ตอนที่ 206 งานสกปรก / ตอนที่ 207 จะฆ่าฮุ่ยฮุ่ย

จอมใจจ้าวพิษ

ตอนที่ 206 งานสกปรก 

 

 

 

 

 

เถิงอวิ๋นก้าวเข้ามาทีละก้าวไม่ได้โดยใช้คีมเหล็กนาบอันนั้นแล้ว แต่วางมือลงบนไหล่ซูซินเหลียนแล้วพูดอย่างอ่อนโยน 

 

 

“ไม่ต้องไปขอร้องนาง นางเป็นแขกของที่นี่ ที่เราเชิญนางมาก็เพื่อสอบถามข้อมูลบางอย่าง คนที่สามารถตัดสินความเป็นความตายของเจ้ามีเพียงข้าเท่านั้น” 

 

 

เถิงอวิ๋นยืนขึ้น ใช้เหล็กอันนั้นนาบลงบนร่างซูซินเหลียนกลิ่นเนื้อไหม้ทำให้ถังเฉียนรู้สึกผะอืดผะอม เถิงอวิ๋นอยากเลี่ยงเรื่องวุ่นวายนี้จึงพูดว่า 

 

 

“น้องสะใภ้ เจ้าออกไปก่อนดีกว่า งานสกปรกเช่นนี้ จะทำให้เจ้าเสียสายตา” 

 

 

ไม่ต้องให้เขาบอกหรอก ถังเฉียนคิดเองว่าขืนอยู่ที่นี่ต่อ กลิ่นเช่นนี้คงทำให้นางอาเจียนอาหารเมื่อคืนออกมาหมด โดยเฉพาะเสียงร้องโหยหวนที่น่ากลัวของซูซินเหลียน 

 

 

ถังเฉียนออกมาแล้ว ฉู่จิ่งเหยาไม่ได้รออยู่ที่นี่ เถิงเจินก็ตามออกมา เขามองดูถังเฉียน เห็นแววตานางซับซ้อน บางทีอาจจะคิดว่าเด็กสาวคนนี้แข็งกร้าวเกินไป เผ่าหมอผีก็เป็นเช่นนี้แหละ เมื่อกลับมาถึงตำหนักใหญ่ ฉู่จิ่งเหยากำลังนั่งดื่มชาอยู่ แววตาถังเฉียนลึกล้ำมาก นางรู้ว่าตนเองไม่สมควรพูด จึงมายืนอยู่เงียบๆ ข้างหลังเถิงเฟิง 

 

 

“ท่านอ๋องวางใจเถอะ มอบพระชายารองให้เถิงอวิ๋นรับผิดชอบชั่วคราวนี้” 

 

 

“ถ้าเช่นนั้นต้องรบกวนท่านผู้บวงสรวงด้วย” 

 

 

ฉู่จิ่งเหยาลุกขึ้นแสดงการคารวะ ถือเป็นการขอบคุณ ถังเฉียนเห็นท่าทางซาบซึ้งของฉู่จิ่งเหยา ก็รู้สึกใจสั่น มันไม่ควรจะเป็นเช่นนี้ ถังเฉียนบอกกับตัวเองในใจ แต่พออ้าปากออก ก็ไม่ได้พูดออกมา นั่นเพราะนางนั้นอ่อนแอ 

 

 

“อาหรูน่า เจ้าอยู่ที่จวนข้า ได้ฝึกกระบี่หลายวัน แต่น่าเสียดายที่ยังฝึกไม่ทันสำเร็จก็มาที่เขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว เวลานี้อยู่บนเขาก็มีครูดีสอนเจ้า แต่ในเมื่อเจ้าเรียนเพลงกระบี่นั่นได้ถึงครึ่งหนึ่งแล้ว ก็น่าจะเรียนให้ครบเสียเลย นี่คือตำราเพลงกระบี่ ข้าให้เจ้า” 

 

 

ฉู่จิ่งเหยาหยิบตำราเพลงกระบี่วางลงในมือถังเฉียน แล้วพูดกำชับว่า 

 

 

“อย่าคิดว่าเมื่อเป็นฮูหยินแล้วก็จะเพิกเฉย เพลงกระบี่นี้สามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงอายุยืนยาว อยู่บนเขาศักดิ์สิทธิ์ถ้ามีวิชาไว้ป้องกันตัว ย่อมมีประโยชน์ต่อเจ้า อีกสามวันข้าจะเดินทางกลับ หากเจ้าอยากไปก็ให้คนมาแจ้งข้า” 

 

 

ถังเฉียนมองตำราในมือ แล้วพยักหน้าอย่างขึงขัง เป็นการแสดงออกว่าตนนั้นรู้แล้ว ฉู่จิ่งเหยาจากไปแล้ว นางมองตามหลังเขาไป รู้สึกปวดร้าวในใจ เมื่อกลับมาถึงห้อง ถังเฉียนมีท่าทางอึดอัด เถิงเฟิงไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ยิ่งไม่รู้ว่าใครกันที่ทำให้นางไม่พอใจ เขาคอยอยู่ข้างนาง แล้วถามว่า 

 

 

“มีเรื่องอะไรหรือ ที่ทำให้เจ้าไม่พอใจ หรือเรื่องการหมั้นวันนี้ ทำให้เจ้าปวดหัว เจ้าวางใจเถอะ เรื่องหมั้นหมายก็ส่วนเรื่องหมั้นหมาย อย่างไรก็ต้องรอให้เจ้าอายุสิบหกก่อน เวลาสองปี ไม่พอให้เจ้าทำอะไรตามใจชอบหรือ เมื่อถึงตอนนั้นแล้ว ย่อมต้องบอกพ่อแม่ บอกว่าเพื่อช่วยรักษาโรคของข้า ถ้าไม่ระวัง เกิดข้าตายไป หากเจ้าอยากจะแต่งงานกับข้าขึ้นมา แล้วจะแต่งกับใครเล่า” 

 

 

ถังเฉียนตีเถิงเฟิงทีหนึ่ง นางรู้ว่าเขาพูดหยอกล้อให้นางสบายใจ จึงยิ้มเพื่อให้เขาเลิกกังวล 

 

 

“เจ้ากลับไปเถอะ ข้าอยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรจะทำ ข้าเพียงแต่รู้สึกเป็นห่วงซูซินเหลียน นางป่วยเป็นโรคอะไรกันแน่ ถึงจะบอกว่านางไม่คู่ควรให้สงสาร แต่ข้าแปลกใจกับโรคของนางมาก ไม่รู้ว่าเจ้าช่วยบอกพี่ชายเจ้าได้หรือไม่ ให้ข้าได้เรียนรู้วิธีรักษาจากเขา” 

 

 

ที่ผ่านมาเถิงเฟิงยอมตามที่ถังเฉียนบอกทุกเรื่อง แต่ครั้งนี้เขาสั่นศีรษะทันที 

 

 

“พี่ชายข้านิสัยไม่เหมือนข้า เจ้าอย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่า แม้เขาจะดูเหมือนเทพบุตร แต่พอลงมือขึ้นมา แม้แต่ข้าก็ยังรู้สึกกลัว” 

 

 

วันนี้นับว่าถังเฉียนได้ประจักษ์แก่สายตาตนเองแล้ว น่าเสียดาย ต่อให้นางขอร้องเถิงเฟิงก็ยังเข้าใกล้ซูซินเหลียนไม่ได้ ถังเฉียนดูสภาพการณ์ในวันนี้ความคิดเช่นนี้ออกจะง่ายเกินไป จะทำได้หรือไม่ ก็มีความหวังไม่มากเลย ขณะที่ทั้งสองกำลังรู้สึกอึดอัด อาห่าวก็วิ่งเข้ามาจากข้างนอก พอเห็นถังเฉียนก็พูดอย่างรีบร้อนว่า 

 

 

“คุณหนูอาหรูน่า แย่แล้ว หงหลิงเอ๋อร์จะฆ่าฮุ่ยฮุ่ย” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 207 จะฆ่าฮุ่ยฮุ่ย 

 

 

 

 

 

ถังเฉียนได้ยินก็ตกใจ รีบลุกพรวดวิ่งออกไป แต่เถิงเฟิงขวางนางไว้ เขาบอกว่า 

 

 

“ฮุ่ยฮุ่ยก็แค่สาวใช้ในจวนอ๋อง ถึงกับบังอาจจะฆ่าเจ้า หากจะฆ่านางก็ไม่เกินไปหรอก” 

 

 

ถังเฉียนไม่สามารถบอกให้รู้ว่านั่นคือน้องสาวตนเอง ทั้งรู้สึกเป็นห่วงและร้อนใจ พอฟังอาห่าวเล่ารายละเอียดจึงรู้ว่าที่แท้หงหลิงเอ๋อร์มาหาเรื่องกับนางอีก นางรู้ดีว่าตนจงใจให้อาห่าวมาเฝ้าถังเวยก็เพื่อคุ้มครองนาง แต่หงหลิงเอ๋อร์จงใจไปบอกเรื่องนี้ต่อเถิงเจิน เพื่อล่อถังเฉียนออกมา 

 

 

“ฆ่านางไม่ได้ ข้าไว้ชีวิตนางเพราะยังใช้ประโยชน์ได้ ครอบครัวนางถูกนิกายเทพมังกรสังหารหมด ถ้าพวกเราฆ่านาง แล้วเราจะต่างเช่นไรกับนิกายเทพมังกรกัน นางก็แค่ถูกคนสั่งมาเท่านั้น ไม่ควรมีโทษถึงตาย” 

 

 

ถังเฉียนพูดพลางรีบเดินออกมา ก้าวเท้าอย่างรวดเร็ว ดูรีบร้อนมาก เถิงเฟิงไม่เคยเห็นนางเป็นเช่นนี้มาก่อน จึงตามออกมาด้วย 

 

 

หงหลิงเอ๋อร์มัดถังเวยไว้กับเสามังกรเทพ ตั้งใจจะเผานางให้ตายบนแท่นบวงสรวงแห่งเขาศักดิ์สิทธิ์ แต่นี่กลับเป็นการให้เกียรตินาง เพราะนักโทษทั่วไปจะไม่ถูกพาตัวมาที่นี่ แต่ถังเฉียนเข้าใจดีถึงสาเหตุที่นางทำเช่นนี้ จุดมุ่งหมายก็เพื่อล่อให้ตนออกมา คิดว่านางน่าจะมองออกแล้วว่าถังเวยปฏิบัติต่อนางต่างจากผู้อื่น 

 

 

ไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลงหลิงเอ๋อร์กันแน่ นางถูกอาจารย์ลงโทษให้กลับมากักตัวสำนึกผิดที่เขาศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับดูฉลาดขึ้นมาก ทั้งไม่รู้ว่านางดูออกได้อย่างไรว่าถังเวยปฏิบัติต่อตนต่างออกไป 

 

 

คบไฟถูกจุดขึ้นแล้ว ถังเฉียนอยากจะบุกขึ้นไป แต่กลับถูกเถิงเฟิงขวางเอาไว้ เถิงเฟิงไม่เคยเห็นนางเป็นเช่นนี้ หากจะพูดว่าเคยเห็นนั่นคือตอนที่นางได้ข่าวการตายของน้องสาวนาง หากแต่ฮุ่ยฮุ่ยคนนี้ ไม่ใช่น้องสาวนาง หรือว่านางเจอน้องสาวอีกคนของนางแล้ว 

 

 

ถังเฉียนเคยพูดกับเขาเป็นนัยว่าตนยังมีน้องสาวอีกคน แต่ยังหาตัวไม่เจอ มีข่าวลือว่านางตายแล้ว จึงไม่ได้ใส่ใจ แต่เวลานี้ดูนางร้อนใจมาก เถิงเฟิงจึงสงสัยฐานะของคนทั้งสอง 

 

 

“เถิงเฟิงเจ้าไม่เข้าใจ ฮุ่ยฮุ่ยสำคัญต่อข้ามาก ขอร้อง ช่วยข้าชีวิตนางด้วยเถอะ อย่าให้นางถูกเผาตาย” 

 

 

บิดาเถิงเฟิงไม่ได้มา แต่หงหลิงเอ๋อร์สามารถใช้แท่นบวงสรวงได้ แสดงว่าบิดาเขาอนุญาตแล้ว เพราะจะใช้แท่นบวงสรวงตามอำเภอใจไม่ได้ เกรงว่าหงหลิงเอ๋อร์คงเตรียมการไว้ก่อนแล้ว 

 

 

เมื่อหงหลิงเอ๋อร์เห็นถังเฉียนวิ่งมา ก็มีรอยยิ้มปรากฎขึ้นอย่างเย็นชา สายตาทั้งคู่ประสานกัน ต่างเข้าใจความคิดในใจของอีกฝ่าย 

 

 

“เด็กคนนี้บังอาจทำร้ายเจ้าซึ่งเป็นฮูหยินแห่งหัวหน้าผู้บวงสรวงในอนาคต ตามความเห็นข้าสมควรถูกเผาทั้งเป็น บัดนี้ท่านผู้บวงสรวงให้มัดนางไว้บนแท่นบวงสรวง เพื่อเป็นการเตือนคนทั้งหลาย ดูไว้ ว่าวันหลังยังจะมีใครหน้าไหนกล้าคิดร้ายต่อฮูหยินผู้บวงสรวงอีกหรือไม่” 

 

 

เดิมทีฉู่จิ่งเหยาควรจะส่งนางขึ้นเขามารักษาตัว ถังเวยผ่านความยากลำบากมากมายกว่าจะมีครอบครัวที่สงบสุข ถังเฉียนยังนึกว่านางจะสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไปชั่วชีวิต แต่ยังไม่ทันผ่านฤดูร้อน เด็กสาวดีๆ คนหนึ่งก็ถูกนิกายมังกรเทพทำให้ตกใจกลัวจนพูดจาเลอะเลือน ท่าทางเซ่อซ่า ต่างจากถังเวยคนเดิมซึ่งฉลาดและมีไหวพริบทั้งยังปากกล้าอย่างสิ้นเชิงทุกครั้งที่ถังเฉียนคิดเรื่องนี้นางก็จะรู้สึกผิดมาก 

 

 

เวลานี้ก็เพราะตัวนาง ที่ทำให้ถังเวยกลายเป็นนักโทษอีก ทั้งหมดเป็นความผิดของนาง 

 

 

“ศิษย์น้องที่แสนดีของข้า ดูให้ดี ศิษย์พี่จะลงโทษเด็กคนนี้เพื่อแก้แค้นให้เจ้าเอง”