EG บทที่ 717 จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์?

 

“ผู้จัดการเฝิง สัญญาทั้งหมดถูกเซ็นแล้ว ไม่มีพลาดพนักงานสักคนครับ”

 

หลี่หมิงเต๋อโทรหาเฝิงหยู่เพื่อรายงานความคืบหน้า นี่เป็นเพราะตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีนี้ มีการบังคับใช้กฎหมายแรงงานของจีน บริษัททั้งหมดจะต้องลงนามในสัญญากับพนักงานของพวกเขาและจะต้องมีจ่ายเงินสมทบให้ระบบประกันสังคมด้วย

 

เมื่อมีการประกาศกฎหมายนี้ เฝิงหยู่บอกให้หลี่หมิงเต๋อเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับพนักงานทุกคนอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาคิดมาก

 

อย่างไรก็ตาม หลี่หมิงเต๋อบอกว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น ทุกคนในบริษัทไว้วางใจเฝิงหยู่

 

เฝิงหยู่รู้ว่าหลี่หมิงเต๋อพูดจาประจบเขา และพนักงานทุกคนไว้วางใจหลี่หมิงเต๋อมากกว่า แต่เฝิงหยู่ยังคงยืนยันให้หลี่หมิงเต๋อเซ็นสัญญาให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เขาต้องอธิบายเงื่อนไขทั้งหมดในสัญญาและต้องไม่มีอะไรปิดบังพนักงาน

 

นอกจากนี้ บริษัทเครื่องจักรยังต้องจ่ายเงินประกันสังคมให้กับพนักงานทุกคน รวมถึงพนักงานที่โรงงานสาขาอย่างตรงเวลาด้วย

 

หลี่หมิงเต๋อยังไม่รู้เรื่องประโยชน์ของการจ่ายเงินประกันสังคม รัฐบาลจะดูแลพนักงานที่เกษียณอายุทั้งหมดแทนบริษัท สิ่งนี้จะช่วยให้บริษัทประหยัดเงินได้มาก

 

เนื่องจากนี่เป็นปีแรกที่กฎหมายเริ่มบังคับใช้ คนงานที่ใกล้จะเกษียณจึงมีทางเลือกในการจ่ายเงินก้อนและยังได้เงินทุนจากการเกษียณอายุด้วย แน่นอนว่าบริษัทต้องเป็นผู้รับภาระในการจ่ายเงินก้อนนี้ให้กับสำนักงานประกันสังคม ไม่ใช่พนักงาน

 

เมื่อหลี่หมิงเต๋อประกาศข่าวนี้ พนักงานทุกคนต่างก็ดีใจ แม้ว่าพวกเขาจะคอยพูดว่าพวกเขาไว้วางใจบริษัท และหลี่หมิงเต๋อ แต่พวกเขาทุกคนก็ยังกังวลว่าบริษัทจะไม่ดูแลพวกเขาหลังจากเกษียณอายุ

 

ตอนนี้ประเทศสัญญาว่าจะดูแลพวกเขาและพวกเขาก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป

 

บริษัทเครื่องจักรเมืองปิงเป็นหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินการเรื่องเซ็นสัญญาเสร็จสิ้นเร็วที่สุดในบรรดาองค์กรขนาดใหญ่ ผู้นำของบริษัทบางคนพยายามดึงเวลา พวกเขาต้องการรอจนถึงสิ้นปี แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าการจ่ายเงินที่ล่าช้าจะทำให้เกิดดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยเท่ากับธนาคาร เจ้าของธุรกิจรู้สึกว่าพวกเขาน่าจะใช้ประโยชน์จากเงินจำนวนนี้ได้ดีกว่าและผลตอบแทนจะสูงกว่าดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

แต่บริษัทของเฝิงหยู่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น บริษัททั้งหมดของเขามีเงินทุนเพียงพอ หากบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงต้องการกู้เงินธนาคาร ผู้จัดการธนาคารในจังหวัดหลงเจียงทุกคนจะรีบมาต่อคิวที่สำนักงานของหลี่หมิงเต๋อ และจะพยายามเสนอข้อเสนอที่ดีที่สุดให้

 

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ผู้นำระดับสูงเพิ่มเป้าหมายสูงให้กับธนาคารในการปล่อยสินเชื่อ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ธนาคารได้ปรับกระบวนการกู้ยืมเงินให้ง่ายขึ้น

 

ตอนนี้ธนาคารได้ทำภารกิจที่ผู้นำระดับสูงมอบหมายให้พวกเขาเสร็จสิ้นแล้ว และบางธนาคารก็ปล่อยเงินกู้ได้จำนวนมากกว่าที่เป้าหมายกำหนดไว้ แต่ตอนนี้ธนาคารประสบปัญหามากมาย บริษัทหลายแห่งและผู้คนต่างๆ ไม่สามารถชำระคืนเงินกู้ได้!

 

ธนาคารมีหนี้เสียจำนวนมากและทำให้ธนาคารต้องประสบกับการขาดทุนครั้งใหญ่

 

แต่ถ้าธนาคารปล่อยเงินกู้ให้แก่บริษัทเครื่องจักรเมืองปิง พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ พวกเขาทุกคนรู้ว่าบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงทำกำไรได้มากขนาดไหน และสินค้าของพวกเขาก็วางขายทั่วประเทศจีนและถึงขนาดส่งออกไปยังรัสเซีย

 

แม้ว่าบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงจะไม่สามารถชำระคืนเงินกู้ได้ แต่ธนาคารก็สามารถกู้คืนหนี้ได้จากการประมูลทรัพย์สินของพวกเขา แต่หลี่หมิงเต๋อปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมดจากธนาคารเนื่องจากบริษัทไม่ได้ต้องการกู้ยืมเงินใดๆ

 

หากบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงขาดเงินทุน เฝิงหยู่ก็สามารถอัดฉีดเงินเข้าบริษัทได้ แน่นอนว่าเมืองจะไม่เห็นด้วยเพราะจะทำให้หุ้นของพวกเขาลดลง นี่เป็นบริษัทที่ดีและเมืองไม่ต้องการให้หุ้นของพวกเขาถูกลดจำนวนลง อีกวิธีหนึ่งก็คือการจดทะเบียนบริษัทในตลาดหลักทรัพย์

 

เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์จัดตั้งขึ้นในประเทศจีนเมื่อสองปีก่อน จึงมีจำนวนบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเยอะมาก บริษัทพวกนี้ต้องการระดมทุนเพื่อการพัฒนาของตนเอง หนึ่งในบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากกว่าบริษัทอื่นคือบริษัทฉางหง

 

บริษัทฉางหงจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว และเฝิงหยู่รู้ว่าราคาหุ้นจะพุ่งสูงขึ้นหลังจากที่พวกเขาจดทะเบียน พวกเขารวบรวมเงินทุนจำนวนมากจากตลาดและขยายทั้งโรงงาน ศูนย์วิจัยและพัฒนา และการทำตลาด

 

ปัจจุบัน ฉางหงกลายเป็นผู้นำแบรนด์ทีวีในประเทศจีน ไม่มีบริษัทไหนที่สามารถเอาชนะพวกเขาจากการครองสถานะนี้ในประเทศจีนได้

 

ผู้นำระดับจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของบริษัทฉางหงก็เริ่มสนับสนุนฉางหง นี่ถือเป็นความสำเร็จของจังหวัดด้วย มีบริษัทอย่างฉางหงเกิดขึ้นในจังหวัดของพวกเขา และพวกเขาจะยอมไม่ใช้ประโยชน์จากบริษัทนี้ได้อย่างไรกัน?

 

แต่เฝิงหยู่จำได้ว่าฉางหงประสบความสำเร็จเพียงแค่ 2 ถึง 3 ปีเท่านั้น การบริหารจัดการของบริษัทฉางหงจะเกิดข้อผิดพลาดร้ายแรงในอีกไม่ช้าและส่งผลให้บริษัทตกต่ำลง

 

ฉางหงมั่นใจในทีวีสีขนาด 21 นิ้วมากเกินไป และรู้สึกว่าสินค้านี้จะเป็นโทรทัศน์กระแสหลักในตลาด ตอนนี้ทีวีสีขนาด 21 นิ้วอาจดูเหมือนว่าเป็นโทรทัศน์กระแสหลักและบริษั ฉางหงก็มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของจีนในด้านนี้ ต้นทุนการผลิตของพวกเขายังต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทข้ามชาติอื่นๆ

 

แต่ในอีก 2 ปี ขนาดของโทรทัศน์จะยิ่งใหญ่ขึ้น โทรทัศน์ขนาด 25 นิ้ว, 29 นิ้ว, 32 นิ้ว, 34 นิ้วและแม้แต่ขนาด 42 นิ้วจะเริ่มปรากฏขึ้นในตลาด ผู้ผลิตโทรทัศน์ทุกรายเริ่มผลิตโทรทัศน์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด

 

อย่างไรก็ตาม ฉางหงยังคงยืนยันในการผลิตโทรทัศน์ขนาด 21 นิ้วและไม่ลดจำนวนการผลิตลง ส่งผลให้โทรทัศน์ของพวกเขาขายไม่ออกและมีสินค้าค้างอยู่ในคลังสินค้าของพวกเขา

 

นี่คือจุดเปลี่ยนของบริษัท และฉางหงร่วงหล่นจากการเป็นผู้นำตลาดในประเทศมาอยู่ที่อันดับ 2 อันดับของพวกเขายังคงลดลงเรื่อยๆ จนถึงอันดับ 4

 

แต่ตอนนี้เรื่องพวกนี้ยังไม่เกิดขึ้น ฉางหงยังสามารถทำกำไรได้มากมายในอีก 3 ปีข้างหน้า

 

รัฐบาลท้องถิ่นอิจฉากับความสำเร็จของบริษัทหลายแห่ง พวกเขารู้ว่าบริษัทไม่จำเป็นต้องขอเงินกู้ก็ยังสามารถระดมทุนและพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว

 

นอกจากนี้ หลังจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว มูลค่าของบริษัทจะเพิ่มขึ้นตามราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น แบบนี้บริษัทที่ประสบความสำเร็จจะเกิดขึ้นในจังหวัดหรือเมืองที่ปกครองโดยหน่วยงานท้องถิ่น บริษัทที่มีมูลค่า 100 ล้านอาจกลายเป็น 300 ล้านหยวนได้หลังจากที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หน่วยงานท้องถิ่นสามารถคุยโม้ต่อผู้นำระดับสูงของพวกเขาและพยายามที่จะเอาความดีความชอบได้

 

ดูอย่างบริษัท XXX ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อตอนที่ผมดูแลเมืองอยู่ บริษัทนี้มีมูลค่าเพียงแค่ 100 ล้านหยวนและตอนนี้มูลค่าเพิ่มขึ้นหลายเท่า ผู้นำระดับสูงจะคิดว่าบุคคลนี้เก่งด้านธุรกิจ นี่คือช่วงเวลาที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจ ผู้นำระดับสูงก็จะดูแลคนๆ นี้อย่างแน่นอน

 

ดังนั้นจึงมีบริษัทจำนวนมากที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทพวกนี้หลายแห่งยังไม่ถึงข้อกำหนดขั้นต่ำในการเข้าจดทะเบียน แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญเนื่องจากรัฐบาลท้องถิ่นจะช่วยเหลือพวกเขาเอง นอกจากนี้ กฎหมายยังมีช่องโหว่มากมาย จำนวนบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

 

บริษัทที่จดทะเบียนพวกนี้บางส่วนเติบโตขึ้นหลังจากที่จดทะเบียน และนักลงทุนทุกคนก็ทำเงินได้ แต่มีหลายบริษัทที่หุ้นไม่มีการเคลื่อนไหวเลยหลังจากที่จดทะเบียน บางบริษัทระดมทุนได้เป็นจำนวนมากจากตลาดหุ้น แต่เงินทุนทั้งหมดของพวกเขากลับหายไป รัฐบาลท้องถิ่นได้นำเงินไปหรือไม่ก็ผู้นำของบริษัทชิ่งหนีไปพร้อมกับเงิน

 

แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น รัฐบาลท้องถิ่นทั้งหมดรู้สึกว่าการให้บริษัทภายใต้เขตอำนาจของตนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้นเป็นวิธีหนึ่งที่จะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาประสบความสำเร็จมากขนาดไหน รัฐบาลท้องถิ่นทุกแห่งต้องการให้มีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มมากขึ้น

 

หัวหน้าเรียกตัวหลี่หมิงเต๋อเข้าพบเพื่อพูดคุย เขาต้องการให้บริษัทเครื่องจักรเมืองปิงจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์!

 

นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่หลี่หมิงเต๋อโทรหาเฝิงหยู่ เขาต้องการความช่วยเหลือจากเฝิงหยู่