มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 544
“เผ่ามนุษย์! พวกข้ารอเจ้ามานานมากแล้ว!” มีเสียงพูดที่น่าเกรงขามสายหนึ่งดังขึ้นอย่างกะทันหัน

“เป็นตัวสำนึกที่แข็งแกร่งมาก” หลัวซิวขมวดคิ้ว รับรู้ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายผ่านตัวสำนึก

เห็นได้ชัด เจ้าของตัวสำนึกก็คืออสูรกายแข็งแกร่งที่พิทักษ์แกนกลางของสถานที่แห่งนี้ อสูรกายพวกนี้ไม่สามารถออกจากแกนกลาง แต่กลับรู้เรื่องที่มีมนุษย์เข้ามาในแดนปริศนา

หลัวซิวรู้สึกถึงบางอย่าง เงยหน้าขึ้นมองกลางอากาศที่อยู่ไม่ไกล กลิ่นอายอสูรกายที่พลุ่งพล่านกลายเป็นหมอกสีดำปกคลุมท้องฟ้า ราวกับภูเขาสีดำกำลังกดทับลงมา

เมื่อเทียบกับคลื่นยักษ์ที่เกิดจากการรวมตัวของอสูรกายเผ่าน้ำก่อนหน้านี้ หมอกสีดำที่เกิดขึ้นจากกลิ่นอายอสูรกายกลุ่มนี้ มันเหมือนกับอสูรกายร้ายโบราณที่น่าสะพรึงกลัว ส่วนคลื่นยักษ์อ่อนโยนราวกับลูกแกะ

“เวร พลังสายนี้แม้แต่มกุฎยุทธ์ก็ต้องหันหลังวิ่งหนี ข้าต้านไม่ไว้!” หลังจากเข้ามาในแดนนานาอสูร นี่เป็นครั้งแรกที่สีหน้าของหลัวซิวเปลี่ยนไป

ภายในหมอกสีดำที่มืดมน มีร่างของอสูรกายขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราว ยิ่งไปกว่านั้น หลัวซิวยังสังเกตเห็นอสูรกายหลายตนที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ยืนอยู่ตรงนั้น สีหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย็นชา เจตนาแห่งการฆ่าท่วมท้น

“ตอนไม่ไหวยังไม่รีบหนีอีก?” จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำเบ้ปากพูด

ในขณะที่พูด หลัวซิวได้โคจรปีกทิพย์ไร้มลทินมาสักพักแล้ว ทันใดนั้น กลายเป็นลำแสงสายหนึ่งหายเข้าไปในสุดขอบฟ้า

“นี่……”

ภายในเมฆสีดำ อสูรกายที่มีกลิ่นอายเจตนาแห่งการฆ่าท่วมท้นตกตะลึง

“หรือเป็นเพราะการแสดงออกของพวกเราน่ากลัวเกินไป ก็เลยทำให้เขาตกใจกลัวจนหนี?”

“บัดซบเอ้ย เวลาหลายหมื่นปีมานี้เบื่อจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะมีเผ่ามนุษย์มาสนุกด้วย แต่กลับโดนพวกเจ้าทำให้ตกใจจนหนีไปแล้ว!”

เวลาหลายหมื่นปีที่ไม่สามารถฝึกตน และยังไม่สามารถตาย ชีวิตแบบนี้มันไร้จุดหมายและอ้างว้าง ทำให้อสูรกายส่วนใหญ่ที่อยู่ในดินแดนแห่งนี้คาดหวังที่จะมีมนุษย์เดินเข้ามา เมื่อเป็นแบบนี้มันจะทำให้พวกมันรู้สึกเหมือนดำรงอยู่บนโลกใบนี้…

หลัวซิวไม่รู้เรื่องพวกนี้ สิ่งเดียวที่เขารู้คือ อสูรกายจักรพรรดิช่วงปลายนับร้อยตนมารวมตัวด้วยกัน มันไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถต้านทานได้แน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น ในบรรดาอสูรกายจักรพรรดิช่วงปลายพวกนี้ ส่วนใหญ่ได้กลายเป็นร่างมนุษย์ที่บรรลุจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสูงแล้ว!

ตรงสุดเขตแดนของแกนกลาง หลัวซิวหยุดลง พวกอสูรกายจักรพรรดิช่วงปลายไม่สามารถข้ามเขตแดน อสูรกายจักรพรรดิช่วงกลางทั่วไปก็ไม่สามารถทำอะไรเขา ดังนั้นสถานที่แห่งนี้ถือว่าเป็นสถานที่ปลอดภัย

“เจ้าหนู เห็นยอดเขาที่อยู่ไกลออกไปลูกนั้นหรือเปล่า?” จักรพรรดิเสวียนดำพูดอย่างกะทันหัน

หลัวซิวได้ยิน รีบทะยานขึ้นที่สูง มองไปทางส่วนที่ลึกที่สุดของแกนกลางเขตที่ห้า สามารถมองเห็นเงาสีดำขนาดใหญ่ตั้งตะหง่านอยู่ตรงนั้นได้อย่างเลือนลาง แต่กลับดูไม่เหมือนจริง

“เขตที่ห้าจนถึงเขตที่เก้า ในส่วนลึกสุดของแกนกลางทุกเขตจะมียอดเขาแบบนี้หนึ่งลูก ถ้าหากเจ้าสามารถปีนขึ้นบนยอดเขาลูกนั้น บางทีเจ้าอาจจะสามารถตามหาความลับที่ซ่อนอยู่ในสถานที่แห่งนี้” จักรพันธยุทธ์เสวียนดำพูดแบบนี้

หลัวซิวได้ยิน อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

แกนกลางของสถานที่แห่งนี้มีจำนวนอสูรกายมากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้จักช่วยเหลือกัน สถานการณ์ที่พลังส่วนใหญ่ถูกวิชาห้ามค่ายกลจำกัด คิดจะบุกเข้าไปมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

“วิชาล่องหนไท่เสวียนสามารถทำให้ข้ารวมเป็นหนึ่งกับพื้นที่โดยรอบ ขอเพียงไม่อยู่ใกล้มากเกินไป ถึงเดินผ่านรังของอสูรกายก็จะไม่ถูกจับได้อย่างง่ายดาย”

“ไม่ได้ เจ้าดูถูกเผ่าพันธุ์อสูรกายที่กลายเป็นร่างมนุษย์มากเกินไปแล้ว ในบรรดาพวกนั้น มีไม่น้อยที่มีพลังพรสวรรค์ที่พิเศษ สามารถสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของห้วงอากาศ ถึงใช้วิชาล่องหนไท่เสวียนซ่อนตัวอยู่ในอากาศ ก็สามารถโดนจับได้อย่างง่ายดายเช่นกัน” จักรพรรดิยุทธ์ฺเสวียนดำปฏิเสธความคิดของหลัวซิวโดยตรง เพราะวิธีแบบนี้ ในยุคบรรพกาลเคยมีผู้แข็งแกร่งของสำนักไท่เสวียนลองใช้มาแล้ว

“บุกเข้าไปไม่ได้ ลอบเข้าไปก็ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นคงต้องอาศัยความเร็วของข้าดูว่าใครเร็วกว่ากัน!” หลัวซิวหรี่ตาลง