กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1038
“เป็นไปได้อย่างไร ข้าไม่ได้เป็นคนหื่นกามอะไร”
“ใครจะไปรู้ว่าฝ่าบาทเป็นคนอย่างไร”
กู้ชูหน่วนไม่ได้รู้สึกชอบหวงกุ้ยจวินเลยสักนิด ที่นางมาที่เรือนอี้หยุนก็เพราะอยากจะหนีให้พ้นจากเยี่ยจิ่งหานและเหวินเส่าอี๋ รวมถึงต้องการมาตามหาดวงวิญญาณของกู้ชูหน่วนอีกด้วย
ตอนนี้เมื่อเห็นว่าหวงกุ้ยจวินก็คืออี้หยุนเฟย ทำให้ในใจของนางรู้สึกดีใจขึ้น
“วันนี้เจ้าหล่อเหลามาก โดยเฉพาะชุดสีฟ้าครามที่ปักลายเมฆตัวนี้ทำให้เจ้าดูสง่างามอย่างมากและเปล่งประกายอย่างมาก”
คนรับใช้กล่าว “ผ้าทอหลิวหยุนปักลายเมฆผืนนี้ตัดเย็บโดยสตรีปักผ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดสามร้อยแปดคนในรัฐอี้ ซึ่งใช้เวลากว่าสิบปีในการทอขึ้นมาและมีเพียงผืนเดียวในโลก และองค์ชายเองก็ไม่เคยที่จะสวมใส่มาก่อน”
อี้หยุนเฟยตำหนิ “หุบปาก เจ้าควรพูดแทรกขึ้นมาอย่างนั้นหรือ? ออกไป”
เมื่อได้ยินคำชมของนาง ใบหน้าของอี้หยุนเฟยยังคงเผยให้เห็นความโกรธ ทว่าความโกรธในใจของเขากลับรู้สึกลดลงไปแล้ว
“หยุนเฟยหล่อเหลาสง่างามและดูดีในทุกชุดที่เขาสวมใส่ รัฐปิงไม่มีผ้าทอหลิวหยุนระดับสูง แต่ผ้าซูจิ่นของรัฐปิงก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน ประเดี๋ยวข้าจะสั่งให้คนนำมามอบให้เจ้า”
แม้ว่าผ้าซูจิ่นจะดี แต่ก็ด้อยกว่าผ้าทอหลิวหยุนมาก และราคาก็ยังถูกกว่ามากกว่าครึ่ง
แต่ของที่นางมอบให้ ถึงอย่างไรอี้หยุนเฟยก็ชอบ
เขากำลังลังเลว่าจะรับมาเลยหรือแสร้งทำเป็นปฏิเสธออกไปดี ทว่าเยี่ยจิ่งหานกลับพูดจิกกัดขึ้นมา
“ฝ่าบาท อย่าลืมเงินในท้องพระคลังของฝ่าบาทนะพ่ะย่ะค่ะ”
กู้ชูหน่วนตกใจ
นางรู้ดีว่าท้องพระคลังว่างเปล่า แม้ว่านางจะไม่มีรางวัลเป็นเงินทองหรือของโบราณชั้นสูง
เพียงแค่มอบผ้าซูจิ่นจำนวนหนึ่งเป็นรางวัลเท่านั้น
เยี่ยจิ่งหานจำเป็นต้องทำลายบรรยากาศให้หม่นหมองขนาดนี้เลยหรือ?
“อี้หยุนเฟยเป็นเพียงหวงกุ้ยจวินแต่กลับได้รับรางวัลตอบแทน เช่นนั้นแล้วกระหม่อมล่ะ? ตำแหน่งของข้าสูงกว่าเขาอีก”
ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนเยอะ กู้ชูหน่วนคงโมโหและตวาดกลับไปแล้ว
เขารู้เป็นอย่างดีว่านางจนและเงินของราชสำนักก็นำไปบรรเทาภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ยังคิดจะขอรางวัลอะไรจากนางอีก?
หากนางให้เยี่ยจิ่งหาน เช่นนั้นแล้วเหวินเส่าอี๋ก็คงต้องขอรางวัลจากนาง นางจะไปหาผ้าซูจิ่นและเงินทองจำนวนมากขนาดนั้นมาจากไหน?
กู้ชูหน่วนแอบมองไปยังเหวินเส่าอี๋และเป็นไปตามคาดว่าเขายิ้มและดูออกว่าเขาเองก็ต้องการรางวัลตอบแทนจากนางด้วยเช่นกัน
“หวงกุ้ยจวินมาที่นี่เป็นครั้งแรก และข้าเองก็เพิ่งได้เจอกับหวงกุ้ยจวินเป็นครั้งแรก ฉะนั้นข้าจำเป็นต้องมอบสิ่งนี้เป็นการตอบแทน พวกเจ้าล้วนเป็นคนเก่าคนแก่ของวัง ฉะนั้นพวกเจ้าไม่ต้องการหรอก”
“ฝ่าบาทตรัสเช่นนี้ก็ไม่ถูก รัฐปิงให้ความสำคัญกับความมารยาทและประเพณีมาตลอด กระหม่อมถือเป็นพระสวามีเอก คือสามีที่แท้จริงของฝ่าบาท ทว่าฝ่าบาทกลับไม่เคยมอบอะไรให้กระหม่อมเลยสักชิ้นเดียว ทว่ากลับมอบให้กับหวงกุ้ยจวินที่มีตำแหน่งต้อยต่ำกว่ากระหม่อม หากถูกพูดออกไป ประชาชนจะต้องวิพากษ์วิจารณ์ว่าฝ่าบาทลำเอียงอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
เหวินเส่าอี๋พูดขึ้นมาอีก “สามีที่แท้จริงคือกระหม่อม กระหม่อมต่างหากที่เป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของฝ่าบาท ของรางวัลที่ฝ่าบาทมอบให้กับพระสวามีคงไม่ด้อยไปกว่าหวงกุ้ยจวินใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ”
โจรปล้น
ปล้นกันซึ่งๆ หน้า
รู้อยู่แก่ใจว่านางไม่มีเงิน ทว่าแต่ละคนกลับมาปล้นสะดมจากนาง
สิ่งสำคัญคือมีคนรับใช้อยู่เป็นจำนวนมาก คนรับใช้เหล่านี้ล้วนเป็นคนของรัฐอี้ที่ติดตามมาดูแลอี้หยุนเฟย
คนที่น่ารังเกียจที่สุดคือเยี่ยจิ่งหาน
เขาดูไม่ออกหรือว่านางฝืนใจมอบผ้าซูจิ่นให้กับอี้หยุนเฟย เพราะต้องการผูกความสัมพันธ์กับเขาและหาโอกาสตามหาดวงวิญญาณ?
เมื่อเห็นว่าทุกคนต่างกำลังมองไปที่นาง
แม้แต่อี้หยุนเฟยเองก็จ้องมองนางอย่างไม่เข้าใจ
กู้ชูหน่วนยิ้มออกมา “ที่พวกเจ้าพูดมาก็มีเหตุผล เอางี้ สิ่งของธรรมดาพวกเจ้าก็คงไม่ถูกใจ เช่นนั้นข้าจะให้พวกเจ้าได้ร่วมกันปรนนิบัติดูแลข้าหนึ่งคืน”
“ร่วมกันปรนนิบัติดูแล?”
เยี่ยจิ่งหานพูดหนักแน่น แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความโกรธและแทบจะกลืนกินกู้ชูหน่วนเข้าไป
เหวินเส่าอี๋กล่าวขขึ้นมา “กระหม่อมค่อนข้างยากจน ฉะนั้นฝ่าบาทมอบเป็นเงินตอบแทนจะดีกว่า และรวมเบี้ยหวัดที่ต้องให้ของเดือนนี้ด้วยเลยแล้วกันพ่ะย่ะค่ะ อ้อ…..ผ้าซูจิ่นของรัฐปิงไม่เลว กระหม่อมไม่ต้องการมาก เพียงแค่สิบผืนเท่านั้น”
อี้หยุนเฟยได้ยินถึงกับขมวดคิ้ว
เยี่ยจิ่งหานและเหวินเส่าอี๋ยากจนจนเป็นบ้าหรืออย่างไร?
ผ้าซูจิ่นผืนละไม่ที่ตำลึงเท่านั้นเอง เหมาะสมแล้วหรือที่ทำเช่นนี้?
และยัง…..
ฝ่าบาทไม่ได้มอบเบี้ยหวัดให้พวกเขา?
รัฐปิงยากจนแสนเข็ญเช่นนี้?