ตอนที่ 583: การเคลื่อนไหวของ 6 ตระกูลหลัก

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 583: การเคลื่อนไหวของ 6 ตระกูลหลัก

ภายในห้องลับที่ตั้งอยู่ ผู้นำของตระกูลทั้งหกแห่งเมืองเมฆานั่งชุมนุมกันล้อมรอบโต๊ะด้วยใบหน้าจริงจัง

“ข้าเชื่อว่า ทุกคนที่อยู่ในที่นี่ทราบว่า กลุ่มทหารรับจ้างเขาโลหิต กลุ่มทหารรับจ้างกุหลาบโลหิต และกลุ่มทหารรับจ้างนักสังหารได้รวมตัวกับกลุ่มทหารรับจ้างหนึ่ง จากสถานการณ์เช่นนี้ อย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าพึงพอใจนัก ชายชราพูดขึ้น

นั่นถูกต้อง เมื่อทหารรับจ้างทั้งสามกลุ่มร่วมมือด้วยกัน พวกเขาจะมีเซียนปฐพีอย่างน้อย 5 คน ด้วยพลังเช่นนั้นก็เปรียบได้กับ ยามเมื่อตระกูลทั้งหกร่วมมือกัน ในมุมมองของข้า เราต้องดำเนินการ มิฉะนั้น เราคงจะไม่ชอบผลพวงอันน่ากลัวที่จะตามมา ชายชราในชุดขาวเปรยขึ้น อย่างจริงจัง

“ก่อนที่เราจะดำเนินการในเรื่องอันใด ก่อนหน้านั้น เราต้องค้นหาสาเหตุ สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นในเมืองนี้ เหตุใด พวกเขาจึงเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี จากผู้แจ้งเบาะแสของข้า หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างนักสังหารและกลุ่มทหารรับจ้างเขาโลหิตกำลังเดินตามผู้เยาว์คนหนึ่ง บางทีมันเป็นเพราะผู้เยาว์คนนั้นที่ทำให้พวกเขาเชื่อฟัง ชายชราพูด

นั่นหมายความว่าผู้เยาว์คนนั้นไม่ใช่เด็กหนุ่มธรรมดา อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสถานะของเขาจะเป็นเช่นไร เราต้องแน่ใจว่า เขาไม่ขยายอำนาจใด ๆ เพิ่มเติมเข้าไปในเมืองนี้ ในระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 2 วัน เด็กหนุ่มผู้นี้สามารถรวม 3 กลุ่มทหารรับจ้างขนาดใหญ่เข้าด้วยกัน คือหลักฐานเพียงพอต่อความทะเยอทะยานของเขา นอกเหนือจากสิ่งที่พวกเขาควรจะมี กลุ่มทั้งสามอาจยังไม่สร้างความพอใจให้กับเขา ข้าเดิมพันว่า ถ้าเราอนุญาตให้เขารวบรวมความแข็งแกร่งมากขึ้นในเมืองนี้ แล้วเป้าหมายต่อไปของเขาจะเป็นเราในทันที

ข้ายอมรับด้วยความเชื่อมั่นว่า ถ้าเรายังนั่งอยู่เช่นนี้แล้ว ท้ายที่สุด เราจะขุดหลุมฝังศพของเราเอง เมื่อช่วงเวลามาสำหรับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีจะเอาชนะเราด้านพลังแล้ว พวกเราคงจะต้องสูญเสียเป็นอันมาก เราต้องใช้เวลาดำเนินการ ในยามนี้

จากนั้นตระกูลทั้งหกก็เข้าไปสู่การอภิปรายที่รุนแรง การเติบโตของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีที่เกิดขึ้น มันมากพอที่จะทำให้พวกเขาทั้งหมดจะรู้สึกกระสับกระส่าย

ชายชราในชุดขาว ทันใดนั้น มีแสงบางอย่างปรากฏขึ้นในดวงตา “บุรุษเอ๋ย ชายชราคนนี้มีความคิดของวิธีที่จะหยุดกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี จากการเจริญเติบโตที่แข็งแกร่งใด ๆ หากกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีมีความประสงค์ที่จะยึดกลุ่มที่แข็งแกร่งทั้งหมดในเมืองเมฆาแล้ว ทำไมเราไม่ทำเช่นเดียวกันบ้างเล่า ตระกูลทั้งหกของเราสามารถรวมตัวกันในรูปแบบพันธมิตรหนึ่งเดียว และทั้งหมดต้องการที่จะรักษาสถานะและชื่อของพวกเขาที่จะเข้าร่วมกับเราในขณะนี้ ในกรณีที่ด้านอื่น ๆ ที่จะเริ่มต้นการบุกรุกของพวกเขาแล้ว เราจะมีคนจำนวนมากพอที่จะเริ่มต้นป้องกัน”

ใช่ ข้าเห็นด้วยกับวิธีนี้ เป็นวิธีที่ดีมากที่จะจัดการกับการเจริญเติบโตของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของพวกเขา มันคงสร้างความเสียหายให้กับพวกเรามากอย่างไม่น่าเชื่อถ้าพวกเราพยายามต่อต้านพวกเขาในตอนนี้ แต่ถ้าพวกเรารวมตัวกันทุกคนแล้ว เราจะมีคนมากพอไม่ว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีพยายามที่จะขยายออกไป และในเวลาเดียวกันจะมีมากกว่ากำลังคนเพียงพอที่จะขจัดกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ในขณะที่ลดความเสียหายของเราเอง”

“ใช่ว่า ดูเหมือนว่ามันจะเป็นแนวทางในการดำเนินงานที่ดีที่สุด แต่ข้าไม่เชื่อว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีจะพยายามต่อสู้กับอำนาจทั้งเมืองเมฆา นั่นคงไม่ได้หมายความว่าเราไม่ควรพยายามที่จะป้องกันการเจริญเติบโตของเขา มิฉะนั้นมันจะเป็นเรื่องยากที่จะทำเช่นนั้นในอนาคต สำหรับตอนนี้เราควรจะรอและดูสิ่งที่พวกเขาทำอย่างไรต่อไป ในกรณีที่เขาไม่พยายามทำสิ่งใด เราต้องพร้อมที่จะกระทำทุกสิ่ง”

“จากนั้น เราจะใช้แนวทางในการดำเนินงานนี้ในทันที เวลาไม่อาจเสียเปล่าได้ ให้พวกเราทุกคนกลับบ้าน เพื่อให้การเตรียมการที่เหมาะสม”

เพียงระยะเวลาสั้น ๆ ทั้งหกคนก็มีแผนการที่จะตอบโต้กับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี การเจริญเติบโตของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีได้ก้าวไกลและเร็วเกินไปสำหรับความชื่นชมของพวกเขา หากพวกเขาสามารถที่จะพิชิตทั้งสามกลุ่มทหารรับจ้างที่แตกต่างกันในระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 2 วัน มันเป็นสิ่งที่น่ากลัว สำหรับสมัครพรรคพวกทั้งหกของเขา ไม่มีคนใดของพวกเขาต้องการถูกผนวกเหลืออำนาจเพียงหนึ่งเดียว เพื่อให้พวกเขา ยินดีที่จะปราบปราบกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีตามที่แจ้งให้ทราบขณะนั้น

การตอบสนองจากตระกูลทั้งหก พวกเขาได้รับข้อสรุปอย่างรวดเร็วมาก ทันทีที่การประชุมของพวกเขาสิ้นสุดลง พวกเขาแต่ละตระกูลก็รีบติดต่อกับทุกฝ่ายที่พวกเขารู้จัก เนื่องจากกลุ่มเหล่านี้ต่างก็ตระหนักถึงสถานการณ์เกี่ยวกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ไม่มีแม้แต่คนเดียวในบรรดาพวกเขาซึ่งจะลังเลที่จะเข้าร่วมกับตระกูลพันธมิตรทั้งหก

กับกลุ่มผู้คนที่เพิ่มเข้าไปในกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งมีการขยายอย่างรวดเร็ว ณ ขณะปัจจุบันที่มีอยู่อย่างน้อยเซียนปฐพี 10 คน ในพันธมิตร พร้อมกับคนจากตระกูลทั้งหก

ข่าวที่ว่าตระกูลทั้งหกได้กลายเป็นพันธมิตรและร่วมมือกันเพื่อสร้างพันธมิตร ได้มาถึงหูเจี้ยนเฉินเช่นกัน แต่เขาไม่ได้กังวลเลยแม้แต่น้อย ในสายตาของเขา มันเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น

ในวันที่สอง เจี้ยนเฉินได้รวบรวมหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างกุหลาบโลหิต จัสมิน กลุ่มทหารรับจ้างเขาโลหิต ฮานิ และหัวหน้าของทหารรับจ้างนักสังหาร ซานเทียนและรองหัวหน้าทั้งสองของเขา กับเจี้ยนเฉินที่ยืนอยู่ในด้านหน้าของพวกเขา โดยด้านข้างของเขา ได้ป้องมือขึ้นทางเจี้ยนเฉิน และเจี้ยนเฉินกล่าวขึ้นมาว่า “ตอนนี้เจ้าได้เข้าร่วมทหารรับจ้างอัคนี ข้าจะตอบสนองความต้องการของเจ้า ในด้านหน้าของข้ามีทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี จงเลือกไปอย่างหนึ่งที่เหมาะกับเจ้ามากที่สุด ในอนาคตเมื่อคนจากกลุ่มของพวกเจ้าจะกลายเป็นเซียนปฐพีแล้ว ปล่อยให้พวกเขาได้เรียนรู้จากทักษะเล่มนี้ ในอนาคตหากผลงานของเจ้าจะดีพอในขณะที่ยังคงจงรักภักดีต่อกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี แล้วข้าจะมอบทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ให้เจ้า”

“ขอบคุณ หัวหน้า” เห็นคู่มือบนโต๊ะ หัวหน้าแต่ละคนในแววตาของพวกเขาบ่งบอกถึงการขอบคุณ ก่อนที่ เลือกจากหนึ่งในทักษะการต่อสู้ทั้งห้า

มองดูทักษะทั้งห้า กลุ่มหัวหน้าทหารรับจ้างเขาโลหิตตื่นเต้นมากที่สุด เขาได้เข้าร่วมกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี เพราะจัสมินแต่เพียงผู้เดียว เขาไม่ได้ตระหนักว่าการเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีจะมีเช่นผลประโยชน์ที่ดีเช่นนี้ เมื่อเจี้ยนเฉินได้พูดคุยเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ในหัวใจของเขาเองก็เกือบจะกระโดดออกมาจากหน้าอกของเขา

การกระทำของเจี้ยนเฉินได้มีการวางแผนที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัยที่จะดึงดูดจิตใจของผู้คน ด้วยทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี เจี้ยนเฉินจะประสานความรู้สึกของความจงรักภักดีของพวกเขาที่มีให้กับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ในขณะที่ยังขจัดภัยร้ายใด ๆ พวกเขาจะอาจจะมีสำหรับการเข้าร่วม

เห็นสีหน้าตื่นเต้นบนใบหน้าของทุกคน เจี้ยนเฉินยิ้มในการตอบสนอง นี่คือปฏิกิริยาที่น่าพอใจว่า เขาคาดว่าจะเห็น หลังจากที่ในขณะสั้น ๆ เขาพูด “กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของข้าจะได้อยู่นานเกินไปในเมืองเมฆา บางทีในไม่กี่วันเราจะออกจากสถานที่นี้ เตรียมความพร้อมกลุ่มของเจ้า เพื่อที่จะย้ายออกจากเมือง”

หัวหน้า ข้ามีคำถามจะถาม ทหารรับจ้างอัคนีมีที่พักหรือไม่ ? มันอยู่ที่ไหน ? มันเป็นไปไม่ได้ที่คนทั้งหมดจะไม่มีหลักแหล่ง ฮานิถาม

เจี้ยนเฉินพูด ณ ตอนนี้ มีจุดที่กำหนดไม่แน่นอน ตอนนี้ ข้าต้องการเพียงแค่ขยายอำนาจของทหารรับจ้างอัคนี หลังจากเราปราบปรามโครงสร้างที่เหลือของเมืองเมฆา และส่วนเหลือของอาณาจักรวายุคราม เราจะขยายไปยังอาณาจักรรอบข้าง

เวลานี้ ฮานิและจัสมินสะดุ้งหลังจากได้ยินแผนของเจี้ยนเฉิน ทั้งสองไม่คาดคิดว่าเขาจะคิดการใหญ่ ถึงขั้นผนวกกลุ่มทหารรับจ้างทั้งหมดของอาณาจักรวายุครามตลอดจนอาณาจักรรอบข้าง ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคาดว่าจะเป็นเป้าหมายของเขา

ที่จะสรุปการสนทนาของเราตอนนี้ ขั้นตอนต่อไปของข้าคือ พวกเจ้าทั้งห้าต้องพิชิตเซียนปฐพีในนามของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี” เจี้ยนเฉินกล่าวขึ้นมา โดยซานเทียนและอีก 4 คนที่เหลือ ไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมกับเจี้ยนเฉิน 5 คนนี้น่าจะเพียงพอแล้ว

ด้วยคำสั่งดังกล่าว ทั้ง 5 คนเดินออกไป

หลังจากพวกเขาจากไป เจี้ยนเฉินอุ้มลูกเสือที่กลิ้งไปมารอบบนเตียงเข้าไปในอ้อมแขนของเขา และเริ่มลูบหัวของมัน ขณะที่เขาเริ่มคิดถึงแผนการถัดไป

ในตอนนี้ สิ่งที่เจี้ยนเฉินอยากจะทำคือการขยายอำนาจของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของเขา เพื่อประโยชน์ของเขาที่สัญญากับเคนดัล เจี้ยนเฉินจะทำให้กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีกลายเป็นกลุ่มทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งในทวีป ควรกล่าวว่า มันไม่เพียงแต่เป็นสัญญา มันเป็นเป้าหมายที่เจี้ยนเฉินต้องการจะบรรลุ

นอกเหนือจากเขา ก็ไม่มีเซียนสวรรค์อื่นในกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี แต่ความจริงที่ว่านั้น ไม่เพียงพอที่จะทำให้เจี้ยนเฉินกังวล ในฐานะผู้นำ เขาทราบเป็นอย่างยิ่งว่า กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีได้ก้าวขึ้นทีละน้อยบนเวที – เหมือนเด็กที่ยังคงและเต็มไปด้วยพลังงานเพียงผิวเผิน ตอนนี้ มันไม่ได้แม้แต่ในระดับเดียวกับอำนาจของอาณาจักรวายุคราม แต่ด้วยเวลา พลังงานนั้นสามารถสะสมช้าอย่างช้า ๆ

เจี้ยนเฉินไม่สามารถบอกได้ว่า เขาจะสามารถเชื่อถือทหารเหล่านี้ได้มากแค่ไหน มันจะไม่เกินไปบอกว่า พวกเขาเหนือกว่าดอร์และคนอื่น ๆ เจี้ยนเฉินไม่ได้เชื่อถือใคร รวมถึงซานเทียนและคนอื่น

แต่ถึงจะไม่เชื่อ ทว่าสิ่งที่เจี้ยนเฉินต้องการจากพวกเขาในปัจจุบันนี้ พวกเขามีทหารรับจ้างสายเลือดใหม่ และเจี้ยนเฉินเชื่อว่าเมื่อกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และคนเหล่านี้จะเริ่มมีความจงรักภักดีต่อพวกเขาเพิ่มขึ้นเช่นกัน ไม่ช้าก็เร็วทุกคนจะรู้สึกเหมือนกลุ่มทหารรับจ้างเป็นครอบครัว เฉกเช่นไค่เอ้อและคนอื่น ๆ ซึ่งรู้สึกแบบนั้น

1 ชั่วยามผ่านไปก่อนที่เจี้ยนเฉินจะตระหนักว่าเขาได้ครุ่นคิดอยู่กับตัวเองในห้องของเขา จนกระทั่วได้ยินเสียงเคาะประตู เจี้ยนเฉินก็หลุดจากภวังค์ความคิดของเขา

มองไปที่ประตู เจี้ยนเฉินพูดออกมา เข้ามา

ประตูเปิดออกเผยให้เห็นหมิงตง ตู่กูเฟิง ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกเขา ขณะที่พวกเขาเดินเข้ามา หมิงตงสวมเสื้อคลุมสีดำสำหรับการต่อสู้ ในขณะที่ตู่กูเฟิงสวมเสื้อคลุมสีแดงของเขาเช่นเคย

เจี้ยนเฉิน ซานเทียนและคนอื่นต้องประสบปัญหา เมื่อพวกเขาไปปราบปรามนิกาย พวกเขาปะทะกับผู้นำทั้งหกในเมืองนี้ หมิงตงกล่าวขึ้นด้วยท่าทีที่น่ากังวล

คิ้วของเจี้ยนเฉินย่นเข้าหากัน พร้อมกับบ่นเบา ๆ กับตัวเอง เขาพูด นี่ไม่ใช่ความคาดหวังของข้า ข้าคิดว่าตระกูลทั้งหกจะตอบสนองช้ากว่านี้

เจี้ยนเฉิน ถ้าตระกูลทั้งหกได้รวมตัวกันต่อต้านพวกเรา มันก็อาจจะเป็นการดีเพื่อปราบพวกเขาทั้งหมดในครั้งเดียว ไม่ต้องตามเก็บพวกเขาทีละตระกูล แต่การที่จะทำเช่นนั้นได้ พวกเราต้องให้เจ้าไปพบพวกเขา ตัวข้าก็พอที่จะจัดการกับพวกเขาส่วนใหญ่ได้ แต่พวกเขาก็มีคนที่มีความแข็งแกร่งในระดับเดียวกับข้า หมายถึง ถ้าพวกเราทะเลาะกันก็จะกลายเป็นการต่อสู้เพื่อความตายมากกว่าการปราบปราม และหากมีเซียนสวรรค์หนุนหลังแล้ว พวกเขาอาจจะไม่กล้าตอบโต้เลย หมิงตงยังคงพูดต่อไป