ตอนที่ 125

Rise of The Undead Legion

Chapter 125 : พัฒนา

มือของเดฟสั่นด้วยความตื่นเต้นจากรางวัลที่ได้รับ

{Double Edged: เรียนรู้สกิลเพื่อผิวปากเรียก Minahocao จากใต้ดิน

ระยะเวลา 1 วินาที

Minhocao เป็นศัตรูต่อผู้ที่เรียกมันและพวกของผู้ที่เรียกรวมถึงศัตรู การอัญเชิญนี้จะโจมตีจากทางใต้ดินกลืนกินพื้นที่ในรัศมี 20 ม.ด้วยการกัดเพียงครั้งเดียว จากนั้นก็จะหายไป

ดาเมจ : ดาเมจโดยตรง 20,000 + ดาเมจจากอาวุธ 20% ใส่แต่ละเป้าหมายในระยะพื้นที่

คำอธิบาย :

Minhocao นั้นชั่วร้าย มีข่าวลือว่าพวกมันคือไส้เดือนที่พัฒนาตัวเองขึ้นมาโดยมีอายุกว่า 10,000 ปี

คูลดาวน์ 20 นาที }

[ คุณอยากจะเรียนรู้หรือไม่ ? Y/N]

เดฟยิ้มออกมาตอนที่อ่านคำอธิบาย – ” แน่นอนสิว่าฉันต้องอยากเรียนรู้สกิลสุดยอดแบบนี้ ! ใช่ ! ” – สกิลได้เข้ามาในตัวเดฟก่อนหนังสือสกิลจะกลายเป็นเศษแสงแล้วหายไป ด้วยความอดทนที่ต่ำ เดฟจึงหาที่เพื่อทดสอบสกิล

เขาหัวเราะออกมาเมื่อหาที่ทดสอบสกิลเจอ เขาเดินไปที่ขอบรังของ Shadow Worm โดยมี Bud เดินตามมาติดๆก่อนจะผิวปากใช้สกิลใหม่

ทันใดนั้นถ้ำก็เริ่มสั่นไหวและเดฟก็ได้ใช้ {Vertical Slash} เพื่อหลบออกมาจากภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้น

พื้นดินสั่นไหวอย่างต่อเนื่องและเกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมา พื้นดินได้ยุบตัวลงพร้อมกับเขี้ยวเป็นร้อยๆซี่ที่ใหญ่กว่าตัว Dunlord เผยออกมาจากพื้นหินรอบๆขอบหลุม จากนั้นพื้นดินในส่วนนั้นก็ได้หายเข้าไปในปากของมัน จากรูที่มันสร้างขึ้นมานั้นมีสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับปลาวาฬเกยตื้นโผล่ขึ้นมา มันสูงเกือบติดเพดาน มันพลิกตัวกลางอากาศและดำดิ่งมุดกลับลงไปที่พื้น

เดฟ ตะลึงกับสิ่งที่เห็น เขาอ้าปากค้างด้วยความตะลึงและช็อกตอนที่มองดูหางไส้เดือนที่หายไปในรูหลังจากที่โจมตีเสร็จ

สิ่งนั้นมันก็แค่หนอนสีเทาดูน่ากลัวแต่ขนาดของมันเท่ากับรถน้ำมันเลยก็ว่าได้ !

” สุดยอด ! มันเป็นศัตรูกับทุกอย่างจริงๆ ! “

เขากลับมาหาทีมแล้วทำการตรวจสอบเควสต่อ

” เราจะกลับไปสำรวจอีกด้านของถ้ำ ” – เดฟสั่งการออกมา พวกเขาได้เดินทางกลับไปยังเส้นทางเดิมเพื่อมุ่งหน้าไปที่ทางแยก

ในตอนที่เดินทางอยู่นั้น เดฟก็พบกับปัญหา เขาต้องการพัฒนาประสิทธิภาพของทีม

เขารู้อยู่แล้วต้องมีคนมากกว่านี้เพื่อที่จะทำดาเมจและรับมือกับศัตรูที่เลเวลสูงกว่าได้แต่เขาต้องมีวิธีในการรักษาคนของเขาไว้และเขาเองก็ต้องสู้ไปด้วย มันมีตอนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งเขาต้องให้ลูกน้องมาปกป้องเขาซึ่งจะทำให้มันได้รับดาเมจไป เขาต้องพัฒนาแผนขึ้นมา ไม่ใช่ทุกคนในหน่วยจะแข็งแกร่งเหมือนกับ Dunlord หรือว่าจะใจแข็งเหมือนกับ Dog

การที่จะให้อันเดตสู้ต่อไปได้และยังมีชีวิตรอดนั้นเขาต้องมีทางฟื้นฟูพวกมันในระหว่างการต่อสู้และหลังจากนั้น ปกติแล้วการฟื้นฟูเลือดของอันเดตจะช้า Ghoul เป็นข้อยกเว้น พวกมันเพิ่มอัตราการฟื้นฟูขึ้นมาจากการกินเนื้อศัตรูแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่อาจจะหยุดต่อสู้กลางคันแล้วจกเอาเนื้อขึ้นมากินได้

” ฉันต้องหาทางช่วยให้พวกอันเดตฟื้นฟูตัวเองจาการบาดเจ็บระหว่างและหลังจากการต่อสู้ ฮีลเลอร์สำหรับอันดต …” – เดฟคิด – ” แสงศักดิ์สิทธิ์จะฮีลมนุษย์แต่มันถือว่าเป็นการโจมตีสำหรับอันเดต ฉันสงสัยว่าถ้านักเวทย์อันเดตสามารถฮีล Dunlord ได้หรือเปล่า” – เดฟสั่งการให้นักเวทย์ใช้เวทย์ของตัวเองเข้าโจมตี Dunlord ที่ได้รับบาดเจ็บ

[0]

0 ตัวใหญ่ๆเลย

Dunlord ร้องออกมาพร้อมกับเล็งหน้าไม้ไปที่นักเวทย์ตัวตะกี้

นักเวทย์รีบถอยหลังกลับมาเพราะความกลัว เดฟหัวเราะและบอกให้ Dunlord ใจเย็นๆ

” งั้นมันก็ไม่ได้ผลกับ Dunlord พวกมันดูไม่เหมือนพวกคนตายอยู่แล้ว หืม ” – เดฟมองไปรอบๆและพบกับ Dog ที่ยากจะเดินตามคนอื่นได้ทัน Dog ถือหัวตัวเองเหมือนกับลูกบอลเดินตามคนอื่นๆมา

Dog สมกับชื่อของมันจริงๆ ความดื้อด้านของมันในการไม่ยอมแพ้การต่อสู้หลังจากที่ถูกบดขยี้ มันไม่ได้หยุดที่จะพยายามฆ่าหนอนเลือดแม้ว่าจะถูกกัดหัวขาดไปแล้วก็ตาม

มีความคิดว่าชื่อทุกแบบสามารถใช้กับซอมบี้ได้หมด บางทีเขาไม่น่าจะตั้งชื่อมันว่า Dog เขาอาจจะเรียกมันว่าผีหัวขาดก็ได้ตามแบบในหนังที่ขี่ม้าซอมบี้แต่ยังไงซะชื่อนี้ก็ถือว่าเข้าท่าแล้ว…เอาล่ะ มาเข้าเรื่องเดิมกันต่อ

เลือดของ Dog เหลือน้อยและเริ่มลดลงเรื่อยๆ มันจะตายในไม่ช้าถ้าไม่ได้รับการฮีล เดฟไม่ได้คิดสงสารอะไรในการทดลองถ้าหากมันจะส่งผลดีต่อทีมของเขา เขาจะให้เหรียญกล้าหาญกับมันทีหลังเมื่อพวกเขากลับไปที่ดินแดนอันเดตได้อย่างปลอดภัย

เขาสั่งการนักเวทย์คนเดิม – ” นาย ! โจมตีไปที่ Dog ! “

นักเวทย์ไม่ได้ขยับและแสดงสีหน้าไม่เต็มใจออกมากับคำสั่งของเขา

” นายจะรออะไร ? โจมตีเขาด้วยเวทย์ได้แล้ว ! “

นักเวทย์ทำการโจมตีไปที่ Dog ด้วยความลังเล

[+450]

” มันได้ผล ! แต่ทำไมมันถึงไมได้ผลกับ Dunlord ? ฉันเดาว่ามันหมายถึงว่า Dunlord ยังมีชีวิตอยู่หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่อันเดต แม้ว่าจะอยู่ภายใต้คำสั่งของอันเดตแต่มันต้องมีเรื่องราวอยู่เบื้องหลังแน่ๆ “

เดฟสั่งการให้นักเวทย์โจมตี Dog ต่อเพื่อทำการฟื้นฟูให้มัน

นักเวทย์ได้เพิ่มเลือดของซอมบี้ขึ้นจนเต็มแต่เดฟเห็นว่า Dog ยังคงถือหัวตัวเองไว้อยู่แทนที่จะเอามันกลับไปไว้ที่คอเหมือนที่ควรจะเป็น

” Dog นายเอาหัวใส่ที่เดิมได้มั้ย ? ” – เดฟส่งสัญญาณมือให้ – “นายดู…แปลกๆเมื่อเป็นแบบนี้ “

‘ นี่ยังไม่รวมกับการที่เพื่อนมันจะล้อตอนที่แบกหัวไปมาแบบนี้แต่ฉันจะไม่พูดเรื่องนี้หรอก อาจจะเป็นแผลในใจไปตลอดชีวิตของมันก็ได้ ฮี่ฮี่’

Dog มองกลับมาที่เดฟด้วยหัวที่อยู่ในมือของมันก่อนจะแกว่งมือไปมา

” ไม่เอาน่า เลิกเล่นได้มั้ย “

เดฟสับสน ทำไมซอมบี้ถึงไม่ต้องการเอาหัวกลับไปที่เดิม ? การบาดเจ็บที่หัวทำให้มัน…ไม่ ไม่ ไม่เอาตั้งชื่อแล้ว เขาเสียเวลาไปเยอะกับการตั้งชื่อมากไปแล้ว

” พัฒ ” -Bud พูดขึ้นมา

” อะไร Bud ? “

” ดู…” – Bud ชี้ไปที่ซอมบี้

Dog ตัวสั่นไปมาราวกับว่ากำลังโดนไฟช็อต

อยู่ๆมันก็ร้องออกม้าด้วยความเจ็บปวดก่อนที่ขนาดตัวจะขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาสูงกว่าเดิมอีกครึ่งเท่าตัว ตอนนี้เข้าสูงพอๆกับ Dunlord แล้ว ไหล่ของของเขากว้างและหนาพร้อมกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ อันที่จริงแล้วสภาพแบบซอมบี้ได้หายไปแล้ว ตอนนี้ตัวของมันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่บึกทุกส่วน มันดูคล้ายกับโคนันคนเถื่อน….ที่ไม่มีหัว

มันยังคงถือหัวตัวเองไว้อยู่แต่ตาของมันตอนนี้มีแสงสีเขียวเปล่งออกมา มันมองไปรอบๆอีกครั้งด้วยหัวที่อยู่ใต้แขนกำยำของมันซึ่งชัดแจนแล้วว่าแฝงไปด้วยความบ้าคลั่ง