บทที่ 1538 เขาวงกตโคลนทราย

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1538 เขาวงกตโคลนทราย

แปลโดย iPAT

 

“ท่านอาจารย์!” เย่ฟานพึมพำและมองลั่วเว่ยหยินด้วยความชื่นชมยินดี

 

หลังจากผ่านไปนาน ในที่สุดเย่ฟานก็ได้พบอาจารย์ของเขาอีกครั้ง

 

“ผู้อมตะระดับแปด?” สองผู้อมตะตระกูลอี้ถูกบังคับให้ปรากฏตัว พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในทะเลสาบก่อนหน้านี้ แต่ทันทีที่เขตแดนอมตะถูกสร้างขึ้น พวกเขาก็ถูกบังคับให้ออกมา

 

“เขาคือผู้ใด? เขาปลดปล่อยกลิ่นอายของคนใต้ แต่เขาไม่ใช่สมาชิกของฝ่ายธรรมะอย่างแน่นอน!” ไท่เมี่ยนเฉินแสดงออกด้วยใบหน้าที่น่ากลัว

 

“โอ้ ชีวิตมันยากลำบาก เช่นนั้นเจ้าต้องการให้ข้าช่วยหยุดมันหรือไม่?” ฟางหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะที่กลุ่มก้อนความคิดจำนวนมากกำลังพุ่งชนกันอยู่ในใจของเขา

 

‘ชายผู้นี้เป็นคนหน้าซื่อใจคด! เขาสร้างท่าไม้ตายเขตแดนอมตะไว้นานแล้ว เขาสามารถช่วยชีวิตผู้อมตะตระกูลเฉิงและตระกูลฮั่ว แต่เขาเลือกที่จะปรากฏตัวหลังจากนั้น เขาบอกว่าชีวิตเป็นเรื่องยากลำบากและบอกให้ข้าหยุด นี่คือความเมตตาจอมปลอม!!’

 

‘อย่างไรก็ตามเขายังเป็นผู้อมตะระดับแปด ท่าไม้ตายอมตะภาพอนาคตสามลมหายใจของข้าทำงานอยู่ตลอดเวลาแต่มันกลับไม่เตือนข้าล่วงหน้า นี่หมายความว่าพลังอำนาจของมันยังด้อยกว่าฝ่ายตรงข้าม’

 

‘ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะของเขายอดเยี่ยมมาก วิธีตรวจสอบของข้าไม่สามารถค้นพบมัน’

 

ฟางหยวนคิดกับตนเอง

 

เขามีวิธีการมากมายที่สามารถปราบปรามผู้อมตะระดับหกและระดับเจ็ด แต่สำหรับผู้อมตะระดับแปด เขายังด้อยกว่า

 

แต่ฟางหยวนไม่กังวล

 

เกราะหวนคืนยังเป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ นอกจากนี้เขายังพัฒนามันในช่วงเวลาที่ผ่านมา แม้วังสวรรค์จะสามารถตอบโต้ แต่มันจะส่งผลกระทบต่อเกราะหวนคืนรุ่นก่อนหน้าเท่านั้น มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อเกราะหวนคืนฉบับปรับปรุงใหม่

 

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร!

 

ฟางหยวนใช้วิธีการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเขาออกมาอีกครั้ง

 

“โฮก…”

 

มังกรดาบบรรพกาลจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในเขตแดนอมตะและพุ่งเข้าโจมตีลั่วเว่ยหยิน

 

ลั่วเว่ยหยินเผยรอยยิ้มบาง เขาไม่มีความกังวลแม้แต่น้อย

 

“สหาย อย่าโกรธมากนัก การเข่นฆ่าไม่สามารถแก้ปัญหาทั้งหมด” หลังกล่าวจบคำ เขาก็กระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ

 

ท่าไม้ตายนี้ทำงานทันที

 

สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมา

 

แต่ฝนชนิดนี้ไม่ได้เกิดจากน้ำแต่เป็นทราย ทรายโปรยปรายลงมาราวกับสายน้ำ

 

สนามรบทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยม่านทราย

 

ท่าไม้ตายอมตะทรายร่วงหล่น!

 

มังกรดาบบรรพกาลที่ถูกปกคลุมด้วยทรายส่งเสียงคำรามที่อ่อนแรงออกมา ร่างกายของพวกมันกลายเป็นอ่อนแอก่อนจะกลายเป็นไส้เดือนสีขาวตัวเล็กๆขนาดเท่าแขนมนุษย์

 

‘ท่าไม้ตายนี้!’ การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนแปลงไป เขาตระหนักถึงบางสิ่ง

 

‘ดูเหมือนเขาจะรู้ตัวตนของข้าแล้ว’ ลั่วเว่ยหยินถอนหายใจ ‘คนผู้นี้เป็นปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์ เขาเป็นต้นกำเนิดของภัยพิบัติ ไม่เพียงเขาจะแข็งแกร่ง แต่เขายังเติบโตขึ้นมากพอแล้วในเวลานี้ สิ่งที่น่ากังวลก็คือความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์ของเขา เขากระทำการอย่างเหี้ยมโหด นี่เป็นโชคร้ายสำหรับผู้คน’

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ลั่วเว่ยหยินก็ตะโกน “สหายผู้อมตะและผู้ใช้วิญญาณ มีคำกล่าวที่ว่าสวรรค์จะช่วยคนที่ช่วยเหลือตัวเอง ตอนนี้ทุกคนตกอยู่ในอันตราย พวกเราต้องร่วมมือกันต่อต้านปีศาจตนนี้ วิธีรอดเพียงหนึ่งเดียวคือท่าไม้ตายเขตแดนนี้ หากพวกเจ้าไม่มีความมุ่งมั่นที่จะต่อต้านปีศาจ ข้าก็ไม่สามารถปกป้องพวกเจ้า”

 

“ท่านอาจารย์ ท่านต้องการให้พวกเราทำสิ่งใด โปรดชี้แนะพวกเราด้วย!” เย่ฟานตะโกนเสียงดัง

 

ลั่วเว่ยหยินยิ้มและพยักหน้าให้เย่ฟาน “ข้าเพียงต้องการให้ทุกคนมีความตั้งใจที่จะต่อสู้กับปีศาจตนนี้”

 

“ข้าเข้าใจแล้ว” เย่ฟานพยักหน้า เขามองไปที่ฟางหยวนด้วยความโกรธพร้อมกับเจตจำนงแห่งการต่อสู้ที่ลุกไหม้ขึ้น

 

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดบินลงมาและมองไปที่ฟางหยวนด้วยความเกลียดชัง

 

“เช่นนั้นเราก็จะร่วมมือด้วย” ไท่เมี่ยนเฉินสงบจิตใจลง แม้ลั่วเว่ยหยินจะดูลึกลับ แต่ในสถานการณ์นี้ฟางหยวนเป็นศัตรู ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร ไท่เมี่ยนเฉินเลือกที่จะตอบรับคำเรียกร้องของลั่วเว่ยหยิน

 

อีกด้านหนึ่งสองผู้อมตะตระกูลอี้ก็ตัดสินใจต่อสู้กับฟางหยวนเช่นกัน

 

สำหรับผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์ การขอให้พวกเขาต่อสู้กับผู้อมตะเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความกล้าหาญเป็นอย่างมาก แต่ภายใต้อิทธิพลของลั่วเว่ยหยิน  พวกเขาจึงสามารถปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ออกมา

 

“ท่านผู้นำ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับความเมตตา ฟางหยวนผู้นั้นเป็นปีสาจที่ชั่วร้าย เขาจะไม่ตอบสนองความใจดีของท่าน” กระทั่งเว่ยตี้ซินที่อยู่ด้านข้างเฉิงซินซื่อก็ถูกกระตุ้น

 

“พอแล้ว ข้าจะไม่เป็นศัตรูกับท่านพี่ไห่ถูแม้เขาจะฆ่าข้าก็ตาม” เฉินซินซื่อส่ายศีรษะด้วยความแน่วแน่

 

คนรอบข้างนางต่างถอนหายใจ

 

ผู้ใช้วิญญาณคนอื่นๆไม่พอใจกับทัศนคติของเฉิงซินซื่อ แต่เนื่องจากสถานะของนางและสถานการณ์ในเวลานี้ พวกเขาจึงไม่กล้ากล่าวสิ่งใดออกมา

 

ลั่วเว่ยหยินเห็นทุกคนเต็มไปด้วยเจตจำนงแห่งการต่อสู้และเผยรอยยิ้มสดใส

 

“ดี” เขากล่าวและหันหน้าไปทางฟางหยวน “ข้าต้องการให้เจ้าประเมินท่าไม้ตายของข้า กำแพงโคลน”

 

ท่าไม้ตายอมตะกำแพงโคลน!

 

เจตจำนงแห่งการต่อสู้ของทุกคนถูกเขตแดนอมตะดูดซับเข้าไป

 

ฟางหยวนตื่นตัวมาก เขาไม่ได้โจมตีและเลือกที่จะเฝ้ามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

 

ในเวลาต่อมากำแพงโคลนก็ปรากฏขึ้นขึ้นรอบตัวเขา

 

ฟางหยวนยิ้มและโจมตีกำแพงเหล่านั้น

 

แต่กำแพงโคลนกลับก่อขึ้นขึ้นอีกครั้งด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ ขณะเดียวกันพลังโจมตีของฟางหยวนที่ได้รับผลกระทบจากท่าไม้ตายอมตะทรายร่วงหล่นและทำให้มันอ่อนกำลังลงอย่างมาก

 

ท่าไม้ตายอมตะเขาวงกตหกทิศทาง!

 

ลั่วเว่ยหยินกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายที่สาม

 

จิตใจของฟางหยวนถูกรบกวน!

 

ในที่สุดลั่วเล่ยหยินก็เผยเขี้ยวเล็บของเขาออกมา

 

ท่าไม้ตายอมตะทรายร่วงหล่น กำแพงโคลน และเขาวงกตหกทิศทางหลอมรวมเป็นหนึ่งและก่อตัวเป็นเขาเขตแดนอมตะเขาวงกตโคลนทรายขนาดใหญ่ปิดล้อมฟางหยวนเอาไว้อย่างสมบูรณ์

 

การผสานท่าไม้ตายอมตะทั้งสามเข้าด้วยกันทำให้มันสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจอันน่าทึ่งออกมา

 

การรับรู้ทิศทางของฟางหยวนลดลง เขาไม่สามารถบอกได้ว่าเขาอยู่ที่ใด

 

เขาพยายามเดินไปตามกำแพงแต่เขากลับลืมเส้นทางที่ผ่านมาอย่างสมบูรณ์

 

เขาพยายามโจมตีกำแพงแต่การโจมตีที่ปะทะกำแพงกลับอ่อนกำลังลงอย่างมาก

 

‘ดูเหมือนข้าจะใช้พละกำลังเพื่อหนีออกจากที่นี่ไม่ได้ ข้าต้องหาจุดอ่อนของเขตแดนนี้และโจมตีมัน!’ ฟางหยวนตระหนักถึงสิ่งนี้

 

เขานั่งลงและเริ่มใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาทุกประเภท