากลุ่ม พอพวกเรากลับมาหัวหน้ากลุ่มกับยังไม่กลับ พวกเรานึกว่าพวกเขายังทำภารกิจไม่เสร็จจึงรออยู่ตลอด”

 

เกาชิงหยางไม่ได้ปิดบัง เล่าที่มาที่ไปให้หยูเฮงน้อยฟัง “หลังจากนั้นไม่กี่วัน พวกเราถึงได้ข่าวจากกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มอื่นว่าพวกหัวหน้ากลุ่มเจอภัย พวกเขาปะทะเข้ากับคนอื่นในตอนนี้หายาในหุบเขา คนของหัวหน้ากลุ่มทุกคนล้วน….”

 

พูดมาถึงตรงนี้เกาชิงหยางเริ่มมีก้อนสะอื้นเบาๆ ตาเขาเริ่มแดง ท่าทางพวกเขาผูกพันลึกซึ้งกับคนของกลุ่มทหารรับจ้างไป๋หู่

 

“พอพวกเราได้ข่าวพี่ชิงหยางก็ตัดสินใจทันทีว่าจะไปหาพวกหัวหน้ากลุ่ม ตอนที่พวกเราถึงพวกเขาก็ตายแล้ว เหลือเพียงสหายอีก 4-5 คนที่บาดเจ็บหนัก เรียกว่ากลุ่มทหารรับจ้างไป๋หู่ของเราจบสิ้นแล้ว”

 

ตู้จินเสียอธิบายเสียงต่ำ

 

หลังจากที่เขาพูดจบโจวไห่หยันก็พูดขึ้นบ้าง “พวกเราพาสหายที่เหลืออยู่ทั้งหมดกลับมา 2 คนในนั้นสูญเสียวิทยายุทธไปจนหมด ที่เหลือก็บาดเจ็บหนักยากที่จะรักษา พวกเราหมดหนทาง ได้แต่พยายามดูแลเหล่าสหายให้ดี และยังมีสหายที่ตายไป ครอบครัวของพวกเขาก็ต้องการความดูแล ตอนนี้พวกเรา….”

 

“เข้าใจแล้วๆ”

 

ในที่สุดหยูเฮงน้อยก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น มิน่าล่ะพวกเขาถึงมีสีหน้าแบบนี้ คน 3 คน ดูแล 10 กว่าครอบครัว ของที่ให้พวกเขาไปครั้งที่แล้วก็คงยื้อได้ไม่นาน

———————————