ตอนที่ 136

Rise of The Undead Legion

Chapter 136: เรื่องใหญ่

ชายสองคนในชุดดำขับรถมุ่งหน้าไปยังเมืองหนึ่งในเพนซิวาเนีย – ” แกกับเรื่องโง่ๆของแก บ็อบ แกจะทำลายทุกอย่างของฉันเลยใช่มั้ย ไม่เป็นไร บอสไม่รู้หรอก ที่แกบอกมา เป็นไงล่ะเขารู้แล้ว ! และมันไม่ได้ไม่เป็นไรเลย ! “

” ไม่เอาน่าพวก ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ? โอกาสจะมีมากแค่ไหนกับการที่เธอจะไปเจอไอ้บ้านั่นใน Conquest ? “

” แกต้องทำตามที่บอสบอกมา เอาเงินให้ไอ้บ้านั่น ! ตอนนี้เขาใหญ่โตแล้วและแม้แต่บอสก็ยังอยากได้เขาเข้าพวก ! มันคงเป็นปาฏิหาริย์ถ้าแกไม่ได้ไปนอนอยู่ก้นทะเล ! “

บ็อบพึมพำบางอย่างออกมาและพูดต่อด้วยเสียงอันดัง – ” นายก็ได้ยินที่บอสบอกมา เอาเด็กนั่นมาพบเขาให้เร็วที่สุด ! “

” แกพูดเรื่องอะไร ? ! อย่าคิดจะเปลี่ยนเรื่องที่แกทำพังเอาไว้ ! “

” บ้าเอ้ย…ฉันจะบอกว่าบอสน่ะไม่ทำแบบนั้นกับคนของตัวเองหรอก “

เซบาสเตียน หันกลับไปมองที่ บ็อบ

” บ้าอะไรกัน ! มันดูเข้าท่าแล้ว ! ฉันไม่ใช่เพื่อนของแก ฉันเป็นพี่เลี้ยง! แกเป็นใคร หลานเขารึไง ? “

กลับมาที่ป้อมปราการสีแดง เดฟ ได้หลับตาลงพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเอง

จากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับขนที่กลุกไปทั้งตัว

” เหี้ย ! ฉันกัดปากตัวเองเนี้ย ! “

เขาไม่ได้มีสติเต็มร้อยเท่าไหร่ตอนที่พบกับ Mercy เขาโกรธที่เขาถูกลืมไปว่าบอดี้การ์ดสองคนของเธอนั้นรู้จักเขาและหาตัวเขาได้ พวกนั้นปะติดปะต่อคนในโลกออนไลน์กับชีวิตจริงได้

เดฟ รีบกดโทรหา โซว์

” Lone ฉันตกที่นั่งลำบากแล้ว “

” มีอะไร เดฟ ? เสียงนายดูกังวลนะ นายจะไปสู้กับพวกบอสโดยไม่มีฉันรึไง ? ” – Lone Arrow แหย่

” บอสเหรอ อ่ะใช่ น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ ” – เขาส่ายหน้ากับตัวเอง ตอนนั้นเขาก็นึกว่า Mercy นั้นเป็นสมาชิกกิลด์ It’s Just Business กิลด์ที่ดูแลโดยมาเฟีย

” ฉันทำพัง ฉันเผยตัวตนจริงให้กับคนอื่นที่ฉันไม่ควรจะทำ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น…”

เธอฟังคำอธิบายทั้งหมดจาก เดฟ โดยไม่ขัดอีกซึ่งนั่นไม่ได้ปกติสำหรับเธอ – ” นั่นไม่ดีเลยนะ เดฟ ” – น้ำเสียงเธอนั้นไม่ได้ทำให้ เดฟ กังวลน้อยลงเลย เธอพูดต่อ – ” ออกจากบ้านเดี๋ยวนี้และมาที่เมือง พวกนั้นไม่เสี่ยงที่จะข้ามเขตหรอก “

” ฉันไม่อยากให้มันเดือดร้อนถึงพวกเธอ ฉันแค่ต้องการความช่วยเหลือ ฉันอยู่ในเมืองแล้ว ในโรงบาลแต่มีคนที่ฉันรู้จักอาจจะตกอยู่ในอันตรายถ้าพวกมาเฟียนั่นไล่ตามฉัน “

” ส่งที่อยู่ของเพื่อนนายมาแล้วฉันจะขอให้พ่อส่งคนไปดูแลเพื่อนนาย ลุงแซม กับฉันจะไปรับนายที่โรงบาล เตรียมตัวเอาไว้ ” – เธอวางสายทันที

” บ้าเอ้ย ตอนนี้ โซว์ กับครอบครัวเธอเข้ามาเกี่ยวด้วยแล้ว ฉันเกลียดมันจริงๆแต่ฉันก็ได้แต่ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้ ทำไมฉันไม่หุบปากเอาไว้นะ ! “

กลับมาที่บ้านในแมนฮัตตัน สาวผมม่วงได้ล็อคเอาท์ออกมาจากแคปซูลเกมและกดโทรศัพท์ของเธอ

” ลุงแซม ลุงรู้มั้ยว่าพ่ออยู่ไหน ? “

” เขาทำธุระอยู่ในเมือง ทำไม ?”

โซว์ บอกข้อมูลทั้งหมดที่ เดฟ บอกให้เธอฟัง

เขาคิ้วขมวด – ” เรื่องชักยุ่งแล้วแต่ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้ว เราต้องจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไปรับเขาที่โรงพยาบาล ฉันจะส่งคนไปที่โมย่าเพื่อดูแลเพื่อนของเขา “

” ได้ มันคือ คุณคลีเมนไทด์ ที่เป็นเพื่อนบ้านของเขา “

” ได้ ฉันจะจัดการทุกอย่างเอง ไปเจอฉันที่โรงบาลในครึ่งชั่วโมง “

โซว์ วางสายแล้วรีบไปที่โรงรถ เธอมองไปรอบๆพยายามตัดสินใจว่าจะเอารถคันไหนไปดี

“รถนี่สีเข้ากับกระเป๋าฉันดี เอาคันนี้แหละ ! ” – เธอตบรถคาดิแล็คสีดำ

โทรศัพท์ของ โซว์ ดังขึ้นตอนที่ขับไปที่แมนฮัตตัน

” ว่าไงพ่อ ! ” -โซว์ พูดขึ้น

” โซว์ เกิดอะไรขึ้น? “

” พ่อคุยกับ ลุงแซม เรื่อง เดฟ รึยัง ? “

” ใช่ พ่อส่งคนไปดูแลเพื่อนของเขาที่เพนซิวาเนียแล้ว “

” ขอบคุณมากพ่อ “

” พ่อล่ะประหลาดใจจริงๆที่ลูกทุ่มเทขนาดนี้เพื่อช่วยเด็กนี่ เขาต้องจุดไฟให้ลูกแน่ๆเลย “

โซว์ ได้แต่ได้ยินเสียงหัวเราะของพ่อก่อนจะเถียงขึ้นมา – ” พ่อ ! เขาเป็นแค่เพื่อน “

” เอาล่ะ ! พ่ออยากพบเพื่อนของลูกจริงๆ ตอนที่พ่อจัดการธุระเสร็จ ลูกเอาเขาไปกินมื้อเย็นที่บ้านด้วย ” – ดันเต้ ตัดสายทันที

โซว์ อึ้งกับคำสั่งของพ่อแต่จากนั้นเธอก็จำภารกิจของเธอได้และเร่งความเร็วขึ้นทันทีเมื่อนึกถึงความอันตรายที่ เดฟ อาจจะพบ

บ็อบ และ เซบาสเตียน มาถึงที่อพาทเมนต์เก่า

” นี่แหละ ” – บ็อบ พูดขึ้น

” ไปจัดการเรื่องนี้ให้จบ “

พวกเขาเข้าไปในอพาทเมนต์และเดินไปที่ชั้นสอง เซบาสเตียน เคาะประตูและยืนรออยู่ด้านนอก

หลังจากเคาะไปหลายครั้งแต่ไม่มีคนตอบกลับ บ็อบ ก็เริ่มหมดความอดทน

” หลีกไป ! “

เขาถีบประตูเข้าไปทันที

” เฮ้ย ! จำที่บอสบอกได้มั้ยว่าอย่าบังคับรึขู่เขา ! “

” มันก็แค่ประตู ” – บ็อบพูดขึ้นพร้อมกับยักไหล่

พวกเขาเข้าไปให้อง กลิ่งเน่าของขยะลอยเข้ามาที่จมูกของพวกเขา

” นี่ทำให้ฉันนึกถึงกล่องรองเท้าที่เราเคยอยู่เลย ” – บ็อบ พูดขึ้น

” เขาไม่อยู่ที่นี่ “

” จะรอมั้ย ? ” – ชายอีกคนถาม

” ไม่ ขยะนี่ไม่ได้เอาไปทิ้งหลายวันแล้ว ฉันคิดว่าเขาคงไม่อยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว “

” ฉันว่าเพื่อนบ้านน่าจะรู้บ้าง เราน่าจะลองถามพวกเขาดู “

เซบาสเตียน ยิ้ม – ” ลองไปคุยกับเธอและเพื่อนบ้านอื่นๆก่อนจะไล่ไปจนถึงยัยแก่ “

ในตอนที่สองคนเดินออกจากห้องนั้นพวกเขาก็พบกับชายสองคนที่ทางเดินมองมาที่พวกเขา

บ็อบ และ เซบาสเตียน ได้เอามือไปใกล้กับปืน

หนึ่งในสองคนมาใหม่ได้พูดขึ้น – ” บอกบอสพวกแกว่าเด็กนี่อยู่ภายใต้การปกป้องของซิลวาน่า เข้าใจมั้ย ? ออกไปจากที่นี่ได้แล้ว ! “

” ไปกันเถอะ ! ” – เซบาสเตียน บอกกับ บ็อบ

บ็อบ เดินออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจและกำลังจะพูดบางอย่าง

” ไปกันเถอะ ! ” – เซบาสเตียน เสียงแข็งขึ้นมาพร้อมกับจับแขนของ บ็อบ

” เราจะปล่อยไอ้เด็กนี่ไปแบบนี้งั้นเหรอ ? ” – บ็อบ พูดขึ้นด้วยเสียงที่ไม่พอใจก่อนจะเดินลงมาที่ชั้นล่าง ตอนนี้อารมณ์ของพวกเขาไม่ได้มีผลต่อการทำงานและการตัดสินใจ

” บอสคงไม่พอใจแน่ “

” เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหากับพวกอื่น บ็อบ นี่ก็ถือว่าได้ผลแล้ว เรารู้ว่าเด็กนั่นเป็นใคร บอสจะได้คุยกับซิลวาน่า “

***

เมื่อรู้ว่า โซว์ ได้ส่งคนไปดูแล คลีเมนไทด์ แล้วเขาก็เริ่มสบายใจขึ้นมาก่อนจะหันกลับมาสนใจเรื่องในเกมต่อ

เดฟ คิดเรื่องการเลื่อนขั้นของตัวเองแต่เขาก็จำได้ว่า {Life Cleaver} นั้นคูลดาวน์อยู่ ดังนั้นเรื่องนี้ต้องรอไปก่อน

เดฟ เปิดประตูวาร์ปแล้วเดินผ่านประตูไปยัง Undead Frontier

เขาไปที่วิหารและพบกับ Delvina ที่นั่งค้ำคางอยู่ที่บัลลังก์ของเธอ

” Delvina ฉันมีบางอย่างให้เธอช่วย “

” ให้ฉันช่วยอะไรอันเดตน้อย ? “

” มีหน่วยพิเศษสำหรับการฮีลอันเดตรึเปล่า ?” – เดฟ ถาม

” ฮีลน่ะเป็นคุณสมบัติของมนุษย์และเผ่าแสง อันเดตเราน่ะไม่สามารถใช้การฮีลแบบนั้นได้ “

” ทีมของฉันบางส่วนทำการฮีลได้เมื่อทำการโจมตีด้วยเวทย์ นั่นไม่ใช่การฮีลรึไง ? “

” ใช่ มันคือเวทย์สาป อันเดตน่ะอยู่กับมนต์ดำและสิ่งที่ทำร้ายสิ่งมีชีวิตจะส่งผลกลับกันต่ออันเดต “

” ได้ คำสาปได้ผลกับอันเดตแต่มันไม่ได้ผลกับ Dunlord มันมีวิธีในการฮีลพวกมันมั้ย ?? “

” Dunlord นั้นคือพวกฝ่ายมืดแต่พวกมันไม่ใช่อันเดต ร่างกายของพวกมันเต็มไปด้วยพลังชีวิต ถ้านายต้องการที่จะทำการฟื้นฟู Dunlord รึสิ่งมีชีวิตอื่นในทีมของนาย นายต้องหาพวกฝ่ายศักดิ์สิทธิ์ จับพวกนั้นมาเป็นทาสซะ “

” นั่นคงจะได้ผล ฉันจะหาพวกนั้นได้จากไหน ? “

” พอดีเลย ฉันมีงานให้นายทำที่จะได้รับพวกนักโทษพวกนี้ “

” ว่ามาเลย ” – จมูกของ เดฟ กระดิกเหมือนได้กลิ่นของเควส

” มีการเคลื่อนไหวของวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังวางแผนทำเรื่องใหญ่อยู่ หัวหน้าพรีสหญิงได้เดินทางจาก Moria มายังอาณาจักรตะวันออกพร้อมกับกลุ่มนักบวชและทหาร พรีสนี้เป็นคนเดียวที่สามารถปลุกนางฟ้าในตำนานที่ซ่อนอยู่ที่นั่นได้ “

” ราชาไม่หวังว่าจะมีสิ่งมีชีวิตแบบนั้นตื่นขึ้นมาอีกครั้งทั้งในโลกใต้ดินและด้านบนด้วย “

” โจมตีขบวนพวกนั้น ฆ่ารึจับกลุ่มนักบวชและนักรบของวิหารศักดิ์สิทธิ์แต่พรีสนั้นต้องเอาตัวมาเป็นๆ ฉันจะเอาเธอมาทำบางอย่าง “

เดฟ รู้สึกได้ถึงความดีใจจากใบหน้าของเธอ ‘ เธอเป็นหัวหน้าของฝ่ายทรมาน ฉันล่ะสงสารพรีสที่ต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของเธอจริงๆ ‘

[ เควสใหม่ (C)

จับและทำลายพวกนั้น !

Delvina ได้ให้งานกับคุณในการโจมตีขบวนเดินทัพของวิหารศักดิ์สิทธิ์ระหว่างทางมายังอาณาจักรตะวันออก

ข้อกำหนด : จับกุมพรีสเพื่อทำการสอบสวน

โบนัส : จับสมาชิกคนอื่นมาใช้ได้ตามสะดวก]

เดฟ พยักหน้าให้กับ Delvina และมุ่งหน้ากลับไปที่ประตูวาร์ป