กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1054

“ขอบคุณพี่หญิงมากที่ยอมเชื่อใจข้า ท่านวางใจได้ ข้าจะดูแลเขาเป็นอย่างดี”

“ยาเหล่านี้เจ้าเก็บเอาไว้ให้เจ้าและปู่ของเจ้าใช้ และเอาให้เซี่ยวอวี่เซวียนใช้นะ”

“นี่……พระเจ้า นี่มันยาอายุวัฒนะระดับหกเชียวนะ แม้แต่ดินแดนวิญญาณเยือกแข็งเองก็มีเพียงไม่กี่เม็ดเท่านั้น พี่หญิง สิ่งนี้มีค่ามากเกินไป ข้า…..ข้าไม่กล้ารับไว้หรอก”

“บอกให้เจ้ารับไว้ก็รับไว้เถอะ แล้วก็ป้ายคำสั่งนี้เจ้าก็เก็บเอาไว้ด้วยเช่นกัน หากมีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็นำป้ายคำสั่งนี้ไปหาข้าได้ที่ว่าทุกที่ในรัฐปิง”

“ตกลง”

เฉินหลิงรับมาด้วยความระมัดระวัง

นางไม่กล้าถามสถานะตัวตนของกู้ชูหน่วน

แต่นางรู้ดีว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าจะต้องไม่ธรรมดาแน่ และป้ายคำสั่งนี้จะต้องเป็นของราชวงศ์จักรพรรดิแน่นอน

“เจ้าชื่อเฉินหลิง?”

“ใช่ ข้าชื่อเฉินหลิง”

“เช่นนั้นเจ้าเคยเห็นผู้ชายผมขาวที่มีดวงตาหลากสีบ้างไหม?”

“เขาคนนั้นมากับพวกท่านใช่ไหม ข้าเคยเห็นเขาที่โรงน้ำชา”

“ใช่”

“ข้าไม่เคยเห็นเขา ทว่าเมื่อสักครู่ผู้หญิงชั่วคนนั้นกล่าวว่ามีคนจับเขาไว้ที่หุบเขาเฟิงโถวซานและคิดอยากจะควักลูกตาของเขาออกมา”

“หุบเขาเฟิงโถวซาน?”

“ใช่ เป็นโจรสลัดกลุ่มหนึ่ง หัวหน้าของพวกเขาเชี่ยวชาญด้านการต่อสู้อย่างมาก ที่ว่าการรัฐใกล้ๆ ต่างไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ พี่หญิง จากนี่เดินตรงไปก็จะถึงเชิงเขาเฟิงโถวซาน”

กู้ชูหน่วนและเยี่ยจิ่งหานจ้องตากัน

ที่แท้ก็ไปจากที่นี่ ถึงว่าทำไมพวกเขาหาซือม่อเฟยไม่เจอ

“เจี้ยงเสวี่ย รู้ไหมว่าต้องทำยังไง?”

“ข้าน้อยรู้ขอรับ ข้าน้อยจะสั่งให้คนมุ่งหน้าไปที่หุบเขาเฟิงโถวซานเดี๋ยวนี้และพาคุณชายม่อกลับมาให้ได้อย่างปลอดภัย จากนั้นก็จะจัดการกำจัดโจรสลัดที่หุบเขาเฟิงโถวซานให้สิ้นซากขอรับ”

กู้ชูหน่วนไม่อยากแยกจากเซี่ยวอวี่เซวียนเลย และอดใจไม่ได้ที่จะจากไป

นางเฝ้าคิดกังวลถึงเบาะแสของเซี่ยวอวี่เซวียนอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้รู้แล้วว่าเขาปลอดภัยดี ทำให้นางรู้สึกโล่งใจอย่างมาก

เยี่ยจิ่งหานเล่นกับขลุ่ยในมืออย่างคนเบื่อหน่าย จากนั้นก็เอ่ยปากถามด้วยความโมโหที่เกิดขึ้นในใจ

“อารมณ์ดีเช่นนี้? เซี่ยวอวี่เซวียนสำคัญต่อเจ้ามากเช่นนี้เลยหรือ”

“ก็คงใช่”

“หัวใจของคนเราต้องใหญ่มากแค่ไหนกัน ถึงได้ใส่คนไปได้เยอะเช่นนั้น”

กู้ชูหน่วนหยุดชะงัก

“เยี่ยจิ่งหาน เราพูดกับเรื่องงานอย่างเดียวดีกว่า”

“…….”

“ไม่ว่าพวกเขาจะสำคัญต่อเจ้ามากเพียงใด แต่ข้าขอบอกเจ้าไว้ว่าข้าจะต้องเป็นที่หนึ่ง”

กู้ชูหน่วนแบะปาก

เจ้าหมอนี่

มาคิดอิจฉาอะไรอีก

ภายในโรงน้ำชา เยี่ยจิ่งหานนั่งอยู่ด้วยสีหน้าเย็นชา

ทว่ากู้ชูหน่วนกลับนั่งกินดื่มอย่างมีความสุข

อี้หยุนเฟยรู้สึกงุนงงเล็กน้อย “พวกเจ้าสองคนทะเลาะกันหรือ?”

“ใครจะไปว่างทะเลาะกับเขา สมองของเขาก็ไม่ค่อยจะดีมาตลอดอยู่แล้ว อย่าไปสนใจเขาเลย”

“น้องสาว เป็นคนต้องรู้จักมีน้ำใจ อย่างน้อยเยี่ยจิ่งหานก็ช่วยส่งกองกำลังมุ่งหน้าไปที่หุบเขาเฟิงโถวซานเพื่อช่วยอาม่อ”

“นั่นเป็นเพราะเขายอมทำเอง ไม่เชื่อก็ถามเขาดูสิ”

อี้หยุนเฟย “…….”

เหวินเส่าอี๋ดื่มน้ำชาไปอย่างสง่างาม แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็น ทว่าในใจของเขากลับครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา

“นายท่าน ช่วยชีวิตคุณชายม่อได้แล้ว ทว่าเส้นทางหุบเขาเฟิงโถวซานมาที่นี่นั้นต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ข้าน้อยเลยส่งเขาไปที่โรงเตี๊ยมจวี้ฝูในหมู่บ้านเหมียน และหุบเขาเฟิงโถวซานก็ถูกคนของเขากำจัดถอนรากถอนโคนแล้วขอรับ”

กู้ชูหน่วนพูดแทรก “อาม่อได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า”

“ไม่ขอรับ คนของหุบเขาเฟิงโถวซานเห็นว่าคุณชายม่อหล่อเหลา เลยคิด…..บังคับให้เขาเป็นสามีของหมู่บ้าน”

“พูดเหลวไหลอะไร แค่ช่วยคนมาได้มาพอแล้ว ออกเดินทางไปหมู่บ้านเหมียน”

“ขอรับ”

ทุกคนต่างมองไปที่เยี่ยจิ่งหาน

ตลอดระยะทางที่มา คนที่ไม่รีบไม่ร้อนที่สุดคือเขาไม่ใช่หรือ?

ทำไมจู่ๆ ถึงเร่งร้อนที่จะไปหมู่บ้านเหมียน?

อิจฉา?

ไม่ยอมให้กู้ชูหน่วนใกล้ชิดกับพวกเขามากเกินไป?

กลิ่นของความอิจฉามันไม่มากเกินไปหรือ?