บทที่ 1173 ต่างอะไรกับเอาเนื้อเข้าปากเสือ / บทที่ 1174 ใครได้รางวัลก่อนคนนั้นเป็นหมา

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1173 ต่างอะไรกับเอาเนื้อเข้าปากเสือ

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ไปสิ ทำไมจะไม่ไปล่ะ?”

ตอนนี้พวกเขาต้องฉวยโอกาสนี้สร้างเส้นสายให้เร็วที่สุด

พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีเรื่องขัดแย้งกับสมาคมภาพยนตร์เพราะเรื่องแค่นี้

เยี่ยมู่ฝานไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบพยักหน้า “โอเค! ตงไจ๋ กลับรถ ไปงานเลี้ยงกัน!”

รถค่อยๆ เลี้ยวกลับ เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเสริม “ขับช้าหน่อย ไม่ต้องรีบ”

ไปน่ะไปอยู่แล้ว แต่ยังไงก็ต้องวางท่ากันสักหน่อย

กงซวี่ได้ยินว่าจะไปงานเลี้ยงก็ร้อนใจ “งานเลี้ยงอะไรเล่า! ไม่รู้จะเลิกดึกขนาดไหน! แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้เจอเสี่ยวมี่เจี้ยนล่ะ? ถ้างั้นเอางี้ พวกพี่ไปงานเลี้ยง พี่เยี่ยนัดเสี่ยวมี่เจี้ยนให้ผม ให้ผมกับเสี่ยวมี่เจี้ยนไปเจอกัน!”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ไม่ได้”

กงซวี่หน้างอ “ทำไมไม่ได้ล่ะ?”

เยี่ยหวันหวั่นเงียบ เพราะเธอไม่มีวิชาแยกร่างไงล่ะ

เฟ่ยหยางหยอกล้อ “เหลวไหลน่า ใครเขาจะไว้ใจให้นายไปเจอน้องสาวตัวเองสองต่อสองกันล่ะ ต่างอะไรกับเนื้อเข้าปากเสือล่ะ? นายเลิกฝันไปเถอะ!”

กงซวี่เอ่ย “พูดไปเรื่อย! ผมไม่ใช่คนอย่างนั้นซักหน่อย”

เฟ่ยหยางบอก “นายเป็นอย่างนั้นเลยแหละ นอกจากว่านายจะเปลี่ยนรสนิยมไปแล้ว!”

กงซวี่พูด “พี่สิเปลี่ยนรสนิยม บ้านพี่ทั้งบ้านเลย! ผมน่ะชายแท้สุดแล้ว!”

กงซวี่โวยวายตลอดทาง สุดท้ายทำได้เพียงไปงานเลี้ยงช่วงค่ำกับทุกคนอย่างไม่เต็มใจ

เพิ่งจะมาถึงทางเข้า ก็เห็นพนักงานสองคนของฝ่ายผู้จัดชะเง้อมองด้วยความร้อนรน

“เป็นไงบ้างๆ? ยังไม่มากันอีกเหรอ?” หนึ่งในนั้นถามไม่หยุด

“ยังไม่มาเลย!” พนักงานอีกคนเองก็ร้อนใจจนเหงื่อท่วมหัว เพราะแขกทุกคนในงานกำลังรออยู่

“โทรฯ หารึยัง? แน่ใจนะว่าจะมา?”

“ประธานโทรฯ ไปแล้ว!”

“เฮ้อ ถ้าไม่มาจะทำไงเนี่ย! อึดอัดแย่เลยนะ! ทุกคนในงานกำลังรออยู่เลย! ถ้าหากราชากับราชินีจอเงินไม่มา จะไม่แปลกเหรอ?”

อีกคนบ่นทันที “ก็เธอนั่นแหละ ทำไมตอนแรกไม่สุภาพกับคนอื่นเขาสักหน่อยล่ะ”

“ให้ตาย! จะโทษฉันได้ยังไง? ฉันก็ทำตามที่ได้รับคำสั่งมาเหมือนกันนะ!”

ขณะที่ทั้งสองกำลังเถียงกันอยู่ รถตู้สีดำคันหนึ่งก็ขับเข้ามาช้าๆ

ทั้งสองตาเป็นประกาย รีบวิ่งเข้าไปต้อนรับ

“ในที่สุดทุกท่านก็มาแล้ว ถ้าหากดูแลไม่ทั่วถึงก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ! เชิญด้านในค่ะ!”

เยี่ยมู่ฝานเดินลงจากรถคนแรก เขากระชับปกเสื้อ แล้วแสร้งทำเป็นลังเล “พวกผมไม่มีบัตรเชิญ เข้าได้เหรอครับ?”

พนักงานทำหน้ากระอักกระอ่วน “ต้องเข้าได้อยู่แล้วสิคะ พวกคุณไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเชิญหรอกค่ะ! ใช้แค่หน้าตา! แค่หน้าตาก็พอแล้ว!”

“ใช่ค่ะๆๆ! ใช้แค่หน้าก็พอแล้ว!”

เยี่ยมู่ฝานเย็นชาเล็กน้อย แต่ไม่นานก็กลับเป็นปกติ จากนั้นก็หันกลับไปเปิดประตูให้คนที่นั่งข้างหลัง

ลั่วเฉินก้าวเท้าลงจากรถ จากนั้นก็เป็นกงซวี่ที่โดนเฟ่ยหยางลากลงมา

หานเซี่ยนอวี่ไม่ได้ออกเดินทันทีที่ลงจากรถ แต่หันกลับไปเอามือบังขอบประตูรถด้านบนให้เยี่ยหวันหวั่นที่ประคองเจียงเยียนหรานตามลงมา

เฟ่ยหยางเหลือบเห็นการกระทำที่เอาใจใส่นั้นแล้วอึ้งงัน

เอิ่ม ถึงขั้นช่วยบังหัวให้ด้วย…จำเป็นต้องอ่อนโยนขนาดนี้ไหมเนี่ย?

คนบนรถลงมาทีละคน พนักงานตาเป็นประกาย มองตาแทบไม่กระพริบ

ในช่วงเวลาสั้นๆ “กลุ่มเทพบุตรหน้าตาดี” ก็กลายเป็นคำค้นหาร้อนแรง พอได้เห็นตัวจริงในระยะประชิดขนาดนี้ ออร่าพุ่งเกินไปแล้ว

วินาทีนี้ ในห้องโถงงานเลี้ยง พวกคนระดับสูงของฝ่ายผู้จัดสีหน้าดูไม่ดีนัก ต่างพากันชะเง้อมองมาที่ทางเข้าเป็นระยะ

ทำไมยังไม่มานะ?

————————————————————————————-

บทที่ 1174 ใครได้รางวัลก่อนคนนั้นเป็นหมา

ตอนแรกเพียงเพื่อต้องการไว้หน้าโกลบอลกับหวงเทียน เพราะคนใหญ่คนโตของทั้งสองบริษัทถึงขั้นออกปากด้วยตัวเอง อีกอย่างจูเสินสือไต้ก็เป็นแค่บริษัทเล็กๆ ไม่มีอำนาจ จะมาหรือไม่มาก็ไม่เป็นไร ไม่มีใครสนใจอยู่แล้ว พวกเขาก็ต้องให้ความร่วมมืออยู่แล้ว

แต่ใครจะไปคิด บริษัทเล็กๆ อย่างนั้น กลับกวาดรางวัลราชาจอเงินรวมถึงราชินีจอเงินไปหมดเลย! แถมรางวัลราชาจอเงินยังมาเป็นแพ็กคู่เหมือนไข่แฝดอีกด้วย!

ตอนนี้ทำได้แค่อ้อนวอนคนอื่นเขาให้มาร่วมงาน ไม่อย่างนั้นงานเลี้ยงรางวัลจินหลานวันนี้คงกลายเป็นเรื่องตลกแน่ๆ…

ตอนนี้เริ่มมีคนจับกลุ่มซุบซิบกันมากมาย

“ทำไมราชาจอเงินกับราชินีจอเงินของพวกเรายังไม่มาอีกล่ะ?”

“ได้ยินมาว่าไม่ได้รับเชิญล่ะ!”

“ไม่ได้รับเชิญ…ล้อเล่นรึเปล่า?”

“จูเสินสือไต้เป็นบริษัทของลูกชายอดีตเจ้าของหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เข้าใจรึยัง?”

“ไม่น่าล่ะ…โดนหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์บีบสินะ?”

“เดาว่าโกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนต์ก็บีบเหมือนกัน ก็เยี่ยไป๋ลาออกจากโกลบอลไปไม่ใช่เหรอ? แต่สองบริษัทนี่ให้ตายก็คงคิดไม่ถึง ว่ารางวัลราชาจอเงินกับราชินีจอเงินที่ต้องแข่งขันกันแทบเป็นแทบตาย สุดท้ายจะตกไปอยู่ในมือจูเสินสือไต้หมด…”

“จิ๊ๆ นี่มันละครฉากน้ำดีชัด!”

……

ในตอนนั้นเอง เสียงฮือฮาก็ดังมาจากทางเข้า

คนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินตามกันเข้ามา โดยมีเยี่ยมู่ฝานเดินนำเข้ามาก่อน

เสียงกรีดร้องฮือฮาและเสียงสูดหายใจดังขึ้นเป็นระลอก

ในงานเลี้ยงคืนนี้มีแต่คนที่ทำงานในวงการบันเทิงทั้งนั้น พวกเขาเห็นคนหล่อคนสวยจนชิน แต่กลับอดไม่ได้ที่จะตะลึงกับความงามของคนกลุ่มนี้

สมกับฉายาที่ชาวเน็ตตั้งให้จูเสินสือไต้ว่า “กลุ่มคนหน้าตาดีแห่งยุค”

หานเซี่ยนอวี่ กงซวี่ ลั่วเฉิน แค่สามคนนี้ก็อานุภาพร้ายแรงมากพอแล้ว ราชินีจอเงินคนใหม่หมาดๆ ก็หน้าตาดีมากเมหือนกัน แถมคนทำงานเบื้องหลังอีกสองคนก็หล่อออร่าจนแสบตาไปหมด

โดยเฉพาะผู้จัดการส่วนตัวที่ชื่อเยี่ยไป๋ แม้อยู่ท่ามกลางนักแสดงที่โดดเด่นสะดุดตาเหล่านั้น กลับไม่ได้ดูด้อยกว่าเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้จะสงบเสงี่ยม แต่ออร่ากลับเจิดจรัสที่สุด แค่ดูก็รู้ว่าคนพวกนั้นยึดเขาเป็นศูนย์กลาง

คนระดับสูงของฝ่ายผู้จัดต่างฉีกยิ้มเดินเข้าไปต้อนรับ “ในที่สุดก็มากันแล้ว!”

เยี่ยมู่ฝานตอบรับยิ้มการค้า “ต้องขออภัยจริงๆ นะครับ จู่ๆ กลับรถกลางทาง เลยทำให้มาช้า”

พวกระดับสูงกระแอมเบาๆ “อะแฮ่ม ไม่เป็นไรๆ พวกเราเป็นฝ่ายไม่รอบคอบเอง…”

บทสนทนาเกรงอกเกรงใจทำให้บรรยากาศชวนอึดอัดใจผ่อนคลายลงไปบ้าง

ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ใครคนหนึ่งก็โผล่ออกมาจากกลุ่มคน ยกมือชี้แล้วตะโกนเสียงดัง “ให้ตายเถอะ! เจ้าบ้ากงซวี่! ก่อนหน้านี้ฉันถูกเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลสาขานักแสดงชายสมทบยอดเยี่ยม นายด่าฉันซะเละ หาว่าฉันทิ้งเพื่อน หักหลังนาย แต่ดูนายสิ จู่ๆ ก็คว้ารางวัลราชาจอเงินมาหน้าตาเฉย! ทำเป็นมาพูดว่าเป็นเพื่อนกันต้องเคียงข้างกันจนตาย ใครได้รางวัลก่อนคนนั้นเป็นหมาไม่ใช่เหรอ?”

กงซวี่มองบนใส่เขา “ไปไกลๆ เลย! ถังซิงหั่ว นายมันกาก แสดงไม่ได้เรื่อง พี่เยี่ยไม่ให้ฉันเล่นกับนาย!”

“ให้ตาย! เห็นหญิงงามดีกว่าเพื่อนนี่หว่า! เอิ่ม…ประโยคนี้ทะแม่งๆ แฮะ…เอาเป็นว่าคืนนี้นายอย่าคิดหนีก็แล้วกัน! มานี่เลย!”

ถังซิงหั่วพูดจบก็ลากกงซวี่ไปดื่มเหล้าที่อีกด้าน

เยี่ยมู่ฝานกับเยี่ยหวันหวั่นวุ่นอยู่กับการรับหน้าคนจากทุกสายงาน ในตอนนั้นเอง ทั้งสองก็เห็นเยี่ยหงเวยเดินแหวกกลุ่มคนเข้ามา ข้างกายมีเยี่ยเส่าอันกับเยี่ยอีอีที่กำลังทำหน้าเครียดเดินตามมาด้วย

เยี่ยหงเวยหน้าตาน่าเกรงขาม “มู่ฝาน!”

เยี่ยมู่ฝานรีบเดินไปหา “คุณปู่!”

เยี่ยหงเวยมองหน้าหลายชาย แสดงสีหน้าชื่นชมอย่างหาดูได้ยาก “ครั้งนี้…แกทำได้ดีมากจริงๆ”

“ขอบคุณครับ คุณปู่ เพราะคุณปู่สั่งสอนผมมาดีไงครับ!” เยี่ยมู่ฝานพูดเอาใจ

……………………………..