ตอนที่ 533 โดนหลอก

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 533

โดนหลอก

“ท่าทางจะไม่ค่อยราบรื่นสินะขอรับ”เสียงของไป๋หลินเฟยดังขึ้นที่ด้านหลังของหลานฮวาที่นั่งฝึกฝนวิชาอยู่ภายในถ้ำแห่งหนึ่งใกล้ๆกับเขตอสูรผาไร้ก้น

“เจ้า….หายไปไหนมาตั้งหลายวัน”หลานฮวาถามพลางลืมตาขึ้นมาช้าๆ น่าประหลาดไป๋หลินเฟยผู้นี้ทราบได้อย่างไรว่านางอยู่ที่นี่

“แฮะๆ ข้าไปเที่ยวกับพวกน้าๆมานิดหน่อยขอรับ”หลินเฟยตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

“เจ้าสัญญากับข้าว่าจะนำกระบี่มาให้ตั้งแต่เมื่อ 4 วันก่อนไม่ใช่หรือไง ข้านึกว่าเจ้าจะเอาผลึกฟ้าเหมันต์ไปเลยเสียอีก”หลานฮวาว่าพลางจ้องไป๋หลินเฟยด้วยท่าทีไม่พอใจ นางรออยู่ที่ไป๋หลินเฟยนัดเอาไว้ตั้ง 2 วัน แต่มันก็ไม่กลับมาเลยทำเอานางคิดฟุ้งซ่านไปหมด

“ข้ามาแล้วนี่ไงขอรับ แล้วก็วิชาที่ข้าให้ท่านไปมีค่ากว่าผลึกฟ้าเหมันต์ตั้งมาก”ไป๋หลินเฟยตอบพลางชี้ไปที่ตำราที่อยู่บนตักของหลานฮวา

“ก็….จริงของเจ้า”หลานฮวาตอบพลางถอนหายใจออกมา หากไม่ใช่เพราะวิชาที่ไป๋หลินเฟยมอบให้เป็นยอดวิชาที่แม้แต่วิชาของสำนักร้อยบุปผายังทาบไม่ติดเพียงเศษเสี้ยวละก็ นางคงกังวลเรื่องผลึกฟ้าเหมันต์มากกว่านี้ไปแล้ว

“ส่วนเรื่องกระบี่ไม่ต้องห่วงขอรับ ข้าขอให้คนรู้จักทำเอาไว้ให้แล้ว”หลินเฟยว่าพลางนำกระบี่สีขาวที่มีคมสะท้อนแสงสีฟ้าออกมาให้หลานฮวาได้เชยชม

“……..”แม้จะทราบว่าอีกฝ่ายเป็นหลานชายของตระกูลไป๋ที่สมควรจะมีคนรู้จักมากมาย แต่หลานฮวาก็ไม่คิดว่าจะได้อาวุธชั้นดีเช่นนี้มาจริงๆ เวลา 4 วันที่นางบ่นมันไปเมื่อครู่คุ้มค่าเกินไปเสียด้วยซ้ำเมื่อต้องเสียไปเพื่อแลกกับกระบี่ระดับนี้

“ไม่ถูกใจหรือขอรับ ข้าอุตส่าห์ขอร้องท่านตาให้ทำกระบี่เล่มนี้ให้แท้ๆ”หลินเฟยเห็นหลานฮวานิ่งไปก็ถามออกมาพร้อมทำหน้าเศร้าทันที แน่นอนมันรู้อยู่แล้วว่ากระบี่ที่มันนำมานั้นเป็นกระบี่ชั้นเลิศที่แข็งแกร่งแทบไม่ต่างจากทวนสีขาวของท่านน้าจูล่งเลย เพราะมันสร้างจากวิธีการเดียวกันกับทวนของน้าจูล่งแทบทุกประการ เพียงแต่เสริมผลึกฟ้าเหมันต์เข้าไปเพื่อให้มันใช้ได้กับพลังธาตุน้ำแข็งเท่านั้นเอง ไม่มีทางที่นางจะไม่พอใจหรอก

“มะ ไม่หรอก ข้าประหลาดใจต่างหาก”หลานฮวารีบเข้ามาปลอบใจไป๋หลินเฟยทันที กระบี่เช่นนี้นางจะกล้าไม่พอใจได้อย่างไร

“งั้นหรือขอรับ”หลินเฟยยิ้มออกมาด้วยท่าทีโล่งใจ แต่สิ่งหนึ่งที่มันไม่ได้บอกหลานฮวานั่นคือ กระบี่เล่มนี้ทำอะไรท่านน้าจูล่งไม่ได้หรอกนะ ไม่สิ ไม่ใช่แค่กระบี่เล่มนี้หรอก ต่อให้เป็นอาวุธอะไรในโลกก็คงสร้างบาดแผลให้ท่านน้าจูล่งไม่ได้หากไม่ได้ใช้ด้วยคนระดับเดียวกับท่านน้าจูล่งเองละก็

“ขอบใจเจ้ามาก ไม่คิดเลยว่าจะได้กระบี่ดีๆแบบนี้มา ที่เหลือก็แค่ฝึกวิชาพวกนี้ให้สำเร็จ”หลานฮวาว่าพลางนำตำราของน้าจิ้งจอกออกมาดูอีกรอบ โชคร้ายที่หลานฮวาไม่ได้เป็นผู้ใช้พลังธาตุน้ำแข็งที่เก่งกาจอะไรนัก แถมวิชาใหม่ของท่านน้าจิ้งจอกก็ยากกว่าชุดฝ่ามือก่อนหน้านี้อีกต่างหาก เรียกได้ว่าสร้างขึ้นมาเพื่อหลานชายคนแรกของตระกูลไป๋เลยก็ว่าได้

“แต่…ท่านก็ยังฝึกไม่สำเร็จไม่ใช่หรือขอรับ”หลินเฟยถามพลางมองไปที่ตำราในมือของหลานฮวา นางยังเปิดอ่านไปได้ไม่ถึงครึ่งเล่มเสียด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับความเร็วในการเรียนรู้ของคนตระกูลไป๋แล้ว 4 วันมันสมควรจะอ่านวิชาทั้งชุดของท่านน้าทั้ง 5 จนหมดแล้วสิ

“ระ เรื่องนั้น….”หลานฮวาเบือนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยท่าทีอายๆ ถึงนางจะเป็นคนมีพรสวรรค์ที่สามารถก้าวขึ้นมาอยู่ระดับเจ้าสวรรค์ได้ แต่ก็คงเรียนวิชาพวกนี้ใน 4 วันไม่ได้หรอก

“ไม่แปลกหรอกขอรับ วิชาพวกนี้ต้องใช้ความเข้าใจมากทีเดียว แต่ข้ามีหนทางช่วยเหลือท่านนะขอรับ”หลินเฟยว่าพลางยิ้มออกมาด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์

“ช่วยข้า….เรื่องฝึกวิชานี่นะหรือ”หลานฮวาถามพลางเลิกคิ้วด้วยท่าทีสนใจ

“ขอรับ ท่านแค่ตามข้ามาก็พอ”หลินเฟยว่าพลางลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกจากถ้ำไปช้าๆพลางหันมามองเหมือนจะบอกให้หลานฮวาตามตนเองมาเสียที

.

.

“เจ้าแน่ใจนะ”หลานฮวาถามพลางหันไปมองไป๋หลินเฟยที่ยืนอยู่ข้างหลัง อยู่ๆมันก็พานางมาในส่วนของเทือกเขาเหมันต์อันเป็นเขตของท่านน้าจิ้งจอกที่ยามนี้มีทั้งท่านน้าจิ้งจอกทั้งมังกรอัสนีทองคำอาศัยอยู่

“แน่นอนขอรับ หากท่านอยากจะฝึกวิชาธาตุน้ำแข็งก็ต้องเคยชินกับความเย็นสิขอรับ”หลินเฟยตอบพลางยิ้มออกมา รอบๆตัวทั้งสองยามนี้เต็มไปด้วยหิมะ อากาศเย็นเฉียบจนรอบๆแทบมีแต่ไอเย็นจนมองไม่เห็นอะไรเลย

“เรื่องนั้นข้าก็พอได้ยินมาบ้าง แต่….”หลานฮวาพูดด้วยท่าทีลังเลพลางมองสระน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งจนหมดตรงหน้า

“ข้าต้องลงไปในนั้นจริงๆงั้นหรือ”หลานฮวาถามย้ำอีกครั้ง ที่นี่ไม่ใช่สระน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งธรรมดานะแต่เป็นสระน้ำที่อยู่ไม่ห่างจากที่อยู่ของท่านน้าจิ้งจอก หรือก็คือมันเป็นสระน้ำที่ได้รับพลังอสูรของน้าจิ้งจอกมาเป็นพันๆปี ความเย็นเฉียบของน้ำภายในสระนั้นแม้แต่ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับเจ้าสวรรค์ก็อาจต้านเอาไว้ได้หมด

“ขอรับ ข้าขอยืมที่ตรงนี้มาจากท่านยายแล้ว”หลินเฟยตอบพร้อมพยักหน้าช้าๆราวกับเป็นเรื่องปกติที่จะลงไปในบ่อน้ำแข็งเช่นนี้

“………”หลานฮวามองลงไปที่บ่อน้ำแข็งด้วยท่าทีลังเลเช่นเดิม แต่เมื่อนึกถึงใบหน้าของอาจารย์และเหล่าศิษย์พี่ศิษย์น้องของตนที่ตายไปแล้ว หลานฮวาก็พลันเอากระบี่ออกมาถือไว้ในมือก่อนจะฟันลงไปที่พื้นน้ำแข็งเพื่อเปิดช่องว่างทันที

“มันจะเย็นแค่ตอนแรกเท่านั้นล่ะขอรับ”หลินเฟยว่าพลางผลักร่างของหลานฮวาลงไปในบ่อทันที แม้กำลังของหลินเฟยจะน้อยกว่าแถมร่างกายยังเป็นเด็ก แต่เพราะหลานฮวาเองก็เตรียมจะกระโดดลงไปอยู่แล้วทำให้แรงผลักของหลินเฟยทำเอาร่างของหลานฮวาร่วงตุ๋มลงไปในรอยตัดของพื้นน้ำแข็งทันที

“กรีดดด”หลานฮวาที่เตรียมใจยังไม่ทันเสร็จก็พลันรู้สึกเย็นวาบไปทั้งร่างกาย แถมพอตกลงมาในสระก็พบว่ามันลึกกว่าที่คิดมากทำเอานางแทบจะตะเกียกตะกายขึ้นมาแทบไม่ทัน

“นี่เจ้า….จงใจสินะ”หลานฮวาเกาะขอบน้ำแข็งเอาไว้พลางมองไป๋หลินเฟยที่กำลังยิ้มร่าอยู่ด้านบน

“ข้าแค่จะช่วยท่านเท่านั้นเอง”หลินเฟยยิ้มรับราวกับไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลย แม้ในใจจะแอบสะใจนิดหน่อยที่ผลักผู้คิดร้ายกับท่านน้าตกบ่อน้ำเย็นได้ก็ตาม

“เจ้านี่แสบกว่าที่เห็นภายนอกเยอะเลยนะ”หลานฮวาว่าพลางมองไปทางหลินเฟย มันเป็นเด็กหญิง?หน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตาที่ไม่ว่าใครเดินผ่านก็ต้องหันมามอง แม้แต่หลานฮวาเองยังอิจฉาหน่อยๆเสียด้วยซ้ำ แต่มันกลับผลักคนตกบ่อน้ำเย็นได้หน้าตาเฉย ช่างเลือดเย็นจริงๆ

“แล้วท่านจะแปลกใจ”หลินเฟยอมยิ้มไม่คิดว่าอีกฝ่ายกำลังเหน็บแนมตนเองแต่อย่างไรเพราะตอนนี้มันกำลังสนุกที่ได้เห็นหลานฮวาสั่นเป็นลูกนกอยู่ยังไงล่ะ

“ไหนเจ้าบอกว่าจะรู้สึกเย็นแค่ช่วงแรกไง”หลานฮวาถามหลังจากเริ่มรู้สึกว่าน้ำยิ่งเย็นขึ้นกว่าเดิมอีก นี่มันเย็นราวกับจะแทรกลงไปในกระดูกเลยนะ

“ยังไม่หายอีกหรือขอรับ ตอนพี่ผิงกั่วลงไปยังไม่เห็นบอกว่าเย็นเลย”หลินเฟยเลิกคิ้วด้วยท่าทีประหลาดใจ แน่นอนว่าผิงกั่วพอได้มารู้จักคนในเขตอสูรผาไร้ก้นแล้วย่อมถูกใจเทือกเขาเหมันต์ที่สุด เพราะนางโตมากับเขตอสูรที่เต็มไปด้วยหิมะแบบนี้ นางจึงมาเที่ยวที่นี่เป็นที่แรก เอาจริงๆหลินเฟยยังตกใจอยู่เลยที่ผิงกั่วทนไอเย็นได้มากขนาดนั้น

“เจ้าอย่าเอาข้าไปเทียบกับคนที่มีพลังธาตุน้ำแข็งแบบนั้นสิ”หลานฮวาว่าพลางเดินพลังของตนให้ความเย็นลดลง แต่น่าเสียดายแม้จะเดินพลังแล้วก็ยังรู้สึกเหมือนกำลังเอาน้ำแข็งมาถูตามตัวอยู่เลย

“ก็เพราะท่านต้องควบคุมธาตุน้ำแข็งให้ได้ไงขอรับ ท่านถึงต้องทนให้ได้แบบพี่ผิงกั่ว”หลินเฟยตอบพลางกอดอกแน่นด้วยท่าทีจริงจัง

“งั้นเจ้าลงมากับข้าด้วยดีหรือไม่”หลานฮวาตอบด้วยปากที่เริ่มสั่นน้อยๆ

“ข้าไม่ได้จะฝึกวิชาธาตุน้ำแข็งเสียหน่อย ข้าไม่ลงไปหรอก”หลินเฟยยิ้มกว้างพลางหัวเราะออกมาน้อยๆ ทำเอาหลานฮวาเริ่มรู้สึกว่าตนเองถูกหลอกให้ลงมาแช่น้ำเย็นหรือไม่

ซ่า…..หลานฮวาเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของหลินเฟยก็พลันนึกหมั่นไส้ขึ้นมา นางเลยวักน้ำเย็นเฉียบในบ่อสาดใส่หลินเฟยทันที แต่พริบตาที่น้ำเย็นกำลังจะโดนตัวหลินเฟย มันก็เอี้ยวตัวหลบอย่างง่ายดาย

“ข้ายังไม่อยากเล่นน้ำหรอกนะ เชิญพี่สาวเล่นให้สนุกเถอะ”หลินเฟยตอบพลางหัวเราะออกมาด้วยท่าทีร่าเริง ตรงกันข้ามหลานฮวาที่แช่น้ำจนตัวเย็นเฉียบแล้วกลับยิ้มไม่ออกเลย

“เหมือนโดนเจ้าหลอกไม่มีผิดเลย”หลานฮวาว่าพลางขึ้นมาจากสระน้ำด้วยท่าทีหนาวสั่น นางนำเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนออกมาจากมิติของตนเอง ก่อนจะเริ่มถอดเสื้อผ้าที่ทั้งเปียกทั้งเย็นออกช้าๆ

“………”แม้หลานฮวาจะเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าไปแล้วโดยไม่คิดอะไร เพราะรอบๆนี้มีแค่นางกับหลินเฟยเท่านั้น แต่หลินเฟยที่ไม่ทราบว่านางจะทำเช่นนั้นกลับชะงักไปทันที

“ข้าไม่ได้หลอกท่านเสียหน่อย”หลินเฟยว่าพลางเบือนหน้าหนีไปทางอื่น นางช่างใจกล้าจริงๆที่มาเปลี่ยนเสื้อผ้ากลางแจ้งเช่นนี้

“ถ้าท่านสามารถคุ้นชินกับไอเย็นและทำความเข้าใจไอเย็นพวกนั้นได้ ท่านจะฝึกวิชาพวกนั้นได้แน่ๆ…”หลินเฟยพูดพลางเหลือบมองหลานฮวานิดหน่อย ก่อนจะกระแอมกระไอเล็กน้อยแล้วหันหลังไป เห็นมันอายเช่นนี้หลานฮวาก็ส่ายหน้าช้าๆ ตอนนางอยู่สำนักร้อยบุปผาศิษย์ทุกคนแทบจะอาบน้ำด้วยกันเสียด้วยซ้ำ แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นนี้พวกนางไม่อายหรอกเพราะถึงอย่างไรก็เป็นหญิงเหมือนกัน

“แล้วเรื่องที่ข้าไม่ใช่ผู้หญิงท่านก็น่าจะเข้าใจผิดไปเองคนเดียวด้วย ข้าไม่ได้หลอกท่านเลยนะ”หลินเฟยพูดจบก็เดินห่างออกไปจากหลานฮวาที่กำลังสวมเสื้อผ้าชุดใหม่ด้วยท่าทีรีบร้อนกว่าปกตินิดหน่อย

“เจ้า….ว่าอะไรนะ”หลานฮวาเบิกตากว้างด้วยท่าทีตกใจ เมื่อครู่หลินเฟยบอกว่ามันเป็นผู้ชายอย่างนั้นหรือ…..