เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 767
ไม้จันทน์ม้วนลอยขึ้นสูง ผลไม้วางอยู่บนโต๊ะ พรมหนังสัตว์อสูรที่อยู่ใต้เท้า ทุกสิ่งทุกอย่างสบายมาก

เฟิ่งไฉ่ชี้กระจกจำภาพ “ลูกค้าทั้งสามท่าน ถ้าต้องการอะไร เรียกฉันผ่านกระจกจำภาพได้เลย”

พูดจบ เฟิ่งไฉ่ปิดประตูแล้วออกไป ในห้องขนาดใหญ่เหลือแค่พวกลู่ฝานสามคน

หลิงเหยาพุ่งมาข้างหน้า เอาผลไม้ขึ้นมากัด

กินไปคำเล็กๆ สีหน้าหลิงเหยาเคลิบเคลิ้ม “อร่อยมาก ลู่ฝานนายชิมสิ”

ลู่ฝานหยิบขึ้นมาชิม รสชาติเป็นเอกลักษณ์ รสชาติที่บอกไม่ถูกวนเวียนอยู่ในปาก เหมือนมีฤทธิ์ยาเข้าไปในตัวด้วย

“ของดี!”

ลู่ฝานเอ่ยชม ฤทธิ์ยาของผลไม้ผลนี้ เทียบได้กับยาเม็ดทั่วไปแล้ว

หมายความว่า ถ้าลู่ฝานได้กินผลไม้แบบนี้ ตอนอยู่เมืองเจียงหลิน เขาคงโดดเด่นไปนานแล้ว

เขาหัวเราะเบาๆ เมื่อมาถึงดินแดนที่แตกต่าง บรรยากาศที่มองเห็นก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

คนตั้งเท่าไรพยายามอย่างลำบาก เพื่อใช้ฤทธิ์ยาเพียงเล็กน้อย มายกระดับวิทยายุทธ เปลี่ยนแปลงโชคชะตา

แต่ตอนนี้ของสิ่งนี้ เป็นเพียงผลไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะของพวกเขาเท่านั้น

ทั้งสามคนนั่งลงบนเก้าอี้ มองผ่านกระจกบานใหญ่ออกไปข้างนอก

หน้าต่างบานนี้เหมือนกำแพงข้างหนึ่ง เมื่อกวาดตามอง สามารถเห็นทั่วหอแดนสวรรค์

“เฮ้อ ศิษย์น้องลู่ฝาน นายดูสิ นั่นใช่พลเอกเฟิงใช่ไหม”

ศิษย์พี่หานเฟิงเห็นคนคุ้นเคย เขายิ้มแล้วเอ่ยขึ้น

ลู่ฝานมองแวบหนึ่ง เป็นพลเอกเฟิงจริงๆ แต่เหมือนข้างเขายังมีคนอีกสามคน ล้วนสวมชุดเกราะ ดูดุดันแข็งแกร่ง

“นั่นคงเป็นสี่พลเอกที่เฝ้าเขาอวี่ฮั่ว”

หานเฟิงพูดว่า “ใช่แน่นอน งานใหญ่แบบนี้ พวกเขาไม่มาสิถึงจะแปลก”

เมื่อกวาดตามองต่อ หานเฟิงตะโกนขึ้นมาอีก “ให้ตายเถอะ ทำไมคนของเมืองหลวงมาด้วยล่ะ”

ลู่ฝานยื่นมือไปรับผลไม้ที่หลิงเหยาใช้มีดเล็กๆ หั่น กินพลางถามว่า “ใคร พี่รู้จักเหรอ”

หานเฟิงพูดด้วยสีหน้าประหลาด “รู้จักอยู่แล้ว คนของตระกูลสุ่ยที่โหดเหี้ยม ซวยแล้วๆ ฉันไปนั่งหลังดีกว่า อย่าให้คนนั้นเห็นฉัน”

ลู่ฝานมองไปทางที่หานเฟิงมอง เห็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง นั่งอยู่ในห้องชั้นหก

ผมยาวสีฟ้ายาวถึงเอว อยู่ห่างขนาดนี้ ลู่ฝานสัมผัสถึงออร่าหนาวเย็นจากตัวผู้หญิงคนนั้น

“เป็นผู้หญิงหน้าตาไม่เลว ศิษย์พี่หานเฟิง ไม่ใช่คนรักเก่าของพี่ใช่ไหม”

ลู่ฝานพูดแซว

หานเฟิงจิปากใส่ลู่ฝาน “ไร้สาระ นายนั่นแหละเป็นคนรักเก่าของเธอ ใครหาเรื่องเธอคนนั้นซวย ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงบ้า เธอมาที่นี่ทำไม”

หานเฟิงมีสีหน้าไม่เข้าใจ

ขณะนั้น แท่นที่ลอยอยู่กลางอากาศสว่างขึ้นมา

แสงแต่ละแสง ลอยเหมือนเซียนทั้งเก้า มีเงาระยิบระยับ จากนั้นมีเสียงเครื่องดนตรีอันไพเราะดังขึ้น

ตามมาด้วยเสียงหนึ่ง

“ยินดีต้อนรับสู่งานแดนสวรรค์!”

ลู่ฝานได้ยินเสียงนี้ จิตใจวูบไหว ทำไมเสียงนี้ฟังดูคุ้นหูจัง

เขารีบมองไปที่เวที ชายหนุ่มรูปร่างผอม ยืนท่ามกลางม่านแสง ปรากฏอยู่ในสายตา

คนนี้คือชายหนุ่มคนที่ให้ยันต์หยกกับเขาไม่ใช่เหรอ ลู่ฝานคิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นคนประกาศเปิดงานแดนสวรรค์ในวันนี้

สายตาทุกคนมองไปยังชายหนุ่ม คนที่อยู่ในงานล้วนเป็นคนมีชื่อเสียง ถ้าไม่มีความสามารถ ไม่มีทางเข้ามาในหอแดนสวรรค์ได้