ตอนที่ 350 แสดงฝีมือครั้งเดียวก็ดังเลย (2)
พอเธอพูดจบ หงเหมาก็ถูกอีลั่วเสวี่ยถีบลงไปนอนกับพื้น ลุกขึ้นไม่ไหว
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่” บรรดาสมุนไม่กล้าผลีผลามบุกเข้ามา แต่รีบพยุงหงเหมาลุกขึ้น มองดูอีลั่วเสวี่ยด้วยแววตาขยาด
เดิมคิดว่าเป็นเด็กสาวน่ารัก คิดไม่ถึงว่าจะร้ายกาจอย่างนี้
หงเหมาเอามือกุมท้อง ใบหน้าขาวซีด เหงื่อผุดเต็มหน้าผาก “มัวยืนเซ่อทำไม จัดการผู้หญิงคนนี้ซะ นังนี่ รนหาที่ตายชัดๆ!” ถูกถีบคราวนี้เจ็บปวดจริงๆ เวรเอ๊ย!
บรรดาสมุนได้ยินก็พากันพับแขนเสื้อขึ้นแล้วบุกใส่อีลั่วเสวี่ย บังอาจทำร้ายพี่ใหญ่พวกเขา ก็เท่ากับทำร้ายพวกเขา
ทั้งเถ้าแก่คาราโอเกะร้านนี้เป็นผู้หญิง แบบนี้จัดการง่าย ไม่เล่นงานเจ้าแล้วจะเล่นงานใครล่ะ
อีลั่วเสวี่ยยิ้มหยัน หลุบตาลง ไม่เห็นพวกที่บุกใส่อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
“บุก นังบ้า ไม่ลองชิมฝีมือพวกพี่คงคิดว่าโลกนี้มีแต่ความรัก” สมุนคนหนึ่งพูดพล่าม คนกลุ่มนี้เข้าล้อมอีลั่วเสวี่ยและคนที่อยู่ข้างหลังเธอรวมทั้งหูปิงด้วย
“ฟังนะ ฉันคนเดียวก็จัดการพวกนี้ได้ พวกนายไม่ต้องยุ่ง”
ลูกน้องคนหนึ่งของหงเหมายิ้มหยัน ก็คือคนที่แทงเสี่ยวเฟิง แล้วบุกเข้าใส่อีลั่วเสวี่ยทันที
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคนพวกนี้ได้ยินที่อีลั่วเสวี่ยพูดหรือไม่ ต่างไม่ลงมือใส่หูปิงกับพวก แล้วมีสองสามคนบุกเข้าใส่ เตรียมร่วมมือกับรองหัวหน้าเข้ามาจับเธอ
คนที่เหลือล้อมอยู่รอบๆ คงกลัวว่าเธอจะหนี
“พี่ปิง เราไม่ต้องช่วยจริงหรือ หัวหน้าคนเดียวจะไหวหรือ?” พวกเขามองอีลั่วเสวี่ยด้วยความห่วงใย แม้ว่าสองสามคนก่อนหน้านี้จะถูกเธอเล่นงานก็จริง แต่ตอนนี้คนพวกนี้เป็นอันธพาลตัวจริง เป็นลูกมือของสถานที่ประมูลใต้ดิน
หูปิงยกมุมปากขึ้น “วางใจเถอะ ด้วยฝีมือของหัวหน้า ต่อให้มามากกว่านี้สิบเท่า เธอคนเดียวก็จัดการได้” พวกกระจอกงอกง่อยแค่นี้ ไม่พอให้เธอเล่นหรอก
และแล้วเพียงไม่กี่ท่า สามคนนั้นก็ถูกเตะปลิวออกไป ใช่แล้ว ถูกเตะปลิวออกไปนอนแผ่อยู่นาน แบบที่ไม่อาจต่อสู้แล้ว
แต่คนที่เป็นรองหัวหน้าไม่โชคดีอย่างนั้น เขาต่อสู้อยู่กับอีลั่วเสวี่ย ตามตัวเต็มไปด้วยบาดแผลที่มองไม่เห็น ใบหน้าบวมเป่ง แต่เธอไม่คิดจะปล่อยคนผู้นี้ ไม่ยอมให้หนีออกจาสนามรบ
“มัวดูอะไรอีก ลุยเลย!” เด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่แล้วจะเป็นยังไง วันนี้ถ้าพวกเขาแพ้ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ถึงกับแพ้ต่อเด็กสาวที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
อีลั่วเสวี่ยหรี่ตาลง เชิดมุมปากขึ้น ยิ้มอย่างอำมหิต “มาได้เวลาพอดี!”
เธอพูดพลางชกใส่หน้าอกรองหัวหน้าอย่างแรง มีเสียงดังเพี๊ยะ กระดูกซี่โครงหัก ร่างเขาปลิวออกไป กระแทกลงบนพื้น กระอักเลือดออกมา แล้วหมดสติไป
ไม่อาจใช้มีดแทงเพื่อแก้แค้น แต่เธอสามารถแทงจากข้างใน ขณะนี้กระดูกซี่โครงที่หักของเขาทิ่มใส่ตับ มีอันตรายถึงชีวิต ไม่ต่างกับสภาพของเสี่ยวเฟิงตอนนั้น
แล้วเห็นเพียงอีลั่วเสวี่ยโลดแล่นอยู่ตรงกลางของคนกลุ่มนี้ ชกหมัดซ้าย ขาขวาแตะกวาดเป็นวง แล้วกระโจนขึ้นกระแทกศอกใส่แขนคนเหล่านี้
เพียงครู่เดียวลูกน้องของหงเหมาก็ใบหน้าบวมเป่ง นอนโอดครวญอยู่บนพื้น ลุกขึ้นไม่ไหว ผู้คนที่อยู่ใกล้เริ่มเพิ่มขึ้น แต่ไม่กล้าเดินเข้ามาใกล้ ยิ่งไม่กล้ายกมือถือขึ้นถ่ายรูป
คนที่มายังสถานที่นี้รู้ดีว่าที่นี่เป็นสถานที่อะไร ถ้าเกิดไปถ่ายรูปในสิ่งที่ไม่ควรถ่าย สำหรับพวกเขาแล้วเท่ากับหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว ดังนั้นทุกคนจึงได้แต่ดูเท่านั้น
“หงเหมาใช่ไหม เจ๊ขอเตือนที่นี่ มาจากไหนก็จงไสหัวกลับไปที่นั่น มาดื่มเหล้าฉันต้อนรับ ถ้ามาหาเรื่อง จุดจบย่อมน่าอนาถ เข้าใจ?”
ตอนที่ 351 หัวหน้าไม่เหมือนใคร
อีลั่วเสวี่ยพูดจบก็เป่าปากเบาๆ ดูองอาจ ท่าทางใสบริสุทธิ์แต่แฝงไว้ความเป็นนักเลง มีลักษณะของเจ๊ใหญ่อย่างแท้จริง คนที่อยู่ข้างหลังหูปิงมองดูแล้วดวงตาเป็นประกาย รู้สึกนับถืออย่างยิ่ง
หงเหมากัดฟันลุกยืน แต่ไม่กล้าพูดแม้แต่คำเดียว แล้วช่วยพยุงลูกน้อง ร้องหึสองสามคำ จากนั้นก็จากไปอย่างห่อเ**่ยว
ถึงตอนนี้คนที่มุงดูอยู่เห็นว่าไม่มีอะไรน่าดูแล้ว ก็ค่อยๆ ผละไป แต่ทุกคนพากันมองดูอีลั่วเสวี่ยด้วยสายตาประหลาดใจ
คนที่มาเตร่ที่นี่บ่อยๆ มักจะคุ้นหน้าคุ้นตากัน แต่เธอดูแปลกหน้า จึงไม่แปลกที่คนที่นี่จะประหลาดใจ
“หัวหน้า ไม่บาดเจ็บใช่ไหม ให้เราไปส่งหัวหน้าไหมครับ?” อีลั่วเสวี่ยรับปากที่จะให้หุ้นพวกเขา ยังปฏิบัติต่อพวกเขาดีมาก ทุกคนจึงอยากอวดตัวเองบ้าง
อีลั่วเสวี่ยเม้มปาก เลิกคิ้วขึ้นแล้วบอกว่า “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ใข่เถ้าแก่แบบที่ชอบโอ้อวด ต่อไปนี้ขอให้พูดน้อยหน่อย ทำงานมากหน่อย”
“ฉันไปแล้ว ที่เหลือให้นายจัดการ ถ้ามีคนมาหาเรื่อง อย่าใจร้อนลงมือ โทรหาฉัน ฉันจะมาจัดการเอง” ตอนนี้อาศัยแค่พวกเขาไม่กี่คน คงสู้ไม่ไหว อย่าให้เกิดเรื่องอย่างเสี่ยวเฟิงคราวก่อนอีก
หูปิงผงกหัว “หัวหน้า ผมทราบแล้ว ระหว่างทางหัวหน้าก็ระวังตัวด้วย”
ระยะนี้ได้สัมพันธ์กับอีลั่วเสวี่ย เธอเป็นคนที่ชอบไปไหนมาไหนตามลำพัง ถ้าไม่ได้เอ่ยปากบอกให้คุณไปด้วย งั้นคุณก็อย่าบากหน้าขอตามไป จะทำให้เธอไม่พอใจ
รอจนอีลั่วเสวี่ยไปแล้ว บรรดาน้องๆ จึงเข้ามาใกล้หูปิง “พี่ปิง เมื่อกี้หัวหน้าโมโหหรือ ที่เธอพุดหมายความว่าอย่างไร เราไม่ได้ทำอะไรผิดใช่ไหม?”
ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้ทำอะไรผิด ก็แค่พูดว่าจะไปส่งหัวหน้า เรื่องนี้ธรรมดามากไม่ใช่หรือ ลูกน้องไม่ทำเรื่องนี้แล้วจะให้ใครทำ
หูปิงสั่นหัวอย่างจนใจ “หัวหน้าเราไม่เหมือนใคร เธอไม่ชอบเปิดเผยเรื่องส่วนตัว เข้าใจไหม วันหน้าทุกคนอย่าเอ่ยถึงเรื่องของเธอ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ หัวหน้าย่อมทำดีต่อทุกคนหรอก”
“อ้อ ที่แท้อย่างนี้เอง ลูกน้องค่อยคลายความกังวล เขายังคิดว่าพูดอะไรผิดไป ไม่งั้นเธอจะมีภาพประทับว่าพวกเขาเซ่อซ่า ย่อมไม่เป็นผลดี
“จริงสิ หัวหน้าไม่ชอบให้ใครประจบประแจง พูดชมคำสองคำก็พอ พูดมากไปเธอไม่ชอบ”
ทุกคนรีบพยักหน้า “เข้าใจแล้ว หัวหน้าคนอื่นชอบอะไร หัวหน้าเราไม่ชอบอย่างนั้น” คนอื่นชอบโอ้อวด ชอบทำอะไรโง่ๆ คอยให้ลูกน้องยกยอ แต่หัวหน้าของพวกเขาไม่ชอบ เข้าใจแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ เรื่องที่อีลั่วเสวี่ยคนเดียวต่อสู้กับหงเหมากับพวก ทั้งยังเล่นงานคนพวกนี้จนสะบักสะบอมก็แพร่ออกไป พวกเขารู้แล้วว่าอีลั่วเสวี่ยเป็นคนที่ไม่อาจยั่วโมโหได้ แผนเดิมที่วางไว้ ตอนนี้ต้องเปลี่ยนแผนแล้ว
เมื่อไม่สามารถสืบประวัติของเธอให้ชัดได้ รวมทั้งน่าจะคนหนุนหลังอยู่ หงเหมากับพวกจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม เรื่องที่หูปิงกังวลจึงผ่อนคลายลงชั่วคราว
งานตกแต่งร้านคาราโอเกะและบาร์ดำเนินต่อไป อีลั่วเสวี่ยจึงรวมสองที่ทำการตกแต่งด้วยกัน ทุกสัปดาห์จะเจียดเวลาวันสองวันมาตรวจ ดูความคืบหน้าของการตกแต่งและเสนอความเห็น
เวลาผ่านไปครึ่งเดือนอย่างรวดเร็ว งานตกแต่งเสร็จตามเวลา หลังจากให้คนทำความสะอาดและจัดร้านเรียบร้อยแล้ว สภาพของร้านก็เหมือนใหม่ ทั้งสะดวกสบายแบบสมัยใหม่ ยังแฝงด้วยกลิ่นไอแบบโบราณ
“ดูแล้ว ทำออกมาดีมากเลย” อีลั่วเสวี่ยมองดูรอบๆ ด้วยความพอใจ แบบนี้ตรงตามที่เธอต้องการ เยี่ยมมาก
เมื่อเทียบกับร้านคาราโอเกะทั่วไปที่เปิดไฟหลากสีสว่างเจิดจ้า ความรู้สึกเงียบสงบแบบนี้ดูเหมือนจะทำให้ใจคนสงบลง