“ยังค่ะ ฉันเพิ่งจัดการอะไรเสร็จ แล้วก็เห็นว่ามีสายที่ไม่ได้รับพอดี” เธอยืนอยู่หน้าหน้าต่าง แสงจันทร์สุกสว่าง สาดส่องผืนดินเป็นสีขาวเงิน
เสียงหัวเราะหลุดออกมาเบาๆ ผ่านทางคลื่นเสียงโทรศัพท์ รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย ฉันทัชพูดขึ้น “อาบน้ำหรือยังครับ?”
แก้มยู่ยี่แดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย มือขยับวาดวงกลมอยู่บนระเบียงอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร “ยังค่ะ”
“งั้นก็ ไปอาบน้ำ หลังจากนั้นก็นอนหลับให้สบาย ถ้านอนไม่หลับก็โทรหาผม แต่ถ้านอนหลับก็พักผ่อนให้เต็มที่ ตอนนี้ดึกมากแล้ว…………” จริงอย่างที่เขาว่า จะเที่ยงคืนแล้ว ยู่ยี่มองเวลา ตอบรับคำเสร็จ ก็ถึงเวลาที่ต้องวางสาย เขาถามมาอีกครั้ง “พรุ่งนี้คุณมีแพลนอะไรไหม?”
“พรุ่งนี้ฉันต้องไปบริษัททำงาน” เธอกล่าว
“งั้นรอวันเสาร์ก็ได้ครับ เวลาของคุณ ผมควรนัดไว้ล่วงหน้าได้…..”เขากล่าวอย่างอ่อนโยน
ยู่ยี่มุมปากยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย เป็นเพียงแค่สายโทรศัพท์
ธรรมดาๆ สายหนึ่ง กลับทำให้เธอที่ยากจะรู้สึกอะไรทั้งทางร่างกายและจิตใจมีความสุขได้ ไม่ต้องการคำพูดที่ชัดเจนมากมายแต่อย่างใด เพียงแค่ค่ำคืนที่งดงามเช่นนี้ บางเบาและนุ่มนวล
วันต่อมา เธอไปบริษัท เวลานั้นเร่งรีบมาก จึงไม่ทันได้ทานอาหารเช้า ทว่าโก๋ได้ซื้ออาหารเช้ามาให้เธอเรียบร้อยแล้ว บอกว่าคุณฉันทัชให้เขามาส่ง
ยู่ยี่ยังไม่หยุด และถามอีกคำ คุณฉันทัชล่ะ?
โก๋ยิ้มอย่างเบิกบานใจ และบอกว่าคุณฉันทัชไปประชุมแล้วครับ อีกทั้งยังถึงขั้นซักถามเธออีกว่า มีคำพูดอะไรอยากฝากไปบอกคุณฉันทัชไหมครับ?
ท่าทีเช่นนั้น ดูเต็มอกเต็มใจที่จะเป็นตัวฝากส่งข้อความ
ตาและคิ้วของยู่ยี่กระตุกขี้นเล็กน้อย จากนั้นก็ส่ายศีรษะ แม้ว่าโก๋จะจากไปแล้ว แต่เธอนั้นก็ยังส่ายหัวอย่างอดไม่อยู่
วันนี้ทั้งวัน เขาดูเหมือนยุ่งมาก ส่งข้อความมาหาเธอไม่กี่ข้อความ และเธอก็ตอบทีละข้อความจนหมดแล้ว
วันถัดไปนั้นเป็นวันเสาร์ ยู่ยี่ไม่ต้องไปทำงาน เธอคิดที่จะนอนจนตื่นด้วยตัวเอง นานมากแล้วที่เธอไม่ได้นอนหลับอย่างสุขสงบและเกียจคร้าน
เพียงแต่ว่า เวลา 9 โมงกว่า ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอยังนอนหลับสนิท ใบหน้าที่ยังดูไม่ตื่นจากความฝัน ถูกฝืนให้ตั้งตรงขึ้น มองไปยังประตู
เป็นเวลา 2 วันแล้วที่ไม่ได้เจอหน้าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าในขณะนี้
ยู่ยี่ยังใส่ชุดนอน ทั้งยังไม่ได้ล้างหน้า ผมเผ้ายุ่งเหยิง ระบบความคิดนั้นก็ยังไม่กลับมา จ้องมองเขาอย่างมึนงง ถึงขั้นพูดได้ว่า เธอแทบจะไม่เคยปรากฏตัวในสภาพแบบนี้
คิ้วของฉันทัชเลิกขึ้น สายตาจับจ้องไปที่เธออย่างลุ่มลึก มุมปากกระตุกยิ้ม “แบบนี้นับว่าผมทำเซอร์ไพรส์ให้คุณ หรือคุณทำเซอร์ไพรส์ให้ผมกันล่ะ?”
สติกลับคืนมา หน้าของยู่ยี่แดงขึ้นมาเล็กน้อย ภาพลักษณ์ของเธอในยามนี้ ดูเหมือนว่าจะดูแย่ไปแล้ว
ราวกับอ่านความคิดในใจของเธอออก เขาขยับยิ้มมุมปาก กล่าวออกมาว่า “ผมชอบสไตล์แบบนี้ของคุณนะ สบายๆ เป็นธรรมชาติ และก็ยังดูเซ็กซี่ คุณในสไตล์ที่ต่างออกไป ผมนั้นชอบหมด ผมถึงขั้นคิดว่า แท้จริงแล้วคุณมีกี่ด้านกันแน่ ผมไม่เคยรู้เลย ผมอยากจะค้นหาความคิดในใจของคุณ จนแทบรอไม่ไหว……”
ยู่ยี่รู้สึกแก้มร้อนผ่าว และเปลี่ยนเรื่อง “ทำไมถึงได้มาเร็วขนาดนี้?”
นัยน์ตาของฉันทัชล้ำลึกราวกับหมึกสีเข้ม เขาตัดสินใจพูดออกมา 3 คำ “ผมคิดถึงคุณ….”
แม้ว่าจะไม่แสดงออกมาให้เห็น แต่หัวใจของเธอก็ยังคงอดไม่ได้ที่จะเต้นขึ้นมา หัวใจเธอนั้นเต้นกระหน่ำ อย่างไม่หยุดหย่อน คำพูดของเขา ดูเหมือนจีบเธออยู่ตลอดเวลา
เขายื่นมือออกมา มือซ้ายจับเธอเข้ามาในอ้อมแขน กอดเธอไว้แน่น จากนั้น เขาก็พูดว่า “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าครับ วันนี้ ผมจะพาคุณไปเดท…….”
เธอเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างหน้าแปรงฟัน และหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เข้ามานั่งในรถของเขา
ที่จริงแล้ว 2 วันที่ไม่ได้เจอกัน เธอเองก็ค่อนข้างคิดถึงเขา ภายในใจที่ตำหนิเขานั้น ค่อยๆ หายไปพร้อมกับความอบอุ่นของเขาที่เข้ามาแทน
ตอนที่เธอเดทกับหัสดินแต่ก่อนนั้น พวกเขานะชอบไปสถานที่ที่ค่อนข้างน่าตื่นตาตื่นใจและมีความรู้สึกกับสถานที่นั้น
อย่างไรก็ตาม สถานที่ที่ฉันทัชพาเธอไปนั้นคือบ่อน้ำพุร้อน มีพนักงานบริการนวดให้ เธอรู้สึกร่างกายที่รู้สึกกำลังสบายนั้นขดตัวเข้าหากัน
ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่กับผู้ชายธรรมดานั้นมีความแตกต่างกันจริงๆ อาจเป็นเพราะสภาพจิตใจที่ไม่เหมือนกัน หลังจากนวดสปาเสร็จ เขาก็พาเธอไปที่ลานสกี
ลานสกีนั้นใหญ่มาก อีกทั้งยังมีกระเช้าลอยฟ้า ยู่ยี่อยากที่จะนั่งมัน ฉันทัชตอบตกลงพลางยิ้มเล็กน้อย
บริเวณโดยรอบกระเช้านั้นว่างเปล่า ขณะที่มันค่อยๆ ขึ้นสูงจากพื้น ยู่ยี่เริ่มรู้สึกกังวล เธอแต่ก่อนนั้น กลัวความสูงอยู่เล็กน้อย
เมื่อไปถึงความสูงประมาณหนึ่ง เธอก็รู้สึกกลัว และหลับตาลง เธอกลัวจนไม่กล้าลืมตาขึ้นอีก ลมหายใจอุ่นร้อนและมีกลิ่นหอมของชายหนุ่มลอยมาปะทะเข้าที่จมูก เขาพูดที่ข้างหูเธอว่า “แขนของผมอยู่ข้างตัวคุณ………”
ยู่ยี่จับไหล่แกร่งและแข็งแรงของเขาโดยสัญชาตญาณ ความอุ่นของเสื้อคลุม ช่วยปลอบประโลมเธออยู่ไม่น้อย เธอไม่รู้สึกกลัวอีกต่อไป
เขากระซิบอยู่ที่ข้างหูเธอด้วยเสียงทุ้มเบาๆ “ลืมตาสิ”
“ไม่เอา ฉันกลัว……..” เธอพูดตามจริง
“ผมจะกอดคุณไว้ ให้คุณไม่รู้สึกกลัว มีผมอยู่ คุณไม่ต้องกลัวนะ กล้ากว่านี้นิดนึง วิวตรงหน้าสวยมาก ขอเพียงคุณกล้าลืมตาอีกครั้งก็จะได้เห็น ความกลัวและความขลาด มันจะทำให้คุณพลาดความสวยงามมากมายที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้ เชื่อผมสักครั้งนะ………” คำพูดของเขาดูเหมือนมีเวทมนตร์บางอย่าง ซึ่งสามารถทำให้คนสงบลง เธอพยายามหรี่ตาขึ้นเป็นเส้นเล็กๆ พร้อมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นจึงลืมตาขึ้นเต็มตา
เป็นอย่างที่เขาบอก วิวเบื้องหน้านั้นช่างสวยงาม หิมะยังตกลงมา ด้านล่างนั้นปกคลุมไปทั่วด้วยสีขาวโพลน ดูบริสุทธิ์และงดงาม
เมื่อนั่งอยู่ที่ระดับความสูงเช่นนี้ ก็เหมือนกับระยะห่างจากท้องฟ้านั้นอยู่ใกล้ขึ้นมาก เกล็ดหิมะโปรยปรายลงมาจากฟ้าเธอกระชับคอเสื้อของเธอ รู้สึกเย็นยะเยือก
มือใหญ่อุ่นร้อนของฉันทัชกุมมือเธอไว้ และวางลงที่กลางฝ่ามือ หลังจากนั้นก็นำมือเธอมาใส่ในกระเป๋าเสื้อคลุมของเขา ทำให้มือของเธอไม่เย็นจัดแบบนั้นอีกต่อไป
ความสูงเช่นนี้ ดูเหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น เธอหันตัวมองเขา ยิ้มสดใสร่าเริง “ดูเหมือนว่า มันก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรเป็นพิเศษ” “ใช่แล้ว บอกผมมาตามตรง 2 วันมานี้ คุณคิดถึงผมบ้างหรือเปล่า?” เขาถาม
ยู่ยี่ไม่เอ่ยต่อ
ฉันทัชไม่ปล่อยเธอ ยังคงจับจ้องไปที่เธอ ด้วยแววตาลึกซึ้ง จดจ่อ จริงจัง และมีความรู้สึกที่มั่นคง “คุณคิดถึงผมเหมือนที่ผมคิดถึงคุณหรือเปล่า?”
เธอเปลี่ยนเรื่องอีกครั้ง หรี่ตามองไปที่วิวเบื้องล่าง และยิ้มตาหยี “คุณกำลังพูดคำบิดลิ้น”
เขาหัวเราะเบาๆ ฝ่ามือใหญ่อบอุ่นกุมแก้มเธอไว้ นัยน์ตาอยากจะกลืนกินเธอเข้าไป “ถึงแม้ผมจะชอบมองคุณที่ดูซุกซน แต่ก็ไม่ใช่เวลานี้นะ ตอบคำถามผมมาก่อนครับ……”
บริเวณโดยรอบเงียบสงัด นอกจากเสียงลมแล้ว ก็มีแต่เสียงเกล็ดหิมะร่วงโปรยปรายเบาๆ เสียงโดยรอบทั้งหมดล้วนเงียบกริบ
ณ ตอนนี้ สิ่งที่เธอสามารถสัมผัสได้เพียงอย่างเดียวก็คืออุณหภูมิ เสียงหายใจ และลมหายใจที่มีเสน่ห์ของเขา ดวงตาของเขาเคลือบด้วยสีดำ เจิดจ้าและสดใส ราวกับตาข่ายที่ทอเสร็จแล้ว ห่อหุ้มเธอไว้ตรงกลางอย่างแน่นหนา ไม่อาจดิ้นรนได้ และไม่อาจหนีพ้น……..
ตาข่ายที่เขามอบให้เธอนั้น เธอไร้หนทางที่จะหนีไปได้ ถึงขนาดที่เธอได้ยินคำพูดที่ตัวเธอเองพูดออกมา “ใช่ ฉันคิดถึงคุณ…….”
ความอ่อนโยนนั้นเอ่อล้น ในครั้งนี้ เปลี่ยนเป็นฉันทัชที่รู้สึก เขารู้สึกหวั่นไหวเป็นอย่างมาก ทั้งร่างถาโถมไปด้วยความรู้สึกยากจะอธิบาย
เขาโน้มตัวลงไป ฝ่ามือใหญ่ของเขากอบกุมแก้มเธอไว้อย่างนั้น จากนั้น ที่ความสูงนี้ และท่ามกลางลมหิมะเต็มท้องฟ้า เขาได้มอบจูบอันลึกซึ้งแก่เธอ
ระยะเวลาของการจูบนั้นเป็นไปต่ออย่างเนิ่นนาน ตั้งแต่ที่เริ่มจูบนั้น ฉันทัชก็ยังคงจูบเธอไม่ปล่อย เรียกร้องลมหายใจและความหวานล้ำของเธออย่างไม่หยุดหย่อน
ตัวกระเช้าเคลื่อนตัวตลอดจนมาถึงที่หมาย แต่เขาก็ยังไม่ปล่อยเธอ ทั้งจูบแบบลึกซึ้ง และจูบแบบผิวเผิน
ในท้ายที่สุด ก็เป็นพนักงานที่หน้าแดงทนดูต่อไปไม่ไหว กระแอมไอเบาๆ และส่งเสียง ไม่อาจไม่ขัดจังหวะทั้งสองคนได้
ยู่ยี่รู้สึกไม่สามารถมองรอบข้างได้ เธอไม่มีหน้าจะมองแล้ว ฉันทัชหัวเราะเบาๆ อย่างมีเสน่ห์ ปัดหิมะออกจากเสื้อคลุมสีกาแฟอย่างตั้งใจ ก้มตัวลง อุ้มเธอในท่าอุ้มเจ้าหญิงออกมา
ความรู้สึกหวั่นไหวที่ไม่สามารถควบคุมได้นี้ ในอดีตเขาไม่เคยมีมาก่อน ตอนนี้ เขาก็ได้เรียนรู้ถึงความสุขทั้งทางกายและจิตใจ ชายหนุ่มอายุ 34 ปี ผู้ผ่านช่วงวัยว้าวุ่นมาแล้ว ยังสามารถเกิดความรู้สึกเช่นนี้ได้ ทั้งยอดเยี่ยมและยากที่จะเกิดขึ้น………