ตอนที่ 320 มาส่งน้ำแกงไก่ / ตอนที่ 321 ผมจะหัดทำ

หมอยาหวานใจท่านประธาน

ตอนที่ 320 มาส่งน้ำแกงไก่ 

 

 

หลังจากที่อีลั่วเสวี่ยตื่นจากภวังค์ ก็โผล่หน้าออกจากหน้าต่างรถ ยิ้มให้คนข้างหลังอย่างขออภัย “ขอโทษด้วย พอดีไม่ค่อยสบายท้อง จะขับออกไปเดี๋ยวนี้” 

 

 

ใบหน้าที่สวยงามดุจเทพธิดา ในชั่วพริบตาแสงไฟส่องมาที่ข้างนาง ราวกับระหว่างฟ้าดินเหลือเพียงเธอคนเดียว 

 

 

ตำรวจจราจรสองนายที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ถึงกับเบิกตาโต ลืมประกาศเตือน ถือเครื่องบอกเตือนไว้ ตะลึงมองอีลั่วเสวี่ย 

 

 

“ตำรวจเซ่อซ่าสองคน ไม่เคยเห็นผู้หญิงหรือไง เชอะ” มนุษย์ผู้หญิงก็หน้าตาคล้ายๆ กัน ไม่เห็นมีอะไรน่าดู แปลกจริงๆ 

 

 

อีลั่วเสวี่ยได้ยินเช่นนั้นก็ดึงศีรษะกลับมา แล้วยื่นมือออกไปดีดเจ้าลูกบอลเงิน “เจ้าไม่รู้จักชื่นชม ก็ไม่ต้องไปหัวเราะเยาะคนที่เขารู้จักชื่นชม เข้าใจไหม?” 

 

 

“เจ้าบอกว่าข้าไม่รู้จักชื่นชมงั้นหรือ? ข้าไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย ข้าเป็นร้านค้าปัญญาประดิษฐ์ชั้นสูง เป็นหุ่นยนต์ที่มีความรู้สึก! อย่าดูถูกข้าเชียว!” ลูกบอลเงินไม่พอใจที่อีลั่วเสวี่ยบอกว่ามันไม่รู้จักชื่นชม 

 

 

อีลั่วเสวี่ยขับรถต่อไปพลางสั่นศีรษะอย่างจนใจ “ช่างเถอะ ข้าไม่โต้เถียงกับหุ่นยนต์หรอก” 

 

 

เพราะเธอบอกอาเหมาไว้ล่วงหน้า พออีลั่วเสวี่ยกลับมาถึงก็เป็นเวลามื้อค่ำพอดี 

 

 

“คุณหนูใหญ่ รู้ว่าคุณกินอาหารจากข้างนอกมา แต่ตอนนั้นพวกคุณกินมื้อเที่ยงกัน คิดดูแล้วพอคุณกลับมาก็อาจจะหิว ก็เลยทำอาหารค่อนข้างจืดหน่อย คุณกินสักหน่อยก็ได้ หรือเก็บไว้ในตู้เย็น กลางคืนถ้าหิวค่อยเอาออกมาอุ่นกิน” 

 

 

เธอเพิ่งเข้ามาในบ้านก็เห็นอาเหมาตั้งอาหารบนโต๊ะ พอเขาเห็นอีลั่วเสวี่ย ก็ยิ้มทันทีแล้วพูดขึ้น 

 

 

อีลั่วเสวี่ยได้กลิ่นอาหารที่ถูกปากก็รู้สึกหิวแล้ว แม้ว่าอาหารที่นี่อาจทำให้เกิดกากขึ้นในร่างกาย แต่ถ้าเธอบำเพ็ญเพียรเป็นประจำก็ไม่ได้รับผลกระทบ 

 

 

“พออาเหมาพูดอย่างนี้ ฉันก็รู้สึกหิวแล้ว” เธอวางกระเป๋าถือไว้ที่ชั้นหน้าประตู กำลังเปลี่ยนรองเท้า มือถือในกระเป๋าถือก็ดังขึ้น 

 

 

“ค่ำอย่างนี้ ใครยังโทรหาฉันนะ?” เธอพึมพำ แล้วเปิดกระเป๋าหยิบมือถือออกมาดู หรือเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขา ไม่งั้นก่อนหน้านี้ดึกแล้วเขาไม่เคยโทรหาเธอ 

 

 

“ฮัลโหล โทรหาฉันมีเรื่องอะไรคะ?” 

 

 

เสียงที่มีเสน่ห์ดึงดูดของเฉวียนหมิงดังขึ้นในโทรศัพท์ทันที “ผมเอง คุณกินมื้อเย็นหรือยัง” 

 

 

โทรมาเพื่อถามว่าเธอกินข้าวหรือยังงั้นหรือ หมอนี้ไม่จำเป็นต้องละเอียดรอบคอบอย่างนี้หรอก อีลั่วเสวี่ยนึกในใจ แต่ก็ยังตอบไปตามความจริง “เพิ่งกลับจากการไปเจอกับเพื่อน กำลังเตรียมกินมื้อเย็น มีอะไรหรือ” 

 

 

“ไม่มีอะไรหรอก ผมอยู่ที่หน้าประตูบ้านคุณ คุณออกมาหน่อยสิ” 

 

 

“อะไรนะ?” อีลั่วเสวี่ยเสียงดังขึ้นทันที ทำให้อาเหมาชำเลืองมอง 

 

 

“คุณหนูใหญ่ เกิดอะไรขึ้นหรือครับ?” 

 

 

“ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร ฉันออกไปหน่อย” ค่ำอย่างนี้เขายังมาหาเธอ นี่เพิ่งจากกันสองวันเท่านั้นเอง 

 

 

อีลั่วเสวี่ยวางสาย ในใจรู้สึกอายแบบเด็กสาว หยิบมือถือเดินออกไป อาเหมามองตามหลังเธอไปแล้วคิดอะไรในใจ เขาเดินมาที่ประตู เปิดกล้องวงจรปิดดู แล้วยิ้มทันที แล้วไปที่ห้องครัว ค่ำนี้อาจต้องทำอาหารเพิ่ม 

 

 

“ดึกแล้ว คุณมาหาฉัน มีเรื่องสำคัญอะไรหรือ?” อีลั่วเสวี่ยขับรถมาถึงประตูเหล็ก แล้วถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ 

 

 

เฉวียนหมิงเม้มริมฝีปาก เขาเปิดประตูรถ ยกกล่องอาหารเก็บความร้อนใบใหญ่ออกมาจากที่นั่งข้างคนขับ “ผมตุ๋นน้ำแกงไก่ห้าชั่วโมง รสชาติไม่เลวเลย เอามาให้คุณ” 

 

 

ดึกแล้ว เขาขับรถมาไกลจากคฤหาสน์เพื่อเอาน้ำแกงไก่มาให้เธองั้นหรือ? ในใจอีลั่วเสวี่ยรู้สึกสับสนและหวานชื่น เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 321 ผมจะหัดทำ 

 

 

เฉวียนหมิงทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นอีลั่วเสวี่ยนิ่งเงียบไป “คริคริ ผมรู้ว่าคุณชอบกุ้งมังกรเล็ก แต่กินกลางคืนจะย่อยยาก เอาไว้มื้อเที่ยงผมจะทำให้คุณ” 

 

 

อีลั่วเสวี่ยก็ยังไม่พูด ทำให้เฉวียนหมิงชักหวั่นใจ เขาเหลือบตาขึ้นมองเธอ “หรือคุณไม่ชอบกินน้ำแกงไก่ ถ้างั้นน้ำแกงซี่โครงหมูเป็นไง คราวหน้าเปลี่ยนเป็นน้ำแกงซี่โครงหมู” 

 

 

เฉวียนหมิงพูดแล้วค่อยๆ ดึงมือกลับ เอากล่องอาหารซ่อนไว้ข้างหลัง 

 

 

“ใครว่าฉันไม่ชอบล่ะ” อีลั่วเสวี่ยก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วรับกล่องอาหารเก็บความร้อนไว้ เธอเงยหน้าขึ้น มองดูเฉวียนหมิง แววตาเป็นประกาย 

 

 

“เอ๊ะ?” เฉวียนหมิงงุนงงเล็กน้อย เห็นดวงตาที่เจิดจ้าตรงหน้า ทำให้ลืมคิด 

 

 

ดวงตาอีลั่วเสวี่ยฉายแววยิ้มแย้มออกมา “คนโง่ ฉันไม่ได้ปฏิเสธซะหน่อย คุณเครียดทำไม” 

 

 

“ผมไม่ได้เครียด” เฉวียนหมิงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด แต่ทำอย่างนี้กลับเป็นการพูดกลบเกลื่อนแล้วยิ่งเผยออกมา สารภาพหมดแล้ว 

 

 

เฉวียนหมิงนึกอะไรขึ้นได้ ดวงตาเจิดจ้าทันที “อาเสวี่ย คุณชอบก็ดีแล้ว” คนที่พูดไม่เก่งอย่างเขา ทางที่ดีคือมีอะไรก็พูดออกมา ความจริงแล้วคนที่ชอบวางอำนาจและเย็นชาอย่างเฉวียนหมิง เมื่อเผชิญหน้ากับอีลั่วเสวี่ย กลับเหลือเพียงความอ่อนโยน 

 

 

ทั้งยังไม่ต่างจากผู้ชายทั่วไป มักจะอารมณ์เปลี่ยนไปตามแฟน แล้วกระสับกระส่าย 

 

 

“ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าไม่ชอบ จะว่าไปแล้ว อะไรที่ฉันชอบคุณก็จำได้หมด ยังกลัวว่าฉันจะไม่ชอบอีกหรือ?” อีลั่วเสวี่ยมือข้างหนึ่งถือกล่องอาหารเก็บความร้อนไว้ อีกข้างกุมมือที่เย็นเฉียบของเฉวียนหมิง 

 

 

เขาคงมาถึงที่นี่ แล้วลังเลก่อนที่จะโทรหาเธอ ท่าทางซื่อๆ แบบนี้ แล้วจะไม่ให้คนรู้สึกดีใจได้อย่างไร 

 

 

เฉวียนหมิงเม้มปาก ดวงตาเปี่ยมด้วยความรัก “บางทีที่ชอบกินก็อาจเปลี่ยนได้ ผมกลัวว่าคุณจะไม่ชอบรสชาติที่ผมทำ อีกอย่างคุณยังไม่เคยชิมน้ำแกงไก่ที่ผมทำเลย” 

 

 

“อยากให้ฉันชิมใช่ไหม ง่ายออก เราเข้าไปกินมื้อเย็นด้วยกันค่ะ” อีลั่วเสวี่ยพูดแล้วดึงเฉวียนหมิงขึ้นรถ ยามเฝ้าประตูเห็นเช่นนั้นก็รีบเปิดประตูเหล็กทันที 

 

 

“ขับรถสิ มัวเหม่ออะไร” มือหนึ่งของอีลั่วเสวี่ยกอดกล่องอาหารเก็บความร้อนไว้ ยังรู้สึกถึงความร้อนบนนั้นได้ พอเห็นรถยังไม่แล่นออกไป จึงเอ่ยขึ้น 

 

 

 เฉวียนหมิงชำเลืองมองมือเธอ “คุณดึงผมไว้ แล้วผมจะขับรถยังไง?” 

 

 

ที่แท้อีลั่วเสวี่ยนั่งลงที่ที่นั่งข้างคนขับแล้ว แต่ไม่ได้เปิดประตูรถให้เขา เธอยิ้มแล้วรีบเปิดประตูรถ 

 

 

“คริคริ” แย่จริงๆ ไอคิวเธอถูกสุนัขกินไปแล้ว ถึงกับทำผิดพลาดโง่ๆ อย่างนี้ 

 

 

แต่เฉวียนหมิงอารมณ์ดีเป็นพิเศษเขาเดินอ้อมรถไปนั่งในที่นั่งคนขับ ขับรถเข้าไปในคฤหาสน์ 

 

 

“อาเสวี่ย มื้อเที่ยงพรุ่งนี้คุณอยากกินอะไร ผมทำให้คุณ ถ้าทำไม่เป็นก็จะหัดทำ” ที่แท้การทำอาหารให้คนที่ตนเองรักกินนั้นเป็นเรื่องที่สนุกและมีความสุขมาก 

 

 

อีลั่วเสวี่ยกอดกล่องอาหารไว้ แล้วหันมามอง “เรื่องนี้…ขอฉันคิดก่อนค่ะ” 

 

 

จากนั้นทั้งสองก็เปิดประตูเดินเข้าไปในคฤหาสน์ พอดีเห็นอาเหมายกผัดผักควันฉุยกลิ่นหอมออกมาสองจาน 

 

 

อาเหมายิ้มอย่างเบิกบานใจเมื่อเห็นทั้งสองคน “คุณชายเฉวียน คุณมาแล้ว เชิญนั่งครับ ผมผักผักที่คุณชอบ มากินด้วยกันเลย” 

 

 

พออาเหมาพูดเช่นนี้ เฉวียนหมิงหันไปมองอีลั่วเสวี่ยทันที ก่อนจะออกจากบ้านเธอไม่ลืมบอกให้อาเหมาทำอาหารที่เขาชอบ ซาบซึ้งใจจริงๆ 

 

 

“ที่จริงไม่…” 

 

 

“ที่จริงขืนชักช้ากับข้าวจะเย็นหมด คุณสองคนอย่ามัวยืนอยู่ รีบมากินข้าว ฉันเองก็หิวแล้ว” อาเหมาพูดพลางตักข้าว 

 

 

“รบกวนอาเหมาแล้ว” เฉวียนหมิงพูด แล้วทำตัวเหมือนอยู่บ้านตัวเอง เปลี่ยนรองเท้า แขวนเสื้อโค้ทไว้ 

 

 

อีลั่วเสวี่ยเม้มปาก ทำเป็นมองไม่เห็นที่อาเหมากวาดสายตามา ที่จริงไม่จำเป็นต้องให้เฉวียนหมิงเข้าใจว่าเธอเป็นคนสั่งหรอก