เมืองปีศาจที่เงียบสงัด

“พวกนั้นกลับไปแล้ว ?”

“NPC ปีศาจเหล่านั้นเป็นอะไรกัน ?”

เมื่อเห็นโมนาร์ชและ NPC ปีศาจตัวอื่นๆหันหลังและหนีกลับเข้าเมือง ผู้เล่นที่อาศัยอยู่ในเมืองปีศาจนั้นก็เต็มไปด้วยความสับสน NPC ได้ทำการล้อมกรอบมังกรดำและซือเฟิงเอาไว้แล้ว และเตรียมพร้อมที่จะดำเนินการ อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดพวกนี้กับหนีไปทั้งหมด หลังจากซือเฟิงปรากฎตัวต่อหน้าพวกมันโดยถือหนังสือเล่มหนึ่งอยู่

มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กัน ?

ในขณะนี้นับประสาอะไรกับผู้เล่นที่ประจำการอยู่ในเมืองปีศาจ แม้แต่สมาชิกของหัวใจปีศาจที่มีอำนาจเหนือเมืองปีศาจก็ยังตกตะลึงกับสถานการณ์นี้

“เขาทำอะไรกัน ? ทำไม NPC ปีศาจถึงกลัวเขา ?” ฟิวเรียสฮาร์ทตกตะลึง ขณะจ้องมองไปยังซือเฟิงที่กำลังร่ายเวทย์อยู่บนท้องฟ้า

สติปัญญาของ NPC ปีศาจขั้นสี่นั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้เล่นเลยแม้แต่น้อย และมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้เล่นในปัจจุบันจะมีความได้เปรียบใดๆกับ NPC เหล่านี้ ต่อหน้า NPC ปีศาจเหล่านี้ ผู้เล่นในปัจจุบันนั้นจะเป็นดั่งมดปลวกเลย และ NPC ปีศาจเหล่านี้จะสามารถกวาดล้างผู้เล่นในปัจจุบันออกไปได้อย่างง่ายดาย

นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่า NPC ปีศาจเหล่านี้ก็ยังคงต่อสู้อย่างสงบและเยือกเย็นในขณะที่เผชิญหน้ากับ NPC ที่เป็น Divine Official ขั้นห้า ยิ่งไปกว่านั้นท้ายที่สุดแล้วพวกนี้ยังสามารถขับไล่กองทัพ NPC ของจักรวรรดินักบุญทั้งสิบออกไปได้ และทำให้เมืองปีศาจตั้งหลักในจักรวรรดิได้

อย่างไรก็ตามตอนนี้ NPC ปีศาจเหล่านี้กับหนีไปราวกับหนูที่หวาดกลัว

อย่างไรก็ตามก่อนที่ฟิวเรียสฮาร์ทจะทันได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซือเฟิงก็ได้ร่ายเวทย์บทสุดท้ายของเขาเสร็จเรียบร้อย จากนั้นเขาก็เล็งเป้าไปยังปีศาจระดับวิสเค้าท์ ขั้นสี่ เลเวลหนึ่งร้อยสามสิบสี่ ที่ยังหนีไปไม่ห่างจากเขามากนัก โดยปีศาจตนนี้นั้นทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมองครักษ์ส่วนตัวของโมนาร์ช
“ในนามของเจ้าแห่งปีศาจ จงยอมทำตามความประสงค์ของข้า !!!”

ทันใดนั้นโซ่สีดำสนิทก็ปรากฎขึ้นรอบๆหัวหน้าองครักษ์ส่วนตัวเลเวล นึ่งร้อยสามสิบสี่ ซึ่งมันทำให้เกิดแรงกดดันที่อาจไม่อาจจะอธิบายได้ จนทำให้ NPC ปีศาจ และผู้เล่นปีศาจทั้งหมดตัวสั่นอย่างไม่ตั้งใจ

“ไม่ !!! อย่าเอาจิตใจของฉันไป !!!” หัวหน้าองครักษ์ส่วนตัวที่เป็นปีศาจตะโกน และพยายามอย่างหนักเพื่อขับไล่โซ่สีดำสนิทออกไป

แต่น่าเสียดายที่ความพยายามทั้งหมดของมันนั้นไร้ผล เนื่องจากโซ่สีดำสนิทนั้นเพิกเฉยต่อค่าความต้านทานทั้งหมดของหัวหน้าองครักษ์ส่วนตัวปีศาจ และมันก็ผสานเข้ากับร่างกายของหัวห้าองครักษ์ส่วนตัวปีศาจอย่างรวดเร็ว

“เขาทำอะไรกัน ?”

“นี่เขาสามารถจัดการกับปีศาจระดับวิสเค้าท์ ขั้นสี่ที่แท้จริงได้ด้วยการเคลื่อนไหวเดียวเลยงั้นหรอ ?!”

ผู้เล่นปีศาจทุกคนต่างอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง เมื่อได้เห็นฉากนี้ นี่คือ NPC ปีศาจขั้นสี่ของเมืองปีศาจ และพลังการต่อสู้ของพวกนี้ก็มีมากเกินกว่าปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ ขั้นสี่ในโลกภายนอก ไม่ต้องพูดถึง NPC ปีศาจที่เป็นระดับวิสเค้าท์ ขั้นสี่ด้วยเลย ความแข็งแกร่งของมันนั้นเทีบได้กับฮีโร่ขั้นสี่ด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามตอนนี้ปีศาจตัวนี้นั้นได้หยุดเคลื่อนไหวแล้ว

มันได้ผล ? ซือเฟิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเขาเห็นหัวหน้าองครักษ์ส่วนตัวปีศาจหยุดเคลื่อนไหว

ไบเบิ้ลแห่งความมืดนั้นช่วยให้เขามีอำนาจเหนือปีศาจ และในสถานะปัจจุบันของมันนั้นจะมีก็แต่เพียงราชันปีศาจขึ้นไปเท่านั้นที่จะสามารถต้านทานพลังของมันได้ และปีศาจที่อยู่ต่ำกว่าระดับราชันปีศาจก็จะกลัวไบเบิ้ลแห่งความมืดโดยสัญชาตญาณ

อย่างไรก็ตามการใช้ไบเบิ้ลแห่งความมืดเพื่อควบคุมปีศาจนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และด้วยสกิลเจ้าแห่งปีศาจจากไบเบิ้ลแห่งความมืดนั้น ซือเฟิงก็มีโอกาสแค่สิบสองเปอเซ็นต์เท่านั้น ในการจะควบคุมปีศาจได้ และปีศาจต้องมีเลเวลมากกว่าเขาไม่เกินสามสิบเลเวลด้วย และมีขั้นสูงกว่าผู้ใช้ไม่เกินสองขั้น อย่างไรก็ตามวในความเป็นจริง ยิ่งปีศาจแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ โอกาสในการจะควบคุมมันได้ก็จะยิ่งลดลงมากเท่านั้น

ด้วยตัวตนในปัจจุบันของซือเฟิง หากเขาพยายามจะควบคุมโมนาร์ชที่เป็นปีศาจระดับมาร์ควิส โอกาสที่เขาจะประสบความสำเร็จน่าจะต่ำกว่าหนึ่งเปอเซ็นต์ นี่คือเหตุผลที่เขาหันมาเลือกปีศาจระดับวิสเค้าท์ ขั้นสี่เป็นเป้าหมายของเขาแทน

แต่ถึงกระนั้นซือเฟิงก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะสามารถทำสำเร็จได้ในครั้งแรก …. จริงๆเขาวางแผนจะลองอีกหลายครั้งด้วยซ้ำ เพราะสกิลเจ้าแห่งปีศาจนี้มีคูลดาวน์แค่ราวห้านาที เขาสามารถจะใช้มันและลองได้เรื่อยๆ

สำหรับความเป็นไปได้ที่ NPC ปีศาจ ของเมืองปีศาจจะเข้าโจมตีเขานั้น มันไม่จำเป็นต้องคิดถึงเรื่องนั้นเลย

ไบเบิ้ลแห่งความมืดนั้นได้จัดการปราบปรามสิ่งมีชีวิตปีศาจอย่างสมบูรณ์ และแม้ว่าการปราบปรามนี้จะไม่ได้ผลกับผู้เล่นปีศาจ แต่ตราบใดที่เขาถือไบเบิ้ลแห่งความมืดอยู่ สิ่งมีชีวิตปีศาจที่อยู่ต่ำกว่าขั้นหกทั้งหมดจะต้องกลัวเขา แม้แต่ราชันปีศาจขั้นห้าก็ไม่มีข้อยกเว้น เพราะท้ายที่สุดแล้วไบเบิ้ลนี้จะปราบปรามสิ่งมีชีวิตปีศาจในทุกๆด้านอย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้นในกรณีเลวร้ายที่สุด เขาก็ยังมีแหวนเจ็ดลูมินาลี่ที่จะสามารถใช้หลบหนีได้อยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นจะต้องกลัว NPC ปีศาจของเมืองปีศาจเลย

ปัจจัยเหล่านี้นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขากล้ามาที่เมืองปีศาจ

หลังจากที่ซือเฟิงควบคุมหัวหน้าองครักษ์ส่วนตัวปีศาจได้แล้ว NPC ปีศาจที่หลบหนีตัวอื่นๆก็หยุดการล่าถอยของพวกเขาทันที และหันมาจ้องมองซือเฟิงสลับกับหัวหน้าของพวกมันที่ถูกซือเฟิงควบคุมด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความระมัดระวังและโกรธเกรี้ยว

ดูเหมือนว่าปีศาจเหล่านี้จะรู้ว่าฉันสามารถใช้เจ้าแห่งปีศาจได้เพยงแค่ครั้งเดียวในช่วงเวลาสั้นๆ แต่พวกมันก็ยังกลัวที่จะเข้าใกล้ฉัน เนื่องจากนิสัยที่อ่อนไหวของพวกมัน ซือเฟิงยิ้ม ขณะที่มองไปยัง NPC ปีศาจที่มองมายังเขาอย่างระมัดระวัง “แต่น่าเสียดายที่ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว !!!”

หลังจากพูดจบ เขาก็อัญเชิญมังกรดำออกมาอีกครั้ง และให้บินมาข้างเขา จากนั้นเขาก็เปิดการโจมตีเข้าใส่บาเรียเวทย์มนต์ของเมืองปีศาจต่อ

“อะไรกัน ? เขายังพยายามจะโจมตีบาเรียเวทย์มนต์อยู่อีกงั้นหรอ ?”

“ฉันไม่รู้ว่าทำไม NPC ปีศาจถึงกลัวเขามากขนาดนี้ แต่มันยังเร็วเกินไปร้อยปี ถ้าคิดว่าพวกเขาจะสามารถทำลายบาเรียเมืองปีศาจได้ !!!”

สมาชิกของหัวใจปีศาจนั้นรู้สึกประหลาดใจอย่างมากกับความสามารถของซือเฟิงที่สามารถทำให้ NPC ปีศาจหวาดกลัวได้ อย่างไรก็ตามอารมณ์ของพวกเขาก็ถูกจำกัดไว้แค่ประหลาดใจนั่นแหละ แม้ว่า NPC ปีศาจจะกลัวที่จะออกจาเมืองมาเพื่อจัด
การกับซือเฟิง แต่ซือเฟิงก็ยังคงไม่สามารถเข้าสู่เมืองปีศาจได้อยู่ดี

อย่างไรก็ตามทันทีที่สมาชิกของหัวใจปีศาจพูดจบ หัวหน้าองครักษ์ส่วนตัวปีศาจที่หยุดเคลื่อนไหวไปก็เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ซึ่งมันก็ได้เริ่มโจมตีเข้าไปยังจุดเดียวกับมังกรดำพร้อมกัน

ซึ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีประสานของมังกรดำ และปีศาจขั้นสี่ ระดับวิสเค้าท์นั้น บาเรียเวทย์มนต์ที่ปกคอยปกป้องเมืองปีศาจมันก็แตกกระจายออกทันที

Peng… Peng… Peng…

เพียงไม่กี่วินาทีผู้เล่นทุกคนในเมืองปีศาจก็ได้เห็นท้องฟ้าที่กำลังแตกกระจายเรื่อยๆ

เงียบสงัด !!!

เงียบอย่างสมบูรณ์แบบ !!!

ในขณะนี้มันราวกับว่าเวลาได้ถูกแช่แข็งสำหรับเมืองปีศาจ และผู้เล่นทุกคนที่อาศัยในเมืองนั้นต่างก็จ้องมองไปยังท้องฟ้าด้วยความเงียบงันด้วยตาและปากของพวกเขาที่อ้ากว้าง

หลังจากนั้นชุดการแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นมาที่หูของผู้เล่นปีศาจ และทุกคนที่ปฎิบัติการอยู่ในป่าเบิร์นนิ่ง ซึ่งเสียงที่ไร้อารมณ์ของระบบนั้นก็ดังก้องในจิตใจของทุกคนเป็นเวลานาน