บทที่ 460 ให้คำอธิบายมา

The king of War

“กิจการที่เฟื่องฟูมากมาย สินสอดเงินสดหนึ่งแสนแปดหมื่นสามพันสามร้อย!”

……

รายการส่งของขวัญเจ็ดแปดอย่างติดๆ กันถูกอ่านออกมาต่อหน้าสาธารณชน

ทันใดนั้นทุกคนต่างเบิกดวงตากลมโต ตื่นตกใจถึงขั้นสูงสุดแล้ว

เพราะสินสอดพวกนี้ ไม่มีสักอย่างที่ราคาไม่เกินหนึ่งร้อยล้าน ในนั้นยังมีกิจการหลายแห่งของเมืองเยี่ยนตูด้วย

โดยเฉพาะกิจการพวกนี้ มีความเกี่ยวข้องกับกิจการของตระกูลอ้ายทั้งหมด และสามารถพูดได้ว่าถ้าเกิดตระกูลอ้ายได้รับกิจการพวกนี้ไปครอง ตำแหน่งของตระกูลอ้ายในเมืองเยี่ยนตู จะสามารถขยายใหญ่ได้อีกระดับหนึ่ง

รวมสินสอดพวกนั้นเมื่อสักครู่ขึ้นมา ราคาทะลุไปหลายพันล้านแล้ว!

ตระกูลอ้ายจะไม่ใช่แค่ตระกูลที่มีทรัพย์สินหมื่นล้านเล็กๆ อีกต่อไป จำนวนหลายพันล้านนี้ ก็ยึดครองทรัพย์สินหนึ่งในสามของตระกูลไว้แล้ว

ปัจจุบันนี้ กลับถูกคิดเป็นสินสอด มอบออกมาให้แล้ว

ชายหนุ่มที่สามารถส่งกิจการหลายพันล้านให้ได้อย่างง่ายดาย เบื้องหลังจะทุนหนามากแค่ไหน?

ผู้คนมากมายต่างอดรู้สึกตกใจหวาดกลัวขึ้นมาไม่ได้

ส่วนอ้ายหมิงซวี่ ยิ่งรู้สึกเสียวสันหลังวาบอยู่พักหนึ่ง

ในใจเขาแน่ใจเอามากๆ ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้ เขาผิดใจไม่ได้เหมือนกัน

“ไม่ทราบว่าคุณอ้ายรู้สึกพอใจกับสินสอดเหล่านี้หรือเปล่าครับ?”

หยางเฉินมองทางอ้ายหมิงซวี่ด้วยท่าทางนิ่งสงบ

อ้ายหมิงซวี่ไม่ได้ตอบ หน้าตาเต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อน

หม่าชาวที่อยู่ข้างกายหยางเฉิน ภายในรู้สึกประทับใจเต็มเปี่ยม เพราะแม้แต่เขาเองยังไม่รู้ชัดเจน เพื่อเขาแล้ว หยางเฉินได้เตรียมสินสอดที่มหาศาลขนาดนี้เอาไว้อย่างคาดไม่ถึง

ตอนนี้เขาทำได้เพียงรับทุกอย่างนี้ไว้อย่างนิ่งเฉย วันหลังจะตอบแทนบุญคุณนี้กลับไปหลายพันเท่า

ตอนที่อ้ายหมิงซวี่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรอยู่บ้าง ภาพของผู้สูงวัยคนหนึ่งก้าวเดินออกมาทันใด ทั่วทั้งตัวตั้งแต่บนลงล่างล้วนเป็นพลังน่าเกรงขามของผู้ปกครอง

“พ่อหนุ่ม เห็นแก่ที่นายจริงใจอย่างมาก ฉันจะไม่ถือสาหาความกับนายก็ได้”

ผู้อาวุโสมองทางหยางเฉินด้วยสีหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงเปลี่ยนกะทันหัน “แต่ว่านายฆ่าคนของตระกูลหวังแล้ว เรื่องนี้ นายจำเป็นต้องให้คำอธิบายกับตระกูลหวัง!”

“อีกอย่าง ในเมื่อพวกเราตระกูลอ้ายตัดสินใจจะแต่งงานเกี่ยวดองกับตระกูลหวังแล้ว ถึงแม้นายจะย้ายกองเงินกองทองมา พิธีแต่งงานก็ไม่อาจโดนขัดขวางได้”

ฟังขึ้นมา ผู้อาวุโสกำลังพูดเหตุผลกับหยางเฉิน แต่ท่าทีกลับแข็งกร้าวอย่างมาก

เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ของตระกูลอ้าย ดูจากการแต่งตัวของเขา ยังมีสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพนับถือของคนโดยรอบที่มองมาทางเขาแล้ว มีความเป็นไปได้มากว่าเขาจะคือผู้นำของตระกูลอ้าย

“คุณพ่อ!”

อ้ายหมิงซวี่รีบเข้ามาทันที เรียกไปด้วยความเคารพนบนอบ

นึกไม่ถึงว่าเขาจะคือผู้นำของตระกูลอ้าย อ้ายชวน!

ด้านข้างของอ้ายชวน ยังมีผู้อาวุโสผมหงอกคนหนึ่ง ในดวงตาที่มองทางหยางเฉินเต็มไปด้วยแรงอาฆาตแค้นที่รุนแรง

“ท่านอ้าย ความหมายของคุณคือไม่แทรกแซงความแค้นระหว่างผมกับตระกูลหวัง แค่ยืนยันจะให้อ้ายหลินแต่งเข้าตระกูลหวัง?”

ดวงตาหยางเฉินจ้องอ้ายชวนไปตรงๆ สอบถามขึ้น

อ้ายชวนพยักหน้า “ไม่ผิด!”

ยังเป็นจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์เสียจริง คำพูดเหล่านี้พูดได้อย่างรัดกุมมาก

เขาไม่รู้สถานะและเบื้องหลังของหยางเฉิน แต่ดูจากสินสอดที่หยางเฉินนำมา พอรู้แล้วว่าหยางเฉินไม่ธรรมดา

ส่วนเบื้องหลังของตระกูลหวัง คือตระกูลหวงที่ยืนอยู่หนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู เขาไม่กล้าล่วงเกินเช่นกัน

เขาพูดแบบนี้ คงจะผิดใจทั้งสองฝ่ายไปแล้ว แต่อย่างน้อยคงไม่ผิดใจฝ่ายหนึ่งในนี้จนถึงตาย

เห็นว่าตระกูลหวังและหยางเฉินเสือสองตัวต่อสู้กันอยู่ ไม่ว่าใครสามารถรับชัยชนะสุดท้ายนี้ไปครอง เขาล้วนมีที่เหลือให้หวนกลับทั้งนั้น

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ขอบคุณท่านอ้ายมากครับ!” หยางเฉินยิ้มตอบไป

จากนั้นสายตาของเขาตกอยู่บนตัวของผู้อาวุโสคนนั้นที่อยู่ด้านข้างอ้ายชวน เอ่ยปากบอกว่า “ท่านนี้ น่าจะเป็นผู้นำของตระกูลหวังสินะครับ?”

ผู้ที่มีสิทธิ์ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับอ้ายชวน นอกจากผู้นำของตระกูลหวังที่อยู่ในงานแล้ว ยังมีใครได้อีก?

“ไอ้หนุ่ม ต้องยอมรับว่าแกกล้าหาญเอามากๆ กล้าบุกตระกูลหวังของฉัน แถมยังกล้าฆ่าหลานชายของฉันหวังหู่อีก แกเห็นว่าตระกูลหวังของฉันรังแกได้ง่ายๆ งั้นเหรอ?”

หวังหู่ถลึงตาโกรธเกรี้ยว เสียงราวกับสายฟ้าฟาด ระเบิดดังท่ามกลางฝูงชน

หยางเฉินส่งเสียงหัวเราะเยาะ “ให้เจ้านายเบื้องหลังของแกไสหัวออกมา สำหรับตระกูลหวัง ยังไม่มีสิทธิ์มาพูดกับฉัน!”

“สารเลว แกพูดอะไร?” หวังหู่โกรธจัด

แขกที่มาในงานเหล่านั้นต่างตกใจตาค้างแล้ว

ใครไม่รู้ชัดบ้างว่าที่ยืนอยู่เบื้องหลังตระกูลหวังก็คือตระกูลหวง หยางเฉินกลับยังขู่ขวัญว่าให้เจ้านายเบื้องหลังตระกูลหวังไสหัวออกมา

คงไม่ได้หมายความว่าหยางเฉินให้คนของตระกูลหวงไสหัวออกมาเหรอ?

“ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่? นึกไม่ถึงว่าแม้แต่ตระกูลหวงยังไม่กลัว!”

“ดูท่าทางเขาจะพุ่งเป้ามาที่ตระกูลหวง บางที่การสู่ขออาจเป็นแค่เรื่องบังหน้า”

“ชายสูงใหญ่ข้างกายเขาคนนั้น ความสามารถแกร่งมาก ถึงแม้จะเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นนำในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ก็แค่เท่านี้เอง”

“ชายหนุ่มคนหนึ่งมีบอดี้การ์ดผู้แข็งแกร่งชั้นนำติดตัว จะเป็นบุคคลธรรมดาได้อย่างไร?”

ในเหตุการณ์ฮือฮาขึ้นพักหนึ่ง สำหรับสถานะของหยางเฉิน ถูกคาดเดาขึ้นมาแล้วเช่นกัน

หยางเฉินกลับเหมือนไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น พูดจาแบบหน้าตาไร้อารมณ์ “ถ้าไม่ให้เจ้านายเบื้องหลังของแกไสหัวออกมา ก็ยกเลิกพิธีแต่งงานในวันนี้!”

พูดจบ หยางเฉินนั่งลงไปแล้ว หม่าชาวรีบเข้ามาเทน้ำชาถ้วยหนึ่งแล้ว

หยางเฉินทำเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น นั่งอยู่ตรงนั้น ดื่มชาอย่างสบายใจไร้กังวล

ทุกคนแม้แต่หายใจยังไม่กล้าเลย จ้องภาพชายหนุ่มที่นั่งนิ่งไม่ขยับคนนั้นอยู่

ในใจหวังหู่สับสนอยู่บ้าง เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกถึงแรงกดดันที่มหาศาลเช่นนี้

ถึงแม้ว่าตระกูลหวงจะเคยให้คำมั่นไว้ รอตอนที่พวกเขาควรออกหน้า จะต้องออกหน้าแน่นอน

แต่ว่าปัจจุบันนี้ หลานชายของเขาโดนฆ่าแล้ว ตระกูลหวงกลับไม่มีใครปรากฏตัว

ทันใดนั้นหวังหู่มีความรู้สึกว่าขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก

“คุณพ่อครับ เจ้าเด็กสามหาวสองคนนี้กล้ามาฆ่าลูกชายผม พวกเราจำเป็นต้องแก้แค้น!”

อารมณ์ของหวังหงเชียนสงบนิ่งลงมามากแล้ว วางลูกรักที่กลายเป็นศพลง จากนั้นเดินมาที่ข้างกายของหวังหู่ ตาแดงก่ำแล้วพูดขึ้น

หวังหู่ไม่ได้พูดอะไร สายตาจ้องมองที่หยางเฉิน

ตั้งแต่ต้นจนจบ หยางเฉินไม่ได้ลงมืออะไรทั้งนั้น แต่จากบนตัวของหยางเฉิน กลับทำให้เขารู้สึกถึงแรงอาฆาตแค้นรุนแรงที่คลุมเครือ

ชายหนุ่มที่ทำให้เขามองไม่ออกแบบนี้ต่างหากถึงเป็นคนที่น่ากลัวมากที่สุด

“คุณพ่อครับ สรุปคุณพ่อกำลังลังเลอะไรอยู่?”

“เขาฆ่าลูกชายของผม หลานชายของท่านแล้วนะครับ!”

“หรือว่าท่านยังอยากจะไว้ชีวิตมันอีก?”

หวังหงเชียนตะโกนขึ้นมาแล้ว ในดวงตามีน้ำตาคลอเต็มเบ้า

หวังไห่คือลูกชายที่เขาชอบมากที่สุด และเป็นลูกชายที่เขาคาดหวังมากที่สุด อาจจะสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลในอนาคตอีกด้วย

ปัจจุบันนี้กลับโดนฆ่าแล้ว ฆ่าต่อหน้าต่อตาเขาแล้ว

เรื่องราวที่น่าเศร้าใจที่สุดบนโลกนี้ ไม่มีอะไรยิ่งไปกว่าคนอายุมากกว่าต้องมาดูคนอายุน้อยกว่าตายจากไป

ตอนนี้เขาแค่อยากฆ่าหยางเฉินและหม่าชาว เพื่อชำระล้างแค้นให้ลูกชาย!

“หุบปาก!”

หวังหู่ตวาดใส่

เขาโกรธอย่างแรง อารมณ์ไม่ดีเอามากๆ ด้วย แต่เขาเป็นถึงผู้นำของตระกูลหวัง

ถ้าสามารถฆ่าหยางเฉินและหม่าชาวได้จริง เขาจะอดทนมาถึงตอนนี้หรือไง?

ตระกูลหวงไม่ปรากฏตัวออกมา เขาก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามจริงๆ

“ได้ ในเมื่อคุณพ่อไม่ยอมแก้แค้นเพื่อหวังไห่แล้ว งั้นผมทำเอง!”

หวังหงเชียนถูกความโกรธแค้นครอบงำสมองแล้ว ตะโกนเสียงดัง “ออกมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”

จากนั้นพอเขาพูดจบ ผู้แข็งแกร่งสวมชุดดำสี่คนก็พุ่งเข้ามาจากด้านนอกในทันใด

“ถอยออกไปให้หมดเดี๋ยวนี้!”

หวังหู่จะยอมให้หวังหงเชียนเสี่ยงอันตรายได้อย่างไร? จึงรีบตะโกนบอก

เพียงแต่คนชุดดำสี่คนนั้น เดิมทีไม่สนใจหวังหู่ ล้วนจ้องหยางเฉินและหม่าชาวตาเป็นมัน

“คุณพ่อครับ พวกเขาเป็นคนของผม ฟังแค่คำสั่งของผมเท่านั้น!” หวังหงเชียนตาแดงก่ำบอกไป