ตอนที่ 744 เสี่ยวไปสร้างปัญหา

แพทย์เทวะ หัตถ์ปีศาจ

ตอนที่ 744 เสี่ยวไปสร้างปัญหา

 

ในขณะที่ชวนเทียนฉีกล่าวเขามองไปที่เฟิงหยูเฮงด้วยท่าทางที่มีปัญหา แต่ท่าทางเช่นนี้ก็ทําให้หัวใจของ เฟิงหยูเฮงหล่นวูบ ทันทีที่นางได้ยินชวนเทียนฉีกล่าวว่า “สัตว์ที่กัดเขาเป็นเสื้อขาวตัวน้อยของน้องสะใภ้เก้า”

 

เฟิงหยูเฮงขมวดคิ้วอย่างแน่นหนา แม้แต่วังซวนและหวงซวนที่ยืนอยู่ข้างหลังนางก็ตกใจมาก หวงซวนรีบกล่าวว่า “เป็นไปได้อย่างไร ?”

 

เฟิงหยูเฮงหยุดนางและกล่าวอย่างรวดเร็ว “แล้วเฟยหยูล่ะ? อาการบาดเจ็บของเขาเป็นอย่างไรบ้างเพคะ ? เขาอยู่ที่ไหน? พาข้าไปที่นั่นเร็วเพคะ”

 

ชวนเทียนฉีกล่าวว่า “เขาถูกกัดที่แขน ตอนนี้ถูกส่งไปยังกระโจมแพทย์แล้ว”

 

ซวนเฟยหยูเป็นหลานคนแรกของตระกูลซวน เขาเป็นคนที่ฮ่องเต่โปรดปรานมากที่สุด เมื่อได้ยินว่าเขาถูกกัด ฮ่องเต้ยืนขึ้นทันที เขาลากจางหยวนไปข้างนอก ในขณะที่เดิน เขากล่าวว่า “ไปที่กระโจมแพทย์ !” ในขณะที่เขากล่าว เขาส่งสายตาสงสัยไปหาเฟิงหยูเฮงโดยพูดด้วยน้ําเสียงงงงวยว่า “เจ้าเลี้ยงเสือได้อย่างไร ?”

 

เฟิงหยูเฮงสามารถบอกได้ว่าคําถามนี้เต็มไปด้วยน้ําเสียงคร่ําครวญ และนางรู้ว่ามันคงดีถ้าไม่มีอะไรเกิดถ้าชวนเฟยหยูบาดเจ็บเล็กน้อย แต่เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น ฮ่องเต้ชราก็อาจโกรธนาง ท้ายที่สุดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็เป็นถึงพระนัดดาและเขาก็เป็นคนที่ฮ่องเต่รักมากที่สุด นอกจากนี้ซวนเฟยหยูเป็นเด็กน่ารักและเป็นที่ชื่นชอบ มาก ไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต่รู้สึกกังวล แม้แต่เฟิงหยูเฮงเองก็กังวลเช่นกัน แต่ในขณะเดียวกันนางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกงุนงง เสื้อขาวตัวน้อยกัดเขาได้อย่างไร ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าเสื้อขาวตัวน้อยอยู่ในกระโจมพร้อมกับคนเฝ้าเพื่อป้องกันไม่ให้มันออกมา แต่แม้ว่ามันจะหลุดออกมา มันมีความสามารถนั้นได้อย่างไร? มันเป็นเสื้อในนาม แต่ไม่กี่เดือนมานี้เจ้าตัวเล็กก็ไม่ได้เดิบโตขึ้น มันยังเล็กอยู่ มันเหมือนแมวตัวใหญ่ และมันยังคงดื่มนม มันจะกัดใครได้อย่างไร

 

กลุ่มมุ่งหน้าไปยังกระโจมแพทย์ด้วยความสงสัยมากมาย ก่อนที่พวกเขาจะได้ใกล้ชิด วังชวนชี้ไปที่ทางเข้า กระโจมและกระซิบบอกเฟิงหยูเฮงเบา ๆ ว่า “คุณหนู ดูนั่นเจ้าค่ะ ที่ทหารองครักษ์เฝ้าอยู่นั้นใช่เสียวไปหรือไม่เจ้าคะ ?”

 

เมื่อนางกล่าวเช่นนี้ เฟิงหยูเฮงและหวงซวนก็มองไป ทันทีที่มองเห็น หวงซวนก็ตะโกนทันที “เสี่ยวไปบาดเจ็บได้อย่างไร ? ทําไมมีเลือดไหลออกมามากมาย ?”

 

เฟิงหยูเฮงหยกนางด้วยความโกรธและพูดออกมาอย่างรวดเร็ว “ถ้ามันทําร้ายพระนัดดาของฮ่องเต้ แม้แต่การทุบตีมันจนถึงความตายก็จะไม่มากเกินไป หยุดพ่นเรื่องไร้สาระ ไปดูอาการบาดเจ็บของเฟยหยูก่อน เรื่องนั้นสําคัญอย่างยิ่ง”

 

ข้างหน้าฮ่องเต้ไม่ได้มีปฏิกิริยามากนัก เขาไม่ได้หยุด แต่องค์ชายซวนเทียนฉิมองกลับไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาดูเหมือนจะต้องการพูดอะไรบางอย่างกับเฟิงหยูเฮง แม้กระนั้นเนื่องจากเขาอยู่ข้างฮ่องเต้ มันไม่สะดวกที่จะพูด สําหรับเฟิงหยูเฮงนางกําลังมุ่งความสนใจไปที่เสือขาวตัวน้อย

 

เสือขาวตัวน้อยได้รับบาดเจ็บแน่นอนและร่างกายของมันเต็มไปด้วยเลือด และมองไม่เห็นได้ว่ามันบาดเจ็บตรงไหน พื้นที่ล่าสัตว์มีไม่มากนัก แต่มีกรงสําหรับสัตว์ดังนั้นมันจึงถูกขังไว้ในกรงก่อน จากนั้นจึงนําไปที่ทางเข้าของกระโจม ดูเหมือนว่าพวกเขากําลังรอให้นางดูแลมันต่อไป ผู้คนวางกรงเหล็กไว้บนพื้น และพื้นมีหิมะปกคลุม ใครจะรู้ว่าเสื้อขาวตัวน้อยนั้นหนาวหรือเจ็บ เพราะมันสั่นตลอด เมื่อเห็นเฟิงหยูเฮงมา มันก็ลุกขึ้นและ พยายามพุ่งเข้าหานาง แต่มันอยู่กรงแล้วกระเด้งกลับไป มันมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก

 

เฟิงหยุเฮงเลี้ยงเสี่ยวไปมาเป็นนานและนางรู้สึกเป็นทุกข์อย่างยิ่ง แต่นางเชื่อมั่นว่าองค์ชายใหญ่จะไม่โกหก ถ้ําเขาบอกว่าเสี่ยวไปกัดซวนเฟยหยูก็คงเป็นความจริงแน่นอน ก่อนที่จะเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างกระจ่าง นางไม่สามารถแสดงความสงสารเสี่ยวไปต่อหน้าฮ่องเต่ได้มาก เพื่อหลีกเลี่ยงความโกรธฮ่องเต้ จุดจบของเสียวไปจะยิ่งแย่มากขึ้น

 

นางมองไปที่กรงอย่างไร้ประโยชน์และหยุดชั่วครู่หนึ่ง ในท้ายที่สุดนางยังคงติดตามฮ่องเต้เข้าไปในกระโจม โดยวังซวนและหวงซวนเดูเสี่ยวไป สิ่งนี้จะทําให้มั่นใจได้ว่าไม่มีใครมีความตั้งใจที่ไม่ดีและทําร้ายมัน

 

เมื่อพวกเขาเข้ามา นอกจากหมอแล้วมีองค์ชายรอง ซวนเทียนหลิง, และองค์ชายห้า ซวนเทียนหยาน, นอกจากพวกเขาแล้วอย่างน่าประหลาดใจมาก เฟิงเฟินไดยืนอยู่ข้างองค์ชายองค์ที่ห้า เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้มาถึง พวก เขาไม่คิดที่จะคารวะ พวกเขาพยักหน้า ขณะที่เพิ่งเฟืนไดเริ่มตั้งค่าถามกับเฟิงหยูเฮง “องค์หญิงจีอัน เจ้ากล้าหาญจริง ๆ เจ้ากล้าที่จะใช้สัตว์ร้ายทําร้ายพระนัดดาของฮ่องเต้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นความผิดร้ายแรงขนาดไหน”

 

องค์ชายห้าดึงนางกลับมา แต่เขาก็ยังคงสายเกินไป เพิ่งเฟื้นได้กล่าวไปแล้ว นอกจากนี้ฮ่องเต้ยังกังวลกับซวนเฟยหยุเพียงอย่างเดียว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พูดเรื่องของเฟิงหยูเฮง เพิ่งเป็นไดรู้สึกว่าเฟิงหยูเฮงทําให้ฮ่องเต้โกรธเคืองเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงกล่าวเสียงดังมากขึ้น “เจ้าเป็นองค์หญิงและมีฐานะที่สูงส่ง ไม่ว่าเจ้าจะสูงส่งเพียง ใดก็ตาม นั่นคือพระนัดดาของฮ่องเต้ ? ราชวงศ์ต้าชุนไม่ได้มีพระนัดดามาก เฟยหยูเป็นคนที่ฮ่องเต่รักมากที่สุด ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ใครจะรู้ว่าแผลมีพิษหรือไม่ หากมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะอธิบาย เรื่องนี้กับฮ่องเต้อย่างไร ! คําอธิบายแบบไหนที่เจ้าจะอธิบาย !”

 

“หุบปาก ! “องค์ชายห้าทนฟังไม่ไหวและตะโกนด่าเป็นอย่างดุเดือดโดยกล่าวว่า “เรื่องร้ายอะไร ? * ชีวิตของเฟยหยูนั้นมีค่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา !”

 

เฟิงเฟินไดก็รู้ว่านางเลือกคําที่ผิดและสาปแช่งพระนัดดาของฮ่องเต้ นางรู้ด้วยว่านางไม่สามารถต่อต้าน ความตั้งใจของชวนเทียนหยานได้ ดังนั้นนางจึงปิดปากและจ้องมองเฟิงหยูเฮงด้วยความโกรธ สายตาของนางก็มีความสุขเช่นกัน ดูเหมือนว่าเฟิงหยูเฮงจะไม่สามารถหลบหนีได้ และนางจะต้องรอให้ศีรษะของนางหลุดออกไป

 

ในเวลานี้พวกเขาได้ยินฮ่องเต้กล่าว เขาถามหมอว่า “รักษาอาการบาดเจ็บแล้วหรือยัง ? อาการบาดเจ็บนั้นร้ายแรงหรือไม่ ? มีพิษที่แผลหรือไม่ ?” มันชัดเจนมากว่าเขาได้ยินคําพูดของเฟิงเฟินได

 

หมอหลวงส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องกังวลพะยะค่ะ ไม่มีพิษในแผล บาดแผลนั้นลึกมาก เมื่อสัตว์ร้ายกัด พระองค์ดิ้นอย่างแรงเพื่อให้หลุด ดังนั้น… เนื้อชิ้นหนึ่งก็ถูกฉีกออก มันเป็นอาการบาดเจ็บภายนอก แต่กระหม่อมรักษาแบบนี้ มันก็น่าจะเป็นแผลเป็นหลังจากที่แผลหายแล้วพะยะค่ะ”

 

องค์ชายรองได้ยินเช่นนี้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วก็กล่าวว่า “ไม่เป็นไรถ้ามีแผลเป็น เขาเป็นเด็กผู้ชาย ดังนั้นแผลเป็นบนร่างของเขาไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่แผลไม่มีพิษ ขอบคุณฟ้าดิน” แต่เมื่อได้ยินว่ามีเนื้ออันฉีกขาด องค์ชายรองก็ยังเป็นทุกข์มาก หลังจากทั้งหมดนี้คือบุตรชายของเขา เมื่อเห็นว่าเฟยหยิ่งหมดสติ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและกล่าวว่า “โชคดีที่มารดาของเขาไม่ได้มาด้วย มิฉะนั้นนางก็คงจะร้องไห้จนหมดสติ

 

อย่างไรก็ตามฮ่องเต้ได้ยินบางสิ่งที่สําคัญและถามหมอหลวงว่า “เจ้าเพิ่งพูดว่าถ้าเป็นเจ้าที่รักษา มันก็น่าจะเป็นแผลเป็น เจ้าหมายถึงว่าถ้าเป็นคนอื่นจะไม่มีแผลเป็นหรือ ?” คําพูดเหล่านี้ปลุกทุกคนในกระโจม ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มรวมตัวกันรอบ ๆ หมอหลวงและเริ่มถาม

 

เฟิงหยูเฮงถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็กล่าวว่า “หม่อมฉันจะรักษาเองเพคะ”

 

ทุกคนหันกลับมาอย่างสงสัย และฮ่องเต้ถามว่า “เจ้ามียาที่จะกําจัดแผลเป็นหรือ ?”

เฟิงหยูเฮงส่ายหน้าของนาง และหมอหลวงกล่าวว่า “ไม่จําเป็นต้องมียารักษาแผลเป็น ด้วยความสามารถทางการแพทย์ขององค์หญิงจีอันในการเย็บแผล ตราบใดที่องค์หญิงเป็นคนรักษา อาการบาดเจ็บของพระองค์จะทุเลาอย่างรวดเร็วและหวังว่าไม่มีแผลเป็นพะยะค่ะ”

 

เฟิงหยูเฮงก้าวไปข้างหน้า และกล่าวว่า “อะไรคือหวังว่า พระนัดดาสนิทกับหม่อมฉันเสมอ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับพระองค์ หม่อมฉันจะรักษาด้วยตัวเองเพคะ” จากนั้นนางก็โค้งคํานับต่อฮ่องเต้และกล่าวว่า “เสด็จพ่อเรื่อง ในวันนี้เกิดจากเสื้อขาวตัวน้อยที่อาเฮงเลี้ยง อาเฮงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการวิจารณ์ในเรื่องนี้ได้ เมื่ออาเฮงเสร็จ สิ้นการรักษาอาการบาดเจ็บของพระองค์ ท่านพ่อฮ่องเต้สามารถลงโทษตามเห็นสมควรเจ้าค่ะ”

 

ฮ่องเต่โบกมือของเขา “ดูอาการบาดเจ็บของเฟยหยก่อน สําหรับคนอื่น ๆ…เราจะพูดถึงเรื่องนี้ในภายหลัง”

 

เฟิงหยูเฮงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วกล่าวเสียงดังว่า “วังซวนเข้ามาข้างใน” วังซวนเข้าไป เฟิงหยูเฮงสั่งนาง “รีบกลับไปที่กระโจมเพื่อหยิบกล่องยาของข้าแล้วนํากลับมาที่นี่” เพราะนี่คือการล่าสัตว์ มันค่อนข้างเป็นไปได้ว่าอาจมีอุบัติเหตุบางอย่างเกิดขึ้น เฟิงหยูเฮงคุ้นเคยกับการพกกล่องยาของนางออกจากมิติของนางเมื่อเดินทางไปยังสถานที่ห่างไกล การทําเช่นนี้จะทําให้นางสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ในเวลาเช่นนี้เมื่อมันไม่สะดวกที่จะดึงมันออกมาจากมิติของนาง

 

วังซวนวิ่งไปเอามาอย่างรวดเร็ว เมื่อนางมอบมันให้กับเฟิงหยูเฮง นางก็สับสน และกล่าวว่า “แปลก ไม่มีทหารองครักษ์ยืนอยู่หน้ากระโจม” แต่นางไม่ได้คิดเพียงกล่าวว่า “บางที่พวกเขาอาจอยู่ในช่วงเปลี่ยนกะ” จากนั้นนางก็ถอยออกจากกระโจม

 

ในเวลานี้เฟิงหยูเฮงไม่คิดอะไรอีกเลย เปิดชุดยานางเริ่มรักษาแผลของเฟยหยู

 

จากการเช็ดเลือดเพื่อทําความสะอาดแผล จากนั้นจึงเพิ่มยาชานางไปทีละขั้นตอนจนกระทั่งแผลถูกเย็บปิด การเคลื่อนไหวของนางเป็นมืออาชีพ รวดเร็วและแม่นยํา ความไม่พอใจส่วนใหญ่ที่ฮ่องเต้รู้สึกต่อเฟิงหยูเฮง หลังจากที่ซวนเฟยหยูถูกกัดโดยเสือขาวตัวน้อยลดลงมากกว่าครึ่ง รวมถึงผู้คนที่อยู่โดยเฉพาะหมอหลวง พวกเขาได้เห็นวิธีการพิเศษของเฟิงหยูเฮงในการรักษาบาดแผล พวกเขาจ้องมองอย่างว่างเปล่า ในตอนท้ายเขาก็ทนไม่ไหวและถามว่า “ไหมนี้จะตัดออกทีหลังหรือไม่ขอรับ ?”

 

เฟิงเฟิงหยูเฮงส่ายหน้าของนางแล้วตอบว่า “ไม่ต้อง สิ่งนี้เรียกว่าไหมละลาย และร่างกายจะถูกดูดซึมตามธรรมชาติ แม้ว่ามันจะทิ้งร่องรอยไว้บ้าง แต่มันก็ดีกว่าแผลเป็นที่เจ้าพูดถึง” การเย็บแผลในยุคปัจจุบันเป็นสิ่งที่ทําในอดีต เฟิงหยุเฮงใช้ไหมละลายเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บาดเจ็บต้องเจ็บปวดเมื่อต้องตัดไหม แม้ว่าไหมประเภทนี้จะแพงกว่า แต่นางเป็นแพทย์ทหาร ทหารจะมีความสุขกับเงินเพียงเล็กน้อยนั้นได้อย่างไร

 

ด้วยการบาดเจ็บที่ได้รับการรักษา ซวนเฟยหยูก็ตื่นขึ้นมา เด็กน้อยขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด แต่หลังจากผ่านไประยะหนึ่งเขารู้สึกว่าแขนของเขาชา ความเจ็บปวดจากก่อนหน้านี้ไม่มีอีกต่อไป เขางงงวยและอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ข้าฝันไปใช่หรือไม่ ? และในความฝันนี้ข้าถูกแมวกัด” เสื้อตัวนั้นตัวเล็กมากจริง ๆ ทําให้ชวนเฟยหยูรู้สึกว่าเป็นแมว

 

เฟิงหยูเฮงบอกเขาว่า “มันไม่ใช่ความฝันและนั่นไม่ใช่แมว มันเป็นเสื้อขาวตัวน้อยที่ข้าเลี้ยงอยู่ ข้าขอโทษที่ทําร้ายเจ้า ข้าดูแลรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้า ตอนกลางคืนเจ้าอาจจะปวดอีกครั้ง ไม่ต้องกังวล ข้าจะอยู่กับเจ้า และจะไม่ปล่อยเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า”

 

เฟยหยูจึงฟื้นความรู้สึกของเขา และกล่าวว่า “ข้าถูกกัดจริง ๆ !” หลังจากมองไปรอบ ๆ เขาพบว่ามีคนจํานวนมากอยู่รอบตัวเขา รวมถึงฮ่องเต้และบิดาของเขา เด็กชายตัวน้อยรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ข้าที่ถูกกัดที่แขนไม่ใช่ที่ใบหน้า เสด็จปู่ไม่ต้องกังวล เฟยหยูไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากพะยะค่ะ”

 

ฮ่องเต้เห็นว่าเขาสบายดี ในที่สุดก็รู้สึกสบายใจ จากนั้นเขาก็กล่าวปลอบโยน ก่อนที่จะกล่าวกับจางหยวน “ให้บ่าวรับใช้พาเฟยหยไปที่กระโจมของฮ่องเต้ คืนนี้เราจะดูแลเขาด้วยตัวเอง”

 

ผู้คนที่ได้ยินสิ่งนี้รู้สึกว่ามันอุกอาจและพยายามที่จะให้คําแนะนําอย่างรวดเร็ว แต่ฮ่องเต้ก็เป็นคนดื้อรั้น เขาจะฟังคําแนะนําได้อย่างไร ไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทําได้ เมื่อพวกเขามองจางหยวนจัดการพาซวนเฟยหยูกลับไปที่กระโจมของฮ่องเต้

 

หลังจากเด็กถูกพาตัวไป เฟิงหยูเฮงก็ลุกขึ้น และคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้ทันที “อาเฮงมีความผิด เสด็จพ่อได้โปรดลงโทษหม่อมฉันด้วยเพคะ !”