ตอนที่ 656 เธอมองออกทุกอย่าง
“คุณพ่อคะ” เฉินหรูก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ เธอควรทำยังไง
เธอควรปฏิเธอหรือยอมรับ
ไม่ เธอยอมรับไม่ได้ แต่เธอจะทำอะไรได้อีก
เธอไม่มีความกล้าพอที่จะยอมรับ…
เฉินหรูสั่นสะท้านตั้งแต่หัวจรดเท้าแต่ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาจากปากของเธอ ทันใดนั้นถงเยียนก็รีบตรงเข้ามาคว้าแขนของเธอไว้และตะโกน “แม่ ทำไมแม่ถึงลังเลอยู่ได้ล่ะคะ รีบบอกคุณปู่ไปสิว่ามันเป็นของปลอม แม่ไม่ใช่ลูกสาวตระกูลหลิน บอกไปสิ เร็วเข้า!”
“…” ไม่ว่าถงเยียนจะบังคับเธออย่างไร เฉินหรูไม่อาจหาคำได้มาพูดได้ เธอเองก็อยากพูดว่าเธอไม่ใช่ลูกตระกูลหลินแต่เธอมีหลักฐานอะไรล่ะ
จิตใจของถงเยียนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวในขณะที่เธอมองผู้เป็นแม่ทำตัวเช่นนี้ “แม่ แม่เป็นลูกสาวตระกูลหลินจริงๆ แม่ไม่ใช่ลูกสาวของคุณปู่งั้นเหรอ บอกหนูสิว่ามันไม่จริง แม่ ผู้หญิงคนนั้นโกหกใช่ไหม”
“…” กระนั้นเฉินหรูก็ยังคงไม่ตอบ ถงเยียนมองหาความช่วยเหลือไปทั่วห้องจนไปจบที่คู่หมั้นของเธอ
เธอรีบตรงไปอยู่ข้างๆ หลินเซวียนและอ้อนวอน “พี่เซวียน บอกทุกคนสิว่านี่มันไม่ใช่เรื่องจริง! แม่ของฉันจะเป็นคนตระกูลหลินได้ยังไงกัน เราไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องกัน! พี่เซวียน บอกฉันสิว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด มันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด ใช่ไหม”
แต่เธอกลับสิ้นหวังเมื่อคำตอบจากหลินเซวียนมีเพียงสีหน้าที่หม่นหมอง
ถงเยียนละมือจากเขาและเดินเซถอยหลังออกมาสองสามก้าว ร่างกายของเธอสั่นเทิมขณะที่พูดกับตัวเอง “ไม่ นี่ไม่ใช่เรื่องจริง ใครก็ได้บอกฉันที่ว่าทั้งหมดนี่ไม่ใช่เรื่องจริง…”
เธอจะไม่ใช่หลานสาวของตระกูลเฉินได้อย่างไร และที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับหลินเซวียน! ทั้งหมดนี่ต้องเป็นเรื่องไม่จริง!
“ทั้งหมดเป็นความจริง” ในขณะที่ถงเยียนกำลังพยายามหลอกตัวเอง เสียงที่ฟังชัดของซิงเหอดังขึ้น ทำลายฟองสบู่แห่งความปลอดภัยที่ถงเยียนกำลังสร้างเพื่อตัวเองจนแหลกละเอียด “เฉินหรูเป็นคนตระกูลหลิน ตระกูลหลินแข่งขันกับตระกูลเฉินเรื่องอำนาจและอิทธิพลมานานหลายปี ดังนั้นแผนการชั่วช้านี้จึงเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น พวกเขาตั้งใจจะใช้ความสัมพันธ์นี้ในการไต่เต้าไปสู่จุดสูงสุดของประเทศ ท่านประธานาธิบดีกำลังจะทรุดโทรมด้วยความเจ็บป่วยและแผนการของพวกเขากำลังเห็นผลแต่ในนาที่สุดท้าย ฉันกลับปรากฎตัวขึ้นมาทำลายแผนการของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงหลอกใช้ถงเยียนมากำจัดฉัน แต่แผนการของพวกเขาล้มเหลวและย้อนกลับมาทำร้ายตัวพวกเขาเอง เพื่อกอบกู้สถานะของตัวเองอีกครั้ง พวกเขาเลยหลอกใช้เฉินหรูเพื่อแก้ไขความเกลียดชังที่หลายตระกูลมีต่อพวกเขา พวกเขาถึงขนาดอนุญาตให้ถงเยียนและหลินเซวียนหมั้นหมายกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทุกครอบครัวถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกันก็ตามที พวกเขาทำเรื่องทั้งหมดนี้เพีบงเพราะต้องการจะได้เป็นประธานาธิบดี! เพื่อตำแหน่งนี้ พวกเขายอมเสียสละทุกอย่าง ทั้งลูกสาวของตัวเองเมื่อหลายสิบปีก่อน หลินอวิ๋นเมื่อต้นปีนี้ และถงเยียนในตอนนี้ ตราบใดที่มันช่วยให้พวกเขาได้ไปถึงจุดสูงสุด แม้แต่เลือดเนื้อของตัวเองก็ถูกสังเวยและถูกหลอกใช้! ผู้อาวุโสหลิน ฉันพูดถูกหรือผิดคะ”
ดวงตาของผู้อาวุโสหลินหรี่ลงและแววตาของเขาดำมืดราวกับค่ำคืนที่ไร้ดวงดาว เขาจ้องมองซิงเหออย่างมุ่งร้าย หากเป็นไปได้เขาคงคว้าคอของอีกฝ่ายมาเสียเดี๋ยวนั้น!
ทุกคนในตระกูลหลินที่รู้ความจริงต่างจ้องมองซิงเหอในแบบเดียวกันเพราะเธอได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง เธอทำให้ความทุ่มเททั้งหมดตลอดลหลายปีที่ผ่านมาต้องไร้ค่า!
แต่พวกเขาจะไม่ยอมแพ้ทั้งอย่างนั้น ไม่มีทางยอมแพ้โดยไม่สู้
ผู้อาวุโสหลินหัวเราะในลำคออย่างชั่วร้าย “ไหนล่ะหลักฐาน ถ้าไม่มีหลักฐาน ทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่การกล่าวหาเท่านั้น! พวกเราตระกูลหลินจะไม่มีวันยอมยกโทษให้เธอและเธอจะได้เห็นผลลัพธ์ที่กล้ามาล่วงเกินพวกเราแบบนี้!”
“คุณยังต้องการหลักฐานอยู่เหรอ” ซิงเหอคว้าผลตรวจดีเอ็มเอมาจากมือของลู่ฉีและขวางมันใส่อีกฝ่าย “หลักฐานที่ดีที่สุดอยู่นี่ไง!”
ตอนที่ 657 ทำไปโดยเจตนา
ผลตรวจหล่นลงบนพื้นตรงเท้าของเขาและซิงเหอตั้งคำถาม “คุณจะอธิบายความจริงที่เฉินหรูเป็นลูกสาวของคุณยังไง อย่าคิดว่าพวกเราทั้งหมดเป็นคนโง่ที่จะคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญ! เฉินหรูช่วยเหลือพวกคุณอย่างเปิดเผยมาตลอดและตอนนี้ฉันคิดทุกคนที่อยู่ที่นี่เข้าใจได้ว่าเพราะอะไร”
ตระกูลเฉินและตระกูลถงอึ้ง แต่ตอนนี้เมื่อพวกเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ผ่านมาเฉินหรูทำตัวน่าสงสัยอย่างมาก เธอพยายามเป็นอย่างมากที่จะช่วยเหลือตระกูลหลิน ไม่มีเชื่อเชื่อว่าเธอไม่รู้ความจริง ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยผลตรวจดีเอ็มเอนั่น พวกเขายืนยันได้ว่าผู้อาวุโสหลินรู้ความจริงว่าเฉินหรูเป็นลูกสาวในไส้มาโดยตลอด
สามีของเฉินหรูไม่ได้อยู่ที่เมือง A ทำให้เขาไม่ได้อยู่ที่นั่นในวันนั้น ดังนั้นจึงเป็นผู้อาวุโสถงซึ่งเป็นพ่อสามีของเฉินหรูที่เป็นคนเรียกร้อง “ถ้างั้นเธอก็ร่วมมือกับพวกตระกูลหลินในแผนการชั่วร้ายของพวกเขาจริงๆ สินะ”
“ฉันเปล่า…” เฉินหรูปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว แต่เป็นอีกครั้งที่เธอจะมีทางเลือกอื่นใดอีกนอกจากการผลักความผิดทั้งหมดไปให้ตระกูลหลิน
“คุณพ่อต้องเชื่อฉันนะคะ! ฉันไม่เคยมีมีเจตนาที่จะทำงานกับพวกเขา ฉันเองก็เพิ่งรู้ความจริงเมื่อไม่นานมานี้! พวกเขาเป็นคนบังคับให้ฉันร่วมมือกับเขา ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเปิดโปงตัวตนของฉันและทำลายชีวิตฉัน คุณพ่อ ฉันกลัวมากเกินไป ฉันเลยถูกบังคับให้ร่วมมือกับพวกเขา ฉันไม่ได้มีเจตนาไม่ดี พี่คะ ฉันเปล่าจริงๆ …” เฉินหรูรีบอธิบายอย่างร้อนรนในขณะเดียวกันก็ขายความลับของตระกูลหลิน ทำให้ช่วยพิสูจน์คำพูดของซิงเหอว่าเป็นความจริง
เฉินหรูเป็นไพ่ตายของตระกูลหลิน ซึ่งเป็นเหตุผลที่พวกเขาทำการสับเปลี่ยนตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีก่อน!
ผู้อาวุโสเฉินหันไปทางผู้อาวุโสหลินโดยฉับพลันและตะโกนเสียงดังลั่น “หลินเจิ้งหวา ลูกสาวของฉันอยู่ที่ไหน! ตลอดหลายปีที่ผ่านมาแกทำอะไรกับลูกสาวฉัน”
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันทีที่เขาพูดจบประโยคเพราะคำตอบเข้ามาอยู่ในหัวของเขาในทันที ลูกสาวคนที่สี่ของตระกูลหลินที่ขี้โรคคนนั้น เด็กที่ถูกส่งไปอยู่ที่อื่นตั้งแต่แรกเกิด เด็กคนนั้นคือลูกสาวที่แท้จริงของเขา
ต้องใช่แน่ ไม่แปลกใจที่ตระกูลหลินจะซ่อนเธอไว้จากสายตาของทุกคนตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา พวกเขากลัวว่าความจริงจะถูกเปิดเผย!
ผู้อาวุโสเฉินรู้สึกถึงความเดือนดาลที่ปะทุอยู่ในหัวใจของเขาเมื่อเขาตระหนักได้ว่าลูกสาวของตัวเองถูกปฏิบัติราวกับเศษขยะ ในขณะที่เขาช่วยเลี้ยงลูกสาวของคนชั่วอย่างหรูหรา!
อารมณ์ต่างๆ เกิดขึ้นอย่างฉับพลับและมากมายจนเข้าแทบจะมองเห็นความมืดมิดผลิบานขึ้นต่อหน้าต่อตาตัวเอง
“คุณพ่อ…”
“ท่านเฉิน!”
ท่านผู้หญิงและลู่ฉีที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดรีบเขาไปประคองผู้อาวุโสเฉิน ผู้อาวุโสเฉินสงบสติอารมณ์ตัวเองอยู่ในวงแขนของผู้มาช่วยเหลือก่อนคว้าแขนของท่านผู้หญิงและระบายออกมาอย่างเจ็บปวด “ลูกต้องปล่อยพวกมันไป ลูกต้องบังคับให้พวกมันส่งตัวน้องสาวของลูกกลับมา เราต้องไม่ปล่อยให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป”
ท่านผู้หญิงพยักหน้ารับ “หนูเข้าใจค่ะคุณพ่อ”
จากนั้นเธอหันไปมองผู้อาวุโสหลินและออกคำสั่ง “หลินเจิ้งหวา ตอนนี้ความจริงปรากฏแล้ว ยังมีอะไรจะพูดอีกไหม”
ผู้อาวุโสหลินเดือดดาลมาตลอดตั้งแต่ซิงเหอเริ่มเปิดโปงเขา แต่เขาเป็นคนที่วางแผนการล่วงหน้ามาได้นานนับสิบปีมีหรือที่คนอย่างเขาจะยอมแพ้โดยง่าย
เขาหลับตาลงเพื่อทำการตัดสินใจ เขากล่าว “ถูกต้อง ผมมีความผิดเรื่องนี้จริง! แต่ทั้งหมดเป็นความคิดของผมเพียงลำพังและเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนอื่นๆ ในตระกูลหลิน อีกทั้งความผิดของผมเกิดจากความรักที่พ่อมีต่อลูก ผมเพียงแค่ไม่ต้องการให้ลูกสาวของผมต้องมาทนทุกข์ทรมานไปกับตระกูลหลิน ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะทำการสับเปลี่ยนนี้ตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีก่อน ไม่มีแรงจูงใจอื่นใดทั้งนั้น ทั้งหมดเป็นความผิดของผม ผมผิดเพียงคนเดียวเท่านั้น!”
พวกเขารู้สึกประหลาดใจกับการเตรียมการมาเป็นอย่างดีของผู้อาวุโสหลิน เขายินดีแบกรับความผิดทั้งหมดไว้เพียงลำพังและมาพร้อมกับข้ออ้างที่จะปกป้องตัวเอง ผู้อาวุโสสีถึงกับก่นด่าให้กับความชั่วช้าสามานย์ของอีกฝ่าย