บทที่ 609 เวินเส้าหยีสละชีวิตเข้าช่วย

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 609 เวินเส้าหยีสละชีวิตเข้าช่วย
รองหัวหน้าเผ่าซือคงกำลังคิดจะลงมือ ชี้ขาดชีวิตพวกเขาโดยตรง แล้วค่อยเสาะหามุกมังกร

คิดไม่ถึง ถ้ำน้ำแข็งเริ่มถล่มทลาย แม้แต่พื้นดินก็สั่นสะเทือนไม่หยุด สั่นไหวจนพวกเขาไม่สามารถยืนได้ ราวกับแผ่นดินไหวขนาดสิบริกเตอร์เช่นนั้น

“ตูม…..”

เศษน้ำแข็งหลายร้อยกิโลกรัมตกกระทบลงมาอย่างต่อเนื่อง ถ้ำน้ำแข็งที่อยู่ไกลจนถึงที่อยู่ใกล้ก็พังทลายลงทั้งหมด

สีหน้าของทุกคนล้วนเปลี่ยนไปทันที

การพังทลายนี้ คือถ้ำน้ำแข็งทั้งหมดจะพังถล่มราบเป็นหน้ากลองทั้งหมดเช่นนั้นงั้นหรือ?

ด้านบนของหุบเขาน้ำแข็งเสียงคำรามของมังกรดังขึ้นทีละเสียง สั่นสะเทือนทะลุฟ้า

ทุกคนเห็นได้รางๆว่ามังกรน้ำกำลังคลุ้มคลั่ง ชนปะทะถ้ำน้ำแข็งครั้งแล้วครั้งเล่า ท่าทางอันดุร้ายนั่น เห็นได้ชัดว่าต้องการจะตายไปพร้อมกันกับพวกเขา

สมควรตาย

รองหัวหน้าเผ่าซือคงทำอะไรกับมังกรน้ำกันแน่ คิดไม่ถึงว่าจะทำให้มังกรน้ำคลุ้มคลั่งได้เพียงนี้

สัตว์ดุร้ายในหุบเขาน้ำแข็งรีบแย่งกันหนีไปทีละตัวๆ ราวกับรู้ว่าหุบเขาน้ำแข็งอันมหึมาลูกนี้กำลังจะพังทลายลงในเวลาอันสั้น

สีหน้าของรองหัวหน้าเผ่าซือคงเปลี่ยนไปทันที ไม่มีไปสนใจกู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ ถอนเท้าได้ก็วิ่งหนี พยายามออกห่างจากถ้ำน้ำแข็งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เย่จิ่งหานฝืนลุกขึ้นยืน ประคับประคองไปด้วยกันกับกู้ชูหน่วนเดินโซเซออกไปจากถ้ำน้ำแข็ง

“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์……เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์……”

กู้ชูหน่วนอยากจะให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์พาพวกเขาออกไป ซึ่งจะรวดเร็วยิ่งกว่า

แต่ทว่าเจ้างูน้อยตะกละนั่น ไม่รู้ว่าวิ่งไปล่าอาหารถึงที่ไหน ไม่ได้ยินเสียงเรียกของนางโดยสิ้นเชิง

“ตูม……”

น้ำแข็งก้อนใหญ่ยักษ์ที่ร่วงตกลงมาไม่หยุดแทบจะกระแทกไปบนร่างของพวกเขาอยู่หลายครั้ง ทางออกด้านหน้าก็ถูกหินน้ำแข็งตกลงมาขวางกั้นไว้แล้ว

หุบเขาน้ำแข็งนั้นลูกใหญ่มาก ราวกับภูเขาสูงตระหง่านลูกหนึ่ง ตอนนี้ถล่มลงมาจากยอดเขาโดยตรง ขอบเขตที่ได้รับผลกระทบกระเทือนกว้างใหญ่เกินไป ในเวลาอันสั้นไม่สามารถหนีไปได้โดยสิ้นเชิง

“ปัง…..”

“ตูม…..”

หินน้ำแข็งอันหนาแน่นค่อยๆหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ กู้ชูหน่วนไม่ทันได้ระวังถูกกระแทกไปหลายครั้ง กระแทกจนบนตัวมีเลือดไหลแล้ว

เย่จิ่งหานเห็นดังนั้น ใช้ร่างกายของตัวเองบังหินน้ำแข็งเหล่านั้นแทนนาง

“ไป เจ้าไปก่อน” เขาพูดด้วยเสียงอันรีบร้อน

กู้ชูหน่วนประคองเขา ไม่ยอมละทิ้ง เดินหน้าต่อไปอย่างยากลำบาก “จะไปก็ต้องไปด้วยกัน จะอยู่ก็ต้องอยู่ด้วยกัน พูดเพ้อเจ้อมากมายอะไร”

“พาข้าไป พวกเราสองคนต้องตายกันหมด เจ้าหนีออกไปเอง ยังมีโอกาสรอด”

“ข้าอายุยังน้อย ไม่อยากเป็นหม้ายหรอกนะ”

“เจ้าพูดอะไร?”

“ข้าบอกว่า ชีวิตของท่านเป็นข้าที่ช่วยไว้ นอกจากข้าแล้ว ผู้ใดก็ไม่สามารถแย่งชีวิตของท่านไปได้”

เสียงถล่มทลายครั้งใหญ่บดบังเสียงของพวกเขาไว้

เมื่อเห็นว่าหุบเขาน้ำแข็งที่อยู่ด้านบนทั้งหมดจะถล่มลงมา เส้นทางรอบด้านล้วนถูกอุดกั้นไว้แล้ว ทั้งสองคนเหน็บหนาวจับใจ

เย่จิ่งหานปกป้องกู้ชูหน่วนไว้ในอ้อนแขน รอให้หุบเขาน้ำแข็งทั้งลูกร่วงลงมากระแทกเขา

“ปังปังปัง…..”

ขณะที่พวกเขาสองคนคิดว่ากำลังจะตายแล้วนั้น หินน้ำแข็งตรงทางออกถูกคนสะเทือนกระเด็นไป ด้านนอกชายหนุ่มผู้หนึ่งที่สวมชุดขาวกว่าก็หิมะ งามดั่งเทพเซียนจุติ ราศีไม่ธรรมดาพุ่งเข้ามา ไม่พูดพร่ำใช้พลังอันแข็งแกร่งที่สุดทั้งหมดของตัวเอง ใช้กำลังภายในส่งพวกเขาออกไป

“ตูม……”

กู้ชูหน่วนและเย่จิ่งหานเพิ่งจะถูกช่วยออกมา ถ้ำน้ำแข็งลูกก็ถล่มลง

แต่คนที่ช่วยชีวิตพวกเขา กลับออกมาไม่ทัน ถูกทับถมอยู่ด้านในไปโดยตรง

สีหน้าของกู้ชูหน่วนเปลี่ยนไปมาก

“เวินเส้าหยี…..เวินเส้าหยี……”

นางคิดจะพุ่งเข้าไปช่วยเขา ทว่าหินน้ำแข็งที่ถล่มลงมาจากด้านบนก็ร่วงดิ่งลงมาทีละก้อนๆ ทุกก้อนหนักกว่าห้าพันกิโลกรัม กระทั่งบางก้อนมีขนาดใหญ่เท่ากับภูเขาเล็กๆทั้งลูกเช่นนั้น แทบจะถล่มลงมาตรงหน้าของพวกเขา

เย่จิ่งหานดึงกู้ชูหน่วนไว้ “ไป รีบไป หากยังไม่ไปอีกพวกเราจะต้องตายอยู่ในนี้กันหมด”

ก้อนน้ำแข็งกลิ้งตกลงมาด้วยความรวดเร็วเกินไป

ไม่ช้าพวกเขาก็ถูกล้อมอีกครั้ง ​​

สัตว์ดุร้ายที่อยู่ไกลออกไปหลบหนีไม่ทัน ถูกทับตายไปทั้งหมด เลือดสดสีแดงไหลริน

ทั้งสองมีใจอยากจะช่วยคน แต่เวลาไม่เอื้ออำนวยโดยสิ้นเชิง สุดท้ายก็ทำได้เพียงจากไปด้วยความปวดใจ