บทที่ 1533 ทะเลสาบหัวใจน้ำแข็ง

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1533 ทะเลสาบหัวใจน้ำแข็ง

แปลโดย iPAT

 

ไท่รั่วหนานก่นเสียงเย็นขณะที่นางยกกำปั้นขึ้นรับการโจมตี

 

“ปัง!”

 

กำปั้นปะทะฝ่ามือและปลดปล่อยแสงสีขาวออกมา

 

พื้นดินแตกร้าวจากแรงกระแทก

 

ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างรุนแรงก่อนจะถอยหลังกลับ หลังจากล่าถอยออกไปสิบก้าว พวกเขาก็หยุดและมองหน้ากับขณะที่หอบหายใจอย่างหนักหน่วง

 

ในเวลานี้ทั้งสองแสดงออกด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง พวกเขาไม่กล้าประมาท

 

“น่าทึ่ง สองคนนี้มีพลังการต่อสู้ที่เหนือกว่าระดับของพวกเขา ทั้งสองเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอด!” เฉิงซินซื่อถอนหายใจ ในปัจจุบัน นางรู้บางสิ่งเกี่ยวกับโลกของผู้อมตะจากเฉิงชิงชิง

 

เย่ฟานมองไปรอบๆก่อนกล่าว “ไท่รั่วหนาน หากเจ้าสามารถรับมือกระบวนท่าต่อไปของข้า ข้าจะยอมรับความพ่ายแพ้!”

 

ไท่รั่วหนานพยักหน้า “ตกลง”

 

ผู้ใช้วิญญาณมีพลังวิญญาณที่จำกัด พวกเขาไม่สามารถต่อสู้เป็นเวลานาน แต่ในการต่อสู้ที่รุนแรงก่อนหน้านี้มันทำให้พวกเขาสูญเสียพลังวิญญาณไปมากแล้ว

 

ดังนั้นไท่รั่วหนานจึงเห็นด้วยกับความคิดของเย่ฟานและเริ่มการตัดสินครั้งสุดท้าย

 

เย่ฟานสูดหายใจลึกและเริ่มกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายของเขา

 

ท่าไม้ตายวิหคแสง!

 

“จิ๊บ จิ๊บ”

 

เสียงนกร้องดังขึ้น

 

แสงสีรุ้งควบรวมอยู่ที่ฝ่ามือของเขา

 

มันส่งเสียงนกร้องออกมาก่อนที่จะกลายเป็นวิหคแสงตัวเล็กๆ

 

กลิ่นอายที่ทรงพลังของวิหคแสงทำให้ไท่รั่วหนานแสดงออกอย่างเคร่งขรึม นางปลดปล่อยควันสีดำออกมาและควบรวมเป็นหน้ากากเหล็กสีดำอยู่บนใบหน้าของนาง

 

ท่าไม้ตายหน้ากากเหล็ก!

 

มันเป็นท่าไม้ตายจากมรดกที่แท้จริงหน้ากากเหล็ก หากใช้วิญญาณอมตะเป็นแกนกลาง มันจะกลายเป็นท่าไม้ตายอมตะ

 

“ไป” เย่ฟานตะโกนและปล่อยวิหคแสงบินขึ้นสู่อากาศ

 

วิหคแสงเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง

 

“เข้ามา!” ไท่รั่วหนานกรีดร้องและพุ่งเข้าเผชิญหน้าโดยตรง

 

ในเวลาต่อมานางก็ชนกับวิหคแสง

 

ผู้ใช้วิญญาณของตระกูลไท่อ้าปากค้างเมื่อเห็นไท่รั่วหนานใช้ร่างกายรับการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเย่ฟาน

 

บนก้อนเมฆ ไท่เมี่ยนเฉินยังสงบนิ่ง เขารู้จักพลังอำนาจของท่าไม้ตายหน้ากากเหล็กเป็นอย่างดีและมั่นใจในพลังป้องกันของมัน

 

“จิ๊บ จิ๊บ”

 

วิหคแสงพุ่งชนไท่รั่วหนานและกลายเป็นชั้นแสงห่อหุ้มร่างของไท่รั่วหนานเอาไว้ขณะเดียวกันควันสีดำจากร่างกายของนางก็พยายามกัดกร่อนชั้นแสงดังกล่าว

 

ทั้งสองตกอยู่ในสภาวะชะงักงันและไม่สามารถตัดสินผู้ชนะ

 

“เมล็ดพันธุ์อมตะของตระกูลเฉิงค่อนข้างดีเช่นกัน” ไท่เมี่ยนเฉินยกย่อง

 

เฉิงชิงชิงยิ้ม “น่าเสียดาย เขาเป็นเมล็ดพันธุ์ภายนอก”

 

ไท่เมี่ยนเฉินพยักหน้า “ท่าไม้ตายของเขาไม่ธรรมดา เขาสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆและทำให้มันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ตั้งแต่อายุเพียงเท่านี้”

 

ฮั่วเหยาถอนหายใจด้วยความอิจฉา “เมล็ดพันธุ์เหล่านี้ล้วนเป็นเสาหลักของตระกูลในอนาคต”

 

เฉิงชิงชิงรู้สึกสงสัยมาก นางเคยให้คำแนะนำแก่เย่ฟานมาก่อน แต่เขาไม่ได้ใช้สิ่งเหล่านั้นออกมาในตอนนี้

 

‘ตระกูลเฉิงของข้ามีระบบสนามประลอง ดังนั้นไท่เมี่ยนเฉินและฮั่วเหยาจึงคิดว่าเขาเป็นเมล็ดพันธุ์ภายนอกที่เราคัดเลือกมา แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่กรณีนั้น’

 

‘เย่ฟานสามารถแสดงความสามารถเช่นนี้ต้องเป็นเพราะการเผชิญหน้าโดยบังเอิญ แน่นอนว่าเขาสามารถสร้างท่าไม้ตายเป็นของตนเอง พรสวรรค์ดังกล่าวไม่สามารถประเมินต่ำ เขามีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเฉิงจริงๆ’

 

‘หากเราสามารถตรวจสอบต้นกำเนิดของเขาและพบว่ามันไม่มีปัญหา เราจะจ้างเขา ถูกต้อง ดูเหมือนเขาจะชอบเฉิงซินซื่อ เราสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เช่นกัน หากเขาสามารถกลายเป็นผู้อมตะ บางทีเราอาจให้เขาแต่งงานกับเฉินซินซื่อ นี่เป็นเรื่องในอนาคต’

 

เฉิงชิงชิงคิดและวางแผนการของนาง ในขณะเดียวกันผู้อมตะลึกลับอีกสองคนกำลังวางแผนอยู่ที่ทะเลสาบที่อยู่ใกล้ๆ

 

ผู้อมตะทั้งสองปกปิดร่องรอยของพวกเขาเอาไว้ พวกเขาเตรียมตัวมานานแล้ว

 

หนึ่งในสองเป็นชายวัยเยาว์นามว่าอี้อวี๋ เขาแสดงออกด้วยความกังวล “การเคลื่อนไหวของพวกเราจะไม่ดึงดูดความสนใจของผู้อมตะทั้งสามงั้นหรือ?”

 

“ไม่” อี้หนานเหมินตอบด้วยความมั่นใจ “หากไม่ใช่เพราะท่าไม้ตายสายตรวจสอบเฉพาะตัวของข้า ข้าจะไม่พบสัตว์อสูรบรรพกาลที่อยู่ใต้ทุ่งหยกร้อนแห่งนี้! ผู้อมตะของตระกูอี้มีทักษะบนเส้นทางแห่งวารี มันยากที่ผู้อมตะทั้งสามจะค้นพบ”

 

“และตอนนี้เราก็ไม่ได้ลงมือโดยตรง เราเพียงหลอกล่อสัตว์อสูรบรรพกาลที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นและอาละวาดเท่านั้น”

 

อี้หนานเหมินหยุดก่อนกล่าวต่อ “แน่นอนว่าผู้อมตะมีวิธีการมากมาย ข้าไม่สามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ แต่กระทั่งพวกเขาจะค้นพบและเปิดเผยพวกเรา พวกเราก็สามารถอธิบายตัวเอง ตระกูลอี้เป็นกองกำลังใหญ่เช่นกัน พวกเขาอาจสงสัย แต่พวกเขาไม่สามารถต่อสู้เป็นตายกับพวกเรา”

 

“หากพวกเขาไม่พบสิ่งใดเลย ฮ่าฮ่า เมื่อสัตว์อสูรบรรพกาลออกอาละวาด พวกเขาจะออกมาปราบปรามมันอย่างแน่นอน เมื่อเวลานั้นมาถึง เจ้าสามารถลงมือและฆ่าหนึ่งในนั้นเพื่อทำให้ทั้งสามตระกูลสงสัยกันเองและเริ่มต่อสู้!”

 

อี้หนานเหมินเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดขณะที่อี้อวี๋เป็นผู้อมตะระดับหก ตามแผนการของพวกเขา อี้อวี๋จะเป็นผู้ลงมือลอบสังหาร นั่นหมายความว่าเขามีวิธีการพิเศษบางอย่าง

 

แต่อี้อวี๋ยังกังวล “ข้ายังไม่คุ้นเคยกับท่าไม้ตายนี้ หากมันล้มเหลวจะเกิดสิ่งใดขึ้น? หากพวกเขารู้ตัวขณะที่ข้ากำลังใช้งานมัน?”

 

อี้หนานเหมินแสดงออกอย่างเคร่งขรึม “นั่นเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หากพวกเขาค้นพบ ข้าจะใช้ชีวิตของข้าเพื่อขัดขวางพวกเขาและปล่อยให้เจ้าหลบหนีไป ข้าจะไม่ยอมรับว่าข้าเป็นผู้อมตะจากตระกูลอี้แม้ข้าจะต้องตาย เจ้าก็ต้องทำเช่นเดียวกัน!”

 

“รับทราบ!” อี้อวี๋ไม่กังวลอีกต่อไป ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

 

อี้หนานเหมินสูดหายใจลึก “ข้าจะเริ่มแล้ว”

 

เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะโดยปกปิดกลิ่นอายเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ นี่ทำให้อี้อวี๋มั่นใจมากขึ้น

 

ในเวลาต่อมาระลอกคลื่นน้ำก็ปรากฏขึ้นที่ทะเลสาบใต้พิภพ สัตว์อสูรที่หลับใหลอยู่ตื่นขึ้นทันที

 

เย่ฟานและไท่รั่วหนานยังอยู่ในการต่อสู้ตัดสินขณะที่พื้นดินเกิดการสั่นสะเทือน

 

“ครืน ครืน…”

 

น้ำพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินและเริ่มทำลายค่ายกลวิญญาณของตระกูลเฉิง

 

เสาน้ำขนาดใหญ่หลายสิบต้นสูงหลายสิบเมตรปรากฎขึ้นในทุ่งหยกร้อนโดยไม่มีผู้ใดคาดคิดมาก่อน